วันนี้ผมมีแคมเปญการตลาดของแบรนด์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่าง Heineken ที่ใช้วิธีการเข้าไปมีส่วนรวมในชีวิตประจำวันของกลุ่มเป้าหมายในสถานการณ์ปัจจุบันที่เต็มไปด้วยคนทำงานหนักจนเกินเวลาทำงาน โดยสิ่งที่แคมเปญทำไม่ใช่การยัดเยียดการโฆษณาเพียงอย่างเดียวแต่ยังสามารถได้รับการรับรู้และการถูกพูดถึงได้อย่างน่าสนใจเลยครับ The Closer by Heineken มีใครกำลังทำงานหนักจนลืมใช้ชีวิตกันอยู่รึเปล่าครับ อาจจะด้วยสถานการณ์โรคระบาด การWFH หรือใดๆก็ตาม ทำให้หลายคนเริ่มแยกไม่ออกว่าตอนไหนเป็นเวลาทำงาน เวลาไหนพักผ่อน เพราะอินเทอร์เน็ตที่ทำให้เราสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ด้วย
Category: Alcohol
ตอกย้ำกระแส Cryptocurrency ที่มาแรงขึ้นมากในช่วงปี 2021 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะประเภทคริปโตอย่าง NFT หรือ Non-Fungible Token ที่ตอนนี้เริ่มได้ยินชื่อของมันมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้แบรนด์อย่าง Bacardi ไม่รอช้า รีบรุกลงตลาด
อีกหนึ่งแคมเปญเมาไม่ขับที่อ่านแล้วอยากจะเอามาเขียนสรุปให้นักการตลาดฟังกันก็คือ Case Study ของแบรนด์ Heineken USA ที่เค้าจับมือร่วมกับแอป Navigation อย่าง Waze App เพื่อทำ Destination-based marketing กระตุ้นคนที่กำลังจะไปเมา ให้เมาไม่ขับ ปลอดภัยไว้ก่อนค่ะ ช่วงเดือนพฤษภาคม 2021 ที่ผ่านมา หลายคนในอเมริกาหลังได้ฉีดวัคซีนอะไรกันแล้ว ก็เริ่มที่จะกลับออกมาใช้ชีวิตอิสระเสรีตามเดิมเสมือนวันเก่าๆ ก่อนที่โรคระบาดจะทำพิษ ดังนั้นแบรนด์เครื่องดื่ม Alcohol ชื่อดังอย่าง Heineken จึงเริ่มปล่อยแคมเปญเก๋ๆ ที่สนับสนุนคนอเมริกาให้เมาไม่ขับใน California ค่ะ แคมเปญนี้เริ่มจาก Branded Ads บนแอป Waze ที่เป็นแอปบอกเส้นทางหรือ Navigation คล้ายๆ Google
The Legally Binding Beer Contract แคมเปญการตลาดแบบ Hackvertising หรือ Hijack + Marketing ของเบียร์แบรนด์ Norrlands Guld ที่จับ
ปัญหาเรื่อง Stereotype ในสื่อเป็นอะไรที่พวกเราในฐานะ Consumer เจอมาตลอด แต่เพราะกระแสการต่อต้านภาพจำผิดๆ เหล่านี้กลับรุนแรงขึ้นทุกวันๆ ในปีหลังๆ มานี้ ทำให้แบรนด์เบียร์ในประเทศ Paraguay อย่าง Brahma ต้องออกมาลบภาพเก่าๆ ที่แบรนด์ตัวเองเคยสร้างภาพจำผิดๆ เอาไว้ในปี 2009 อย่างประเด็น Sexist ที่จับผู้หญิงให้ดูเหมือนของเล่นผู้ชาย หรือเอาใจเพศชายมากจนเกิดเป็นค่านิยมผิดในสังคมเราทุกวันนี้ค่ะ ต้องบอกว่าประแส Feminism เป็นประเด็นได้ตลอดในยุคสมัยนี้ อย่างล่าสุดข่าวน้องผู้หญิงที่ถูกข่มขืนที่เกิดขึ้นในบ้านเรา ก็ทำให้เสียงกร่นด่าเรื่อง Toxic Masculinity ดังขึ้นอีก รวมไปถึงสังคมไทยเราเองที่เริ่มต่อต้านละครที่ใช้ความรุนแรงกับผู้หญิงอย่างละครสวรรค์เบี่ยงที่แม้เป็นละครเก่า แต่เพราะช่องเอามา Rerun ทำเอาคนอดใจไม่ไหว
เมื่อหลายประเทศออกกฏห้ามโฆษณาเหล้าหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์มากมาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดขายให้ต่ำลงเรื่อยๆ ตามมา ทำให้แบรนด์หนึ่งหัวใสปรับจุดขายใหม่ว่าเป็นเหล้าที่ไม่ได้มีไว้ให้ดื่มให้เมา แต่ปรับมาเป็นส่วนผสมทำหรับทำของหวานที่ใครๆ ก็กินได้ กับการ Repositioning Strategy ของ Baileys กับแคมเปญที่ชื่อว่า #RecipeUnfudged ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 11%
ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะแบรนด์เครื่องดื่ม Alcohol หรือโครงการรัฐบาลต่างๆ ก็มักออกมารณรงค์ให้คนดื่ม Alcohol อย่างรับผิดชอบหรือมีสติ อย่าเมาแล้วขับเพราะมีคนรักของเรารออยู่ที่บ้านต่างๆ นาๆ แต่ท้ายที่สุดแล้ว เราก็มักจะเห็นข่าวเมาแล้วขับจนเกิดอุบัติเหตุอยู่ร่ำไป อย่างไรก็ตามแบรนด์เบียร์จาก Columbia อย่าง Aguila เค้าค้นพบวิธีน่าสนใจกว่านั้นเรียกที่จะทำให้คนดื่มอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมได้ จนเกิดออกมาเป็นแคมเปญ Beer Cap Project ค่ะ Situation: คนส่วนมากยังคงเมาแล้วขับ ดื่มหนักจนเมาปลิ้น แม้ว่าจะมีโครงการรณรงค์มากมาย
ใครจะไปคิดครับว่าถ้าแบรนด์มา Live แค่ครั้งเดียวจะมีคนให้ความสนใจ จนหน้าเพจของแบรนด์เกิด engagement กันอย่างคึกคัก ดึงทั้งลูกเพจเก่า-ใหม่เข้ามาดูได้อย่างน่าสนใจ แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นแล้วจากมหกรรม Live มาราธอนกับงาน LEO Fest From Home ที่เขาประกาศจัดงาน
Home Five-O Clock แคมเปญการตลาดแจกเงิน 250 เหรียญออสเตรเลียให้กับเหล่า Barternder ที่ขาดรายได้ในช่วง Lockdown จากร้านเหล้าปิด เพียงแค่ถ่ายคลิปทำ Cocktail ส่งเข้ามาที่เพจ Simply Cocktail
จากกระแส Work From Home ที่ทำให้เราต้องห่างกันจนความเหงาตัวเท่าบ้าน มาวันนี้ LEO จัดหนักให้เราไม่ต้องเหงาอีกต่อไปด้วยการยกมหกรรมความสนุกขึ้นมาบนออนไลน์กับงาน LEO FEST FROM HOME ที่จะ Live แบบ