Facebook เตรียมปรับตัว รองรับเด็กรุ่นใหม่ที่หายไปมากขึ้น

Facebook เตรียมปรับตัว รองรับเด็กรุ่นใหม่ที่หายไปมากขึ้น

ข้อเท็จจริงอย่างนึงที่นักการตลาดหลายคนทราบกันดีอยู่แล้วคือ เด็กรุ่นใหม่ไม่ค่อยเล่น Facebook แต่หันไปหาแพลตฟอร์มอื่นๆ แทนมากกว่า ซึ่งล่าสุด Facebook ก็ต้องยอมรับว่าพวกเค้ากำลังศูนย์เสียความสำพันธ์อันดีงามกับเด็กเจนใหม่ๆ ไปมากโข ทำให้แบรนด์ Facebook เตรียมปรับตัว ทั้งนี้ก็เพื่อเอาใจเด็กวัยใหม่มากขึ้น แล้วทำให้พวกเค้ากลับมาสนใจแพลตฟอร์มตัวเองอีกครั้งนั่นเองค่ะ

ต้องบอกว่าปัจจัยหลักที่ทำให้ Facebook มาถึงจุดที่ไม่เป็นที่นิยมในหมู่เด็กรุ่นใหม่ก็คือ อัตราการเติบโตของแพลตฟอร์ม Social Media คู่แข่งด้วย ไม่ว่าจะเป็น Instagram / Snapchat รวมไปถึง TikTok ที่กลุ่มผู้ใช้งานรุ่นเด็กยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

อีกข้อนึงที่เป็นหลักฐานชัดๆ เลยคือการบุกรุกเข้าสู่สังคม Social Media ของรุ่นเก่าหรือคนที่เริ่มมีอายุมากขึ้น อย่างเจนคุณพ่อ คุณแม่ของเราที่วันนี้ติด Facebook กันงอมแงมไม่อยากไปไหน เพราะกว่าจะเรียนรู้ คุ้นชินกับมันได้ก็ใช้เวลาพักนึงแล้ว จะให้รีบโยกย้ายไปที่ใหม่ๆ ก็ยังไม่อยากไป และด้วยความที่ Facebook มันใช้ง่ายด้วยทำให้รุ่นเก่าติดยิ่งกว่าเดิม ส่วนเด็กๆ กลับมองว่าไม่อยากอยู่กับรุ่นเก่า แถม Facebook ก็ไม่ได้มีฟีเจอร์อะไรใหม่ รู้สึกว่ามันไม่เท่ห์แล้ว ขอไปเล่นอะไรใหม่ๆ ดีกว่า

ซึ่งประเด็นเด็กเจนใหม่ไม่เอา Facebook นั้นก็มีข่าวรั่วไหลออกมาถามเส้นกราฟเลยว่า Users กลุ่ม 25 ปีขึ้นไปนั้นเป็นกลุ่มที่ยังเติบโตได้อยู่ ในขณะที่กลุ่มต่ำกว่า 25 ปี กลุ่ม Users ลดหย่อนหายไปเรื่อยๆ แบบ Drop-down เลย ซึ่งถึงแม้ว่าบริษัทจะมีการเพิ่ม Stories หรือผนวก Reels เข้าไปเพิ่มแล้ว บริษัทก็แจ้งว่ามันยังไม่ได้ผลลัพธ์ดีอย่างที่เคยเป็นมาค่ะ

และเพราะเทรนด์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ เลยทำให้ Facebook เตรียมปรับตัว เพื่อเอาใจกลุ่มเจนใหม่มากขึ้น ถึงแม้นั่นจะหมายถึงการศูนย์เสียรุ่นเก่าออกจากแพลตฟอร์มก็ตาม โดยบริษัทยินดี trade-off หรือแลกอะไรเก่าๆ ออกไปเพื่อสร้างฟีเจอร์ใหม่เพิ่มขึ้น โดนใจเจนใหม่มากขึ้นด้วย ซึ่งสิ่งที่ Facebook จะทำครั้งนี้ก็บอกเลยว่าใช้เวลาหลายปี แต่เค้าก็คาดหวังว่าตัวเลขเจนเด็กจะค่อยๆ โตไปพร้อมๆ กับ Community ของเค้าในระยะยาวด้วยเช่นกันค่ะ

อย่างไรก็ตาม Facebook ยังไม่ได้ระบุแน่ชัดออกมาเป็นข้อๆ นะคะว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง อย่างน้อยๆ ตอนนี้การพัฒนา Instagram ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Stories หรือ Reels ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่เค้าตัดสินใจทำ เพราะปัจจุบัน Reels เนี่ย ถือว่าเป็นตัวเรียก Engagement จาก Users ได้เยอะมากทีเดียว เค้าก็เลยมีแพลนจะวาง Reels ให้กลายเป็นศูนย์กลางหลักของ Instagram และ Facebook ในอนาคตด้วยค่ะ ได้ยินแบบนี้แล้ว แบรนด์ทั้งหลายต้องรีบปูพื้นเรื่อง Reels เอาไว้แต่เนิ่นๆ เลยนะคะ

นอกจากเรื่องของการผลักดัน Reels เป็น Center-Focus แล้ว ก็ยังมีอีก 3 ส่วนหลักๆ ที่ Facebook เตรียมปรับตัว เพิ่มเติมด้วย ไม่ว่าจะเป็น

  • การปรับรากฐาน: ที่จะทำยังไงก็ได้ให้เด็กรุ่นใหม่กลับมา Connect กับ Facebook แพลตฟอร์มอีกครั้งนึง เช่น การใช้สิ่งที่พวกเค้าสนใจหรือเนื้อหา Content ที่พวกเค้าชื่นชอบ
  • เพิ่มประสบการณ์ดีๆ และ Productive มากขึ้น: เพราะต้องการให้เด็กรุ่นใหม่ที่เข้ามาใช้ Facebook นั้นรู้สึกดีกับแพลตฟอร์มขณะ Online อยู่ในแอป แถมยังเชื่อมต่อกับโลกได้แบบไร้ขีดจำกัดด้วย ตรงนี้ก็จะเป็นการเน้น Experience โดยเฉพาะเลยค่ะ
  • ช่วยให้เด็กรุ่นใหม่ไปถึงเป้าหมายและสร้างความเปลี่ยนแปลงได้: ตรงนี้ Facebook ก็จะเน้นเรื่องของการออกผลิตภัณฑ์หรือบริการ ฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่จะช่วยให้เด็กรุ่นใหม่หรือ Young Adults สามารถแก้ไขปัญหาที่พวกเค้าเจอได้นั่นเองค่ะ

อย่างไรก็ตาม เราก็ต้อง ​Note ไว้ด้วยว่า ทั้งหมด 3 ข้อนี้ยังคงเป็นเหมือนทฤษฎีที่เป็นข่าวหลุดออกมาเท่านั้น ซึ่งเราก็ไม่อาจการันตีได้ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปทางนี้จริงหรือไม่ แต่อย่างที่เราเห็นล่าสุดว่า Facebook ได้มีการประกาศเปลี่ยนชื่อจาก Facebook เป็น Meta เพื่อรองรับโลกใหม่อย่าง Metaverse ที่เป็นเหมือนโลกเสมือนจริงแล้ว (VR/AR) ข่าวที่หลุดมาก็ไม่ได้ห่างไกลจากความจริงมากนักค่ะ

ก็เรียกได้ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้สำหรับ Facebook ยักษ์ใหญ่เนอะ ที่เหลือก็ต้องมารอดูกันต่อไปว่า Facebook เตรียมปรับตัว อย่างไรอีกบ้าง แล้วการปรับตัวในครั้งนี้จะสามารถเรียกเจนใหม่กลับมาให้สนใจแพลตฟอร์มได้เหมือนเดิมหรือไม่ แล้วเจนเก่าจะต้องปรับตัวหนักขนาดไหน จะไปพึ่งแพลตฟอร์มไหนแทน ต้องรอดูไปพร้อมๆ กันแล้วค่ะ

Source: Social Media Today

Plearn Wisetwongchai

Marketing Strategic Planner ในเครือการตลาดวันละตอน | A Creator สาวพลัสไซส์ @Fabfatkid | A Travel Lover ที่หมดเงินเกือบ 80% ไปกับการเดินทางแบบแมสๆ | An Instagrammer @theplearn ที่ชอบเล่น Story เป็นชีวิตจิตใจ | สุดท้ายคือ Data Researcher ทั้ง Social และ Search Data etc. ค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

คุณคิดว่าปัญหา PM 2.5 ที่เชียงใหม่วิกฤตหรือยัง ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถามก่อนอ่านการตลาดวันละตอน แล้วเราจะเอาไปทำเป็น Infographic โชว์หน้าเพจให้รู้ด้วยกัน