รวมข้อควรระวังของ Web3 NFT และ Blockchain ที่นักการตลาดต้องรู้

รวมข้อควรระวังของ Web3 NFT และ Blockchain ที่นักการตลาดต้องรู้

Web3 ที่ดูมาเหมือนจะมีแต่เรื่องดีๆ ลองมาดูความเห็นในแง่ลบ มาดูสิ่งที่ควรระวังสำหรับคนที่คิดจะลงทุนในเทคโนโลยีนี้กันบ้างครับ เพราะก่อนจะตัดสินใจให้ออกมาดีได้ เราควรจะได้รับข้อมูลครบทุกมิติ ครบทุกด้านจริงๆ

แน่นอนว่าอะไรที่มีคนรักก็ย่อมมีคนเกลียด อะไรที่มีคนชอบย่อมมีคนเห็นต่าง เราลองมาดูความเห็นอีกด้านของ Web3 จากหลากหลายความเห็น หลากหลายมุมมองกันว่า เจ้า Web3 นี้จะ Decentralized จริงหรือไม่ แล้วความ Decentralized นี้จะเพื่อทุกคนจริงๆ มากขึ้น หรือแค่เป็นการเปลี่ยนอำนาจของคนกลุ่มหนึ่ง มาสู่คนกลุ่มใหม่เท่านั้นเอง

มีการถกเถียงกันไม่น้อยในกลุ่มคนเทคโนโลยีว่าจริงๆ แล้ว Web3 จะเป็นอนาคตใหม่ของเว็บหรืออินเทอร์เน็ตยุคถัดไปจริงหรือเปล่า? หรือแม้แต่มันสมควรจะเป็นพื้นฐานของอินเทอร์เน็ตยุคใหม่หรือไม่?

บางคนถึงขนาดออกตัวว่าไม่เห็นด้วยกับ Web3 เข้าขั้นเกลียดเลยก็มี อย่างกลุ่มของนักเคลื่อนไหวที่เรียกตัวเองว่า no-coiners หรือกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับเหรียญคริปโทต่างๆ

คนกลุ่มนี้แอนตี้ Bitcoin ไม่ยอมรับระบบการเงินแบบ Decentralized Finance อย่าง Software Engineer คนหนึ่งที่มีชื่อว่า Molly White ประชดประชัน Web3 อย่างมากว่าดูไปได้สวยนะ แต่มันก็คงไม่ได้สลักสำคัญอะไรขนาดนั้นสำหรับโลกนี้

Photo: https://tokenizedhq.com/nft-pyramid-scheme/

White ทำเว็บไซต์ที่รวบรวมข้อโต้แย้งเห็นต่างในแง่มุมต่างๆ ของ Web 3 เข้าบอกว่า NFT ก็เป็นแค่แชร์ลูกโซ่ในรูปแบบใหม่ แถมเจ้าเทคโนโลยี Blockchain นั้นยังเป็นตัวการที่ทำให้โลกร้อน ทำลายสิ่งแวดล้อมแบบสุดๆ เพราะมันต้องใช้พลังในการประมวลผลมหาศาล

Phil Libin ผู้ประกอบการคนหนึ่งใน Silicon Valley ที่มาจากสหภาพโซเวียตเดิมก็บอกว่า Web3 ที่ใครๆ ก็พูดถึงกันนั้นไม่ต่างกับโฆษณาชวนเชื่อของสหภาพโซเวียตที่บอกว่าคอมมิวนิสต์นั้นวิเศษขนาดไหน เขาบอกว่าไม่มีทางที่เว็บไซต์จะทำอะไรได้อย่างว่า แถมถ้าใครเชื่อว่า Web3 นั้นดีเลิศประเสริฐศรี คุณควรจะเชื่อว่าคอมมิวนิสต์นั้นเปรียบเสมือนกับเมือง Utopia ที่สหภาพโซเวียตเคยโฆษณาไว้

Web3 ยังถูกวิจารณ์ในแง่ว่าไม่มีทางที่ทุกคนจะเข้าถึงและเป็นเจ้าของร่วมกันได้จริงๆ ผ่านเทคโนโลยีนี้หรอก ที่บอกว่าใครๆ ก็สามารถเป็นเจ้าของได้ เราจะไม่ใช่แค่ผู้ใช้อย่างเดียวแบบยุค Web2 อีกต่อไป แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งของ Web3 ได้จริงๆ เหมือนกับ NFT ที่ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นเจ้าของมัน หรือทุกคนที่ถือครองมันไว้แล้วจะได้มูลค่าเพิ่มเท่ากันเสมอไป

https://blog.chainalysis.com/reports/chainalysis-web3-report-preview-nfts/

เพราะอย่างกระแส NFT ที่ดูมาแรงมากทั่วโลก แต่ในความเป็นจริงแล้วมีคนแค่กลุ่มหนึ่งเล็กๆ เท่านั้นที่ได้ประโยชน์จากสิ่งนี้ เพราะจากข้อมูลการรีเสิร์จของ Chainalysis บอกว่าในปี 2021 ในกลุ่มคนที่ถือครอง NFT ทั้งหมด กลับมีแค่กลุ่ม 9% บนเท่านั้นที่ถือครองชิ้นงาน NFT รวมกันเป็นมูลค่ากว่า 80% ของตลาดทั้งหมด

และการจะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Web3 หรือการจะออก Cryptocurrency วันนี้ก็ไม่ง่าย ไม่ใช่ว่าใครคิดจะออกเหรียญหรือสร้าง Web3 เลยก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพราะมันต้องใช้ความรู้ด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องไม่น้อย และก็ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนหนึ่งอีกด้วย

ดังนั้นแม้ว่าในทางทฤษฏี Web3 ดูจะเป็นเทคโนโลยีเพื่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกันจริงๆ แต่ในทางปฏิบัติจริงๆ เหมือนจะมีคนแค่บางกลุ่มเท่านั้นที่ครอบงำเทคโนโลยีนี้ไว้ในมือ

หนังสือพิมพ์ The New York Times เคยออกรายงานว่ากลุ่มคนที่ถือครองคริปโทในสหรัฐอเมริกา ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชายผิวขาววัยกลางคน อายุประมาณ 38 ปี มีรายได้ต่อปีอยู่ที่ราวๆ 3.5 ล้านบาท ถือว่าเป็นกลุ่มชนชั้นกลางฐานะดีไม่น้อยในสหรัฐอเมริกา

นักวิชาการบางคนก็ให้ความเห็นในแง่ลบว่า ดูเหมือนระบบ Decentralization ของ Blockchain จะไม่ใช่การกระจายอำนาจสู่ทุกคนอย่างแท้จริง แต่เป็นแค่การกระจายอำนาจเก่ามาสู่มือกลุ่มคนใหม่ๆ อีกที เหมือนกับการสลับไพ่ไปมาในมือของกลุ่มคนไม่กี่คนเหมือนเดิม

ขนาด Jack Dorsey เองที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter ที่เชื่อใน Bitcoin ยังบอกว่า ตัวเขาเองก็ไม่ได้เชื่อใน Web3 มากนัก เพราะ Web3 ไม่ได้คืนสิทธิหรืออำนาจในกลับมายังมือคนทั่วไปอย่างที่ใครๆ ก็พูดถึงกัน สุดท้ายแล้วอำนาจในการควบคุมอินเทอร์เน็ตก็จะยังคงอยู่กับกลุ่มคนฝ่ายเทคโนโลยีเหมือนเดิม และเขาก็คิดว่า Web3 ดูจะเป็นเครื่องมือใหม่ที่ทำให้คนที่รวยอยู่แล้วรวยขึ้น ทำให้บริษัทที่ใหญ่อยู่แล้วยิ่งแข็งแกร่งขึ้นไปอีกเท่านั้นเอง

ดูเหมือนว่าหลายคนในฝั่งเทคเองก็ยังไม่เชื่อว่า Web3 จะทำให้เกิดการ Decentralization ได้จริงๆ ครับ เพราะแม้แต่การจะเทรดหรือแลกเปลี่ยน Cryptocurrency เองก็ยังต้องอาศัยตัวกลาง หาใช่ Decentrailized จริงอย่างที่อยู่ในกระดาษคอนเซป (จริงๆ ก็ทำได้แหละ แต่การใช้งานจริงมันไม่เอื้อแบบนั้นสักเท่าไหร่)

สรุปอีกด้านของ Web3 และ Blockchain ในแง่ลบ ที่ควรต้องรู้ประกอบการตัดสินใจ

สรุปความเห็นในแง่ลบกับ Web3, Decentralized และ Blockchain ดูเหมือนว่า Web3 จะไม่ได้กระจายอำนาจออกไปสู่มหาชนจริงๆ อย่างที่หลายคนฝันไว้สักเท่าไหร่ เพราะดูเหมือนว่าสุดท้ายมนุษย์เรายังคงต้องการตัวกลางที่อาสาเข้ามาทำให้เกิดความสะดวกสบายขึ้นในชีวิต การกระจายอำนาจทั้งหมดออกไปดูเหมือนจะไม่ค่อยใช่เป้าหมายใหญ่ของ Web3 ในเวลานี้

เพราะคนอีกมากคงไม่สามารถเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของระบบ Blockchain หรือ Web3 ได้ คงจะไม่ใช่ทุกคนที่พร้อมจะเอาเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้าน หรือลงทุนซื้ออุปกรณ์เพื่อจะได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของระบบ Decentralized ที่ยิ่งใหญ่ ดูเหมือนว่าบรรดา Node ทั้งหลายก็จะยังคงกระจายแบบกระจุกอยู่กับกลุ่มคนไม่กี่คนเหมือนเดิมครับ

อ่านบทความที่เกี่ยวกับการตลาด Web3 Marketing ในการตลาดวันละตอนต่อ > https://www.everydaymarketing.co/?s=web3

Source
https://web3isgoinggreat.com/
https://pitchbook.com/news/articles/metaverse-web3-propaganda-phil-libin
https://blog.chainalysis.com/reports/chainalysis-web3-report-preview-nfts/
https://www.profgalloway.com/web3/

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ใช้ Social Listening บ้างไม่ ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถาม ว่าปกติใช้ Social Listening บ้างหรือไม่ แล้วถ้าใช้ ใช้ตัวไหนอยู่