ปัจจุบันมีกลยุทธ์มากมายให้นักการตลาดเลือกใช้ในการสร้างและปรับปรุงแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นการทำ SEO การโฆษณาบน Search Engine การทำ Content Marketing และการตลาดโซเชียลมีเดียที่ทรงพลังที่สุด โดยเฉพาะ Instagram ที่ถ้าหากนักการตลาดวางกลยุทธ์บนแพลตฟอร์มนี้ได้ดี ก็จะสามารถสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ การมีส่วนร่วมบน Instagram รวมถึงจำนวนการเข้าชมได้เป็นอย่างดี
เทรนด์การตลาด Instagram 2023
ก่อนอื่นเรามาดูแนวโน้มเทรนด์การตลาด IG ในปี 2023 กันก่อนดีกว่าค่ะว่า อะไรกำลังเป็นที่นิยม เผื่อนักการตลาดจะได้วางแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ได้ทัน
สรุปภาพรวมรนด์การตลาด IG จาก The 2023 Instagram Trend Report ระบุว่า เทรนด์วิดีโอสั้นอย่าง Reels นั้นยังคงมาแรง และกระแสนี้ยังคงอยู่ไปยาวๆ ในช่วงปีนี้ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ไม่นิยมเสพอะไรที่ยาวจนเกินไป ซึ่งสำหรับแบรนด์ไหนที่ยังไม่ได้เริ่มทำการตลาดบน Reels อย่างจริงจัง ลองเริ่มศึกษาได้จาก เคล็ดลับการใช้ Instagram Reels ร่วมมือกับ Influencer ให้มีประสิทธิภาพ ดูได้นะคะ
ในฝั่งของผู้บริโภคเอง ก็มีพฤติกรรมที่ต้องการแสดงความเป็นตัวตนมากขึ้น ดังนั้นคนกลุ่มนี้ส่วนมากจะเลือกจับจ่ายซื้อของเพื่อสนับสนุนสิ่งที่พวกเขาสนใจ ไม่ว่าจะเป็น สินค้า, บริการ แบะกิจกรรมต่างๆ ทำให้คอนเทนต์ในรูปแบบ UGC ยังคงได้รับความสนใจ และได้รับการตอบรับที่ดี โดยเฉพาะกับผู้บริโภคยุคใหม่
ส่วนในฝั่งของ Influencer นั้นก็ยังคงคล้ายเดิม เพิ่มเติมคือการมาถึงของ Virtual Influencer ที่มาแรงมากขึ้น จะเห็นได้จากการที่แทบจะทุก Instagram account เป็นแพลตฟอร์มหลักในการอัปเดตไลฟ์สไตล์ สื่อสารกับผู้ติดตาม ด้วยความสามารถที่ไม่มีขีดจำกัดของคนเสมือนจริง ทำให้ในปัจจุบันก็เริ่มมีแบรนด์จ้างงานเหล่า Virtual Influencer มากขึ้นเรื่อยๆ แล้วเช่นกัน
เนื่องจากฟีเจอร์ต่างๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อซัพพอร์ตทั้งทางฝั่งผู้ใช้งานและแบรนด์ต่างๆ จึงเป็เหตุผลให้ แม้ Instagram จะเป็นแพลตฟอร์มที่อยู่มานานหลายปี แต่ก็ยังฟอร์มดีไม่มีตก
5 เคล็ดลับสร้างแบรนด์ด้วยกลยุทธ์การตลาด Instagram
วันนี้แบมเลยมี 5 เคล็ดลับในการช่วยยกระดับแบรนด์ของคุณด้วยการทำการตลาดบนInstagram มาให้ได้ลองศึกษาและนำไปประยุกต์ใช้กันค่ะ
1.ค้นหา Instagram Brand Personality ของเราให้เจอ
เราสามารถปรับปรุงการสร้างแบรนด์ของคุณให้โดดเด่นและดึงดูดใจกลุ่มเป้าหมายได้โดยการค้นหาบุคลิกของแบรนด์ของเราเป็นอันดับแรก
Brand Personality นั้นนอกจากจะแสดงความเป็นตัวตนของแบรนด์แล้ว มันยังเป็นการเชื่อมโยงกลุ่มเป้าหมายและลูกค้ากับแบรนด์ของเราด้วย ยิ่งแบรนด์ของคุณมีความเกี่ยวข้องกับผู้ชมและลูกค้ามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งกระตุ้นความต้องการซื้อสินค้าและบริกาาจากแบรนด์เรามากขึ้นเท่านั้น
ก่อนที่เราจะไปถึงขั้นตอนในการหา Instagram Brand Personality นั้น เราต้องรู้จักการตลาดเป้าหมายของเราเสียก่อน เพราะสิ่งนี้จะช่วยให้เราสามารถระบุได้ว่าเราจะใช้บุคลิกหลักประเภทไหนเพื่อมาสื่อสารถึงตัวของแบรนด์เรา
โดยบุคลิกของแบรนด์สามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ประเภท ใหญ่ๆ ได้แก่
- Excitement เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสดใส สนุกสนาน มีชีวิตชีวา และยีงคงมีความเป็นเด็กอยู่เสมอ
- Sincerity บุคลิกประเภทนี้จะดูมีความเป็นผู้ใหญ่ที่ดูสุขุม อบอุ่น และจริงใจ
- Ruggedness บุคลิกจะเหมาะสำหรับสายเท่ สายสปอร์ต ให้ความรู้สึกที่มีความแข็งแกร่งและแข็งแรงอยู่ในตัว
- Competence เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น การประสบความสำเร็จ หรือดูมีอำนาจ
- Sophistication ให้ความรู้สึกสง่างาม เรียบหรูดูแพง หรือมีชื่อเสียง
ซึ่งในการเลือก Instagram Brand Personality เราควรเลือกบุคลิกใดบุคลิกหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายของเรามากที่สุด และพยายามคุมโทนให้เนื้อหารวมถึงแคมเปญการตลาดต่างๆ ที่ทำออกมาอยู่ภายใต้บุคลิกที่เรากำหนดไว้
2.ปรับแต่งกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ด้วยภาพบน Instagram
Instagram เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ดึงดูดผู้ใช้ผ่านภาพ ดังนั้น การปรับแต่งกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ด้วยภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญในการยกระดับการสร้างแบรนด์ของเรา
ซึ่งความสอดคล้อง คุมโทน และบุคลิกของแบรนด์ของคุณคือกุญแจสำคัญในกลยุทธ์การตลาดของ Instagram ดังนั้นเราจึงควรเลือกโทนสี โลโก้ รูปแบบ แบบอักษร และสโลแกนของแบรนด์ของคุณตามบุคลิกของแบรนด์ โดยหาว่าสีไหนที่สามารถบ่งบอกถึงบุคลิกของแบรนด์และดึงดูดผู้ชมได้มากที่สุด เพราะโทนสีก็มีบทบาทสำคัญในการสร้างแบรนด์เช่นกัน และแต่ละสีก็แสดงถึงลักษณะที่แตกต่างกันและกระตุ้นอารมณ์ที่แตกต่างกันด้วย
เนื่องจาก Instagram เป็นเเพลตฟอร์มที่เน้นรูปภาพเป็นหลัก เราจึงต้องโพสต์ภาพที่ดูแล้วโดดเด่นสะดุดตา และเป็นเอกลักษณ์ เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้คนได้จากการเลื่อนผ่านอย่างรวดเร็ว
3.ความสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างการรับรู้และจดจำ
ไม่เพียงแต่การปรับแนวทางภาพให้โดดเด่น สวยงาม และเป็นไปในทิศทางเดียวกันแล้ว การลงโพสต์อย่างต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอก็เป็นสิ่งสำคัญ
เพราะการลงโพสต์อย่างสม่ำเสมอนั้นจะทำให้ผู้ชมเห็นเราผ่านหูผ่านตาบ่อยๆ ไม่หายไปจากหน้าฟีดของเขา จึงทำให้เราสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แลเมื่อเวลาผ่านไป ความสม่ำเสมอนี้จะชัดเจนขึ้น จนคนสามารถจดจำแบรนด์ของเราได้แม้ว่าจะไม่เห็นโลโก้หรือชื่อแบรนด์ก็ตาม
4.ใช้ประโยชน์จาก IG Stories
อีกหนึ่งกลยุทธ์การตลาดบน Instagramบางครั้งการโพสต์เนื้อหาลงฟีด Instagram อย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ ถ้าเราต้องการเพิ่ม Engagement กับแบรนด์ในแต่ละวันให้มากขึ้น แนะนำว่าลองใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ที่หลากหลายของ IG Stories ดูนะคะ ไม่ว่าจะเป็นการลงสตอรี่สั้นๆ เพื่ออัปเดตสินค้าใหม่ การตอบคำถาม การชวนโหวต
เนื่องจากเนื้อหาจาก IG Stories นั้นดูจับต้องได้จริง มีชีวิตชีวา และเป็นกันเองมากกว่า จึงสามารถทำหน้าที่ในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ติดตามได้ดีปว่าด้วยเช่นกัน
โดยจำนวนที่เหมาะสมคือควรลงวันละไม่เกิน 6 สตอรี่ และแต่ละสตอรี่ก็ไม่ควนนานเกิน 10 วินาที เพราะการลงสตอรี่ยาวเกินไป อาจทำให้ผู้ชมละความสนใจ และไม่ดูต่อจนจบนั่นเอง
Instagram Shopping เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ของ IG ที่เปิดโอกาสให้ธุรกิจมาสร้างร้านค้าบนแอปพลิเคชันได้ ซึ่งตัวฟีเจอร์นั้นเป็นมิตรทั้งกับผู้บริโภคและเจ้าของกิจการ
โดยเราสามารถไลฟ์ขายของ เปิดตัวสินค้า ยิงโฆษณาเพื่อเพิ่มยอดขาย รวมถึงทำการซื้อขายได้ครบจบในตังแอปฯ ไม่จำเป็นต้องสลับออกไปซื้อผ่านแอปฯ อื่นให้เสียเวลา นอกจากนี้ในฝั่งของตัวร้านค้าเอง เราก็สามารถปรับแต่งฟีเจอร์ต่างๆ ให้ตรงกับวัตถุประสงค์ที่เราต้องการได้ด้วย
ซึ่งการที่ธุรกิจที่ใช้กลยุทธ์การตลาด Instagram Shopping นั้นจะช่วยขยายช่องทางให้การขายสินค้าและบริการมีแนวทางใหม่ๆ และยังสามารถสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งกว่าเดิมได้อีกด้วย
อย่างที่เรารู้กันดีว่าการสร้างกาารับรู้ถึงแบรนด์นั้นเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจของเราเติบโตขึ้นกว่าที่เคย เพราะยิ่งธุรกิจของเราได้รับการยอมรับมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากขึ้นเท่านั้น และความไว้วางใจที่มากขึ้นก็ย่อมหมายถึยยอดขายที่เพิ่มขึ้นตามมาด้วยเช่นกัน
สำหรับนักการตลาดและเจ้าของแบรนด์ไหนที่อยากลองลงสนาม ทำการตลาดบน Instagram ดู ก็สามารถเอาคำแนะนำเหล่านี้ไปลองปรับใช้ให้เหมาะสมกับแบรนด์ตัวเองดูได้นะคะ
ส่วนใครที่อยากเรียนรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์และความรู้การตลาดบน Instagram แบมแนะนำให้ไปอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่ เลยค่ะ
ในบทความหน้าแบมจะมีอะไรมาอัปเดตอีกบ้าง สามารถติดตามได้ผ่านเพจการตลาดวันละตอน รวมถึง Twitter และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนนะคะ
ที่มา