วิเคราะห์ Digital Thailand 2020 We Are Social เป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับ 2019

วิเคราะห์ Digital Thailand 2020  We Are Social เป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับ 2019

จากรายงาน Digital Thailand 2020 ของ We Are Social ที่เรียกได้ว่าเป็นข้อมูลหลักของนักการตลาดไทยรวมถึงนักการตลาดทั่วโลกแล้วในวันนี้ ดังนั้นผมขอไม่พูดเกริ่นเยอะเหมือนคอนเทนท์อื่น ขออาสาทำหน้าที่ที่ปรึกษาของนักการตลาดและนักธุรกิจที่จะมาวิเคราะห์และสรุปประเด็นสำคัญในทุกแง่มุม ที่ผมต้องเอาไปอัพเดทลูกค้าประจำปีหลังจากนี้ครับ

Digital Thailand 2020 ต่างจาก Digital Thailand 2019 อย่างไร

ถ้าให้สรุปเร็วๆ ก่อนเริ่มรายงานผมบอกได้เลยว่าในแง่ของจำนวนผู้ใช้ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างน่าสนใจแต่อย่างไร แต่ในแง่ “ความลึก” ในการใช้งานดิจิทัลบอกได้เลยว่าคนไทยในวันนี้ Fully Digitalization มาก มากตรงที่บอกได้เลยว่า “ไม่มีใครไม่ออนไลน์อีกต่อไป” และคนไทยส่วนใหญ่ก็เริ่มเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์รอบตัวมากขึ้น โดยเฉพาะ IoT ที่เริ่มเข้ามาอยู่ในบ้านคนไทยมากถึง 400,000 หลังคาเรือนแล้ว บ้านผมก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ เพราะมีตั้งแต่ Smart TV เอาไว้ดู Netflix แลัก็ยังมี Smart Bulbs หลอดไฟอัจฉริยะของ Lampton ที่แค่เดินผ่านก็สว่างเองได้ เชื่อมั้ยว่าผมชอบเจ้าหลอดไฟนี้มากเลย

เอาล่ะ ที่เล่ามานี่แค่น้ำจิ้ม ถ้าพร้อมจะ Consume Data กันแบบหนักๆ แล้วก็เชิญอ่านสรุป Digital Thailand 2020 แบบหน้าต่อหน้าต่อได้เลยครับ

1. ประเทศไทยเป็นแค่ 1 ใน 3 ประเทศจากทั้งโลกที่ใช้ Line เป็นหลัก

จะเห็นว่าส่วนใหญ่ในโลกจะใช้ Whatapps กับ Facebook Messenger เป็นหลักแบบทิ้งคู่แข่งขาด ต้องบอกว่าพี่มาร์คก็มองเกมขาดมากถึงได้ทุ่มซื้อ Whatapps ตั้งแต่ตอนนั้น ส่วนเกาหลีนั้นประเทศต้นกำเนิด Line ก็ไม่ได้ใช้ Line เป็นหลักด้วยซ้ำ แต่พวกเขาใช้ KaoKao Talk เป็นหลักกันครับ

ดังนั้นผมบอกได้เลยว่านักการตลาดไทยควรจะเรียกข้อเสนอดีๆ จาก Line ให้มากกว่านี้ครับ!

2. คนใช้เน็ตหน้าใหม่เพิ่มเร็วกว่าประชากรไทยที่เกิดใหม่ถึงเกือบ 7 เท่า!

จะเห็นว่าใน 1 ปีที่ผ่านมาคนไทยเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึงสองแสนคน หรือ 0.3% เท่านั้น แต่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตหน้าใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 1 ล้านคน ยิ่งถ้าเป็นผู้ใช้โซเชียลมีเดียหน้าใหม่นี่เพิ่มขึ้นถึง 2.3 ล้านคน สูงกว่าคนไทยที่เกิดใหม่กว่า 16 เท่าครับ

แล้วเมื่อลงมาดูรายละเอียดในส่วนของประชากรไทยต้นปี 2020 ก็จะพบว่า ค่าเฉลี่ยอายุคนไทยในวันนี้สูงถึง 40.1 ปีแล้ว และคนไทยกว่าครึ่งก็กระจุกอยู่ในตัวเมือง เรื่องนี้ไม่แปลกใจเพราะเทรนด์โลกเป็นเหมือนกันหมดคือจะเกิดการหลั่งไหลเข้าสู่เมืองมากขึ้น เทคโนโลยีไม่ได้ช่วยกระจายความหนาแน่นของเมืองออกไปอย่างที่คิด เพราะยิ่งเทคโนโลยีพัฒนาไปมากเท่าไหร่ ชีวิตเราก็ไม่เคยได้สบายชิลๆ เหมือนอย่างโฆษณาของสัญญาณโทรศัพท์มือถือบอกว่าเราจะได้นั่งทำงานริมชายหาดสบายๆ เท่าไหร่เลยครับ

3. ไม่มีโทรศัพท์มือถือเครื่องไหนไม่สมาร์ทอีกต่ไป

จากรูปจะเห็นว่าสัดส่วนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือแทบทั้งหมดคือสมาร์ทโฟน หรือกว่า 94% ของโทรศัพท์มือถือทุกวันนี้คือสมาร์ทโฟน เมื่อเทียบจากปีที่แล้วที่ยังมีสัดส่วนแค่ 71% เท่านั้น จะมีก็แค่ส่วนที่เรียกว่าน้อยถึงน้อยมากที่ยังคงเป็นฟีเจอร์โฟนแบบเก่า นั่นก็สอดคล้องกับโฆษณาหรือคำพูดของเราเวลาเรียกสมาร์ทโฟนในมือว่าเป็นแค่ “โทรศัพท์” เพราะในเมื่อทุกคนก็ใช้สมาร์ทโฟน มันก็เลยกลายเป็นแค่โฟนธรรมดาๆ เท่านั้น จะต่างกันก็แค่ใครหน้าจอใหญ่กว่ากัน ใครแบตอึดกว่ากัน ทำให้ผมกลับคิดว่าโทรศัพท์ที่ยังคงเป็นปุ่มต่างหากที่ดูเก๋ไก๋น่าสนใจกว่าสมาร์ทโฟนเป็นไหนๆ

และที่น่าสนใจมากในหน้านี้คือจะเห็นว่าปีนี้ทีวีที่สามารถต่ออินเทอร์เน็ตได้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วกว่า 8 เท่า! เพราะจากแค่ 1% ในปี 2019 กลายเป็น 8.3% ในปีนี้ ซึ่งก็เหมือนกับผมที่บ้านมี Smart TV 1 เครื่องบวกกับทีวีธรรมดาอีกหนึ่งเครื่องแต่ผมไปหาซื้อ Chromecast ไม่ติดไว้ เพื่อเวลาจะดู Netflix กับเครื่องนี้จะได้ง่าย ผมก็แค่ Stream จากมือถือออกไปที่ทีวีเหมือน Smart TV อีกเครื่องเท่านั้นเลยครับ

ส่วยรายละเอียดย่อยๆ ที่หน้าสนใจในหน้านี้คือ ในปี 2020 นี้มีการใช้อุปกรณ์ประเภท Smart Device หรือพวก Wearable ไม่ว่าจะ Fitbit หรือ Apple Watch กันมากถึง 15% แล้ว แถมในปีนี้ยังมีข้อมูลอุปกรณ์อื่นๆ เพิ่มอีกไม่ว่าจะเป็น Smart Home Device หรือที่เป็น IoT ในบ้าน และยังมีข้อมูลของอุปกรณ์ VR ที่มีถึง 2.1% ครับ

4. คนไทยเล่นโซเชียลน้อยลง แต่ไปเพิ่มเวลากับการฟังและเล่น

เมื่อเทียบกับข้อมูลการใช้เวลากับอินเทอร์เน็ตของคนไทยระหว่างปี 2020 กับปี 2019 จะเห็นว่าเราใช้อินเทอร์เน็ตน้อยลง 10 นาทีด้วยซ้ำ แถมเรายังเล่นโซเชียลมีเดียลดลงถึง 16 นาที แต่เราก็ฟังเพลงเพิ่มขึ้นอีก 6 นาที แถมยังเอาเวลาไปเล่นเกมอีก 1 ชั่วโมง 46 นาทีในแต่ละวันด้วยครับ

ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจว่าทำไม E-Sports ถึงมาอย่างจริงจังในบ้านเรา ล่าสุดก็เพิ่งเห็น KFC x RoV ออกสกินผู้พันจนขายดีถล่มทลาย อยากกินไก่มั้ยไม่รู้ แต่อยากได้การ์ดจากไก่ไปแลกสกินแน่ๆ

5. Traffic เว็บจากมือถือลดลง 30%!

บอกตรงๆ ตอนเห็นข้อมูลหน้านี้ยังตกใจมาก เพราะที่ผ่านมาการเข้าเว็บจากมือถือนั้นจะมีแต่เพิ่มมากขึ้นมาตลอดเป็นประจำทุกปี แต่ที่น่าสนใจคือการเข้าเว็บผ่านคอมพิวเตอร์กลับเพิ่มขึ้นสูงมากถึง 56% เหตุผลข้อนี้ผมก็ยังคิดไม่ออกเหมือนกันว่าทำไมแค่ 1 ปีการเข้าเว็บผ่านคอมพิวเตอร์ถึงเพิ่มขึ้นมากขนาดนี้ คนไทยแห่กันไปซื้อคอมเพิ่มขึ้นกันหรืออย่างไรนะ

6. เว็บโป๊ยังติด 10 เว็บยอดนิยม เพียงแต่เปลี่ยนเว็บใหม่ และก็น่าดีใจที่เว็บข่าวติดอันดับ 10 แทนเว็บบอล

เว็บหลักๆ ที่คนไทยเข้ายังคงเหมือนเดิม แต่ที่เกือบจะไม่เหมือนเดิมคืออันดับที่ 9 ครับ เพราะอันดับที่ 9 ในปี 2019 นั้นเป็นของเว็บผู้ใหญ่หรือถ้าให้เรียกภาษาไทยแบบบ้านๆ ก็คือเว็บโป๊นั่นเองครับ แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือจาก xnxx.com กลายมาเป็น xvideos.com แหม อยากจะรู้จังว่าเนื้อหาในสองเว็บนี้ต่างกันอย่างไร ทำไมคนไทยถึงเปลี่ยนใจไปอีก url ได้นะ

ส่วนอันดับที่ 10 นั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะจากเดิมคือเว็บบอล ปีนี้กลายเป็นเว็บข่าวอย่างไทยรัฐที่เข้ามาติดอันดับ ดีใจที่ได้รู้ว่าคนไทยติดตามข่าวสารบ้างเมืองกันมากขึ้น

7. บอล หวย หนัง เพลง และ แปลภาษา ยังคงเป็นสิ่งที่คนไทยเสิร์ชหามากที่สุดในปี 2020

ต้องบอกว่าความสนใจในการอยากรู้ของคนไทยยังคงไม่เปลี่ยนไป เพราะกลุ่มคำที่คนไทยชอบเสิร์ชหาในปีที่ผ่านมาก็คงยังเป็น บอล หวย หนัง เพลง และก็แปลภาษา เรื่องนี้ถ้าใครที่ใช้ Google Trends ในการทำงานบ่อยๆ เหมือนผมจะเห็นว่าเรื่องเกี่ยวกับบอลติดท็อปเสิร์ชของคนไทยทุกวันก็ว่าได้ครับ

อยากรู้จังว่าธุรกิจเกี่ยวกับบอลนี่มีมูลค่าขนาดไหนในไทย เอาแบบทั้งบนดินและใต้ดิน ถ้าใครรู้ช่วยกระซิบบอกให้เป็นข้อมูลจะขอบคุณมากครับ

8. 44% ของคนไทยนิยมฟัง Podcast

คนไทยยังคงนิยมการดูเป็นหลัก แต่เริ่มมีรายละเอียดปลีกย่อยว่ากว่าครึ่งหรือ 53% นั้นชอบดูวิดีโอ Influencer หรือที่เรียกว่า Vlog ถัดมาคือการฟังเพลงบนออนไลน์ และก็ตามมาด้วยการฟังวิทยุบนออนไลน์ และที่น่าสนใจกว่าคือกว่า 44% ของคนไทยนั้นฟัง Podcast กันทั้งนั้น

การตลาดวันละตอนยังไม่มี Podcast ของตัวเอง แต่ตอนนี้ตระเวนไปอัดกับคนอื่นอยู่นะครับ

9. ใช้ Ad-Blocking เพิ่มขึ้น และอยากจะออนไลน์ให้น้อยลง

คนไทยที่ติดตั้ง Ad-Blocking เพิ่มขึ้นจากปีที่เกือบ 10% เพราะจาก 46% กลายเป็น 50% และในรายงาน Digital Thailand 2020 ฉบับนี้ก็ยังมีข้อมูลว่าคนไทยกว่า 34% สนใจว่าตัวเองใช้เวลากับหน้าจอมากขึ้นหรือลดลง นั่นก็เข้ากับเทรนด์เรื่อง “คนยุคใหม่อยากออนไลน์อย่างพอดี” จาก Social Trend 2020 ของ Think Forward ครับ

และไม่เท่านั้นเพราะกว่า 59% ยังมีความกังวลว่าเว็บหรือบริษัทต่างๆ จะเอา Digital Data ของพวกเขาไปทำมิดีมิร้ายอย่างไรบ้าง แถมยังน่าสนใจตรงที่ว่ากว่า 57% บอกว่าพวกเขาไล่ล้าง cookies การท่องเว็บในเดือนที่ผ่านมาอีกด้วยครับ

10 . คนไทย 8.5% จ่ายเพื่อความเก่งในเกม

จะเห็นว่าเกมในวันนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ อีกต่อไป และแม้ว่าเกมยอดนิยมส่วนใหญ่จะเล่นได้ฟรี แต่ก็ยังมีคนไทยถึง 8.5% ที่ยอมจ่ายเพื่อความเก่งในเกมมากกว่าคนอื่น หรืออาจจะเป็นการจ่ายเพื่อสกินเท่ห์ๆ ที่พวกเขาสนใจก็ได้ เหมือนที่ยอดขาย KFC พุ่งเพราะคนเล่น RoV อยากได้สกินผู้พันนั่นเองครับ

11. คนไทย 2020 เริ่มกลายเป็น Digitaltization แล้ว

จะเห็นว่าคนไทยเกือบครึ่งใช้ Voice search หรือพูดคุยกับ Google แทนการเสิร์ช (ผมรออยู่ว่าเมื่อไหร่จะพูดให้ Google จัดตารางคิวงานให้ได้) และคนไทยกว่า 54% ก็สมัครสมาชิกในการดูคอนเทนท์ออนไลน์บางอย่าง (ผมคนนึงแหละที่สมัคร Netflix) และที่น่าสนใจคือคนไทยกว่า 3.7% มีอุปกรณ์ที่เป็น Smart Home Device หรือ IoT ในบ้านแล้วครับ (ผมคนนึงที่มีหลอดไฟอัจฉริยะ)

12. Smart Home Devices อนาคตใหม่ของตลาดผู้บริโภคไทยหลังการอิ่มตัวของมือถือ

เมื่อคนไทยเกือบทั้งหมดมีสมาร์ทโฟนแล้ว ดังนั้นพวกเขาเลยลองหันไปเล่นกับอุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเครื่องใช้ไฟฟ้า กลอนล็อคอัจฉริยะไว้รักษาความปลอดภัย หรือแม้กระทั่งหลอดไฟกับอุปกรณ์ดูแลสนามหญ้าที่บ้าน

จากข้อมูลจะเห็นว่ามีบ้านเรือนในไทยกว่า 400,000 หลังที่มีอุปกรณ์เหล่านี้ และเมื่อดูตัวเลขการเติบโตก็จะเห็นว่ามีอนาคตที่สดใสกว่าโทรศัพท์มือถือมากครับ ล่าสุดได้ยินว่า Google mini home นั้นเข้าใจภาษาไทยแล้ว อีกหน่อยเราคงมีติดบ้านกันหลากหลายยี่ห้อมากขึ้นแน่ๆ

และเมื่อดูจากจำนวนเงินที่บ้านแต่ละหลังใช้กับอุปกรณ์พวกนี้ในปีที่ผ่านมา ก็จะเห็นว่าสูงถึงกว่า 8,250 บาท เรียกได้ว่าอนาคตสดใสสุดๆ ครับตลอด Smart Home Devices นี้

13. 99% ของคนไทยใช้โซเชียลมีเดียผ่านมือถือ

แม้จำนวนผู้ใช้งานโซเชียมีเดียจะไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก เพราะจาก 51 ล้านคนเมื่อปีก่อน เพิ่มมาเป็น 52 ล้านคนในปีนี้ แต่ก็น่ายินดีที่คนไทยเกือบทั้งหมดหันมาใช้งานโซเชียลมีเดียผ่านมือถือเพิ่มสูงมาก เพราะจาก 71% ในปีที่แล้ว กลายเป็น 99% ในปีนี้ครับ

14. มากกว่า 1 ใน 3 ของคนไทยใช้ TikTok และ Pinterest ก็ตามมาแบบเงียบๆ แซงหน้า LinkedIn แล้วด้วยซ้ำ

TikTok แพลตฟอร์มน้องใหม่ที่มาแรงแซงทุกโค้ง แม้จะเพิ่งเข้ามาในบ้านเราได้ไม่นาน น่าจะแค่ปีที่แล้วด้วยซ้ำเมื่อดูจากกระแสอ่อนๆ ช่วงต้นปี 2019 มาวันนี้ต้นปี 2020 จำนวนผู้ใช้งาน TikTok ในไทยมีถึง 36% ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหมด

ส่วนที่ผมเซอร์ไพรซ์มากก็คือ Pinterest ที่แม้จะไม่ค่อยเห็นใครใช้ให้ได้ แต่แสดงว่าทุกคนก็แอบไปพินอะไรของตัวเองเก็บไว้เงียบๆ แบบไม่แชร์ให้ใครรู้นั่นเองครับ

อีกข้อที่น่าสนใจในหน้านี้คือ Reddit น่าสนใจว่าคนไทยกว่า 20% เข้าไปเล่นเว็บนี้ที่เป็นเว็บบอร์ดของฝั่งอเมริกา และนั่นก็บอกให้รู้ว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยสนใจอัพเดทกระแสต่างประเทศตรงโดยไม่รอผ่านสำนักข่าวไหนหรือใครมาแชร์ให้ฟัง

15. Fan Page คุณทำ Reach ได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยมั้ย? และรู้มั้ยว่า Facebook ลด Reach ลงอีกแล้ว!

เมื่อดูข้อมูลเปรียบเทียบกับปี 2019 จะเห็นว่า ตัวเลขทุกอย่างบน Facebook ลดลงอย่างมาก ก็เลยทำให้ตัวเลขในฝั่งการซื้อโฆษณาของเพจต่างๆ ต้องเพิ่มขึ้นมาแทน ไม่ว่าจะค่าเฉลี่ยของยอดไลก์แฟนเพจที่เพิ่มขึ้นน้อยลงอย่างมาก จาก 0.15% เหลือแค่ 0.09% เท่านั้น ถ้าคิดง่ายๆ ก็คือถ้าแฟนเพจคุณมีคนแสนคน คุณจะมีแฟนเพจเพิ่มขึ้นมาแค่ 9 คนเท่านั้น

ส่วน Facebook Organic Reach ก็ลดลงอย่างน่าเจ็บใจ เพราะจาก 7.9% ในปี 2019 มาปีนี้เหลือแค่ 5.2% เท่านั้นครับ

ดังนั้นถ้าใครทำแฟนเพจอยู่แล้วได้ Organic Reach เกิน 5.2% ผมว่าคุณควรเอาตรงนี้ไปเคลมเพิ่มเงินเดือนกับหัวหน้า หรือแม้แต่ขอโบนัสเพิ่มได้เลยนะครับ

16. Facebook Engagement 2020 ลดลงทั้งหมด ยกเว้น Video กับ Status

จาก Data ล่าสุดบอกให้รู้ว่าตอนนี้ Facebook ปรับลด Engagment โพสทุกประเภทลงยกเว้น Video ที่เพิ่มให้สูงขึ้นถึงประมาณ 40% จากปี 2019 ที่อยู่ที่ 7% ไปเป็น 9.52% และก็ยังใจดีปรับเพิ่ม Engagement ของโพสประเภท Status อีกราวๆ 10% นั่นก็คือจาก 2.37% เมื่อปี 2019 ให้เป็น 2.51% ในปี 2020 ครับ

17. ผู้ใช้ Instagram หายไปไหน 1 ล้านคน!?

เมื่อดูเปรียบเทียบกันระหว่างปี 2019 กับปี 2020 จะเห็นว่าเดิมทีมีผู้ใช้ Instagram ถึง 13 ล้านคน ผ่านมา 1 ปีกลับลดลงถึง 1 ล้านคนเหลือแค่ 12 ล้านคนเท่านั้น ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากการล้างบัญชีผีผู้ใช้เถื่อนออกไป เพราะทาง Instagram เค้าพยายามจัดการเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา

18. Twitter 2020 โตมาเป็นแพลตฟอร์มของผู้หญิงเต็มตัว!

จากรายงานหน้านี้เป็นอะไรที่น่าตกใจมาก เพราะในปี 2019 ยังมีสัดส่วนผู้ใช้งานผู้ชายมากกว่าผู้หญิงด้วยซ้ำ แต่แค่ 1 ปีผ่านไป Twitter กลายเป็นแพลตฟอร์มของผู้หญิงเต็มตัวก็ว่าได้ เพราะผู้ใช้กว่า 78.1% นั้นเป็นเพศหญิง ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจถ้าจะบอกว่ากลุ่มผู้ชื่นชอบเกาหลีจะรวมกันอยู่ในทวิตเตอร์ และนั่นก็น่าจะเป็นสาเหตุให้พวกเขายิ่งมารวมตัวกันอยู่ในทวิตเตอร์นั่นเองครับ

ก็รู้นะครับว่าโลกโซเชียลเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก แต่ก็บอกตรงๆ ว่าไม่คิดว่าจะเปลี่ยนแปลงแบบพลิกหัวพลิกหางได้ขนาดนี้แค่ในปีเดียว!

19. Local มาแรงใน YouTube

เราจะเห็นว่าคำที่คนไทยเสิร์ชหามากที่สุด 20 อันดับแรกบน YouTube นั้นเต็มไปด้วยเพลง และเพลงที่คนไทยเสิร์ชหามากที่สุดก็คือ “แตงโม” หรือ “บักแตงโม” นั่นเองครับ บอกตรงๆ ว่าทีแรกผมก็ไม่รู้จักหรอกครับเพลงนี้ แต่พอเข้าไปเสิร์ชใน YouTube ดูก็เลยถึงบางอ้อว่ามันคืออะไร และที่น่าสนใจคือเพลงนี้มียอดวิวกว่า 348 ล้านวิว! ตามมาด้วยคลิปการเต้นและร้อง Cover ที่มียอดวิวถึง 37 ล้านวิวกับ 13 ล้านวิวตามลำดับ

ผมบอกตรงๆ เลยว่าเคยได้ยินแค่ผ่านๆ แต่ไม่เคยคิดว่าเพลงนี้จะกลายเป็นเพลงอันดับต้นๆ ที่คนไทยเสิร์ชฟังกันในปีที่ผ่านมามากเป็นอันดับหนึ่งขนาดนี้เลยครับ

ดังนั้นจะเห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่โดยเฉพาะคน Local นั้นเข้าถึงสื่อออนไลน์เป็นปกติ YouTube กลายเป็นช่องทางหลักของเพลงเขาโดยเฉพาะการใช้เพื่อฟังเพลง หรือดูหนังดูละครต่างๆ มีคนบอกว่าคนวันนี้ไม่ได้ดูทีวีน้อยลง แต่พวกเขาหันมาดูสิ่งที่เคยดูทางทีวีบนออนไลน์มากขึ้นต่างหากครับ

20. คนไทยใช้มือถืออย่างลึกซึ้ง (และน่าจะขาดไม่ได้แล้ว)

จากข้อมูล Digital 2019 Thailand เราจะเห็นว่ามีข้อมูลการใช้งานโทรศัพท์มือถือของคนไทยมาแสดงแค่ 5 หมวดหมู่เท่านั้น หลักๆ คือการใช้เพื่อใช้งานโซเชียลมีเดียผ่านมือถือ แล้วก็การใช้เพื่อดูวิดีโอผ่านมือถือ ถัดมาก็เป็นเกม ใช้แอปธนาคาร แล้วก็ใช้บริการแผนที่ ซึ่งเป็นอะไรที่เพลนๆ มาก แต่พอมาปีนี้ รายงาน Digital 2020 Thailand ของ We Are Social ก็มีข้อมูลพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือของคนไทยที่ลึกซึ้งขึ้นถึง 10 ประเภท

ที่เพิ่มขึ้นมาและผมเห็นว่าน่าสนใจคือการใช้ Shopping Apps มากถึง 58% มิน่า Lazada และ Shopee ถึงขายดี มีการใช้แอปฟังเพลงถึง 65% ซึ่งหมวดหมู่นี้น่าจะหมายถึง Joox และ Spotify แล้วในส่วนที่ผมเห็นว่าน่าสนใจสุดๆ คือมีข้อมูลการใช้ Dating Apps ของคนไทย ซึ่งก็เดาว่าหลักๆ น่าจะเป็น Tinder ที่บอกให้รู้ว่าในมือถือ 100 เครื่อง มือคนโหลดแอปหาคู่ติดไว้ 12 คน หนึ่งในนั้นคือคนของคุณหรือเปล่าครับ!

และก็น่าดีใจที่คนไทยกว่า 30%​ โหลดแอปเกี่ยวกับสุขภาพติดไว้ ซึ่งก็ดูสอดคล้องกับข้อมูลการที่คนไทยเป็นเจ้าของ Wearable จำนวกสายรัดข้อมืออัจฉริยะต่างๆ ถึง 15% ในปีนี้ครับ

ทั้งหมดนี้จะเห็นว่าคนไทยใช้มือถือได้หลากหลายและลึกซึ้งขึ้น จนเรียกว่าขาดมือถือไปคงเหมือนขาดใจก็ว่าได้

21. 10 อันดับแอปที่คนไทยเสียเงินให้มากที่สุด Line ยังคงเป็นเบอร์หนึ่ง และ Tinder ก็ยังคงอยู่

จะเห็นว่าแม้ Tinder จะมีอยู่ในโทรศัพท์มือถือของคนไทยแค่ 12% แต่กลับกวาดรายได้ไปมากจนติดอันดับ 9 ได้ มันน่าสนใจจริงๆ นะครับเนี่ย ไหนขอเสียคนเสียเงินให้ Tinder หน่อยซิ ว่ามันดีตรงไหนนะ!

22. Traffic Web จาก Andriod ลดลงนิดหน่อย แต่จาก iOS เพิ่มขึ้นหนักมาก!

ข้อมูลหน้านี้น่าแปลกใจมากไม่ใช่ตรง Andriod ลดลงที่เป็นตัวเลขที่เล็กน้อย แต่ที่น่าสนใจคือทำไมถึงมีผู้ใช้ iPhone เพิ่มขึ้นมากจากปีก่อนถึง 32% ขนาดนี้?

เพราะแอปเปิ้ลเริ่มออกหลายรุ่นย่อยๆ มากขึ้นเพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกว่าเข้าได้ง่ายมากขึ้นอย่างั้นหรือ? บอกตรงๆ ผมก็ยังไม่รู้คำตอบครับ

23. คนไทยเสิร์ชด้วยรูปเป็นปกติ และสแกน QR Code กันเป็นแล้ว

จากข้อมูลจะเห็นว่าในปี 2020 คนไทยสามารถทำกิจกรรมบนมือถือที่แอดวานซ์ได้เก่งขึ้นมาก ไม่ว่าจะแคสอะไรก็ตามจากมือถือออกหน้าจอ หรือสแกน QR Code นี่ก็ทำกันเกินครึ่ง ยิ่งการเสิร์ชหาด้วยรูปนี่กลายเป็นเรื่องปกติ เพราะทำกันมากถึง 60% แล้ว

ตรงจุดนี้ผมจะบอกว่าในต่างประเทศเว็บ e-commerce ส่วนใหญ่สามารถถ่ายรูปสินค้าที่ต้องการ หรือแค่แคปหน้าจอมาก็อัพโหลดรูปนั้นเข้าไปให้ระบบค้นหาให้เราได้แล้วครับ เรียกได้ว่าการช้อปออนไลน์นั้นง่ายขึ้นมาก ไม่ต้องมานั่งเดาคำว่าควรเสิร์ชหาว่าอะไรดีอีกต่อไปครับ

24. คนไทยเสิร์ชหาก่อนช้อป และช้อปตรงผ่านเว็บช้อปปิ้ง

นี่คือเหตุผลที่คุณควรทำ SEO กับ SEM และ Content marketing ให้ดี เพราะถ้าผู้บริโภคเสิร์ชหาแล้วไม่เจอ เท่ากับว่าคุณกำลังเสียโอกาสไปอย่างน่าเสียดายครับ

25. สินค้าที่คนไทยชอบซื้อออนไลน์ ท่องเที่ยวยังคงมากที่สุด แต่โตที่สุดคือเกม

คนไทยใช้เงินกับการท่องเที่ยวผ่านทางออนไลน์มากที่สุดถึง 6.12 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือถ้าตีเป็นเงินไทยก็ราวๆ 180,000 ล้านบาท ส่วนที่โตหนักมากคือเกมหรือ E-Sports ที่โตจาก 4,700 ล้านบาท ไปเป็น 6,810 ล้านบาทครับ

26. Basket size ช้อปออนไลน์คนไทยโตขึ้น 24%

จากปี 2019 คนไทยช้อปกันโดยเฉลี่ยคนละ 3,000 บาท มาปีนี้ 2020 คนไทยช้อปเพิ่มขึ้นเป็น 3,720 บาทแล้วครับ ดีใจแทนคนขายของออนไลน์ทั้งหมดจริงๆ

27. คนไทยเกือบ 40 ล้านคนพร้อมเปย์ออนไลน์ และตกหัวละหมื่นบาท

คนไทยในวันนี้พร้อมเปย์ทางออนไลน์มาก และจะเห็นว่าในปีที่ผ่านมาพวกเขาใช้เงินผ่านทางออนไลน์ไปมากถึงเกือบ 400,000 ล้านบาท ถ้าเอาจำนวนต่อหัวมาหารก็จะตกจ่ายกันคนละร่วมหมื่นบาท เรียกได้ว่าใช้เงินกันทางออนไลน์สนุกสนานทีเดียวครับ

28. Line Grab Get วิ่งกันให้วุ่นจนตลาดพุ่งทะลุ 20,000 ล้านบาทแล้ว!

Ride-Hailing หรือแอปเรียกรถไม่ว่าจะเรียกรถไปทำอะไร เรียกส่งคน หรือเรียกส่งอาหาร ต้องบอกเลยว่าตลาดนี้โตมากทั้งในกรุงเทพและหัวเมืองหลัก มีคนใช้แอปเรียกรถทั้งหมดที่ว่ามากว่า 4.7 ล้านคนในวันนี้ คิดเป็นมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาทไปแล้ว และโดยเฉลี่ยคนไทยหมดเงินกับแอปเหล่านี้ปีละ 4,350 บาท

เอาแค่ว่าผมสั่ง KOI The ผ่านแอปเหล่านี้เกือบทุกวัน รวมๆ กันก็ไม่อยากนับแล้วล่ะครับ 555

29. สื่อสารช่องทางไหนที่จะเข้าถึงใจผู้บริโภคไทย 2020 ได้ดีที่สุด

ดีที่สุดยังคงเป็นเสิร์ช นั่นหมายความว่าคุณต้องเข้าใจหลักการ SEO ที่ดียิ่งขึ้น แต่ก็ตามมาติดๆ ด้วยสื่อเก่าดั้งเดิมอย่าง TV แล้วก็ตามมาด้วยรายการทีวีหรือโชว์ต่างๆ นั่นเองครับ

ดังนั้นถ้าแบรนด์ไหนงบน้อยทำ SEO ให้ดี แล้วก็หยอด SEM ให้เป็น เพียงเท่านี้คุณก็จะมีประสิทธิภาพที่ดีไม่แพ้ทำ TVC แพงๆ แล้วครับ

30. Google Shoping บอกให้รู้ว่าสินค้าอะไรที่คนไทยอยากซื้อมากที่สุด

รายงาน Digital 2020 Thailand ของ We Are Social ปีนี้น่าสนใจตรงที่มีข้อมูลของ Google Search มาบอกให้รู้ว่าคนไทยชอบเสิร์ชหาสินค้าอย่างรองเท้ามาก โดยเฉพาะของ Nike ตามมาด้วยนาฬิกา แล้วก็โทรศัพท์มือถือ ซึ่งมือถือก็จะเป็น Oppo, Samsung, Huawei และ Vivo ตามลำดับ แต่ก็เห็นแนวโน้มที่น่าสนใจว่าคนไทยเสิร์ชหาจักรยานติดอันดับมาด้วยเหมือนกันครับ

สรุปส่งท้าย Digital Thailand 2020 จากรายงาน We Are Social ธุรกิจไทยยังคงทำการตลาดออนไลน์หนักขึ้น

จากข้อมูลจะเห็นว่าประเทศไทยเราใช้เงินไปกับการโฆษณาบนออนไลน์มากถึงเกือบ 27,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วกว่า 16% และที่มากที่สุดยังคเป็นการใช้กับการ SEO หรือ SEM และก็โตมากที่สุดจากทุกประเภทอีกด้วยครับ

ถ้านักการตลาดหรือนักธุรกิจคนไหนอ่านถึงตรงนี้แล้ว ผมบอกได้เลยว่าปีนี้คุณต้องเหนื่อยกว่าเดิมแน่ เพราะไหน Facebook จะลดทั้ง Reach และ Engagement แถมยังมีช่องทางใหม่ๆ ที่ผู้บริโภคเลือกใช้อย่าง TikTok ให้ต้องเรียนรู้ใหม่อีก

แต่ในข่าวร้ายก็ยังมีข่าวดีไม่น้อยเหมือนกันครับ คือคนไทยคุ้นเคยกับการใช้มือถือมากแล้ว พวกเขาใช้กันหนักหน่วงขึ้นมาก และที่สำคัญคือพวกเขาใช้เงินบนออนไลน์มากขึ้นด้วย ดังนั้นใครที่เข้าใจ insight ผู้บริโภคชาวไทยก่อน แน่นอนว่าคุณจะได้เปรียบในการเข้าถึงเงินในกระเป๋าลูกค้าก่อนคู่แข่งแน่นอนครับ

เอาใจช่วยนักการตลาดรุ่นใหม่และนักธุรกิจไทยทุกคน สำหรับองค์กรไหนที่ต้องการให้การตลาดวันละตอนเข้าไปอัพเดท Digital & Social Trend 2020 เป็นพิเศษ​ รวมถึงต้องการให้จัดคอร์สบรรยายแชร์ความรู้ใหม่ๆ ให้แบบ Tailor-made ติดต่อผมตรงได้ที่อีเมล [email protected] ผมยินดีที่จะได้ไปแชร์ความรู้ให้องค์กรที่อยากเรียนรู้ได้ฟังครับ

Source > https://www.slideshare.net/DataReportal/digital-2020-thailand-january-2020-v01

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

คุณคิดว่าปัญหา PM 2.5 ที่เชียงใหม่วิกฤตหรือยัง ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถามก่อนอ่านการตลาดวันละตอน แล้วเราจะเอาไปทำเป็น Infographic โชว์หน้าเพจให้รู้ด้วยกัน