จากรีเสริชพบว่า คนธรรมดา น่าเชื่อกว่า Influencer ถึง 10 เท่า
จากการสำรวจความเห็นจากผู้คนกว่า 14,000 คนพบว่ากว่า 30% บอกว่ารีวิวจากคนธรรมดาที่ไม่ใช่ influencer นั้นทำให้อยากซื้อตามใช้ตามมากกว่าคนดังบนออนไลน์หรือพวก influencer เป็นไหนๆ
และกว่า 70% ของคำตอบนี้ก็มาจากคนรุ่นใหม่ชาว Millennials ที่มีอายุระหว่าง 18-34 ปี ที่ย้ำว่าความเห็นของคนธรรมดานี่แหละดูจริงที่สุด
และมีแค่ 3% เท่านั้นที่บอกว่าซื้อสินค้าตามบรรดา Influencer แถมผู้คนยังบอกอีกว่าสื่อเก่าอย่าง TV นั้นยังทำให้อยากซื้อตามมากกว่าเพราะได้คะแนนอยู่ที่ 7.4% ด้วยซ้ำ
อาจเพราะโฆษณานั้นดูจริงใจว่ามาขายจริงๆ ไม่เหมือน Influencer วันนี้ที่ทำเป็นเนียนมาขายแต่ถูกข้อยัดข้อความการตลาดมากเกินไปจนคนเริ่มจับทางได้มากขึ้นทุกที
และยังมีข้อสรุปเพิ่มเติมอีกว่า ผู้บริโภคสมัยนี้ชอบดูรีวิวกันที่ในร้านค้าเลย เกือบ 60% บอกว่าถ้าเจอสินค้าอะไรที่สนใจก็มักจะเปิดดูรีวิวมันตรงนั้นก่อนซื้อ ถ้ารีวิวไม่ดีก็จบ แต่ถ้ารีวิวดีก็ซื้อกลับเอาไปคบต่อที่บ้านได้
ผู้ชายนั้นเชื่อรีวิวมากกว่าผู้หญิงถึงเท่าตัว
กว่า 1 ใน 5 (18.3&) ของผู้ชายนั้นบอกว่าการดูบล็อกหรือรีวิวมีอิทธิพลต่อการซื้อของในร้านมาก เมื่อเทียบกับผู้หญิงตอบว่ารีวิวมีผลกับตัวเองแค่ 1 ใน 10 (9.2%) คนเท่านั้น
แต่ผู้ชายกับผู้หญิงก็เลือกดูรีวิวสินค้าต่างกัน
ถ้าผู้ชายจะดูรีวิวสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หน้าร้านก่อนซื้อสูงกว่าผู้หญิงถึงเท่าตัว ตัวเลขอยู่ที่ 34.4 กับ 15.4
และ Facebook กับ YouTube ก็เป็นช่องทางการโน้มน้าวใจที่ดีที่สุด เพราะกว่า 19% บอกว่า Facebook นั้นมีผลต่อการตัดสินใจมาก และ YouTube ก็รองลงมาแบบติดๆเพราะอยู่ที่ 18% โดยผู้ชายนั้นให้ความสำคัญกับ YouTube มากกว่าผู้หญิงเกือบเท่าตัว
สรุปได้ว่าก่อนจะไปมองหาเสียเงินให้ Influencer ทั้งหลาย ลูกค้าของแบรนด์ที่เป็นคนธรรมดานี่แหละครับคือ Influencer ที่ดีที่สุดของแบรนด์ในวันนี้
ในวันที่ผู้บริโภคเริ่มไม่ค่อยไว้ใจ Influencer แม้แต่ Micro Influencer เองก็ไม่แน่ใจว่าจะยังน่าเชื่อถืออยู่มั้ย แต่กับคนธรรมดานี่แหละที่คนส่วนใหญ่ค่อนข้างมั่นใจว่าเป็น “เสียงจริง” ไม่ใช่ “เสียงจ้าง”
สุดท้ายนี้ผมอยากจะฝากถึงนักการตลาดทั้งหลายว่า เอางบโฆษณาหรืองบที่จะจ้าง Influencer กลับไปดูแลลูกค้าของคุณให้ดีกว่าเดิมเพื่อให้เค้ากลับมาเป็น Brand Advocacy ที่ดีให้กับแบรนด์น่าจะดีกับธุรกิจในระยะยาวครับ