รู้จักเทรนด์ ‘อนิเมะและมังงะ’ การ์ตูนจากญี่ปุ่นที่กำลังมาแรง

ไหนมีใครชอบดูอนิเมชั่นของญี่ปุ่นบ้าง วันนี้ปลื้มจะพามาดูว่าปัจจุบันนี้คนยังสนใจพวก อนิเมะและมังงะ กันมากแค่ไหน เพราะเมื่อก่อนภาพยนตร์ของค่าย Studio Ghibli ได้รับความนิยมค่อนข้างมากเลยค่ะ จนตอนนี้ Netflix ก็ยังสร้างซีรีส์อนิเมะของตัวเองขึ้นมา ทำให้แอนิเมชั่นและการ์ตูนของญี่ปุ่นได้กลายเป็นกระแสทั่วโลกไม่เฉพาะแค่ในเอเชียหรือญี่ปุ่นแล้วจริงหรือไม่ เดี๋ยวเรามาดูกันค่ะ 

แต่ก่อนอื่น สำหรับคนที่ยังไม่คุ้นเคยกับ อนิเมะและมังงะ ว่ามันคืออะไร งั้นปลื้มขออธิบายสักหน่อยค่ะ โดยทั่วไปคนส่วนใหญ่มักเคยได้ยินคำว่า อนิเมะ กันอยู่บ้างแล้วว่าหมายถึงภาพยนตร์การ์ตูนหรือแอนิเมชั่นของญี่ปุ่น ส่วนคำว่ามังงะ (manga) จริงๆ ตอนแรกปลื้มเองก็ไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อน แต่พอไปศึกษามาแล้วก็เลยรู้ว่ามันก็คล้ายๆ กับอนิเมะนี่แหละแต่อยู่ในรูปแบบหนังสือเป็นการ์ตูนญี่ปุ่นที่มีภาพ นั่นเองค่ะ

แน่นอนว่าอนิเมะและมังงะได้รับความนิยมจากประเทศต้นกำเนิดอยู่แล้ว นั่นก็คือ ญี่ปุ่น แต่ไม่น่าเชื่อว่าความสนใจของทั้งคู่จะเพิ่มขึ้นทั่วโลก จากข้อมูลบน Google Trend ที่ Brandwatch เขาได้รวบรวมมา จะเห็นได้ว่าความสนใจในการค้นหาอนิเมะนั้นค่อยๆ ลดลงจริงๆ จนถึงปลายปี 2019 แล้วอยู่ๆ กราฟก็พุ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าเกิดจากการระบาดของเชื้อไวรัสครั้งใหญ่นี้ ทำให้ผู้คนได้กลับมาให้ความสนใจสิ่งเหล่านี้อีกครั้ง และปีนี้การค้นหาอยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ โดยไม่มีทีท่าว่าจะลดลงอีกด้วยค่ะ

จากกราฟแรกก็ทำให้นักการตลาดสามารถใช้อนิเมะในการสร้างรายได้ได้อย่างมหาศาลเลยค่ะ เพราะกลุ่มที่ชื่นชอบอนิเมะก็เหมือนกับการชอบศิลปิน ดารา ที่เป็นคนจริงๆ นั่นแหละค่ะ ดังนั้นพวกเขาจะทุ่มเทและสนับสนุนอนิเมะเรื่องโปรดของเขา ไม่ว่าจะเป็นโปสเตอร์ ตุ๊กตา การ์ดต่างๆ รวมถึงการสะสมหนังสือ บางเรื่องมีเป็นร้อยๆ ตอน พวกเขาก็ยอมจ่ายเงินเพื่อแลกกับการได้มีหนังสือครบทุกเล่มในเรื่องนั้นๆ เชื่อว่าเป็นความสุขทางใจค่ะ และบางคนชอบถึงขนาดแต่งคอสเพลย์เหมือนตัวการ์ตูนเป็นงานอดิเรกเลยด้วย 

นอกจากความสนใจในการค้นหาอนิเมะและมังงะจะเพิ่มขึ้นแล้ว Brandwatch ก็ได้รวบรวมข้อมูลที่คล้ายกันเกี่ยวกับอนิเมะและมังงะที่ถูกพูดถึงทางออนไลน์มาด้วย โดยใช้เครื่องมือของเขาในการสำรวจ มาดูกันซิว่าจะมีแนวโน้มที่ไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่

บนโซเชียลพูดถึง อนิเมะและมังงะ เพิ่มขึ้นมากแค่ไหน?

โดยกราฟนี้เป็นผลสำรวจจากแพลตฟอร์ม Twitter / Reddit / Tumbir และ Forums จะเห็นว่าในปีนี้ตัวเลขดูเหมือนจะลดลงในบางช่วงของปี แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าที่เคยเมื่อเทียบกับ 2 – 3  ปีก่อนค่ะ

และเมื่อเขาได้ดูปฏิกิริยาจากการแสดงความรู้สึกต่อเนื้อหาที่เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้บนออนไลน์แล้ว พบว่าคนแสดงความรู้สึกในเชิงบวกมากกว่าเชิงลบ ซึ่งการแสดงความรู้สึกในเชิงลบนั้น ไม่ใช่การต่อต้านอนิเมะหรือมังงะทั้งหมดหรอกนะคะ แต่สิ่งที่คนไม่พอใจก็คือการพัฒนาโครงเรื่อง หรือเกี่ยวกับการที่ผู้แต่งหยุดเขียนต่อและให้สิ้นสุดเรื่องเพียงเท่านี้ก็เลยทำให้แฟนๆ ออกมาเรียกร้องนั่นเองค่ะ

ประเทศต้นกำเนิดอย่างญี่ปุ่นมีแนวโน้มเกี่ยวกับอนิเมะและมังงะอย่างไร?

สำหรับที่ญี่ปุ่น มีความสนใจในการค้นหามังงะมากกว่าอนิเมะอยู่ไม่น้อยเลย และช่องว่างก็ดูเหมือนจะกว้างขึ้น ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เราเห็นในข้อมูลทั่วโลก และช่วงที่มังงะมีการค้นหาพุ่งสูงขึ้นในปี 2018 นั้น เกิดขึ้นจากข่าวการละเมิดสิทธิสำเนาของมังงะ ทำให้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในขณะนั้น 

และดูเหมือนว่าจะมีแนวโน้มของผู้ชื่นชอบอนิเมะ จะกระโดดจากหน้าจอสู่หน้ากระดาษมากขึ้นเมื่อพิจารณาจากยอดขายนิยายภาพที่เพิ่มขึ้นในปี 2021 แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ปลื้มมองว่าทั้ง อนิเมะและมังงะ ก็เป็นศิลปะและวัฒนธรรมอย่างหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น ที่ประสบความสำเร็จสามารถครอบคลุมทั่วโลกได้ 

สำหรับนักการตลาดที่มองกลุ่มเป้าหมายเป็นคนที่สนใจเกี่ยวกับอนิเมะหรือมังงะ เราสามารถเข้าถึงคนกลุ่มนี้ได้โดยการทำคอนเทนต์ หรืออาจจะลองเอาแบรนด์ของเราเข้าไปอยู่ในบทของมังงะหรืออนิเมะสักเรื่อง ก็เหมือนกับการ Tie-in ในภาพยนต์นั่นแหละค่ะ นอกจากนี้ก็สามารถคอลแลปส์และซื้อลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูนในอนิเมะเข้ามาเป็นการส่งเสริมการตลาดก็ได้นะ เพราะตอนนี้อนิเมะและมังงะกำลังมาแรงและเป็นเทรนด์โลกอีกด้วย ถ้าแบรนด์ไหนทำต้องปังแน่ๆ เลยค่ะ

หากนักการตลาดหรือเจ้าของธุรกิจสนใจอยากได้ Data Research แบบนี้บ้าง ทีมการตลาดวันละตอน รับให้คำปรึกษาค่ะ สามารถติดต่อได้ที่อีเมล [email protected] ได้เลยค่ะ

สำหรับใครที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนด้วยนะคะ

Source : www.brandwatch.com