Content Marketing Trends ที่น่าจับตามองในปี 2022
วันนี้มาเอาใจสายคอนเทนต์กันบ้างค่ะ กับ Content Marketing Trends สำหรับแนวโน้มที่น่าจับตามองและเป็นโอกาสทางการตลาดในการสร้างคอนเทนต์บนออนไลน์ของหลายๆ ธุรกิจ เพราะตอนนี้พฤติกรรมของผู้บริโภคและความต้องการข้อมูลของพวกเขานั้นนั้นได้มีการเปลี่ยนไปมาก เนื่องจากโรคระบาดครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นนี้
ในปี 2564 นักการตลาด 43% พบว่างบประมาณการตลาดเกี่ยวกับ Content Marketing เพิ่มขึ้นและคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 66% ในปี 2565 นั่นแสดงว่าแบรนด์หรือธุรกิจเริ่มให้ความสนใจและให้ความสำคัญกับการตลาดประเภทนี้มากขึ้นด้วย และปลื้มมองว่าแบรนด์เริ่มเข้าสู่ตลาดออนไลน์กันแทบทุกแบรนด์แล้ว เพราะมีแรงกระตุ้นจากโรคระบาดครั้งนี้ ทำให้ Content Marketing เป็นตัวช่วยในการสื่อสารแบรนด์ได้อย่างต่อเนื่องบนช่องทางออนไลน์นั่นเองค่ะ
ทั้งนี้ปลื้มได้ไปเจอ Content Marketing Trends ที่มีแนวโน้มในการขับเคลื่อนการลงทุนหรือว่าช่วยสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์กับลูกค้าให้เพิ่มขึ้น ทั้งหมด 5 กลยุทธ์ที่จับตามอง จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ
1. สร้างกลยุทธ์ที่มีจุดประสงค์เพื่อรักษาลูกค้า
แบรนด์อย่ามัวแต่หาลูกค้าใหม่จนลืมลูกค้าเก่าของเราไปนะคะ เพราะว่าการทำคอนเทนต์ที่มีจุดประสงค์ในการดึงดูดผู้ที่มีโอกาสจะเป็นลูกค้าเราในอนาคตเพียงอย่างเดียวอาจจะทำให้เสียลูกค้าปัจจุบันของเราไปก็ได้
ดังนั้นในการทำคอนเทนต์อย่าลืมที่จะสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์กับกลุ่มลูกค้าเก่าของเราเอาไว้ด้วย ซึ่งกลยุทธ์นี้จะช่วยให้พัฒนาความสัมพันธ์และประสบการณ์ของลูกค้าที่น่าพึงพอใจเพื่อให้ลูกค้าเก่าได้กลับมาหาแบรนด์อีกครั้ง
คอนเทนต์ที่แนะนำ
- คอนเทนต์เกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ ที่ให้ลูกค้าของแบรนด์เข้ามามีส่วนร่วมได้
- คอนเทนต์ส่งเสริมการขายเฉพาะลูกค้าที่เคยซื้อของแบรนด์
- คอนเทนต์เปิดการพูดคุย เช่น สินค้าอะไรที่คุณชอบที่สุดของแบรนด์ เป็นต้น
2. กลยุทธ์การขับเคลื่อนด้วย Data และเทคโนโลยี
เราควรใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นการหาข้อมูลในรูปแบบต่างๆ ซึ่งมันจะอำนวยความสะดวกในการช่วยตัดสินใจเมื่อเราต้องการที่จะสร้างคอนเทนต์ใหม่ๆ ได้ดีขึ้นค่ะ อย่างการใช้ Social data listening ก็จะทำให้เราเห็นว่าผู้บริโภคหรือลูกค้าของเราต้องการอะไร พูดถึงแบรนด์อย่างไร ดังนั้นเมื่อใช้กลยุทธ์นี้หาความต้องการและความสนใจของผู้บริโภค ก็จะได้คอนเทนต์ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายบนออนไลน์ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
คอนเทนต์ที่แนะนำ
- คอนเทนต์ที่ทำให้แบรนด์ได้ข้อมูลจากลูกค้า เช่น การทำโพล การถามความคิดเห็น เป็นต้น
3. สร้าง Podcasts
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ Podcasts กันก่อนนะคะเพราะหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร ซึ่ง Podcasts เป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิงเสียงที่เปรียบเสมือนวิทยุแต่เป็นวิทยุดิจิทัล และสามารถโหลดเก็บไว้ฟังแบบออฟไลน์ก็ได้ ทั้งนี้ Podcast มีจำนวนคอนเทนต์มากกว่า 48 ล้านตอนในปี 2021
Podcast นี้เหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการสร้าง Content Marketing ที่มีเนื้อหายาวๆ เช่น แชร์เรื่องราว หรือทำให้สินค้าและบริการเป็นที่รู้จักอย่างละเอียดและถี่ถ้วน โดยให้ผู้บริโภคได้ฟังแบบเพลินๆ แล้วได้ความรู้ไปด้วย และสิ่งที่แบรนด์ต้องศึกษาเพิ่มก็คือพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ฟัง Podcasts นั้นเป็นอย่างไร เพื่อที่จะได้เข้าใจและทำคอนเทนต์ได้ตรงใจพวกเขา
คอนเทนต์ที่แนะนำ
- คอนเทนต์ที่ฟังเพลินๆ เช่น เล่าสตอรี่แบรนด์หรือสินค้า ให้ความรู้วิธีการทำการตลาด เป็นต้น
- คอนเทนต์ใช้ influencer มาร่วมพูดคุยในรายการ
4. เพิ่มประสิทธิภาพ SEO
การทำ SEO หรือ Search Engine Optimization คือการทำให้คอนเทนต์ของเราติดในอันดับต้นๆ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทำให้ผู้บริโภคมีโอกาสเข้าชมและเห็นคอนเทนต์ของแบรนด์ เพราะจากวิจัยของ Hubspot บอกว่าผู้บริโภคไม่เคยผ่านเลื่อนผ่านหน้าแรกของผลการค้นหาเลย ดังนั้นการเพิ่มประสิทธิภาพคอนเทนต์ของแบรนด์จึงมีความสำคัญ เราสามารถใช้ Keyword ที่คนทั่วไปหรือผู้บริโภคมักใช้มาเป็น SEO แต่กลยุทธ์นี้ก็มีคู่แข่งที่พยายามมาชิงพื้นที่เหมือนกัน ถ้าอยากได้วิธีหรือเทคนิคเขียนคอนเทนต์ให้ถูกหลัก SEO คลิกที่นี่เลยค่ะ
5. สร้าง Personalized Content
Personalized Content คือการสร้างเนื้อหาส่วนบุคคลที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งเราต้องรู้จักกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์เสียก่อนว่าเขาอายุเท่าไหร่ อยู่แถวไหน ชอบทำอะไร ติดตามอะไรอยู่ รวมถึงความสนใจว่าเขาอะไรอยู่ด้วยค่ะ เมื่อได้ข้อมูลแบบนี้แล้วเราก็จะสามารถนำเสนอคอนเทนต์แบบ Personalized ได้นั่นเอง โดยประโยชน์ของมันก็คือทำให้เราระบุกลุ่มเป้าหมายของเราได้เจาะจงมากยิ่งขึ้น ทำให้ไม่ต้องงมเข็มในมหาสมุทรอีกต่อไป อีกทั้ง Personalized ยังเป็นแกนหลักของการสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าอีกด้วย
สำหรับ Content ประเภทนี้เหมาะกับการยิง ADs มากๆ ค่ะ เพราะมันจะทำให้เราไม่สิ้นเปลืองกับการหว่านแหกับคนที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของเรา จริงๆ แล้วปลื้มก็เคยเห็น ADs ที่เขาไม่ได้เจาะจงกลุ่มเป้าหมายมาเยอะเหมือนกันค่ะ อย่าง ร้านอาหารร้านหนึ่ง ที่มันดูน่ากินมากๆ อยากจะลองกดเข้าไปสั่ง แต่พอเลื่อนดูว่าร้านอยู่แถวไหน ปรากฏว่าอยู่คนละพื้นที่และไกลมากด้วย แบบนี้ร้านก็เสียโอกาสที่จะได้ลูกค้าไปนั่นเองค่ะ แต่ถ้าเราเลือกกลุ่มเป้าหมายที่อยู่พื้นที่ใกล้ๆ มันก็อาจจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าค่ะ
คอนเทนต์ที่แนะนำ
- คอนเทนต์ประเภทขายของหรือบริการ
ทั้ง 5 กลยุทธ์ที่น่าจับตามองในปี 2022 นี้ นักการตลาดหรือแบรนด์สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ในการทำคอนเทนต์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมได้ค่ะ เพราะว่ามีทั้งรูปแบบง่ายๆ ที่หลายคนอาจจะมองข้าม และการทำคอนเทนต์รูปแบบใหม่ๆ ที่แบรนด์เองยังไม่เคยทำ หากลองศึกษาดูและรู้สึกว่ามันตรงกับแบรนด์และกลุ่มเป้าหมาย ก็ลองปรับใช้ดูได้ค่ะ ซึ่งปลื้มเองก็หวังว่าเทรนด์ตรงนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับคนอ่านไม่มากก็น้อยนะคะ
