92% ของ Visitor ไม่กลายเป็น Customer เพราะเนื้อหาในเว็บไม่พร้อมให้ช้อป
จากการศึกษาพบว่า 92% ของลูกค้าที่เข้ามาที่เว็บของร้านค้าครั้งแรกกลับออกไปมือเปล่า คนส่วนใหญ่ไม่ช้อปเพราอะไร นักการตลาด New Gen ควรเข้ามาหาคำตอบกัน
จากรายงานเรื่อง “Reimagining Commerce” หรือ “ขายของยุคนี้ต้องคิดใหม่ทำใหม่” ของ Episerver ที่เปิดเผยความลับของพฤติกรรมการช้อปของลูกค้า เกี่ยวกับความคาดหวังต่อแบรนด์ในวันนี้
92% ของคนที่เข้ามาเว็บของแบรนด์ครั้งแรกด้วยเหตุผลอื่นที่ไม่ได้มาเพื่อช้อป แต่กลับต้องออกไปมือเปล่าทั้งที่แบรนด์มีโอกาสจะขายของได้อยู่แล้วแท้ๆ เหมือนมีลูกค้าเดินเข้าร้านมาเพื่อมาดู แต่กลับไม่มีพนักงานเข้ามากระตุ้นให้เกิดความอยากซื้อ พอเทียบให้เห็นภาพแบบนี้รู้สึกน่าเสียดายขึ้นมาทันทีเลยใช่มั้ยครับ
และคุณจะยิ่งเสียดายมากขึ้นถ้ารู้ว่ากว่า 32% ของคนที่เข้ามาที่เว็บไซต์ร้านค้าหรือแบรนด์เพื่อจะซื้อของก็ยังเปลี่ยนใจไม่ซื้อในท้ายที่สุด!
จากการสำรวจบอกให้รู้ว่านักช้อปที่เข้ามาที่เว็บครั้งแรกนั้นทำอะไรกันบ้าง
45% เข้ามาค้นหาสินค้าหรือบริการที่สนใจ
25% เข้ามาเพื่อเปรียบเทียบราคาหรือคุณสมบัติต่างๆ
10% เข้ามาดูรายละเอียดของร้านค้าว่าอยู่ที่ไหน เปิดเมื่อไหร่
จากการสำรวจจากผู้บริโภคกว่า 1,100 คนพบว่าแม้จะเข้ามาที่เว็บไซต์ของแบรนด์ที่พร้อมให้ช้อป แต่คนก็ยังไม่ช้อปในตอนนั้น เพราะในความเป็นจริงแล้ว กว่า 1 ใน 3 ของผู้บริโภคที่เข้ามาที่เว็บไซต์ของแบรนด์หรือผ่านแอพ ไม่ได้ตั้งใจเข้ามาซื้อสินค้าในทันที อย่างดีก็แค่หาอะไรที่สนใจหรือคิดว่าน่าสนใจดูไปเรื่อยๆ
นอกจากนี้ 98% ของนักช้อปที่เข้ามาที่เว็บไซต์ของแบรนด์พบว่าเนื้อหาของสินค้าหรือบริการที่แสดงนั้นไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรืออาจจะเคยเห็นคุณสมบัติบางอย่างของสินค้าจากที่อื่นมา แต่พอเข้ามาดูที่เว็บไซต์ของแบรนด์ตรงแล้วไม่มี ทำให้คนส่วนใหญ่เลือกที่จะยังไม่ช้อปผ่านเว็บไซต์หรือแอพของแบรนด์ในทันทีทั้งที่ทำได้ เรื่องนี้บอกให้รู้ว่าเนื้อหาที่ถูกต้องและครบถ้วนสมบูรณ์ในความคิดของผู้บริโภคนั้น ต้องมีความสอดคล้องหรือเหมือนกันกับทุกๆช่องทางที่เคยเห็นมา ไม่ว่าจะ influencer รีวิว หรือจากพนักงานหน้าร้านบอกมา หรือแม้แต่ไปเห็นผ่านเว็บข่าวเฉพาะทางต่างๆที่ตัวเองติดตาม
แม้ไม่ใช่ทุกคนที่เข้ามาที่เว็บไซต์ของร้านค้าหรือแบรนด์เพราะอยากจะซื้อสินค้าในทันที แต่ร้านค้าหรือแบรนด์ที่ดีก็ควรหาทางทำให้คนที่กำลังอยู่ในเว็บไซต์กลายเป็นลูกค้าให้ได้มากที่สุด ก็อย่างที่บอกครับว่าลูกค้าเดินเข้าร้านแล้วจะปล่อยให้เดินออกไปมือเปล่ามันน่าเสียดายมาก
จากรายงานพบว่าเมื่อผู้บริโภคเข้ามาที่เว็บไซต์หรือแอพโดยมีความตั้งใจที่จะซื้อสินค้าหรือบริการ พวกเขามีพฤติกรรมดังนี้
60% ตรงไปยังหน้าของสินค้าหรือบริการที่ตัวเองกำลังอยากได้อยู่ทันที
18% มองหาของที่กำลัง sale หรือลดราคาอยู่
7% อ่านมองหาความเห็นของลูกค้าคนก่อนหน้าเพื่ออ่านก่อนทำสิ่งอื่นเลย
จะเห็นว่าการช้อปปิ้งออนไลน์หรือ online commerce ในวันนี้นั้นสำคัญมากขนาดไหน กว่า 2 ใน 3 ของนักช้อปปิ้งบอกว่าพวกเขาก็อยากจะช้อปปิ้งผ่านทางออนไลน์ให้มากขึ้นกว่าปีก่อน และพวกสายช้อปปิ้งถี่ๆกว่า 91% ก็บอกอย่างเน้นย้ำว่าพวกเค้าจะช้อปปิ้งผ่านทางออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ เห็นมั้ยครับว่าการสร้างประสบการณ์ หรือ experience ที่สมูทไร้รอยต่อ ให้เนื้อหาที่ไม่สะดุดนั้นส่งผลต่อการช้อปปิ้งออนไลน์มากแค่ไหน
สิ่งที่ผู้บริโภคเห็นบนหน้าจอ และวิธีการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือ สามารถชี้เป็นชี้ตายได้เลยว่าลูกค้าจะซื้อหรือไม่ซื้อ จาก visitor หรือคนที่แวะเข้ามาอ่านจะกลายเป็น customer หรือลูกค้าของร้านเราได้หรือไม่
ผู้บริโภคในวันนี้คาดหวังว่าเนื้อหาทุกอย่างที่เห็นมาจากทุกช่องทางไม่ว่าจะหน้าจอ หน้าร้าน จากปากเพื่อน หรือจากเว็บข่าวๆอื่นๆนั้นจะให้ข้อมูลที่ตรงกันหมด และหวังว่าถ้าเข้ามาที่เว็บไซต์ของร้านค้าแล้วจะมีข้อมูลที่ไม่น้อยกว่าที่เห็นหรือรับรู้จากที่แหล่งอื่นมา
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่ชี้เป็นชี้ตายต่อยอดขายได้เลยนะครับ ลองคิดดูซิครับว่าตั้ง 92% ที่เข้ามาที่เว็บไซต์ร้านเราแต่กลับไม่ได้ซื้ออะไรกลับไป มันน่าเสียดายขนาดไหนจริงมั้ยครับ ทำเนื้อหาในเว็บไซต์ของเราให้ดี ดีในที่นี้คือความถูกต้องและครบถ้วนสมบูรณ์ และเอาปุ่มซื้อไว้ให้ใกล้มือที่สุด เพราะบางทีกว่าลูกค้าจะเดินไปซื้อที่หน้าร้าน ก็อาจเผลอเอาเงินที่ตั้งใจจะช้อปเราไว้ไปซื้อของคู่แข่งระหว่างทางเดินมาร้านเราแล้วก็ได้ครับ
อ่านบทความที่เกี่ยวกับ commerce ต่อ https://www.everydaymarketing.co/?s=commerce