รวม 10 อันดับเทรนด์ ขายของออนไลน์ อะไรดี ที่มีแนวโน้ม ขายดี ปี 2023
ขายของออนไลน์ อะไรดี ? ดูเหมือนว่าปี 2022 ผู้คนบนโลกต้องพบกับ โรคระบาดที่ยังไม่หายไป ความขัดแย้งระหว่างประเทศ การหยุดชะงักของ Supply Chain รวมถึงการภาวะโลกร้อนที่เรายังแก้ปัญหาไม่ได้ และแม้ว่าเศรษฐกิจจะตกต่ำ แต่อีคอมเมิร์ซก็ยังคงเป็นแหล่งที่มั่นคงสำหรับของออนไลน์ค่ะ
โดยมีรายงานระบุว่ายอดขายทั่วโลกอาจเกิน 5 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ และด้วยยอดขายที่เร่งตัวขึ้น ภาคธุรกิจอีคอมเมิร์ซแบบ B2B คาดว่าจะมีมูลค่าถึง 13.6 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2570 ซึ่งหมายความว่าปี 2023 น่าจะเป็นปีที่ยิ่งใหญ่อีกปีสำหรับอุตสาหกรรมนี้
alibaba.com ได้รวบรวมรายชื่อสินค้าที่มีแนวโน้มจะขายดีในปี 2023 ไว้กว่า 10 ประเภท เพื่อให้ผู้ประกอบการ หรือนักลงทุนได้ใช้ประโยชน์จากการเติบโตอย่างรวดเร็วของอีคอมเมิร์ซ ในการวางแผนเข้าสู่การขายแบบดิจิทัลหรือการขายออนไลน์ในตอนนี้นั่นเองค่ะ หรือใครไม่รู้จะเริ่ม ขายอะไรดี ก็มาดูเทรนด์สินค้ายอดนิยมก่อนได้เลยค่ะ
วิธีค้นหาสินค้าที่กำลังเป็นกระแสเพื่อขายออนไลน์
ก่อนที่เราจะคิดว่าตัวเองอยากขายอะไรบนออนไลน์ ปลื้มว่าลองหาวิธีค้นหาสินค้าที่ขายดีบนอินเทอร์เน็ตดูก่อน เราจะได้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งเราสามารถระบุผลิตภัณฑ์ที่ผู้คนต้องการซื้อได้โดยศึกษาบนเว็บไซต์เทรนด์ ใช้ Social listening และดูรายการเทรนด์สินค้าที่ขายดีตามแอปฯ ชอปปิงต่างๆ ทั้งนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเลือกการรีเสิร์จ
Trend sites : Google Trends และ Ubersuggest เป็นตัวอย่างของ Trend sites ที่เราสามารถใช้ได้ มันมีประสิทธิภาพและฟรีด้วย มันจะช่วยให้เราวิเคราะห์ Keyword เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์บางอย่างได้ เราสามารถใช้คำเหล่านี้เพื่อทำความเข้าใจว่าผู้คนค้นหา Keyword เหล่านั้น บ่อยแค่ไหนและเพราะอะไร เรายังสามารถดูแนวโน้มจาก Time ได้อีกด้วยค่ะ
Marketplaces : เช่น Alibaba Lazada Shopee ที่แสดงรายการสินค้าขายดีเป็นประจำ ในแต่ละหมวดหมู่ ซึ่งเราสามารถใช้รายการเหล่านี้เพื่อดูว่าตลาดกำลังไปที่ใด นอกจากนี้เราก็ดูสินค้าในร้านตัวเองด็วยก็ได้ว่าชิ้นไหนขายดีที่สุดในร้าน
Social media : ต้องบอกว่าโซเชียลก็เป็นพื้นที่ของการขายสินค้าออนไลน์เหมือนกันนะ และเป็นสถานที่วิจัยที่ยอดเยี่ยม สามารถดูได้ว่าผู้ซื้อสนใจผลิตภัณฑ์ใดด้วยเครื่องมือต่างๆ เช่น Instagram Collections หรือ Facebook Shop catalogs เป็นต้นค่ะ
Online Communities : การซื้อของในกลุ่มออนไลน์ก็เป็นความคิดที่ดีเช่นกันค่ะ อย่างในชุมชน Twitter, กลุ่ม Facebook , Line และกลุ่ม WhatsApp ที่ให้ข้อมูลที่มีค่าจากผู้คนจริงๆ
ขายของออนไลน์ อะไรดี ในปี 2023
1. สุขภาพและไลฟ์สไตล์
สุขภาพและพลานามัยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้คนในปัจจุบัน จากข้อมูลของ World Economic Forum ผู้คน 62% บอกว่าตอนนี้พวกเขาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากกว่าช่วงก่อนเกิดโรคระบาดอีกค่ะ ซึ่งผลิตภัณฑ์ยอดนิยมในหมวดนี้ ได้แก่
- อาหารเสริมทางการแพทย์ : อาหารเสริมก็ เช่นสมุนไพร Ashwagandha ซึ่งช่วยในเรื่องภาวะเจริญพันธุ์ของผู้ชายและปรับปรุงสมรรถภาพทางกีฬา กำลังมีปริมาณการค้นหาเพิ่มขึ้น อีกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมคือ กาแฟเห็ด ซึ่งเป็นส่วนผสมของเห็ดบดที่เป็นยา เช่น เห็ดแผงคอสิงโตกับเมล็ดกาแฟ
- เครื่องฟอกอากาศ : ด้วยความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับคุณภาพอากาศในเมืองใหญ่ๆ หลายแห่ง เครื่องฟอกอากาศจึงมีแนวโน้มเป็นตัวเลือกในการทำให้อากาศสดชื่น
- มัทฉะ : มัทฉะเป็นชาเขียวที่มีคาเฟอีน ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในแวดวงสุขภาพและความงามค่ะ
- ขวดน้ำพกพา : ความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อมและผลกระทบต่อสุขภาพกำลังส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ นั่นก็คือ ขวดน้ำที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้บ่อยๆ นั่นเอง
2. แฟชั่น
แฟชั่นเป็นสินค้าหลักของอีคอมเมิร์ซแบบ B2B โดยการกลับไปทำกิจกรรมกลางแจ้งและการเข้าทางสังคม กำลังสร้างความสนใจมากขึ้นในบางรายการ สินค้าแฟชั่นที่กำลังมาแรงที่จะขายในปี 2023 ได้แก่
- ยีนส์เอวสูง : เสื้อผ้าเอาท์ดอร์กำลังได้รับความนิยม และยีนส์เอวสูง (หรือยีนส์แม่) ยังคงเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า
- เครื่องแต่งกายกีฬา : ผู้ซื้อชอบสไตล์และความสะดวกสบาย ด้วยความสนใจที่เพิ่มขึ้นในรองเท้าผ้าใบ และสินค้าชุดกีฬาแบรนด์ต่างๆ เช่น Nike และ Lululemon นั่นทำให้ชุดกีฬากลายเป็นแฟชั่น
- ผ้าคลุมหัว : ผ้าที่มีลวดลายและสีสันสวยงามหลากหลายและสามารถเข้าได้กับเสื้อผ้าแทบทุกชุด และมีปริมาณการค้นหาที่สูงใน Google Trends
- ชุดกระชับสัดส่วน : ยอดขายชุดกระชับสัดส่วน เช่น กางเกงเลกกิ้ง พุ่งขึ้นในช่วงล็อกดาวน์เนื่องจากผู้คนติดอยู่กับเสื้อผ้าที่ให้ความสะดวกสบาย แต่แนวโน้มยังคงอยู่จนถึงตอนนี้และมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไปในปี 2023 ค่ะ
3. Personal care และ ความงาม
อุตสาหกรรมความงามจะเติบโตมากกว่า 50% และมีรายได้ถึง 131,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2569 ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลและความงามหลักบางส่วนที่เป็นผู้นำเทรนด์ดังกล่าว ได้แก่
- เล็บปลอมแบบกด : เล็บแบบกดที่มีสไตล์ ราคาไม่แพง และสะดวกสบายเป็นที่นิยมของลูกค้าอย่างไม่น่าแปลกใจเลยค่ะ ซื้อออนไลน์ก็ง่ายไม่ต้องไปทำที่ร้าน
- วิกผม : ตลาดต่อผมเป็นหนึ่งในตลาดที่คึกคักที่สุดในโลก โดยมีอัตราการเติบโตต่อปีที่ 13% นั่นทำให้คาดว่าไม่ในปีหน้าเทรนด์นี้ยังคงอยู่ค่ะ
- หน้ากากนอนหลับ : หน้ากากนอนหลับสามารถช่วยให้นอนหลับได้เร็วขึ้นและพักผ่อนมากขึ้นนั่นเอง และนั่นเป็นเหตุผลที่ผู้ซื้อมีความต้องการสิ่งนี้
- แปรงสีฟันไฟฟ้า : แปรงสีฟันไฟฟ้าอาจใช้ง่ายกว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่าแปรงสีฟันธรรมดา ทำให้เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมในประเภทการดูแลช่องปาก และที่สำคัญคือความเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้คนอยากลองใช้ด้วยค่ะ
- น้ำมันใส่ผม : เนื่องจากการใช้งานแบบ unisex น้ำมันใส่ผมเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มการดูแลส่วนตัวของชายและหญิงเลยค่ะ
4. ผลิตภัณฑ์สำหรับห้องครัว
แม้ว่าอาหารจานด่วนและซื้อกลับบ้านจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นก่อนเกิดโรคระบาด แต่ทุกวันนี้ผู้คนจำนวนมากขึ้นหันกลับไปรับประทานอาหารที่ปรุงเองที่บ้าน ตามรายงานจาก PM News Wire ผู้บริโภค 7 ใน 10 รายจะยังคงปรุงอาหารที่บ้านต่อไปแม้หลังจากเกิดโรคระบาด สำหรับสินค้าขายดีในหมวดนี้ ได้แก่
- หม้อทอด Air fryers : หม้อทอดไร้น้ำมันได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันหยุด ผู้ซื้อเพลิดเพลินกับความอเนกประสงค์และความสะดวกของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ เมื่อเทียบกับหม้อทอด deep fryers
- เครื่องปั่นแบบพกพา : เช่นเดียวกับหม้อทอด Air fryers โดยเครื่องปั่นแบบพกพาช่วยให้เข้าถึงได้ง่ายและสะดวก ผู้ซื้อสามารถทำน้ำผลไม้ สมูทตี้ และเครื่องดื่มอื่นๆ ได้ทุกที่
- สินค้าสำหรับจัดครัว : การจัดครัวที่ทำให้ครัวของเราเป็นระเบียบขึ้น โดยมาที่จากวิดีโอ TikTok ที่ทำให้เหล่าแม่บ้านอยากทำตาม ซึ่งหมวดหมู่นี้ก็จะเกี่ยวกับชั้นที่วางซ้อนกันได้ ที่จัดระเบียบชั้นวางของ รถเข็น และที่จัดระเบียบตู้กับข้าวที่ประตู เป็นต้น
5. ผลิตภัณฑ์สำหรับบ้าน
สินค้าตกแต่งบ้านยังคงมียอดขายและการเติบโตที่แข็งแกร่ง ตลาดซึ่งมีมูลค่า 641.4 พันล้านดอลลาร์ในปี 2020 ซึ่งคาดว่าจะเติบโตในอัตรา 4.8% ต่อปีระหว่างปี 2021 ถึง 2026 เลยค่ะ สำหรับผลิตภัณฑ์ยอดนิยมในหมวดนี้ ได้แก่
- พรมเช็ดเท้าสำหรับตกแต่ง : พรมเช็ดเท้าที่มีดีไซน์น่ารัก ข้อความแปลก ๆ และมีความนุ่มๆ เป็นที่ต้องการอย่างมากค่ะ
- ม่านทึบแสง : ในการหลีกหนีจากแสงสว่าง ผู้คนเลือกเฉดสีหน้าต่างหนาๆ ที่ทำจากวัสดุสีเข้มเพื่อสร้างพื้นที่ที่เย็นสบายและอบอุ่น
- โคมไฟข้างเตียง : นอกเหนือจากประโยชน์ใช้สอยแล้ว โคมไฟข้างเตียงยังเป็นโอกาสในการสร้างสไตล์ที่โดดเด่น และด้วยความสะดวกในการติดตั้ง จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้ซื้อจะชอบโคมไฟข้างเตียง
- Sofa beds : เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความสบายและสไตล์ เหมาะสำหรับวันที่ขี้เกียจนั่งดูหนังดีๆ ในห้องนั่งเล่นแบบนี้ค่ะ
6. ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก
บอกเลยว่าการใช้จ่ายมากขึ้นแน่นอนสำหรับการดูแลเด็ก ผู้ปกครองต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ที่ดีให้ลูก ๆ ของพวกเขาและยังต้องการสร้างสไตล์ให้โดดเด่นยิ่งขึ้ โดยตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลเด็กบนออนไลน์ ได้แก่
- เป้อุ้มเด็ก : เป้อุ้มเด็กมีความต้องการสูงและคงที่เมื่อเร็วๆ นี้ และเทรนด์การค้นหาค่อนข้างคงที่ค่ะ
- Baby monitors : คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับต้น ๆ ซึ่งเบบี้มอนิเตอร์จะรับประกันความปลอดภัยของลูก ทั้งโมเดลมีคุณสมบัติ เช่น การพูดคุยแบบ two-way talk และ การมองเห็นตอนกลางคืน เป็นต้น
- ชิงช้าเด็ก : ผลิตภัณฑ์ชิงช้าสำหรับเด็กกำลังมาแรงในหมู่พ่อแม่ที่มีลูกอ่อน การแกว่งไกวอย่างนุ่มนวลของชิงช้าช่วยให้ทารกสงบและให้เวลาสงบที่จำเป็นมากสำหรับผู้ใหญ่ด้วย
- ของเล่น : ของเล่นเด็กเป็นสินค้าหลักของอีคอมเมิร์ซทั่วโลก เฉพาะในสหรัฐอเมริกาเพียงแห่งเดียว ความต้องการผลิตภัณฑ์เหล่านี้เพิ่มขึ้น 17% ในปีนี้
7. ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง
สำหรับตลาดการดูแลสัตว์เลี้ยงเป็นอีกรายการหนึ่งที่ร้อนแรงในการขายอีคอมเมิร์ซ ผลิตภัณฑ์ยอดนิยมในหมวดนี้ ได้แก่
- สายรัดอกสุนัข : สายรัดอกสุนัขจะสบายกว่าปลอกคอทั่วไป เนื่องจากไม่ทำให้คอของสัตว์เลี้ยงเมื่อยมากค่ะ
- ที่นอนแมว : เนื่องจากจำนวนเจ้าของแมวเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ อุปกรณ์เสริมสำหรับแมวอย่างที่นอนแมว ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน
- Pet carriers : เป้ใส่สัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่ต้องการเดินทางกับสัตว์เลี้ยงของตน การวิเคราะห์ของ Google Trends แสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีความต้องการสูงค่ะ
8. ผลิตภัณฑ์สำหรับสำนักงาน
เนื่องจากการทำงานจากระยะไกลเข้ามามีบทบาทในหลายๆ องค์กร พนักงานจำนวนมากขึ้นจึงตั้งโฮมออฟฟิศ และพื้นที่ทำงานที่บ้าน แต่อย่างไรก็ตาม แม้ในบรรดาผู้ที่ต้องกลับไปทำงานในสำนักงาน ก็ยังมีแรงผลักดันที่ดีกว่าในการรักษาความปลอดภัยของสภาพแวดล้อมการทำงานที่สะดวกสบาย ด้วยเครื่องมือที่ส่งเสริมความสะดวกสบาย ได้แก่
- แว่นกรองแสงสีฟ้า : เรียกอีกอย่างว่าเลนส์โฟโตโครมิก แว่นกรองแสงสีฟ้าเป็นสินค้าอีคอมเมิร์ซที่ได้รับความนิยมเนื่องจากมีประโยชน์ต่อสุขภาพดวงตา
- ไมค์พอดคาสต์ : ยอดขายไมค์พอดคาสต์เพิ่มขึ้นในช่วงที่มีโรคระบาด เนื่องจากผู้คนเริ่มใช้พอดคาสต์มากขึ้น เทรนด์พอดคาสต์ยังคงร้อนแรงและรายการเหล่านี้ขายได้อย่างรวดเร็ว
- ปลั๊กอัจฉริยะ : อุปกรณ์ตัวนี้สามารถเปลี่ยนเต้ารับไฟฟ้าให้เป็น AI ผู้ซื้อสามารถใช้อุปกรณ์เหล่านี้เพื่อควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกลได้ อย่างที่ปลื้มว่าอะไรที่เป็นเทคโนโลยี ผู้คนอยากใช้ เพื่อความทันสมัยและความสะดวกสบาย
- แผ่นรองเมาส์ : แผ่นรองเมาส์กำลังประสบกับแนวโน้มการขายที่มีแนวโน้ม เนื่องจากผู้คนจำนวนมากขึ้นชอบใช้เมาส์เชิงกล แม้ว่าจะใช้กับแล็ปท็อปก็ตาม สายจองจอทั้งวันนอกจากปสดตา ก็เมื่อยมือนี่แหละค่ะ
9. ผลิตภัณฑ์สำหรับฤดูหนาว
ยอดขายช่วงฤดูหนาวจะเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปลายปี 2022 และจะดำเนินต่อไปในปี 2023 ลูกค้าจำนวนมากจะมองหาอุปกรณ์สำหรับฤดูหนาวที่จำเป็นมาก สินค้าที่กำลังมาแรงในหมวดนี้ได้แก่
- ผ้าพันคอ : นอกจากความสบายและประโยชน์ใช้สอยแล้ว สิ่งเหล่านี้ยังเป็นสินค้าแฟชั่นที่สามารถเข้ากับชุดต่างๆ ได้ ผู้คนจึงใส่เป็นพร็อพในการแต่งตัว
- รองเท้าฤดูหนาว : รองเท้าที่ทนทานและมีสไตล์เป็นที่นิยมโดยเฉพาะในหมู่ผู้ซื้อที่อายุน้อย
- แจ็คเก็ตผ้าขนสัตว์ : ในฤดูหนาวสามารถเห็นอุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์ในหลายๆ ประเทศ ซึ่งแจ็คเก็ตเหล่านี้ไม่เพียงเป็นที่ต้องการสำหรับการใช้งานกลางแจ้งเท่านั้น แต่ยังเหมาะสำหรับใช้ภายในอาคารอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการปันส่วนพลังงานที่คาดหวังในฤดูหนาวนี้ ซึ่งในไทยอาจจะลดความหนาลงพอสมควร แต่แจ็คเก็ตในไทยตอนนี้ก็น่าจะขายดีไม่น้อยค่ะ
- ถุงเท้า : นอกจากรองเท้ากันหนาวกันน้ำแล้ว ผู้ขายควรเตรียมรับออร์เดอร์ถุงเท้าหนาที่เพิ่มขึ้นด้วยในช่วงหน้าหนาวนี้ค่ะ
- นวมกันหนาว : ถุงมือกันหนาวเป็นที่ต้องการสำหรับการใช้งาน ความสบาย และสไตล์ ในช่วงหน้าหนาวนี้ด้วยเช่นกัน
10. Gadgets
โดยทั่วไปแล้วแกดเจ็ตและเครื่องใช้ไฟฟ้าจะได้รับยอดขายออนไลน์ที่ดี ตัวอย่างเช่น โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริมสมาร์ทโฟนเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า ส่งผลให้ตลาดอุปกรณ์เสริมของสมาร์ทโฟนคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 413,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 ผลิตภัณฑ์ที่จะดึงดูดความต้องการสูงได้แก่:
- เคสโทรศัพท์ : เคสโทรศัพท์ขายได้เสมอ และในปี 2023 ก็ไม่น่าจะแตกต่างออกไป
- พาวเวอร์แบงค์ : ผู้ที่มีอุปกรณ์พกพาตลอดเวลาสามารถชาร์จโทรศัพท์ได้ทุกที่ ความสนใจในเก็บแบตจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากการใช้งานโทรศัพท์ของผู้คนยาวนานขึ้นค่ะ
- Portable power stations หรือ แบตเตอรี่สำรองแบบพกพา : การพกแบตเตอรี่สำรองแบบพกพาช่วยให้เราสามารถอยู่ได้ในกรณีไม่ไฟฟ้าใช้ชั่วคราว เช่น เที่ยวตั้งแคมป์ในป่า บนเกาะ หรือนอกสถานที่ก็ตามค่ะ
เคล็ดลับในการขายสินค้าออนไลน์ที่กำลังเป็นกระแส
1. การรักษาลูกค้า ผู้ซื้อขาจรยังคงเป็นความท้าทายสำหรับธุรกิจต่างๆ ตามรายงาน 75% ของผู้บริโภคเป็นผู้ซื้อครั้งเดียว เราจึงต้องทำให้ผู้ซื้อกลับมา โดยการนำเสนอการบริการลูกค้าอย่างทุ่มเท ใช้วิธี personalized service และรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ก็เป็นกลยุทธ์ที่สามารถช่วยได้แล้วค่ะ
2. สร้างความแตกต่างด้วยบรรจุภัณฑ์ จากการศึกษาของ Ipsos ลูกค้า 72% บอกว่าการออกแบบบรรจุภัณฑ์มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้คน ซึ่งหมายความว่าการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ของเราอย่างง่าย ๆ ก็สามารถผู้คนสนใจได้ ในขณะที่สินค้าสินค้าอื่นมีบรรจุภัณฑ์คล้ายๆ กัน
3. ขายสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อพูดถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผู้ขายในหมวดหมู่ความยั่งยืน มีโอกาสขายเพิ่มขึ้นอย่างมากค่ะ โดยมีรายงานบอกว่า 73% ของผู้บริโภคมองหาตัวเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เมื่อค้นหาผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในครัวเรือนและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย
4. สังเกตคู่แข่งอยู่เสมอ สุดท้ายนี้คือการตรวจสอบคู่แข่งของเราเป็นระยะ เพื่อดูว่าเขากำลังทำอะไร แตกต่างจากกลยุทธ์ของเราอย่างไร และเราสามารถเรียนรู้อะไรได้จากเขา นั่นจะทำให้เราได้รับข้อมูลเชิงลึกที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับตลาดสินค้าประเภทเดียวกัน และใช้เป็นโอกาสในการปรับกลยุทธ์ของเราให้ดีขึ้นกว่าเดิมค่ะ
สำหรับใครที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนด้วยนะคะ
