สรุป 14 Thailand Social Media Stat Insight 2023 จาก We Are Social

สรุป 14 Thailand Social Media Stat Insight 2023 จาก We Are Social

สรุปภาพรวม Thailand Social Media Stat Insight 2023 จากรายงาน Global Overview Digital Report 2023 ของ We Are Social กับประเด็นสำคัญที่นักการตลาดต้องรู้ โดยผม การตลาดวันละตอนครับ ใครที่ยังไม่ได้อ่านบทความสรุป Digital Stat Insight 2023 ก่อนหน้า กดเข้าไปอ่าน ตรงนี้ ก่อนได้เลยครับ

สรุปภาพรวมอัตราการเติบโตผู้ใช้งาน Social media 2023 ทุกแพลตฟอร์มทั่วโลกเริ่มนิ่งแล้ว

เมื่อดูตัวเลขเปอร์เซนต์การเติบโตปีต่อปี จะเห็นว่าเริ่มมีสัญญาณการลดลงตั้งแต่ก่อนเกิดโควิด19 ระบาดในปี 2018-2020 แต่พอโควิดมาเกิดล็อกดาวน์ส่งผลให้ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียรวมทั่วโลกเติบโตแบบก้าวกระโดด แต่พอเข้าปี 2023 ดูเหมือนว่าอัตราการเติบโตกลับมาหดตัวเหลือแค่ 3% เท่านั้นในช่วงปี 2022-2023 ปีปัจจุบัน

ทำให้สรุปได้ว่าลูกค้าใหม่บนออนไลน์จะไม่เพิ่มขึ้นมาจนทำยอดขายได้ง่ายๆ จะมีก็แต่ลูกค้าเก่าไม่ของเราก็ของคนอื่น กลยุทธ์การตลาดดิจิทัลหรือธุรกิจออนไลน์ตั้งแต่นี้ จะเน้นการรักษาลูกค้าเดิมให้ดี กับการไปแย่งชิงลูกค้าคนอื่นมาครับ

1. 72.8% ของคนไทยใช้ Social media ในปี 2023

กว่า 3 ใน 4 ของคนไทยนั้นใช้โซเชียลมีเดียกันหมดแล้ว ตัวเลขนี้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า นั่นบอกให้รู้ว่าจำนวน Digital Consumer ของไทยไม่ได้มีอะไรมากกว่าเดิม ก็จะสอดคล้องกับ Social Media Insight 2023 ภาพรวมทั่วโลกว่าจำนวนผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียไม่ได้เพิ่มขึ้น เราอยู่ในยุคที่โซเชียลมีเดียเริ่มอิ่มตัว

หมดแล้วยุคของการขายง่ายเพราะมีลูกค้าหน้าใหม่ที่เริ่มออนไลน์ครั้งแรกมากมาย มาสู่ยุคของลูกค้าที่รู้เท่าทันการซื้อของทางโซเชียลมีเดียมากขึ้น ถ้าคุณดูแลลูกค้าไม่ดี เตรียมเหนื่อยกับค่าแอดที่แพงมากๆ เมื่อต้องหาลูกค้าใหม่ได้เลย

แต่ถ้าเทียบกับภาพรวมค่าเฉลี่ยทั่วโลกถือว่าไม่แย่ เพราะค่าเฉลี่ยโลกอยู่ที่ 59.4% ส่วนประเทศที่มีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียมากที่สุดในโลกคือ U.A.E ตามมาด้วยเกาหลีใต้ และฮ่องกงครับ

2. ปี 2023 คนไทยใช้โซเชียลมีเดียวันละ 2 ชั่วโมง 44 นาที

ดูเหมือนคนไทยจะยังคงใช้เวลากับการเล่นโซเชียลมีเดียไม่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนๆ แต่อย่างไร เพราะล่าสุดจากรายงาน Digital Stat 2023 บอกให้รู้ว่าคนไทยใช้โซเชียลมีเดียแค่วันละ 2 ชั่วโมง 44 นาทีเท่านั้น เมื่อเทียบกับชาติอันดับหนึ่งอย่างไนจีเรียที่เฉลี่ยเล่นกันวันละ 4 ชั่วโมง 36 นาที แล้วเมื่อดูคู่กับภาพด้านล่างจะเห็นว่า เมื่อเทียบเป็นสัดส่วนกับการใช้อินเทอร์เน็ตทั้งหมดแล้วในแต่ละวันคนไทยเล่นโซเชียลมีเดียแค่ 33.7% หรือหนึ่งในสามของเวลาทั้งหมดครับ

ยิ่งพอเทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกแล้วไม่แย่เลย เพราะค่าเฉลี่ยของสัดส่วนเวลาที่ใช้ไปกับโซเชียลมีเดียเมื่อออนไลน์ทั้งหมดสูงถึง 38% นั่นหมายความว่าเราคนไทยไม่ได้เล่นโซเชียลมีเดียมากอย่างที่เคยเป็นกันอีกต่อไป แต่ภาพสุดท้ายที่อยากให้เห็นคือค่าเฉลี่ยของเวลาการใช้งานโซเชียลมีเดียทั่วโลกครับ

จากภาพจะเห็นว่าจำนวนชั่วโมงที่ใช้โซเชียลมีเดียทั่วโลกนั้นนิ่งตั้งแต่ปี 2019 เรียบร้อยแล้ว แม้โควิดมาเราก็ไม่ได้เล่นโซเชียลมีเดียกันมากขึ้น แต่สิ่งที่จะเล่าในอันดับถัดไปคือเราใช้โซเชียลมีเดียหลากหลายขึ้น

และทั้งหมดนี้ก็ยิ่งตอกย้ำว่า ลูกค้าไม่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนมากมายแล้ว และเวลาที่ใช้กับการออนไลน์ก็ไม่ได้เยอะขึ้น แถมเวลากับโซเชียลมีเดียก็แทบจะนิ่งสนิท นี่คือยุคของ Blood Ocean ที่เข้มข้นจนคำว่า Red Ocean ดูเบาๆ เหมือนก๋วยเตี๋ยวต้มยำน้ำใสของเด็กน้อยเลย

3. คนไทยเล่นโซเชียลมีเดีย 7.1 แพลตฟอร์มในปี 2023

ใครจะทำการตลาดออนไลน์โดยอาศัยโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มเดียวเป็นหลักแบบสมัยก่อน น่าจะต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ให้ไวครับ เพราะจากดาต้าบอกให้รู้ว่าคนไทยที่เล่นโซเชียลมีเดียคนนึงนั้นเล่นมากถึง 7.1 แพลตฟอร์ม ถ้าให้เดาก็คงหนีไม่พ้น Facebook, YouTube, Instagram, TikTok, Twitter, LINE และอาจจะเป็นอะไรก็ได้อีกสักอัน ดังนั้นการตลาดแบบ Omnichannel Marketing Strategy จะต้องเป็นหัวใจสำคัญของการทำ Social Media Marketing 2023 นี้ ไม่อย่างนั้นคุณกำลังพลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย

อ่านเรื่อง Omnichannel Marketing Strategy ที่ผมเคยเขียนต่อ > https://www.everydaymarketing.co/knowledge/7-omni-channel-marketing-strategy-for-customer-experience-with-choco-fasthelp-by-choco-crm/

4. 10 เหตุผลที่คนใช้โซเชียลมีเดียในปี 2023

ใครกำลังต้องการข้อมูลว่าคนใช้โซเชียลมีเดียเพื่ออะไร และทำอะไรบ้าง ผมว่าดาต้าหน้านี้น่าจะช่วยได้ครับ และนี่ก็คือเหตุผลที่คนใช้โซเชียลมีเดียในปี 2023

  1. ติดต่อกับเพื่อนและคนในครอบครัว
  2. ฆ่าเวลายามว่าง
  3. อ่านอัพเดทข่าวสาร
  4. หาคอนเทนต์ที่ตัวเองสนใจ
  5. ดูว่าผู้คนกำลังคุยเรื่องอะไร
  6. หาอะไรใหม่ๆ ซื้อไปเรื่อย
  7. หาสินค้าที่ตั้งใจซื้อ (ข้อก่อนหน้าคือยังไม่มีไอเดีย แต่มีเงินอยากใช้)
  8. ดู Live
  9. พูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกับคนบนโซเชียล
  10. แอดเพื่อนใหม่

ดูเหมือนว่าข้อ 2 การเล่นโซเชียลมีเดียเพื่อฆ่าเวลา กับข้อ 6 การหาอะไรซื้อโดยไม่ได้มีแพลนล่วงหน้า จะเป็นสองเหตุผลที่สอดคล้องกันคือการช้อปปิ้งฆ่าเวลาหรือเพื่อความบันเทิง ลองหาของสนุกๆ ราคาไม่แพงมาขายดูนะครับ น่าจะทำเงินได้ไม่น้อยเมื่อคนวันนี้ช้อปปิ้งเล่นๆ บนโซเชียลกันเป็นประจำ

ผมคนนึงที่ชอบโดนอะไรไร้สาระตกเงินเล็กๆ น้อยๆ ตลอดเวลา อย่าบอกนะว่าคุณไม่เป็น

5. TikTok ขึ้นแท่นแอปที่คนใช้เวลามากที่สุดในโลกของปี 2023

การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ TikTok ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่แจ้งเกิดอย่างเป็นทางการจากช่วงล็อกดาวน์ในปี 2020 จากนั้นปีก่อนโซเชียลมีเดียคลิปสั้นนี้ก็กลายเป็น Mainstream ที่คนทั่วโลกใช้กันอย่างกว้างขวาง แต่ดูเหมือนปีล่าสุด TikTok จะมาแรงแซงหน้าโซเชียลมีเดียรุ่นพี่ไปอีกแล้ว เมื่อจาก Social Media Stat Insight 2023 บอกให้รู้ว่าผู้คนใช้เวลาเล่น TikTok แซงหน้า YouTube ไปอย่างไม่น่าเชื่อ!

เพราะคนเล่น TikTok เฉลี่ยเดือนละ 23 ชั่วโมง 28 นาที ส่วน ​YouTube นั้มมีคนเล่นแค่ 23 ชั่วโมง 9 นาทีเท่านั้น ส่วน Facebook นั้นมีคนใช้อยู่ที่ 19 ชั่วโมง 43 นาทีต่อเดือน เรียกได้ว่า Meta หรือพี่มาร์คนั้นน่าจะหืดขึ้นคอจากนี้ปี ดังนั้นใครยังไม่คิดทำการตลาดบน TikTok ต้องรีบลองรีบเรียนรู้ได้แล้วครับ

ซึ่งเมื่อเจาะลึกลงไปถึงเหตุผลในการใช้โซเชียลมีเดียแต่ละแพลตฟอร์มก็จะเห็นตามภาพด้านล่างนี้ว่า…

Facebook คือพื้นที่ของครอบครัวและเพื่อฝูง ส่วน Instagram นั้นเป็นพื้นที่ของการโพสชีวิตดี๊ดีที่มีได้ทุกวันของเราแต่ละคน LinkedIn นั้นเป็นพื้นที่หางานหรือทำมาหากิน และ TikTok นั้นเป็นพื้นที่ของการหาอะไรสนุกๆ ดู ซึ่งก็สอดคล้องกับเหตุผลการใช้งานโซเชียลมีเดียข้อ 2 นั่นก็คือการฆ่าเวลาว่างระหว่างวันครับ

6. คนไทย 53.8% รู้จักแบรนด์ใหม่ๆ ผ่านโซเชียลมีเดีย

จากดาต้าบอกให้รู้ว่าคนไทยกว่า 53.8% เจอแบรนด์ใหม่ๆ ผ่านโซเชียลมีเดียครับ ส่วนหนึ่งมาเพราะเหตุผลการใช้โซเชียลมีเดียอันดับที่สองของคนทั่วโลกคือเล่นเพื่อฆ่าเวลา นั่งไถฟีดไปเรื่อยๆ แล้วนั่นก็ทำให้ผู้คนมากมายในวันนี้รวมถึงตัวผมเองมักเจอสินค้าข้าวของที่หน้าสนใจ แล้วก็เผลอตัวเผลอใจซื้อโดยไม่ได้แพลนมาก่อน

สอดคล้องกับรีเสิร์จก่อนหน้าที่บอกว่าผู้คนรู้จักแบรนด์ใหม่ๆ ผ่านโซเชียลมีเดียเป็นหลัก และผู้คนก็ซื้อแบบไม่ได้มีการวางแผนที่จะซื้อมาก่อนเยอะกว่าสินค้าที่แพลนว่าจะซื้อ ดังนั้นการทำคอนเทนต์ให้คนเห็นแล้วหยุดดู จนรู้สึกอยากตัดสินใจซื้อกลายเป็นกลยุทธ์หลักในปีนี้ ถ้าทำได้ก็มีโอกาสจะได้ลูกค้าใหม่จากแบรนด์อื่นมากขึ้น และถ้าคุณทำไม่ได้ก็ย่อมหมายถึงลูกค้าเก่าที่มีจะไหลไปหาคู่แข่งเพิ่มขึ้นแทน

7. Instagram คือโซเชียลมีเดียที่คนใช้ทำ Brand Research เป็นหลักในปี 2023

เมื่อดูจากดาต้าหน้านี้บางคนอาจแปลกใจ ว่าทำไมผู้คนถึงใช้ Instagram หาข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์ที่ตัวเองสนใจเป็นหลัก เพราะ Instagram มักจะมีรูปสวยๆ ให้เราดู หรือแม้แต่ใช้ในการเสิร์จหาชื่อ Location สถานที่ก่อนจะไปใช้บริการ อย่างผมจะไปปารีสผมก็ดูว่าคนที่โพสตรงนั้นเขาโพสอะไร เขาทำอะไร เขากินอะไร แล้วค่อยตามมาด้วย Facebook กับ Pinterest ที่อาจไม่นิยมนักในบ้านเรา และ Twitter กับ TikTok

ดูแบบนี้แล้วห้ามพลาดการทำคอนเทนต์บน Instagram เลยนะครับ การตลาดภาพสวยต้องมา และการตลาดที่เน้นการสำรวจว่ามีใครโพสแล้วใส่แฮชแท็กแบรนด์เรา หรือใส่โลโคชั่นธุรกิจเราอยู่บ้าง เพื่อจะได้ทำ Social CRM ที่จะนำมาสู่ยอดขายใหม่ง่ายขึ้น

8. คนใช้โซเชียลมีเดียแบบไหนเพื่อหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อ

ก่อนหน้านี้เราดูแพลตฟอร์มโซเชียลที่คนชอบใช้หาข้อมูลก่อนจะซื้อ คราวนี้มาดูว่าคนใช้แบบไหนอย่างไรในการรีเสิร์จหาข้อมูล

  1. 74.7% ใช้โซเชียลมีเดียในการหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อ
  2. 43.1% ใช้โซเชียลมีเดียแบบที่เป็นโซเชียลจริงๆ อย่าง Facebook หรือ Instagrm ในการหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อ
  3. 20.6% ถามตามเว็บทั่วไป
  4. 16.7% ใช้แอปแชท
  5. 15.4% ใช้ Twitter
  6. 15.7%. ถามตามเว็บบอร์ด
  7. 13.6% ดูคลิปรีวิว Influencer
  8. 10.5% ใช้ Pinterest

9. คนไทย 45.5% หาข้อมูลแบรนด์ก่อนตัดสินใจซื้อบนโซเชียลมีเดีย

เกือบครึ่งของคนไทยที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตนั้นใช้โซเชียลมีเดียในการหาข้อมูลของแบรนด์ที่ตัวเองสนใจ ดังนั้นการมีตัวตนบนโซเชียลมีเดียในช่องทางต่างๆ จึงสำคัญมาก ถ้าพวกเขาหาคุณไม่เจอความน่าเชื่อถือก็หายไป แต่ถ้าพวกเขาหาคุณเจอแล้วแต่กลับเจอรีวิวแย่ๆ ความเห็นที่มาจากประสบการณ์ไม่ดีของลูกค้าคนก่อนหน้า กลายเป็นโอกาสขายที่มีจากโฆษณาที่อุตส่าห์เสียเงินไปแทบจะเป็นศูนย์เลยทีเดียว

เทคนิคง่ายๆ ลองค้นหาชื่อแบรนด์ของคุณเอง สินค้าของคุณเองบนโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่างๆ ที่ผู้คนนิยมใช้หาข้อมูลกัน เพื่อจะได้รู้ว่าถ้าเราเป็นลูกค้าเราจะเจออะไรบ้างที่เกี่ยวกับตัวเอง มันดีกว่าที่คิดหรือแย่กว่าที่ทำใจไว้ การตลาดที่ดีเริ่มต้นง่ายๆ จากตรงนั้น เริ่มต้นจาก Consumer Journey ด้วยการจำลองตัวเองเป็นลูกค้าตัวเองดูครับ

10. Facebook ยังคงพาคนเข้าเว็บ Drive Web Traffic ให้เรามากที่สุด

ดูเหมือน Facebook จะอยู่ในสถานะที่นักการตลาดทั้งรักทั้งเกลียด เกลียดเพราะค่าแอดแพงขึ้นทุกวัน และตัวเลข Reach ก็ลดลงทุกปี ส่วนที่รักเพราะยังคงต้องพึ่งพา Facebook อยู่ดี ก็ในเมื่อจากข้อมูลล่าสุดบอกให้รู้ว่าแพลตฟอร์มพี่มาร์คจอมเคี่ยวนี้พาคนเข้ามายังเว็บเรากว่า 67.13% ครับ

ดำแนะนำจากผมคือ ใช้พี่มาร์คพาคนเข้าบ้านเราให้ได้มากที่สุด และก็ลดการพึ่งพาพี่มาร์คไปในตัว เพื่อให้คนจำได้ว่าเข้าเราตรงนั้นดีกว่าอย่างไร กลยุทธ์ง่ายๆ ที่ต้องใช้ความอดทนอย่างมาก เหมือนที่ผมทำกับเว็บการตลาดวันละตอน ซึ่งตอนนี้ Organic Search และ Direct Traffic สูงกว่าคนที่มาจากโซเชียลมีเดียจาก Facebook มาก ต่อให้วันนั้นมีคนแชร์เป็นพันก็ตามครับ

11. 16 ประเภท Influencer ที่คนชอบติดตามในปี 2023

มาอัพเดท Influencer Trends 2023 กันหน่อยดีกว่าครับว่าในปีนี้ผู้คนชอบติดติดตามใครบนโซเชียลมีเดียมากที่สุด

  1. 44.9% คนในครอบครัว เพื่อนฝูง หรือคนรู้จัก
  2. 29.1% นักแสดง หรือตลก
  3. 27.7% สายตลก ขำขัน
  4. 27.3% รายการโชว์หรือรายการทีวีที่ตัวเองชอบ
  5. 27% วงดนตรี นักร้อง ศิลปินที่ตัวเองสนใจ
  6. 25% ร้านอาหาร เชฟ หรือคนสายอาหารทั้งหลาย
  7. 22.1% คนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ จริงๆ
  8. 21.7% แบรนด์ที่เพิ่งซื้อไป
  9. 21.6% นักกีฬา หรือทีมกีฬาที่ตัวเองชอบ
  10. 20.2% แบรนด์ที่ตัวเองกำลังจะตัดสินใจซื้อ
  11. 20.1% คนที่เกี่ยวกับสายงานตัวเอง
  12. 18.8% บริษัทที่เกี่ยวข้องกับงานตัวเอง
  13. 17.1% เกม
  14. 16.9% Beauty Blogger
  15. 16.8% นักข่าว หรือสำนักข่าว
  16. 16.7% เทรนเนอร์ ฟิตเนส สายสุขภาพ

ลองดูแล้วเอาไปปรับใช้กับกลยุทธ์การเลือก Influencer Marketing Strategy 2023 ปีนี้กันนะครับ

12. คนไทยแค่ 17.9% ติดตาม Influencer ในปี 2023

ดูเหมือนคนไทยจะไม่ค่อยสนใจ Influencer เท่าไหร่ยะครับวันนี้ เมื่อดูข้อมูลจากรายงาน Digital Stat 2023 ของ We Are Social พบว่าคนไทยที่ใช้อินเทอร์เน็ตแค่ 17.9% เท่านั้นที่ติดตาม Influencer หรือคนดังบนออนไลน์อย่างจริงจัง

เอาเข้าจริงตัวเลขนี้ยังไม่ถึง 1 ใน 5 อีกต่างหาก ดังนั้นถ้ามีแผนจะใช้คนดังออนไลน์ปีนี้ ต้องเลือกให้ดี ให้แน่ใจว่าคนที่เลือกจะตอบโจทย์ธุรกิจเรา

13. คนไทย 32.1% ใช้โซเชียลมีเดียในการทำงาน!!

แม้จะเห็นว่าคนไทยเล่นโซเชียลเก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก แต่รู้ไหมครับว่ากว่า 1 ใน 3 ของคนเล่นโซเชียลมีเดียบอกว่าพวกเขาใช้ในการทำงานนะ!!

แต่ถ้าเทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกแล้วยังถือว่าน้อยกว่าเล็กน้อย และดูเหมือนประเทศที่ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อการทำงานมากี่สุดคือประเทศไนจีเรีย ตามมาด้วยเคนยา ต่อไปนี้ถ้าเห็นลูกน้องเปิดโซเชียลมีเดียอย่าเผลอดุว่ามัวแต่เล่นไม่ทำงานนะครับ เพราะเขาอาจเป็น 1 ใน 3 ที่เล่นเพื่องาน หรือจริงๆ อาจเป็น 2 ใน 3 ที่เล่นเพื่อเล่นมากกว่านะ

14. คนไทย 38.5% ใช้ Social media เป็นช่องทางหลักในการอัพเดทข่าว

ในปี 2023 คนไทยกว่า 38.5% อัพเดทข่าวสารรอบตัวผ่าน Social media เป็นช่องทางหลักครับ เมื่อเทียกับค่าเฉลี่ยโลกที่อยู่ที่ 34.2% ถือว่าดีกว่าเล็กน้อย ส่วนประเทศที่สูงสุดยังคงเป็นไนจีเรียเหมือนเดิม

สรุป 14 Thailand Social Media Stat Insight 2023 เจาะลึกพฤติกรรมการออนไลน์และใช้โซเชียลมีเดียของคนไทยจาก We Are Social

  1. 72.8% ของคนไทยใช้ Social media
  2. คนไทยเล่นโซเชียลมีเดียวันละ 2 ชั่วโมง 44 นาที
  3. คนไทยมีเล่นโซเชียลมีเดีย 7 แพลตฟอร์ม
  4. ตามเพื่อนและฆ่าเวลาว่าง คือเหตุผลหลักในการเล่นโซเชียลมีเดีย
  5. TikTok ขึ้นแท่นโซเชียลมีเดียที่คนใช้เวลามากที่สุด (แซงหน้า YouTube เรียบร้อย)
  6. คนไทย 58.3% รู้จักแบรนด์ใหม่ผ่านโซเชียลมีเดีย
  7. คนหาข้อมูลก่อนซื้อผ่าน Instagram เป็นอันดับหนึ่ง
  8. โซเชียลมีเดียทั้งหมดคือช่องทางหลักในการหาข้อมูลก่อนการตัดสินใจ
  9. คนไทย 45.5% หาข้อมูลบนโซเชียลมีเดียก่อนตัดสินใจซื้อ
  10. Facebook ยังคงพาคนเข้าเว็บเรามากที่สุดเมื่อเทียบกับโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม
  11. Influencer สายตลกขำขัน มาแรงในปีนี้
  12. คนไทยแค่ 17.9% เท่านั้นที่ติดตาม Influencer แบบจริงจัง
  13. คนไทยเกือบ 1 ใน 3 ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อทำงาน (แล้วอีกสองในสามหละ?)
  14. คนไทย 38.5% อัพเดทข่าวสารใหม่ผ่านโซเชียล

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับภาพรวมของ Social Media Stat Insight 2023 ที่เน้นส่วนของคนไทยเป็นหลักจากรายงาน Global Overview Digital Report 2023 ของ We Are Social ถ้าอยากอ่านตอนก่อนหน้าที่เป็นภาพรวมการตลาดออนไลน์ Digital Stat Insight 2023 มีสรุปไว้ให้เรียบร้อยครับ

Source: https://wearesocial.com/uk/blog/2023/01/digital-2023/

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

คุณคิดว่าปัญหา PM 2.5 ที่เชียงใหม่วิกฤตหรือยัง ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถามก่อนอ่านการตลาดวันละตอน แล้วเราจะเอาไปทำเป็น Infographic โชว์หน้าเพจให้รู้ด้วยกัน