Hogwarts Legacy การตลาดเกมที่ยกจักรวาลให้กลับมาอีกครั้ง
วันนี้เราจะมาเจาะการตลาดจักรวาลโลกพ่อมดกันต่อ ในคิวของเกม Hogwarts Legacy ที่กำลังเป็นกระแสมาแรงไปทั่วโลก แถมอัพเดทข่าวล่าสุด 24/2/2023 เจ้าตัวเกมนี้ก็ขายไปแล้วถึง 12 ล้านยูนิต คิดเป็นขึ้นสูงถึง 850 ล้านเหรียญ หรือ 3หมื่นล้านบาท! ในระยะเวลาเพียง 2 อาทิตย์ หลังจัดจำหน่าย
เพื่อตรวจสอบความน่าจะเป็นว่ามันมีกระแสแรงแค่ไหนเท่าที่ลองสมมุติฐานด้วยเครื่องมือที่มีแบบง่าย ๆ
เบสเลยลองดู Traffic เข้า Website : Hogwartslegacy ของตัวเกม เปิดให้ทุกคนได้เข้ามาอ่านข้อมูลและเล่น Interactive Game ในการคัดเลือกบ้าน ผู้พิทักษ์ประจำตัว และไม้กายสิต จาก SimilarWeb ดู ก็เจอว่ามีการเข้ามาสูงขึ้นถึง 153% จาก Visit per month ราว 1.7 ล้านพุ่งขึ้นสูงเป็น 4.3 ล้าน ภายในช่วงเวลา 1 เดือนเลยทีเดียวครับ
แถม Traffic ที่เข้ามาใน Website ก็เป็น Organic Search ที่ End User ค้นหาด้วยตัวเองกว่า 70% เลยล่ะครับ
เรียกได้ว่า ด้วย Stats ที่โตขึ้นแบบเว่อร์วัง สำหรับคอนเทนต์ในกลุ่มคนที่ค่อนข้าง Niche ในภาพด้านบน เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เบสคันไม้คันมือ อยากจะเขียนบทความถึงการมาของ Hogwarts Legacy เลยล่ะครับ
เจ้าตัวเกมนี้มีดียังไงถึงทำให้ยอดขายออกมาถล่มทลายในระยะเวลาสั้น ๆ แถมการมาของตัวเกมก็ยังเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิด Impact ที่ทำให้ชื่อแฮร์รี่ พอตเตอร์ โรงเรียนฮอตวอตส์ และจักรวาลของพ่อมด กลับมาอยู่ในการถูกพูดในวงกว้างอีกครั้งด้วย
เรามาหาคำตอบไปด้วยกันเลยครับ
Hogwarts Legacy ดึงดูดแฟนคลับเก่า สร้างฐานแฟนคลับใหม่
จากบทความรอบที่แล้ว (Harry Potter Marketing เจาะจักรวาลพ่อมดในมุมของนักการตลาด) ที่เราจะเห็นได้ว่า การมาแต่ละครั้งของกิจกรรมทางการตลาดของจักรวาลพ่อมดนี้ ล้วนแต่ถูกคิดมาแล้ว และมีเหตุมีผลในการมาของมันอยู่เสมอ
และกว่าจะถึงคิวของ Hogwarts Legacy ก็มี กิจกรรมทางการตลาด หรือ Event มากมายเพื่อหล่อเลี้ยงกระแส ตั้งแต่ปี 2019 ที่ได้มีการประกาศสร้างเกม จนถึงปี 2023 ที่เกมจัดจำหน่ายด้วยเช่นกัน แต่เท่าที่เบสรวบรวมข้อมูลมาได้ สิ่งนี้ก็ยังไม่ใช่ปัจจัยทั้งหมดที่ทำให้ตัวเกมประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้
เบสคิดว่าสิ่งที่น่าสนใจและเป็นปัจจัยสำคัญจริง ๆ นอกจากเรื่องของการเลี้ยงกระแสนั้น เป็นเรื่องของ Product Design ที่ว่าด้วยเรื่อง การเลือกใช้เครื่องมืออย่างเกม และ Product Value / Core Benefit ของตัวเกม ครับ
ด้วยความที่เดิมทีจักรวาลของแฮร์รี่ พอตเตอร์จะมีโอกาสได้ชักชวนให้ทุกคนหันมาเสพคอนเทนต์แล้วผันมาเป็นแฟนคลับ จะมีเพียงหนังสือ และโลกภาพยนตร์เป็นหลักเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปความนิยมหรือพื้นที่ในการทำให้คนรู้จัก (Media Placement) ก็น้อยลงไปเรื่อย ๆ
แถมด้วยโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ก็มี Entertainment อีกหลายรูปแบบมากให้ทุกคนได้เสพ ทำให้การเข้าถึงคอนเทนต์ของแฮรี่ พอตเตอร์ยากขึ้นกว่าแต่ก่อน
มันเลยกลายเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบากพอสมควร หากพวกเขายังมุ่งหวังการใช้วิธีแบบเดิมผ่านหนัง หนังสือ หรือกิจกรรมต่าง ๆ ก่อนหน้านี้ เพื่อพาตัวเองให้กลับมาเป็นที่รู้จักในวงกว้างที่กว้างมากขึ้นจริง ๆ ซึ่งถือเป็นโจทย์ที่ท้าทายสำหรับทีม Wizarding World ที่พวกเขาจะต้องหาคำตอบให้ได้
นำไปสู่การสำรวจ Entertainment ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันที่สามารถถ่ายทอดจักรวาลพ่อมดและสามารถทำหน้าที่ในการเชิญชวนให้ทุกคนหันมาสนใจและเข้าร่วมได้ง่ายมากขึ้น จนสุดท้ายผลก็ตกมาที่ อุตสหากรรมเกม
ซึ่งจริง ๆ แล้วนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขานำเกมมาเป็นเครื่องมือในการดึงดูดแฟนคลับใหม่ ๆ เข้ามานะครับ เพียงแต่ว่าในช่วงเวลานั้น ตัวเกมไม่ได้กระแสตอบรับที่ดีเท่าไรนัก หากดูจากคำวิจารณ์ก็เป็นเพราะจากวิธีการเล่นของตัวเกมด้วยส่วนหนึ่ง ผนวกกับเรื่องของ เกมในยุคนั้นยังไม่สามารถเข้าถึงคนในวงกว้างได้เพราะยังต้องพึ่งพาอุปกรณ์การเล่นที่เฉพาะเจาะจงที่หากได้ยาก ไปจนถึงเรื่องราคาของอุปกรณ์และเกมด้วย
แต่สำหรับช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว
ในยุคที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายอย่างมีตัวเลือกที่หลากหลาย มีราคาที่เข้าถึงง่าย และอินเทอร์เน็ตที่ทุกคนสามารถใช้ได้อย่างเท่าเที่ยมกัน ทำให้ยุคนี้อุตสาหกรรมเกม วงการ E-Sports เติบโตขึ้นมาก ไม่เว้นแม้กระทั่ง Influencer สายเกม
จากข้อมูลที่เบสลองหามาพบว่าตั้งแต่ช่วงปี 2013 วงการเกมมีการเติบโตเร็วมากอย่างเห็นได้ชัดโดยมีรายได้เฉลี่ยโตขึ้นปีละ 10% ซึ่งในช่วงปี 2021 ที่ผ่านมามีธุรกิจที่ได้รายได้จากอุตสาหกรรมเกมไปราว 180 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 6 พันล้านบาท
แถมหลายภาคส่วนในอุตสาหกรรมนี้ ปัจจุบันยังมีบทบาทในเรื่องของการตลาดและการโฆษณาอย่างมากเลย หากเราลองนับดูดี ๆ แคมเปญการตลาดที่เกี่ยวข้องกับวงการเกมผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด และยังคงมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างในประเทศไทยเราก็มีการใช้ Youtuber สายเกมชื่อดังอย่าง พี่เอก Heartrocker กับแก๊งใส่นัว กับ แบรนด์ขนม Doritos ที่รับกระแสตอบรับที่ดีมากทีเดียวจนต้องมีต่อ Season 2
สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า เกม เองก็เป็น New Media อีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจไม่น้อยของยุคนี้เลยล่ะครับ
ส่วน Product Value ของตัวเกม คนที่ติดตามซีรีส์นี้อย่างเหล่า Potterhead คงเข้าใจกันอย่างดีเลย
จักรวารของ Harry Potter มีความหัศจรรย์หลายอย่างที่พยายามเชื่อมโยงให้คู่ขนานกับความเป็นจริง แต่กลับเต็มไปด้วยเวทมนตร์ สิ่งลี้ลับ ปริศนา ของวิเศษต่าง ๆ ที่ซ่อนอยู่ คอยกระตุ้นให้เราอยากค้นหา และอยากมาผจญภัยในโลกพ่อมดแห่งนี้ดูสักครั้ง
การันตีความแข็งแรงของเรื่องราวในจักรวาลนี้ด้วย ยอดขายของหนังสือ การตีพิมพ์ใหม่หลายครั้ง การจัดทำเป็นภาพยนตร์ภาคต่อจนโด่งดัง จนมีการขยายจักรวาลเพิ่มแล้วก็ยังมีเสียงตอบรับที่ดีพอสมควร ไปจนถึงกิจกรรม ๆ อื่น ๆ อีกมายมายที่เบสได้เขียนไปในบทความแรก
จากเดิมในเรื่องข้อจำกัดของการสร้างเกม ที่ไม่สามารถให้สร้างเกมที่ตอบจินตนาการและความอิสระได้อย่างเต็มที่ หรือการเข้าถึงการเล่นเกมในสมัยก่อนที่ทำให้ใครหลายคนพลาดไป ทีมผู้สร้างเกมจึงจัดแจงออกแบบการสร้างประสบการณ์ คอนเทนต์ ได้ตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาเดิม ๆ ได้อย่างสบายด้วยพลังของเทคโนโลยีในยุคสมัยนี้ ทั้งเรื่องภาพ, เสียง, Game Design และคอนเทนต์ ตามมาตรฐานของเกมสมัยใหม่ ทำให้การทำเกมในครั้งนี้ออกมาได้ดีที่สุดกว่าที่เคยเป็นมา
Hogwarts Legacy เลยออกมาในรูปแบบของเกม Openworld ที่ให้อิสระแก่ผู้เล่นได้เดินเล่นไปไหนมาไหนก็ได้ทั่วทั้งโรงเรียนฮอกวอตส์ ไปจนถึงเมืองบริเวณโดยรอบ ที่ทำคนสามารถสำรวจ แก้ปริศนาและต่อสู้ด้วยการขยับไม้คทาวิเศษประจำด้วยเพื่อใช้เวทมนตร์บทต่าง ๆ ที่กราฟฟิคถูกออกแบบมาได้สวยมาก ๆ
ซึ่งตัวละครของเราในเกมจะเป็นนักเรียนในโรงเรียนที่อยู่ในเรื่องราวยุคก่อนจะเกิดเหตุการณ์ Fantastic Beast Saga และ Harry Potter Saga ที่อ้างอิงจากในหนังสือที่ J.K. Rowling เขียน โดย Setting เป็นโรงเรียนเวทมนตร์ และอัดแน่นไปด้วย Easter Egg มากมายที่รอให้ทุกคนมารับประสบการณ์จากตัวเกม
นี่ถือเป็นแก่นที่ทำให้ตัวเกมนี้มีคุณค่ามาก แล้วก็น่าเล่นมาก ๆ ในเวลาเดียวกัน เลยดึงดูดให้คนที่ชื่นชอบการเล่นเกมเป็นทุนเดิมที่มีอยู่จำนวนมากในยุคนี้ และแฟนคลับที่ติดตามจักรวาลพ่อมดในยุคก่อน ได้มามีประสบการณ์ร่วมกันเกม ๆ นี้ เป็นจำนวนมากเลยครับ
เมื่อสินค้าที่ดี มาประกอบกับการตลาดที่ดี ผลลัพธ์ที่ออกมาทำให้ตัวเกมสามารถทำหน้าที่ของมันได้อย่างประสบความสำเร็จมากอย่างที่ทุกคนได้เห็นกันเลยครับ ไม่ว่าจะทั้งจากยอดขาย แล้วเบสจะขอเสริมอ้างอิงจากการ Tracking ของ SimilarWeb สำหรับ Hogwartslegacy.com
จากภาพด้านบนแสดงให้เราเห็นถึงช่วงอายุของคนที่เข้ามาในหน้า Website ไว้ด้วยครับ จะเห็นว่า ช่วงอายุที่เข้ามาในหน้า Website มากที่สุดเป็นของคนอายุ 25-34 ปี ที่น่าจะเป็นฐานแฟนคลับดั้งเดิมของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่เติบโตมากับตัวนิยายอยู่แล้ว ซึ่งมีสัดส่วนที่ 33.54%
ส่วนที่น่าสนใจคือกลุ่มที่มีสัดส่วนรองลงมาคือ น้อง ๆ Generation ใหม่ ช่วงอายุ 18-24 ที่สูงถึง 31.22% เลยทีเดียวครับจาก Traffic ที่เข้ามากว่าเฉลี่ย 4 ล้านคน แต่ที่น่าตกใจอยู่เหมือนกันก็คือเมื่อมองในสัดส่วนเรื่องของเพศที่เข้ามา เป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิงถึง 49% เลยทีเดียวครับ
เพราะส่วนตัวเท่าที่เห็นคอนเทนต์เกี่ยวกับจักรวาลพ่อมดแฮร์รี่ พอตเตอร์ คนที่ออกมาพูดถึงส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงทั้งนั้นเลย
ไม่เพียงเท่านั้นนะครับ การมาของเกมที่ได้รับความสนใจและเป็นเกมที่ประสบความสำเร็จเกมหนึ่ง กระแสที่เกิดขึ้นยังช่วยยกให้จักรวาลพ่อหมดกลับเข้ามาสู่กระแสหลักที่ถูกพูดถึงในวงกว้างอีกครั้งด้วย
แถมยังไม่ได้ส่งผลแค่กับ Brand Ecosystem ที่เป็นOfficial Communication ของ Wizzarding World เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับจักรวาลแม่มดจากบรรดา Content Creator และอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วยครับ
การยกจักรวาลให้กลับมาอีกครั้ง
ในช่วงเวลาเดียวกันที่เกมใกล้จัดจำหน่าย เท่าที่ดูจาก Google Trend เราจะเห็นได้ว่ามีการค้นหาคำว่า Hogwarts Legacy พุ่งสูงขึ้นมาก ซึ่งในเวลาเดียวกันนั้นเองคำว่า Harry Potter ก็มีการค้นหาที่สูงขึ้นมากกว่าปกติด้วยเช่นกัน จากการค้นหาของคนทั่วโลก โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักร อย่างอังกฤษที่เป็นจุดกำเนิดหลักของเรื่องก็จะมีการค้นหาที่สูงมากเป็นพิเศษ
ประเทศไทยเราเอง ก็มีเหล่า Potterhead เยอะไม่แพ้ชาติใดในโลกเหมือนกันนะครับ การค้นหาพุ่งสูงขึ้นมาเยอะมากทีเดียว
เบสสมมุติฐานว่า พฤติกรรมการค้นหาเหล่านี้ เกิดขึ้นหลังจากที่กระแสของเกมเกิดขึ้นนั่นแหละครับ
มันเลยทำให้ผู้คนอยากจะรู้กันว่า เจ้าตัวเกมนี้มันเป็นยังไง ส่วนสำหรับใครที่ไม่รู้จัก Harry Potter เลย หรือ อาจจะอยากทบทวนตัวเอง พวกเขาก็กลับมาทบทวนเนื้อหา และข้อมูลให้กับตัวเองอีกครั้ง
และนอกจากหนังสือ หรือ Website ที่จะให้ข้อมูลเหล่าได้ อีกสิ่งหนึ่งที่ให้ข้อมูลและสร้างความบันเทิงให้กับเราไปด้วยได้อย่างดีที่สุด ก็หนีไม่พ้นช่องทาง Social Media ที่ถ่ายทอดวิดีโอแบบยาวได้ดีที่สุด อย่าง YouTube ซึ่งสัมพันธ์กันพอดีกับ Social Traffic ที่เข้ามาใน Website ของตัวเกมจากภาพด้านล่างเลยครับ โดยจะเห็นว่า Traffic ที่เข้ามานั้นจะมาจาก YouTube มากที่สุดและสูงถึง 45.15% เลยทีเดียว
สิ่งนี้ทำให้เบสคิดว่า มันเป็นเวลาที่มาถึงสำหรับการฝ่าฟันของคนที่รักในซีรีส์พ่อมด แล้วสร้างคอนเทนต์เอาไว้เพื่อให้คนที่รักในสิ่งเดียวกันได้มาดูอย่างมากเลยครับ เพราะเมื่อเกมดัง แล้วพวกเขาต้องการรู้ข้อมูลเพิ่ม คอนเทนต์ของพวกเขาก็จะเป็นคำตอบนั่นเอง แล้วเมื่อไปดูการค้นหาบน YouTube ก็จะเห็นว่าคนหาคอนเทนต์ของ Harry Potter และตัวเกมสูงมากขึ้นจริงๆ แบบเห็นได้ชัด
ซึ่งสำหรับ Youtuber ช่องไหนที่ทำคอนเทนต์ไว้ดี และได้ทำอะไรที่ตรงหลักการของ Youtube SEO ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวเหล่านี้ ก็ได้กำไรจากสิ่งที่ตัวเองลงทุนไปในเชิง Evergreen Content ไปอย่างสบาย ๆ เลยล่ะครับ เบสค่อนข้างมั่นใจว่าช่องเหล่านั้นน่าจะได้รับยอดวิวเพิ่มขึ้นในช่วงนี้อย่างแน่นอน
ส่วนใครที่สนใจอยากทำ Youtube SEO เพื่อรองรับและหวังผลได้จะได้จากการทำการตลาดในเชิงที่บ้าง การตลาดวันละตอนก็มีเขียนบทความในเชิงนี้เอาไว้ด้วยนะครับ รับรองว่าเข้าใจง่ายแล้วก็ทำง่ายมาก ๆ เลย และมันจะมีผลดีย้อนหลังกลับมาให้กับคุณแน่นอนครับ
ไม่เพียงในฝั่งของคอนเทนต์เท่านั้นนะครับ ทั้งหนังสือ ของขายที่ระลึก ของเล่นของ Harry Potter ในช่วงนี้ก็ขายดีขึ้นมาก ในฐานะที่เบสเป็นนักสะสม Art Toy หรือ Designer Toy ช่วงนี้ก็สังเกตเห็นว่าหลายร้านเอา Box ที่เกี่ยวกับจักรวาล Harry Potter มาขายกันเยอะมากขึ้นด้วย
ส่วนฝั่งของธุรกิจเองก็มีแบรนด์ที่ได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้ไปด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นแบรนด์ Aurora’s Potion ของคุณอูน Diamond Grain หรือที่ใครรู้จักจากการเป็นเจ้าของเพลง เฮอร์ไมโอน้อง ที่ฮิตติดชาร์จมากในปลายปี 2022 ที่ผ่านมา
ด้วยตัวแบรนด์ที่ค่อนข้างโดดเด่นในเรื่อง Storytelling มากเพราะการใส่ใจในรายละเอียดของคุณอูน มาผสมกันกับการออกสินค้าลิขสิทธิ์ Harry Potter ก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก โดยเฉพาะกับตัวสินค้าตัวล่าสุดที่เปิด Pre-Order สินค้าได้ไม่นานก็ Sold out ทันทีในวันถัดไป อาจจะมีปัญหาทางเทคนิคบางอย่างอยู่บ้างแต่ก็ตอกย้ำให้เห็นเลยว่า มีแฟนคลับของจักรวาลพ่อมดนี้กำเงินรอซื้อสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวของ Harry Potter มากแค่ไหน
บทสรุป Hogwarts Legacy การตลาดเกมที่ยกเครื่องจักรวาลให้กลับมาอีกครั้ง
หลัก ๆ ที่เบสพยายามจะบอกให้ทุกคนได้เห็นความสำคัญมาก ๆ คือ เรื่องของ Product Design ครับ สำหรับการตลาดในสมัยนี้ ในมุมมองของเบสสินค้าที่ไม่ค่อยมีคุณภาพ แม้ว่าคุณจะทำการตลาดเก่งแค่ไหนสุดท้ายมันจะตายลงไปอยู่ดีครับ
แม้ว่าคุณจะมีเงินทุนสูง โหมกระหน่ำทำการตลาดจนคนจำได้ สุดท้ายมันจะไม่คุ้ม ROAS หรือ ROI แน่นอน เพราะคุณจะต้องทำแบบนั้นอยู่เรื่อย ๆ เพื่อลบเสียงครหา หรือ Negative Feedback ที่เกิดขึ้นตามมา
ดังนั้นการปรับปรุงพัฒนาสินค้า หรือ การออกแบบให้ดีมาตั้งแต่ต้น นอกจากสินค้าของเราจะขายได้ด้วยตัวเองแล้ว การลงทุนในการทำตลาดของเราจะไม่สูงมากเกินจำเป็น แล้วยังสร้างประสิทธิภาพให้กับเราได้อย่างดีด้วยครับ เว้นก็แต่คุณจะเป็นแบรนด์ที่ผูกขาดอะไรบางอย่างในตลาด
นอกจากนี้ก็เป็นเรื่องของการสร้างความผูกพันกับฐานลูกค้าของเรา ด้วยอะไรบางอย่าง อย่างในกรณีของ Hogwarts Legacy คือเรื่องราวของโลกเวทมนตร์ที่ J.K. Rowling สร้างเอาไว้ สิ่งเหล่านี้ยึดโยงลูกค้ากับแบรนด์ให้พวกเขายังคงมีความสนใจ มีการติดตาม และให้การสนับสนุนในสิ่งต่าง ๆ ที่ Wizarding World จะทำออกมาอยู่เสมอ
ถ้าจะให้ยกตัวอย่างก็เปรียบได้กับ สมัยนี้ที่เริ่มมีเจ้าของธุรกิจหลายคนเริ่มมาอยู่ข้างหน้ากล้อง ทำคอนเทนต์ แชร์ความรู้ แชร์ประสบการณ์ หรือ พูดคุยแลกเปลี่ยนกับผู้บริโภคเยอะมากขึ้น หรือบรรยายความเป็นมาเกี่ยวกับสินค้า รายละเอียดต่าง ๆ อย่างคุณอูนก็ได้ครับ นั่นก็เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์ และความรู้สึกเชื่อมโยงกันบางอย่างขึ้นนั่นแหละครับ ที่เราเรียกกันว่า Personal Branding / Product Storytelling นั่นเอง
Case Study นี้เป็นอะไรที่ทำ Research เยอะมากแล้วใช้เวลานานที่สุดเท่าที่เบสเคยเขียนให้การตลาดวันละตอนมาเลยครับ หวังว่าทุกคนจะชอบกันแล้วได้ไอเดียอะไรกลับไปสำหรับการทำการตลาดของตัวเองนะครับ
หากมีเนื้อหาที่ผิดพลาดไป เบสขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ แล้วเจอกันบทความหน้า ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ : )
สามารถอ่านบทความอื่น ๆ ของการตลาดวันละตอนได้ที่ คลิก
Ref.
Google Trends
Mandala Analytics
SimilarWeb
thestandard.co
warnerbros.com
the-leaky-cauldron.org
workpointtoday.com
