วิเคราะห์ลงลึก Lazy Consumer หรือลูกค้าไม่ได้ขี้เกียจ แต่อาจจะ Busy มากขึ้น

วิเคราะห์ลงลึก Lazy Consumer หรือลูกค้าไม่ได้ขี้เกียจ แต่อาจจะ Busy มากขึ้น

จากงานสัมมนาการตลาด Lazy Consumer ของวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ CMMU ในหัวข้อ ตลาดคนขี้เกียจ : Lazy Marketing ที่ว่าทำอย่างไรให้ขายได้ในยุคที่คนอยากซื้อ แต่ไม่อยากขยับตัว เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา ผม การตลาดวันละตอน ได้รับเชิญให้เข้าร่วมฟังผลสรุปจากงานวิจัยในครั้งนี้ และก็พบว่ามีหลายประเด็นที่น่าสนใจ จากการวิเคราะห์ในอีกมุมมองของตัวเองที่เป็นที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์การตลาด ให้กับเพื่อนๆพี่ๆนักการตลาดได้จับประเด็นสำคัญไปทำงานกันต่อดังนี้ครับ

ความขี้เกียจนั้นไม่ได้เป็นแค่นิสัยส่วนบุคคล แต่เป็นไปถึงระดับพันธุกรรมหรือยีนด้วยซ้ำครับ

และเจ้ายีนตัวนี้ก็มีชื่อว่า SLC35D3 ที่คอยสั่งการให้มนุษย์เราหาทางขี้เกียจอยู่เสมอเมื่อสบโอกาส เพราะฉะนั้นถ้าใครบอกว่าคุณช่างขี้เกียจเหลือเกิน ครั้งหน้าก็ให้บอกว่า เราแค่เป็นไปตามธรรมชาติ เท่านั้นเองครับ แต่ถ้าหัวหน้าพูดก็อย่าสวนแบบนี้ล่ะ เดี๋ยวโดนสั่งให้เก็บของกลับบ้านทันทีจะโทษกันไม่ได้นะครับ

Bill Gates Lazy

เพราะ Bill Gates ยังเคยบอกว่า “I choose a lazy person to do a hard job. Because a lazy person will find an easy way to do it.” หรือแปลเป็นไทยง่ายๆว่า เขาเลือกที่จะจ้างคนขี้เกียจ เพราะคนขี้เกียจมักจะหาทางที่สั้นที่สุดและง่ายที่สุดในการทำงานี่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จครับ

แต่อย่าเผลอไปจ้างคนขี้เกียจมั่วซั่งนะครับ ต้องเอาคนขี้เกียจที่มีความรับผิดชอบส่งงานตรงเวลาด้วยครับถึงจะได้ข้อนี้

Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU

ที่น่าสนใจคือกระแสความขี้เกียจไม่ได้มีแค่ในเมืองไทย แต่ยังไปไกลถึงระดับโลก เพราะจากเว็บช้อปปิ้งออนไลน์ชื่อดังของจีนอย่าง Taobao.com พบว่าเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา ยอดขายสินค้าที่ช่วยเรื่องความสะดวกสบายขายดีขึ้นถึง 70% หรือคิดเป็นเงินกว่า 2.31 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือตีเป็นเงินไทยก็ไม่ต่ำกว่า 70,000 ล้านบาท และที่น่าสนใจอีกอย่างคือส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Generation Z หรือเป็นนักช้อปที่เกิดหลังปี 1995 เป็นต้นไปครับ

อ่านถึงตรงนี้แล้วคุณอาจสงสัยแล้วใช่มั้ยครับว่า “ไอ้ของประเภทที่ว่านั้นคืออะไร?” ผมมีรายการสินค้าของคนขี้เกียจมาให้ดู แล้วคุณจะทึ่งเหมือนที่ผมทึ่งมาแล้วในงานครับ

Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU

อายแชโดว์แบบปาดครั้งเดียวจบ ก็คนมันอยากสวยแต่ไม่มีเวลาอะ! นี่คือผลิตภัณฑ์ที่มีความนิยมสูงสุดใน Taobao บอกตรงๆตอบได้ยินครั้งแรกผมทึ่งมาก ไม่คิดว่าความขี้เกียจจะกลายเป็นอุปสรรค์ของความสวย เห็นโอกาสทางธุรกิจอีกมากมายเลยใช่มั้ยครับ ถ้าคุณสามารถทำให้ความสวยนั้นง่ายขึ้นได้อีกนิด รับรองว่าเงินจะไหลมาเทมาแน่นอนครับ

Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU

อันที่ 2 เป็นหม้อร้อนอเนกประสงค์ อยากทำอาหารแต่ขี้เกียจล้างเยอะ

Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU

อันที่ 3 เก้าอี้เล่นเกมปรับนอนได้ อยากนั่งเฉยๆไม่อยากลุกไปไหน

Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU

อันที่ 4 หุ่นยนต์ทำความสะอาดในบ้าน อยากให้บ้านสะอาดแต่ขี้เกียจทำ ข้อนี้จริงมากครับ เชื่อมั้ยครับว่าขนาดผมมีเจ้า iRobot ที่บ้านเป็นรุ่นที่ยังไม่สามารถตั้งเวลาทำงานอัตโนมัติเองได้ แต่เพียงแค่กดปุ่มเบาๆครั้งเดียวมันก็จะวิ่งไปกวาดทั่วห้องนอนด้วยตัวเอง มันง่ายขนาดนี้ผมยังขี้เกียจก้มลงไปกด หรือบางครั้งฝุ่นเต็มตัวเครื่องผมยังขี้เกียจถอดไปล้างทำความสะอาดเลยครับ

นักการตลาดครับ คุณเห็นโอกาสในการพัฒนาหุ่นยนต์ทำความสะอาดรุ่นใหม่ ที่ทำลายฝุ่นผงเองได้ด้วยแล้วเห็นมั้ยครับ

และจากความขี้เกียจหรือ Lazy Consumer ก็เลยทำให้เกิดเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Lazy Economy ที่โตแรงแซงความขี้เกียจมากครับ เช่น โดรนส่งกาแฟให้อัตโนมัติเมื่อรู้ว่าคุณเหนื่อย หรืออาหารที่ส่งเข้าตู้เย็นเมื่อคุณไม่อยู่บ้าน และบริการเติมน้ำมันถึงรถคุณไม่ว่าคุณจะจอดติดอยู่ที่ไหน

ช่างเป็นความขี้เกียจที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชาติในด้านเศรษฐกิจจริงๆนะครับ

Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU

จากข้อมูลในงานนี้ก็บอกอีกว่า นี่เลยเป็นโอกาสครั้งใหม่และครั้งใหญ่ของบริษัท Startup มาใหม่เพื่อเอาใจคนขี้เกียจโดยเฉพาะ เพราะจากข้อมูลบอกว่า 34% นั้นเป็นบริษัทที่ทำมาเพื่อตอบโจทย์คนขี้เกียจ (ผมว่าตัวเลข 66% น่าจะเป็นไม่ตอบโจทย์ความขี้เกียจนะครับ เพราะไม่อย่างนั้นคงมีแต่บริษัทเพื่อคนขี้เกียจจนไม่เหลือให้คนปกติเหลือที่ยืนบ้างเลยครับ)

Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU

Stitch Fix สร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาความขี้เกียจคิดว่าจะซื้อหรือจะใส่อะไรดีนะ โดย Stitch Fix นี้จะส่งชุดตั้งแต่หัวจรดเท้ามาให้คุณประหนึ่งมี Stylist เป็นเพื่อนสนิทอยู่ตรงข้ามบ้านเลยครับ

หมดปัญหาซักทีกับประโยคเดิมๆที่คุณผู้หญิงชอบบอกว่า “ไม่มีชุดจะใส่” ทั้งๆที่มีชุดอยู่เต็มตู้นี้นะ ผมแนะนำว่าหนุ่มๆควรสมัครสมาชิก Stitch Fix นี้ให้แฟนสาวถึงจะดีที่สุดครับ

Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU

Blue Apron สำหรับคนที่อยากทำอาหารดีๆกินเองที่บ้าน แต่ก็ขี้เกียจออกไปตลาด ไหนจะต้องจอดรถ ไหนจะต้องเดินเลือก ไหนจะต้องต่อแถวจ่ายเงิน ไหนจะต้องขนขึ้นรถ ไหนจะต้องกลับบ้าน เพียงแค่คุณบอกในระบบของ Blue Arpon ว่าคุณอยากกินอะไร เพียงเท่านี้วัตถุดิบชั้นดีทุกอย่างที่คุณต้องมีก็จะมาส่งถึงบ้านครับ

แต่ถ้าคุณขี้เกียจขนาดขี้เกียจโหลดแอพ ผมว่าอันนี้คงไม่มี Startup ล้ำโลกไหนจะช่วยได้แล้วล่ะครับ

หรือไม่ใช่แค่บริษัทสตาร์อัพที่มอบบริการใหม่ๆให้แก่ Lazy Consumer เท่านั้น แต่ยังมีนวัตกรรมใหม่ๆที่ทำมาเพื่อคนขี้เกียจอย่างเราๆด้วยครับ เริ่มต้นที่ Foldimate

https://www.youtube.com/watch?v=_BVrLYY4jZg

FoldiMate เครื่องพับผ้าอัตโนมัติ ปัญหาการซักแล้วขี้เกียจพับของคุณจะหมดไปในพริบตา ถ้าคุณขยันหาเงินเพิ่มอีกนิดเพื่อซื้อเจ้าเครื่องพับผ้าเครื่องนี้ สนนราคาก็เบาๆ แค่ประมาณสามหมื่นบาทเท่านั้นเองครับ

หรือถ้าคุณจะขี้เกียจเสียเวลาวันละ 2 นาทีเพื่อแปรงฟันก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เพราะวันนี้โลกเรามีนวัตกรรมเพื่อคนขี้เกียจแปรงฟันเรียบร้อยแล้ว

Y-Brush เครื่องแปรงฟันอัจฉริยะที่ใช้เวลาแค่ 10 วินาทีเท่านั้น แถมแค่กัดแล้วคาบไว้เฉยๆ ไม่ต้องขยับข้อมือข้อแขนให้รู้สึกเมื่อยล้าอ่อนเพลียแต่อย่างไรครับ

และจากการสำรวจผ่านการสัมภาษณ์ และเก็บข้อมูลผ่านแบบสอบถาม จากคนมากกว่า 1,200 คน โดยแบ่งผู้ตอบคำถามในแต่ละช่วงวัยออกมาเป็นดังนี้ครับ

Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU

Babyboomer 109 คน
Gen X 319 คน
Gen Y 510 คน
Gen Z 262 คน
โดยแบ่งออกเป็นผู้ชาย 346 คน และผู้หญิง 854 คนครับ

และนี่คือ 10 อันดับที่คนไทยขี้เกียจมากที่สุดครับ

Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU
  1. ออกกำลังกาย 84%
  2. รอคิวซื้อของ 81%
  3. ทำความสะอาดบ้าน 77%
  4. อ่านหนังสือ 70%
  5. ทำอาหาร 70%
  6. พูดคุยหรือเจอคนเยอะๆ 68%
  7. ดูแลผิวพรรณตัวเอง 68%
  8. เรียน/ทำงาน 65%
  9. ออกไปช้อปปิ้ง 64%
  10. เดินทางไปไหนมาไหน 60%

จากตัวเลขทั้งหมดนี้ผมถึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมบริการ Food Delivery ไม่ว่าจะ Grab, Lineman และ Get ถึงโตเอาโตเอาในบ้านเรา จนจากข้อมูล insight ของทางผู้บริหาร Get ที่มาร่วมในงานนี้แชร์ว่า ตอนนี้ร้านอาหารบางร้านนั้นแทบไม่ต้องพึ่งยอดขายจากทางหน้าร้านแล้ว เพราะลำพังแค่ทำส่งออเดอร์จากแอพต่างๆก็ทำไม่ทันแล้วครับ

และอีกข้อมูลที่น่าสนใจในงานคือ มีวิดีโอสัมภาษณ์หญิงคนหนึ่งที่ทำอาชีพรับจ้างต่อคิว เรียกว่าทำเป็นอาชีพหลัก แถมเธอยังมีเรทการ์ดในการคิดค่าบริการตามชั่วโมงหรือเหมาวัน และจะชาร์จเพิ่มในกรณีที่ต้องต่อคิวข้ามวันและแถวนั้นไม่มีที่นอน หรือคิดเพิ่มถ้าเธอต้องนอนข้างถนนริมฟุตบาทนั้นเองครับ

ลองดูคลิปผู้ที่ทำอาชีพรับจ้างต่อคิวนี้ก่อนก็ได้ครับ

แล้วพอแยกความขี้เกียจของแต่ละเพศก็จะพบว่า ผู้ชายนั้นขี้เกียจต่อคิวซื้อชองเป็นอันดับ 1 ส่วนอันดับหนึ่งของผู้หญิงนั้นเป็นเรื่องขี้เกียจออกกำลังกายครับ

Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU

แต่ความขี้เกียจข้อที่ 4 ของผู้หญิงนี้น่าสนใจครับ ตรงที่พวกเธอกว่า 72% บอกว่าขี้เกียจอ่านหนังสือ ถ้ามองผ่านๆก็คงเป็นเรื่องตลก แต่ถ้ามองให้ลึกจะเห็นโอกาสในธุรกิจครับ เพราะนั่นหมายความว่าลึกๆแล้วพวกเธออยากอ่านหนังสือ อยากเสพย์หาความรู้ความบันเทิงอื่นๆเพิ่มเติม ใครถ้าสามารถเข้ามาแก้ปัญหาตรงนี้ทำให้การอ่านหนังสือไม่น่าเบื่อ หรือเปลี่ยนการอ่านให้เป็นวิธีอื่น อย่างการฟัง หรือการดูได้ ตลาดของพวกเธอคงโตขึ้นอีกมากเลยทีเดียวครับ

แต่เดี๋ยวก่อน ถ้าคุณเป็นคนขี้เกียจอ่านหนังสือ ผมมีอีกหนึ่งเพจมาแนะนำให้ เพจนี้มีชื่อว่า อ่านแล้วเล่า ครับ เพจนี้จะสรุปหนังสือที่เจ้าของเพจอ่านไว้แล้วมากมายหลากหลายแนว ให้คุณได้อ่านสรุปที่สนุกไม่แพ้อ่านเองครับ

https://www.facebook.com/Summaread/posts/924142224587441

ปล. เพจผมเอง ขอแอบขายของหน่อยนะครับ รอแล้วรู้อะไรอยู่เล่า รีบเข้าไปกดไลก์ซิครับ!

เข้าสู่คำถามสำคัญคือ ใครกันคือยอดมนุษย์ขี้เกียจ และผลที่ได้ก็คือผู้หญิงครับ โดยเป็นผู้หญิง Gen Y ที่มีความขี้เกียจสูงสุด ทีมงานมอบมงให้เลยครับ

Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU

โดยความขี้เกียจอันดับหนึ่งคือ “มนุษย์อยากดูดี แต่ไม่มีแรง

Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU

เรื่องนี้ไม่ต้องมองไปไหนไกลตัว มองดูผู้หญิงใกล้ๆตัวที่เป็นนักออกกำลังกายสาย Prop ก็ได้ครับ เราจะเห็นว่าพวกเธอนั้นมักจะมีอุปกรณ์ทุกอย่างครบชุด แต่กลับใส่ไปถ่ายรูปไม่กี่ครั้ง จากนั้นก็เข้ายิมที่สมัครไว้ไม่กี่ที หรือแม้แต่เสื่อโยคะผืนโตราคาแพงก็บางคนยังไม่เคยแก้ออกจากม้วนด้วยซ้ำ

Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU
Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU

และ Insight ของมนุษย์อยากดูดีแต่ไม่มีแรงก็ฟังดูมีเหตุมีผลนะครับ เพราะเหตุผลอันดับหนึ่งบอกว่า “น่าเบื่อ” สั้นๆง่ายๆแค่นี้ไม่ต้องอธิบายอะไรต่อ จบนะ!

ส่วนอันดับที่สองและสามคือไม่มีเวลาและรู้สึกเหนื่อย จริงๆสองข้อนี้ผมว่ารวมตึงเป็นข้อเดียวเลยก็ได้ครับ

จากการสำรวจพบว่าพวกเธอมีแอพออกกำลังกายเต็มเครื่องไปหมด แต่ส่วนใหญ่โหลดทิ้งไว้แล้วแทบไม่ค่อยได้เปิดใช้ ดังนั้นถ้าดูให้ลึกจะเข้าใจว่าแท้จริงแล้วพวกเธอรู้แหละว่าการออกกำลังกายนั้นสำคัญ​ แต่จะทำอย่างไรล่ะก็ในเมื่อทำงานหมดวันก็หมดแรง อยากนอนดู Netflix หรือซีรีส์เกาหลีอยู่บนเตียงที่บ้านให้หายเครียดนิครับ

Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU

เพราะผลจากการสำรวจพบว่าแอพเพื่อสุขภาพทั้งหลายกว่า 68% ไม่มีการใช้งานใดๆเลยครับ

ความขี้เกียจอันดับสองคือ มนุษย์ชอบช้อปแต่ไม่ชอบรอ

Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU
Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU
Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU

น่าหงุดหงิดใช่มั้ยครับเวลาที่ต้องต่อแถวรอจ่ายคิวนานๆ ผมเองก็เป็นคนนึงมี่เป็นประจำ จนอยากให้มีร้าน ​Amazon Go มาเปิดในบ้านเราไวๆจัง เพราะร้าน Amazon Go นั้นเราแค่เลือกของที่อยากได้แล้วเดินตัวลอยออกไปโดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาไล่จับ เพราะร้านนี้เต็มไปด้วยกล้องและเซนเซอร์มากมายที่จะคอยดูว่าเราหยิบอะไรออกจากร้านไปบ้าง จากนั้นพอเราเดินออกจากร้านมันก็จะตัดเงินที่ผูกกับบัญชี Amazon ไว้อัตโนมัติ เป็นยังไงล่ะครับ ช่างเป็นร้านที่ถูกใจคนขี้เกียจเสียจริง!

Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU

และจากพฤติกรรมการขี้เกียจรอนี้ ส่งผลให้คนไทยเป็นชาติที่ใช้งาน Mobile Banking มีสัดส่วนสูงเป็นอันดับหนึ่งของโลก เพราะคนไทยมากถึง 74% ที่ใช้งาน Mobile Banking เป็นประจำครับ

มนุษย์ขี้เกียจอันดับที่ 3 มนุษย์บ้านรก สกปรกค่อยทำ (แต่จากภาพจะเห็นว่านี่มันไม่ใช่แค่คำว่ารก แต่มันควรใช้คำว่า “โคตรรก” แล้วครับ)

Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU
Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU
Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU

จาก Insight ที่พบของมนุษย์บ้านรก สกปรกค่อยทำ ก็ช่างน่าปวดหัวมาก เพราะเหตุผลอันดับหนึ่งคือรู้สึกเหนื่อย แต่พอลงรายละเอียดแล้วบอกว่า “ไม้กวาดไม้ถูพื้นมันสั้น ทำแล้วปวดหลัง” What!?

ถ้าบริษัทใครผลิตไม้กวาดผมว่าคุณเจอโอกาสทองแล้วล่ะ แค่ทำไม้กวาดให้สามารถปรับระดับความยาวได้ตามสัดส่วนความสูง น่าจะขายคนกลุ่มนี้ได้ไม่น้อยเลย(มั้งครับ)

Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU

และจากข้อมูล insight ที่น่าสนใจบอกว่า แม้วันนี้เราจะมีแอพให้บริการทำความสะอาดบ้านมากมาย แต่กลับมีคนที่ใช้บริการจริงๆแค่ 7% เท่านั้น โดยเหตุผลหลักคือไม่ค่อยสบายใจที่จะมีคนแปลกหน้าเข้ามายุ่มย่ามในบ้าน ดังนั้นผมเลยเห็นโอกาสว่า ถ้าแอพทำความสะอาดบ้านรายไหนสามารถสร้างความไว้วางใจให้เกิดกับผู้บริโภคที่ยังลังเลใจได้ รับรองว่าเงินจะไหลมาเทมาแน่นอนครับ

จากประสบการณ์ตรงผมข้อนี้ก็เคยเป็นเหมือนกัน แต่พอได้แม่บ้านที่มีเพื่อนบ้านในหมู่บ้านแนะนำให้ก็ไว้ใจที่จะให้เข้ามาทำความสะอาดบ้าน หลังๆผมถึงขนาดทิ้งบ้านไว้ให้เธอทำแล้วผมออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้านด้วยซ้ำครับ ลองดูการใช้ Referal ที่เป็นคนที่รู้จักของผู้ใช้แอพนะครับ หรือลองกระตุ้นให้ผู้ใช้แอพแนะนำกัน ผมว่าน่าจะช่วยปลดล็อคอันนี้ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

มนุษย์ขี้เกียจประเภทที่ 4 มนุษย์ไม่ชอบอ่าน แค่ผ่านๆก็พอ

Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU
Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU
Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU

จาก Insight จะพบว่าแท้จริงแล้วพวกเธออยากอ่านนะ เพียงแต่พวกเธอขาดแรงจูงใจ หรืออ่านไปได้ไม่กี่หน้าก็ง่วงยิ่งกว่ากินยานอนหลับชั้นดี หรือเหตุผลรองของพวกเธอก็คือเหนื่อยและไม่มีเวลา ดังนั้นเหมือนที่ผม การตลาดวันละตอนบอกว่า ลึกๆแล้วพวกเธออยากอ่าน แต่ใครล่ะที่จะสามารถทำให้ง่ายขึ้นได้

อ่านแล้วเล่า Summaread
อ่านแล้วเล่า หรือ Summaread เพจสำหรับคนรักการอ่านแต่อาจขี้เกียจอ่านเองครับ

นั่นก็คือเพจอ่านแล้วล่า https://www.facebook.com/Summaread เป็นเพจดีๆที่คอยสรุปหนังสือต่างๆไว้มากมาย จนถึงวันนี้ก็หลายร้อยเล่มแล้วครับ โดยเพจนี้จะสรุปหนังสือออกมาเป็นหนึ่งโพสที่คุณสามารถอ่านแล้วเข้าใจเนื้อหาสำคัญทั้งหมดของเล่มได้ และจากการอ่านสรุปนี้อาจทำให้คุณเกิดแรงจูงใจมากพอที่จะหยิบหนังสือในมือขึ้นมาอ่านก็ได้นะครับ

และสุดท้าย มนุษย์ขี้เกียจประเภทที่ 5 มนุษย์ชอบกิน แต่ไม่ชอบทำอาหาร

Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU
Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU

เลยเป็นที่มาของ Food Delivery ที่แข่งขันกันดุเดือดมากมายในวันนี้ เพื่อตอบสนองทุกความขี้เกียจที่เป็นอุปสรรคความหิวและของอร่อยครับ

Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU

และนี่ก็คือ 5 Lazy Consumers ที่นักการตลาดยุคใหม่ และนักธุรกิจไม่ควรมองข้ามที่จะคว้าโอกาสตอบสนองความขี้เกียจของพวกเขาเหล่านี้ครับ

และ Strategy พิชิตใจคนขี้เกียจก็คือ SLOTH ครับ

Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU

S มาจาก Speed ต้องรวดเร็ว อย่าให้พวกเขาต้องรอ
L มาจาก Lean ต้องลด ลัด ตัด ย่อ
O มาจาก enjOy ต้องสนุก เร้าใจ
T มาจาก convenienT ต้องสะดวก เพราะเป็นคนรักสบาย
H มาจาก Happy ต้องสุขกาย สบายใจครับ

หรือสรุปง่ายๆได้ว่า “เร็ว กระชับ สนุก สะดวก แฮปปี้” เพราะความสุขของลูกค้าคือความสุขของเราครับ

จากนั้นก็เป็นช่วงของ Speaker ที่ได้รับเชิญในงาน และนี่ก็เป็นข้อมูล insight ที่น่าสนใจจากปากผู้บริหารจาก 3 บริษัทดังครับ

Get บอกว่าระยะทางในการสั่งอาหารที่ใกล้ที่สุดนั้นใกล้ยิ่งกว่าเซเว่นหน้าหมู่บ้าน แต่เป็นการสั่งอาหารจากชั้นล่างให้ขึ้นมาส่งชั้นบนครับ โอ้โห ขี้เกียจขั้นเทพจริงๆ

และ Get เองก็ยังเผย Insight อีกว่า ปัญหาใหญ่ของลูกค้าที่จะสั่งอาหารคือไม่รู้ว่าจะกินอะไรดี ดังนั้นหน้าแอพของ Get ของลูกค้าแต่ละคนก็จะไม่เหมือนกัน เพราะตัวระบบจะทำการแนะนำอาหารที่แต่ละคนน่าจะชอบ เมื่อดูจากประวัติการกินที่ผ่านมา เรียกได้ว่า Get เป็นบริษัทที่ Data-Driven Delivery จริงๆครับ

และอีกข้อคิดนึงที่น่าสนใจจากผู้บริหาร Ookbee คือการบอกว่า แท้จริงแล้วผู้บริโภคเหล่านี้อาจจะไม่ได้ขี้เกียจหรือ Lazy ขนาดนั้น แต่ความจริงแล้วคนเหล่านี้อาจจะ Busy มาก มากจนไม่อยากเสียเวลาให้กับเรื่องที่พวกเขาไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรเหล่านี้ ไม่ว่าจะซื้อข้าว ต่อคิว ทำความสะอาดบ้าน พับผ้า แปรงฟัน หรืออะไรก็ตาม เพราะพวกเขาเหล่านี้เลือกที่จะเอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่สำคัญกว่า และหนึ่งในความสำคัญกว่าที่ว่าก็คือการพักผ่อนเพื่อชาร์จพลังกลับไปหาเงินอีกรอบครับ

ตรงนี้ผมเคยเขียนเคสการตลาดหนึ่งของผงซักฟอก Tide ที่เปิดร้านซักรีดแทนการขายสินค้าเดิมๆที่อเมริกา เพราะ Tide พบว่าผู้บริโภครุ่นใหม่ตั้งแต่ Gen Me ลงไปนั้นยอมจ่ายเพื่อการไม่ต้องทำงานบ้าน แล้วเอาเวลาไปหาเงินเพิ่มขึ้นครับ

และทั้งหมดนี้ก็เป็นการสรุปแบบลงลึกจากงาน Lazy Consumer ในหัวข้อ Lazy Marketing หรือ ตลาดคนขี้เกียจ ทำอย่างไรให้ขายได้ในยุคที่คนอยากซื้อ แต่ไม่อยากขยับตัว จากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ CMMU เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2562 ที่ผ่านมาครับ

ใครที่สนใจอยากได้ไฟล์งานสัมมนานี้เต็มๆเชิญดาวน์โหลดได้ที่ลิงก์นี้ครับ

อ่านสรุป Insight อื่นต่อได้ที่ https://www.everydaymarketing.co/category/trend-insight/

Lazy Consumer Lazy Marketing CMMU

การตลาดวันละตอนขอขอบคุณ CMMU และทีมงาน Lazy Consumer สำหรับงานสัมมนาดีๆแบบนี้ด้วยครับ

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *