Social media Trend 2019 หรือโซเชียลกำลังจะกลายเป็นที่ช้อปมากกว่าแชท?

Social media Trend 2019 หรือโซเชียลกำลังจะกลายเป็นที่ช้อปมากกว่าแชท?

Social media ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตเราทุกคนไปมาก จากเมื่อก่อนที่เคยเป็นแค่พื้นที่ของวัยรุ่น หนุ่มสาวคนเมือง และคนรุ่นใหม่ ทุกวันนี้กลายเป็นพื้นที่ๆใครๆก็เข้าถึง เผลอๆพ่อแม่เราติดอัพโหลดรูปบนเฟซบุ๊กมากกว่าเราจริงมั้ยครับ

หรือกลายเป็นพื้นที่ๆลูกค้าใช้ติดต่อกับแบรนด์หรือธุรกิจต่างๆ สมัยก่อนเวลาสินค้าหรือบริการมีปัญหาเราจะโทรเข้า call center แต่วันนี้เราส่งข้อความผ่าน messenger แล้วก็รอฟีดแบคจาก admin แบบนาทีต่อนาทีเลยทีเดียว

ดังนั้นการเข้าสังคมผ่าน Social media ไม่ใช่แรงจูงใจหลักให้เราใช้ Social media เหมือนเมื่อ 5 ปีก่อนอีกต่อไป

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปี 2014 ในช่วงนั้นเราจะพบว่าเราเข้าโซเชียลเพื่อชิทแชทกับเพื่อนฝูงเป็นหลัก แต่วันนี้ผลการสำรวจไม่ใช่แบบนั้นเพราะคำตอบข้อนี้ได้คะแนนการสำรวจลดลงถึง 14 เปอร์เซนต์ ดังนั้นแรงจูงใจในการใช้โซเชียลมีเดียของผู้คนในวันนี้จึงเปลี่ยนไปมาก เพราะคนส่วนใหญ่ยอมรับว่า Social media คือพื้นที่ของการตลาด พื้นที่ของการค้าขาย พื้นที่ของโฆษณา

Social media Trend

จากรูป infographic ด้านบนจะพบว่า แม้การเข้า Social media ยังเป็นเหตุผลหลักที่เข้ามาพบปะอัพเดทกับเพื่อน แต่ตัวเลขนี้ก็ลดลงถึง 28% เมื่อเทียบกับ 5 ปีที่แล้ว รองลงมือคือการเข้ามาหาอะไรสนุกๆเสพย์ ลำดับที่ 3 คือการเข้ามาแชร์ภาพและวิดีโอของตัวเองออกไป

แต่ที่น่าสนใจมากคือข้อที่ 4 ที่เป็นเหตุผลหลักว่าทำไมคนถึงเข้าโซเชียล นั่นก็คือเข้ามาหาซื้อสินค้าหรือบริการ หรือเข้ามาหาข้อมูล ซึ่งจากคำตอบพบว่าสูงถึง 30% หรือเพิ่มขึ้นกว่าเดิมถึง 26% ดังนั้นการขายของบนโซเชียลแบบโต้งๆไม่ใช่เรื่องน่าเกลียด เพราะคนเข้ามาหาซื้อของกันโต้งๆอยู่แล้วครับ

ส่วนที่เพิ่มมาอย่างน่าสนใจคือคนเข้าโซเชียลมาเพื่อหางาน หา connection ใหม่ๆ สูงถึง 24% เพิ่มจากเมื่อ 5 ปีก่อนถึง 14%

และสุดท้ายคือการเข้ามาเพื่อติดตามข่าวดาราคนดังที่ตัวเองชอบถึง 19% เพิ่มจากเดิม 15% ครับ

ทั้งหมดนี้จะเห็นว่าแม้เหตุผลการเข้ามาเพื่อพูดคุยกับเพื่อนยังเป็นเหตุผลหลักในการเข้าโซเชียลมีเดียก็ตาม แต่ตัวเลขนั้นก็ลดลงอย่างมาก และตัวเลขเพื่อการเข้ามาอย่างมีวัตถุประสงค์ชัดเจน ไม่ว่าจะเข้ามาเพื่อซื้อของ เพื่อหางาน นั้นเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ซึ่งก็ทำให้เราเห็นแนวโน้มว่า social media นั้นจะกลายเป็นพื้นที่สำหรับการขายสินค้ามากขึ้นเรื่อย และเป็นช่องทางในการหาข้อมูลก่อนซื้อเพื่อตัดสินใจใช้เงินมากขึ้น

แต่ก็ใช่ว่าแบรนด์หรือธุรกิจจะโพสอะไรก็ได้ เพราะโพสไปใช่ว่าจะมีคนเห็น ถ้า content นั้นมีมีคุณภาพมากจริง หรือไม่ได้ใส่เงินบูสโพสเข้าไปมากพอ

ในปี 2019 ผู้คนกว่า 39% บอกว่าเค้าเห็นสินค้าหรือเจอบริการใหม่ๆผ่านโซเชียลมีเดียก่อนช่องทางอื่น และ 1 ใน 4 ก็ดูคำแนะนำของคนบนโซเชียลมีเดียก่อนซื้อ ในขณะที่เทียบกับ TV แล้วอยู่ที่ 35% เท่านั้น เท่ากับว่าการแนะนำให้คนรู้จักสินค้าใหม่ในวันนี้ Social media นั้นได้ผลมากกว่าแล้วครับ เพราะคุณสามารถเลือกได้เต็มที่ว่าอยากให้ใครเห็นบ้าง อยากให้เห็นในช่วงไหนยังไง ด้วยข้อความแบบไหน

และกว่า 42% ก็บอกว่าก่อนจะซื้อใช้ social media หาข้อมูลเป็นอันดับสองรองจาก search engine หรือ google นั่นแหละครับ

และบรรดา influencer และ micro-influencer ก็มีผลสำคัญต่อการเข้าถึงผู้คนบนโซเชียลมีเดีย เพราะเราเห็นแล้วว่าเป็นอีกปัจจัยนึงที่เพิ่มขึ้นมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาว่าทำไมเค้าถึงเข้าโซเชียลมีเดียในวันนี้

แม้การซื้อของผ่าน social media ในวันนี้ยังไม่ seamless หรือไร้รอยต่อทอเต็มผืนอย่างเต็มที่ เพราะยังต้องมีการเด้งไปเด้งมาระหว่าง google, facebook และ website ของแบรนด์ แต่ Instagram กำลังจะทำให้ทุกอย่างจบในจุดเดียว

อย่างที่เราเห็นว่า Instagram ออกฟีเจอร์ช้อปปิ้งเพิ่มมาเมื่อไม่นานมานี้ เพราะจาก insight ว่าผู้ใช้จำนวนไม่น้อยโดยเฉพาะผู้หญิงนั้นใช้ instagram เป็นจุดแรกเพื่อการช้อป ก็เลยต้องการทำให้การช้อปนั้นจบที่ Instagram ได้ในตัว ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะสามารถทำให้ผู้ใช้ช้อปจบในจุดเดียวได้อย่างที่ต้องการจริงหรือไม่

สุดท้ายนี้บทความนี้ก็ตั้งคำถามว่า Social media จะกลายเป็น New Ratail ได้หรือไม่ ซึ่งสิ่งนี้ยังบอกไม่ได้ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเราจะได้ยินว่าข่าวแต่ละแพลตฟอร์มพยายามกินรวบผู้บริโภคให้จบในตัวเองทั้งหมด แต่ก็ยังไม่เคยเห็นใครทำได้จริงซักที เพราะผู้คนก็ใช้แต่ละแพลตฟอร์มด้วยพฤติกรรมที่ต่างกัน

แต่การที่ไม่มีใครทำได้มาก่อน ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะสุดท้ายแล้วใครที่ทำให้เรารู้สึกสะดวกสบายที่สุด อย่างเข้าใจเรามากที่สุด ก็จะกลายเป็นผู้ชนะไปในที่สุดครับ

อ่านเทรนด์อื่นๆเพิ่มเติมของเราได้ที่ https://www.everydaymarketing.co/category/trend-insight/

อ่านบทความต้นฉบับได้ที่ http://bit.ly/2KCIelk

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

คุณคิดว่าปัญหา PM 2.5 ที่เชียงใหม่วิกฤตหรือยัง ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถามก่อนอ่านการตลาดวันละตอน แล้วเราจะเอาไปทำเป็น Infographic โชว์หน้าเพจให้รู้ด้วยกัน