4 People Strategy กลยุทธ์สร้างทีมยุค Data-Driven Marketing

4 People Strategy กลยุทธ์สร้างทีมยุค Data-Driven Marketing

4 People Strategy กลยุทธ์สร้างทีมยุค Data-Driven Marketing เลิกใช้วิธีทำงานแบบเก่า(ซึ่งก็คือปัจจุบัน) หันมาทำงานแบบใหม่ได้แล้ว

เป็นที่รู้กันว่าคนเก่งนั้นหายาก และเป็นที่ต้องการของทุกบริษัท ส่งผลให้คนเก่งมักถูกซื้อตัวจากบริษัทเดิมไปยังบริษัทใหม่เป็นประจำ ด้วยเหตุผลสำคัญก็มาจากพฤติกรรมใหม่ของผู้บริโภค ที่ต้องการ Digital Experience ที่ดีขึ้นอยู่เรื่อยไม่สิ้นสุด จากการที่โควิดเข้ามาสร้าง Covid Disruption ก่อให้เกิดการทำ Digital Disruption อย่างรวดเร็ว และผู้คนก็เรียนรู้ที่จะทำงานแบบออนไลน์ หรือรีโมทได้จากทุกที่บนโลกโดยไม่ต้องเจอหน้ากัน แต่บริษัทก็ยังเดินหน้าได้

ดังนั้นถ้าบริษัทไหนยังคงดึงดันทำงานเข้าออฟฟิศสัปดาห์ละ 5 วัน เตรียมเสียคนเก่งไปทำงานกับบริษัทอื่นที่พร้มอจะยืดหยุ่นให้พวกเขาได้เลย

โดยเฉพาะคนที่เก่งมากๆ สามารถทำงานแบบรีโมทให้กับบริษัทต่างชาติได้สบายๆ โดยไม่ต้องบินไปทำงานที่ประเทศนั้นตลอดอายุการทำงานก็ยังได้ ทั้งหมดนี้ส่งผลให้บรรดาผู้บริหารระดับสูงกว่า 67% พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าการจะหาคนเก่งๆ สาย Technology & Data นั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะพวกเขามักเนื้อหอมและเป็นที่ต้องการตลอดเวลาครับ

และทั้งหมดนี้ทำให้ผู้บริหาร และเจ้าของธุรกิจเองต้องปรับรูปแบบการทำงานใหม่ ต้องเปลี่ยนวิธีการดูแลพนักงานใหม่ ไปจนถึงต้องหาทางทำให้คนเก่งๆ ที่อยู่กับเรานั้นปล่อยของ โชว์ฝีมือ แสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ ไปจนถึงการทำให้พนักงานเดิมที่มีแววดีได้ฉายแสง ด้วยการเติมทักษะใหม่ๆ ที่บริษัทจำเป็นต้องใช้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในท้ายที่สุดควบคู่กัน

เพราะถ้าเราไม่สามารถอัพเกรดคนที่มี และจ้างคนใหม่ที่มีความสามารถด้าน Data & Technology ไว้ได้ บอกได้เลยว่าอีกไม่นานบริษัทคุณจะมีความสามารถด้านดิจิทัลล้าหลังกว่าคู่แข่งมาก ธุรกิจวันนี้ไม่ได้แข่งกันที่ใครมีเทคโนโลยีเหนือกว่า แต่ยังแข่งกันที่ใครมีคนใช้เทคโนโลยีนั้นให้เกิดประสิทธิภาพได้มากกว่ากัน แถมยังเอาชนะกันที่ใครมีคนเก่งพอจะสร้างเทคโนโลยีใหม่ที่คู่แข่งไม่มีได้ก่อนครับ

และนี่ก็เป็น 4 People Development Strategy กลยุทธ์การจ้างและสร้างคนเก่ง ซึ่งเป็นบทสุดท้ายของรายงาน Facebook Digital Consumer Insight 2023 ครับ

1. จ้างและสร้างคนที่มีทักษะเพื่อสร้างสิ่งที่ธุรกิจเราต้องการในอีก 5 ปีข้างหน้า

อย่าจ้างเพียงเพราะเขาทำงานวันนี้ได้ดี แต่จ้างเพราะทักษะที่เขามีจะช่วยให้เราทำสิ่งที่วางเป้าในอีก 5 ปีข้างหน้าได้

สมมติถ้าคุณอยากสร้างแพลตฟอร์มเพื่อผันตัวมาเป็นตัวกลางของกลุ่มธุรกิจคุณ และแพลตฟอร์มนี้จะประสบความสำเร็จได้ถ้ามี AI ที่ทำ Recommendation ได้ดีมาก คุณต้องจ้างคนที่มีความสามารถในการทำสิ่งดังกล่าวตั้งแต่วันนี้ ควบคู่ไปกับการเพิ่มทักษะที่ว่าให้กับกลุ่มพนักงานปัจจุบันที่มีแววจะทำได้ดีครับ

2. ทำให้การใช้และเข้าถึง Data เป็นเรื่องสะดวกสำหรับทุกคนในองค์กรที่ต้องการใช้

วางระบบ Data ทั้งองค์กรให้ดีตั้งแต่วันนี้ ทำให้ Data เชื่อมโยงกันเป็นอย่างดี ยกเลิกระบบหรือสิ่งใดก็ตามที่ทำให้ Data Silo ยกเลิกอะไรก็ตามที่ทำให้การตัดสินใจเรื่อง Data จะอิงอยู่กับทีมใดทีมหนึ่ง หรือแค่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง

วางระบบให้ทุกคนที่ต้องใช้ Data สามารถเข้าถึง Data ได้โดยง่ายและรวดเร็ว ไม่ใช่ต้องมานั่งขออนุมัติทุกครั้ง และที่สำคัญคือการที่ Manager & Management ต้องวางกฏการใช้ Data-Driven Decision เป็นหลักครับ

ยกเลิกระบบ HIPPO ให้เร็วที่สุด หันมาใช้ Data ในการตัดสินใจตั้งแต่พรุ่งนี้เลย

3. สร้างทีม Avenger ที่ทำงานโดยไม่ต้องรอใครสั่งการ และไม่ต้องใครอนุมัติ

ต้องสร้างทีมที่ทำงานแบบ Agile จริงๆ โดยไม่ต้องรอเบื้องบนคนไหนอนุมัติ เพื่อให้ทีมนี้สามารถทำงานเร่งด่วนและสำคัญเสร็จได้โดยไว โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเรื่อง Omin channel marketing และ Seamless Experience

ทีมนี้ต้องมีความ Independent ของตัวเองมากพอ เปรียบเสมือนกับบริษัทสตาร์ทอัพย่อมๆ ในบริษัทของเราอีกที มีหน้าที่แก้ปัญหายากๆ ที่ระบบการทำงานแบบเดิมแก้ไม่ได้

4. มอบอำนาจให้คนหน้างานตัดสินใจ

การจะทำงานกับคนเก่งๆ ในยุคที่โลกหมุนไว จะมัวรอสำนักงานใหญ่ เฮดออฟฟิศมาอนุมัติเหมือนเดิมนั้นไม่ทันการไม่ทันกินแน่นอน ถ้าอยากให้คนเก่งอยู่กับเรานานๆ ต้องปล่อยให้พวกเขามีอำนาจในการคิดและตัดสินใจด้วยตัวเอง

ผู้บริหารมีหน้าที่ให้วิชั่นที่ชัดเจน ส่วนทีมหน้างานจะทำงานอย่างไรก็ต้องให้ความเคารพและไว้วางใจอย่างเต็มที่ครับ

มีหน้าที่คอย Monitor ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นสอดคล้องกับกลยุทธ์หลักของบริษัทหรือไม่ ถ้าใช่ก็ปล่อยเรื่องของวิธีการไป เรียกได้ว่าให้อำนาจแค่คอยช่วยดู Direction ให้ ไม่ใช่ปล่อยไปแบบเลยตามเลย

สรุป 4 People Strategy กลยุทธ์การสร้างและจ้างคนเก่งให้อยากทำงานกับบริษัทเราไปนานๆ

ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้พวกเขาไปดูแลลูกค้า และแก้ปัญหาหน้างานเพื่อให้ลูกค้าได้รับ Customer Experience อย่างเต็มที่

จ้างคนเก่งแล้วต้องปล่อยให้เขาทำงาน ไม่ใช่เอากฏระเบียบการทำงานแบบโลกเก่ามาใช้กับโลกใหม่ปัจจุบัน ถ้าคุณยังคงคิดว่าวิธีทำงานแบบเดิมที่เคยทำมาสิบปีก่อนยังดี ห้าปีก่อนยังเวิร์ค ลองเงยหน้าดูผู้บริโภคหน่อยซิว่าพวกเขาใช้ชีวิตเหมือนห้าหรือสิบปีที่แล้วอยู่หรือเปล่า หรือสำรวจแค่ตัวคุณเองก็เถอะ

บริษัทที่ดีต้องมีความคล่องตัวสูง พร้อมปรับเปลี่ยนและยืดหยุ่นตามสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดี แต่ต้องมีความเข้าใจกลยุทธ์หลักและเป้าหมายขององค์กรเป็นอย่างดี ซึ่งนั่นคือหน้าที่ของบรรดา Manager และ Management ที่ต้องคอยย้ำพวกเขาเสมอว่าเรากำลังทำสิ่งนี้ไปทำไม หรือเราคาดหวังผลลัพธ์แบบไหนจากพวกเขาครับ

และทั้งหมดนี้ก็คือการสรุปรายงาน Facebook Digital Consumer Insight 2023 เจาะลึกพฤติกรรมผู้บริโภคดิจิทัลไทยและอาเซียนแบบลงรายละเอียดทุกแง่มุม

หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับนักการตลาด ผู้บริหาร และเจ้าของธุรกิจแบบคุณไม่มากก็น้อย ส่วนตัวผมรู้สึกว่ารายงานของปีนี้ดีมาก จนรู้งี้น่าจะรีบอ่านตั้งแต่ปลายปีที่แล้วครับ

อ่านบทความสรุป 6 Digital Business & Marketing Strategy 2023 กลยุทธ์สำหรับธุรกิจที่ไม่อยากถูก Disrupt

https://www.everydaymarketing.co/trend-insight/6-digital-business-and-marketing-strategy-2023-disrupt-or-disrupted/

https://www.everydaymarketing.co/trend-insight/4-omni-channel-marketing-strategy-and-seamless-customer-experience-2023/

https://www.everydaymarketing.co/trend-insight/10-future-question-for-management-set-business-vision-and-mission-strategy/

Source: https://www.facebook.com/business/m/sync-southeast-asia

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ใช้ Social Listening บ้างไม่ ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถาม ว่าปกติใช้ Social Listening บ้างหรือไม่ แล้วถ้าใช้ ใช้ตัวไหนอยู่