เจาะ 10 Marketing Trends 2025 เตรียมพร้อมปังในปีหน้า EP.2 (จบ)
กลับมาแล้วกับอีก 8 Marketing Trends 2025 ที่เหลือ จาก Session ของ คุณอรรถวุฒิ เวศรานุรักษ์ ที่บรรยายในหัวข้อ “Ride the 2025 Marketing Wave ทะยานสู่อนาคตการตลาดปี 2025” ในงาน The Secret Sauce Summit 2024 ที่ผ่านมา ซึ่งคุณผู้อ่านที่พึ่งมาพบกันในบทความนี้สามารถย้อนกลับไปอ่าน 2 เทรนด์แรกได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้
แต่ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกกับ Marketing Trends 2025 ในเทรนด์ที่ 3 ถึง 10 กัน ถ้าพร้อมกันแล้ว ก็ไปดูกันเลย!
Trend 3: Leverage Real Marketing Value “Competitive Advantage”
เงินมีแต่จะเฟ้อขึ้นเรื่อย ๆ เงินในวันนั้น ซื้อของได้ไม่เท่าวันนี้ ดังนั้น เราจึงต้องมีศิลปะในการใช้เงิน หรือ Art of Spending เพื่อที่เราจะได้ใช้ประโยชน์จาก Marketing ให้เกิดมูลค่าสูงที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถสร้างความได้เปรียบในตลาดได้ เพราะ Marketing ในตอนนี้ส่วนใหญ่จะไปโฟกัสสีสันการตลาด แต่จริง ๆ แล้วสิ่งที่ต้องโฟกัส คือ การเข้าใจ Customer Insight เพื่อนำไปวางแผน Marketing Strategy ต่อไป
โดยการวางแผน Marketing Strategy ให้ออกมาดี เราต้อง Start from customer insight เพื่อจะได้เข้าใจว่า อะไรคือ Drive ที่ทําให้เขาซื้อของ ๆ เรา ต่อมา Usage across functions ทุกฝ่ายในองค์กรต้องเข้าใจ Insight เหล่านั้น และนำไปให้ใช้เป็น และสุดท้าย Develop actionable strategies พัฒนาออกมาเป็น Marketing Strategy ที่สามารถนำไปใช้ได้จริง ซึ่งการที่เราวางแผน Strategy ที่ Base on Customer Insight จะทำให้เราเกิด Competitive Advantage หรือ ความได้เปรียบในการแข่งขัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราสามารถเอาชนะคู่แข่งตลาด บูสกำไร และชาร์ตราคาเพิ่มจากเดิมได้
แล้วเราจะใช้ศาสตร์ของการนำ Customer Insight มาใช้อย่างไรให้เวิร์ค? คำตอบ คือ อย่ากระโจนไปที่ Creativity แต่ให้เริ่มจากคําถามที่ใช่ คุณอรรถวุฒิ จึงได้แนะนำ Framework เพื่อให้เราได้คําตอบที่ฉลาด ผ่านการถามคำถามที่ฉลาด นั่นก็คือ 5 Domains of Strategic Questions
- Investigative Questions: What’s Known? คำถามเชิงสืบสวน สอบสวน เรารู้อะไรบ้าง ทําไมถึงเกิด A และทําไม A ถึง Effect กับ B
- Speculative Questions: What If? คำถามเชิงคาดการณ์ เป็นไปได้ไหมที่ A เกิดเพราะ B
- Productive Questions: Now What? ต่อไปนี้จะทำอย่างไรดี ถ้าเกิด A Effect กับ B แล้วเราจะต้องทําอย่างไร
- Interpretive Questions: So, What…? การตีความ แล้วไงต่อ ถ้าเกิด A ขึ้น เราต้อง Action แบบนี้ใช่ไหม
- Subjective Questions: What’s Unsaid? อะไรคือสิ่งที่บางคนไม่ได้พูดหรือบอกออกมา
ซึ่งสิ่งที่สําคัญที่จะทําให้เกิด 5 Domains ดังกล่าวนี้ได้ คือ ต้องสร้าง Culture ในการโต้เถียงกันได้ ให้ทุกคนมีพื้นที่ปลอดภัยในคำตอบ
นอกจากการถามคำถามที่ฉลาด การจะทวีความเข้าใจ Customer Insight เราต้องไม่ลืม Data 2 อย่างนี้ ได้แก่ Attitudinal Data สิ่งที่ลูกค้าคิดแต่ไม่ทำ และ Behavioral Data สิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับลูกค้า เราต้องทำ Data ทั้ง 2 ให้ Balance เพื่อให้ได้ Data ที่เรียบง่าย แต่เข้าใจมนุษย์ลูกค้า และเป็นประโยชน์มากที่สุด
Trend 4: Success in New Marketing Principles 5Ps
การตลาดที่เราคุ้นเคยกันคงไม่พ้น 4Ps แต่ในการตลาดยุคใหม่เริ่มมีการ Modernize ออกมาเป็น 5Ps ซึ่งประกอบด้วย
- Prioritisation โฟกัสที่ High-Impact areas เท่านั้น
- Privacy เก็บข้อมูลลูกค้าโดยคำนึงถึง Privacy
- Partners แบรนด์ยุคนี้เก่งคนเดียวไม่ได้ ต้องหา Partner
- Performance ทำอย่างไรถึงเพิ่มประสิทธิภาพการตลาด
- Proactivity ทำอย่างไรถึงยังเป็นผู้นำตลาด
Trend 5: Mastering Modern Media in Memory Attention Era
เมื่อเราเข้าใจการทำ Branding และ Marketing ให้เวิร์คแล้ว ต่อมาเราต้องมาเข้าใจในมิติของ Media กันบ้าง ซึ่งการทํามีเดียให้เวิร์ค เราต้องเข้าใจสิ่งที่เรียกว่า Memory Attention เพราะเรากําลังอยู่ในยุคที่ทุกอย่างเหมือนกันหมด ไม่มีอะไรโดดเด่น หรือเรียกว่าเป็น The Crisis of Distinctiveness
สอดคล้องกับ Study เกี่ยวกับ Commercial Ads ที่พบว่า 50% กว่า ๆ ของรีแอคชั่นที่ดู Ads อยู่ระดับเฉย ๆ ดังนั้น การทำ Attention อย่างเดียวในทุกวันนี้มันไม่พอแล้ว เราจึงต้องทำ Memory Attention
4 วิธี ที่ทำให้เกิด Memory Attention
- Repetition การทำให้เห็นบ่อย ๆ
- Association การทำให้เห็นและเขาสามารถลิงก์กับข้อมูลที่มีอยู่ ฟอร์มเป็นข้อมูลใหม่
- Novelty สิ่งใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
- Emotional resonance สร้างอารมณ์ ความรู้สึกเชิงการรับรู้ที่ลึก
แบรนด์ต้องอยู่ใน L.O.O.P ของลูกค้า
Customer Journey ในยุคนี้มีความเป็นปัจเจกและซับซ้อนมากขึ้น ดังนั้นหน้าที่ของแบรนด์ คือ ต้องกระโจนเข้าไปอยู่ในลูปของ Consumer ให้ได้ โดยลูปหรือ L.O.O.P ประกอบด้วย
L – Lead การทำให้ลูกค้าสนใจเราเป็นจํานวนมหาศาล
O – Orchestrate จะทำอย่างไรให้เขาซื้อสินค้าเราให้ได้
O – Optimize การทําให้การซื้อขายง่ายสุดและบริการหลังการขายดีที่สุด
P – Provide การดึงลูกค้าไปสู่ Community ของเรา ซึ่งข้อนี้จะวิ่งกลับไปที่ข้อแรกและวนลูปแบบไม่มีที่สิ้นสุด
Trend 6: Social Media Challenges & Strategies for Success “Adaptive Engagement”
ทุกช่องทางมี Culture ต่างกัน
Social Media แซงหน้า Search แล้ว แสดงว่า Social Media สำคัญในยุคนี้มาก ๆ
Social Media แต่ละช่องทางมี Culture ที่ต่างกัน เพราะฉะนั้นการนำชิ้นงานแบบเดียวกันไปลงในหลาย ๆ ช่องทางมันไม่ค่อยเวิร์ค แบรนด์จึงต้องทํา Repurpose ชิ้นงานให้เหมาะกับแต่ละช่องทางถึงจะได้ประโยชน์สูงสุด
เทรนด์ใหม่ Long-form Content
นอกจากนี้ คนดูวิดีโอหลากหลายรูปแบบมากขึ้น และ Short-form Content ไม่ได้จำกัดว่าอยู่แค่ใน Tiktok เพราะ 47% ของคนที่ใช้ Reels ไม่ได้อยู่บน Tiktok
และสิ่งนึงที่ คุณอรรถวุฒิ คิดว่าเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจมาก ๆ คือ Extended Vlog / Long-form Content หรือ วิดีโอที่มันยาวมาก ๆ เช่น ช่องของคุณฟลุ๊คกะล่อนที่ทํา Vlog Week ความยาว 5 ชั่วโมงออกมา มีคนดูไป 1.7 ล้านวิว เป็นต้น
Creator ไม่ง้อแบรนด์แล้ว
Creator มีทางเลือกในการทำเงิน ไม่ได้พึ่งพาจากแบรนด์เพียงอย่างเดียว เพราะ Creator Platform ในตอนนี้หารายได้ได้ ไม่ว่าจะเป็น Affiliate, Subscription และสิ่งที่น่าสนใจคือ ระบบที่เรียกว่า Tipping ให้กับเหล่า Creator เหมือนการให้ทิปในร้านอาหาร เช่น Youtube Super Thank เป็นต้น
ในขณะเดียวกันหลายแบรนด์ก็ให้ความสำคัญกับ Creator-Led Marketing เป็นอันดับที่ 2 ดังนั้นถ้าเราจะทำงานกับ Creator เราต้องปล่อยให้เขาทํางาน แล้วหาวิธีวัดวิธีวัดผลที่มากกว่าแค่ตัวเลขตรง ๆ
Social Strategy 2025
แล้วเราจะสร้าง Impact ให้เกิดขึ้นจากคอนเทนต์ได้อย่างไรในยุคที่คอนเทนต์ล้นหลามมากและเหมือนกันหมด คำตอบก็คือเราต้องสร้าง High Performance Contents ซึ่งเป็นคอนเทนต์ที่สามารถทำให้เกิด Incremental Share of Voices หรือ การที่แบรนด์ถูกพูดถึงแบบ Incredible
Social Strategy in Competitive Edge สำหรับปี 2025 เริ่มจากเราต้องปรับคอนเทนต์ให้เข้ากับ Culture ของแต่ละช่องทางให้ได้ โดยก็ต้องสร้างให้เกิด High Performing Contents ซึ่งสามารถทำได้ 2 แบบ คือ แบรนด์สร้างเอง หรือแบรนด์สร้างร่วมกับ Creators ก็ได้ และนำ Data-Driven มาใช้หาว่า High Performing Contents เป็นแบบไหน และสุดท้ายถ้ามาถูกทางก็จะทำให้แบรนด์เป็นที่พูดถึงแบบ Incredible
Trend 7: Embracing Next Phase Technology “AI & Agentic Future”
Agentic AI โลกใหม่ของ AI
หลายแบรนด์ในโลกเริ่มนำ AI Technology มาใช้ในการทำแคมเปญการตลาดมากขึ้น โดย คุณอรรถวุฒิ ได้ชวนรู้จัก Agentic AI หรือ AI ที่ไม่จบแค่การถามตอบ แต่จะคิดต่อเชื่อมโยงส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยที่เราไม่ต้องป้อนคำสั่ง ซึ่งมันจะกลายเป็นโลกใหม่ของ AI ที่เรากำลังเผชิญ
Content ที่ AI Generated น่าเชื่อถือน้อยลง
ตอนนี้ใคร ๆ ก็ใช้ AI Generated Content ซึ่งมีข้อระวังอยู่ว่าถ้าเรา Description ว่าคอนเทนต์นี้เป็น AI Generated Content หรือเป็นคอนเทนต์ที่ถูกเจนด้วย AI ในบางธุรกิจมันจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ ทำให้ดูน่าเชื่อถือน้อยลง
Synthetic Data คืออนาคตการทำ Research
Synthetic Data คล้ายกับ Agentic AI ที่จะเข้ามาช่วยในการทำ Research ในอนาคต ผ่านการจำลองการทำวิจัยด้วย AI ขึ้นมา และสร้างสมมติฐานต่าง ๆ ขึ้นเพื่อหาคำตอบ โดย Synthetic Data มีข้อดีคือ ช่วยประหยัดเวลาและราคาถูก ในขณะเดียวกันก็มีข้อเสียด้วยคือความแม่นยำของมันจะน้อยกว่าการทำ Research แบบเดิม ๆ
Trend 8: The Culture of Tomorrow “Experiment & Intelligence Risk-Taking”
นักการตลาดกลัวความเสี่ยงที่ Launch อะไรออกไปแล้วบ้ง ไม่เวิร์ค ซึ่งสิ่งที่ช่วยลดความเสี่ยงได้ก็คือ Experiment การลองผิดลองถูก ซึ่งประกอบด้วย 4 ขั้นตอนดังต่อไปนี้
4 ขั้นตอนการทำ Experiment
- Adaptive systems design การคิดเชิงโครงสร้างเพื่อระบุความจริง เข้าใจต้นตอ เชื่มโยงและคำนึงถึงบริบทที่กว้างขึ้น
- Thought experiment ถ้าไม่มีข้อจำกัดเหล่านี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง มีวิธีการที่ได้ผลลัพธ์ดีกว่านี้ไหม
- Activate system มนุษย์ถูกดีไซน์ให้ทำตามวิถีเดิม ๆ เราต้องออกจากกรอบความนี้ให้ได้
- Magic of thinking big จินตนาการของมนุษย์ช่วยขยายกรอบของความเป็นไปได้ให้ใหญ่ขึ้น
ซึ่งวิธีทํา Experiment ที่ดีที่สุดคือ การทำ Thought experiment เพราะช่วยทําให้ความคิดของเรากว้างขึ้น โดยเริ่มจากการตั้งสมมติฐาน, ลอง Experiment และ หา Key Insights เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่าง ๆ ที่นักการตลาดกลัวลง นอกจากนี้การ Adapt ใช้ Creativity ร่วมกับ Data ก็จะสามารถสร้าง Impact ได้อย่างแท้จริง
Trend 9: Embed Effectiveness Culture Across Organization
หลายบริษัทยังโฟกัส Metrics ที่ไม่ใช่ และทุกคนไม่ได้มองตัวเดียวกัน ดังนั้นถ้าเราอยากจะสร้าง Effective ในองค์กร ให้โฟกัส North Star Metrics และ Meaningful KPIs
รวมถึงหลายบริษัทในตอนนี้ใช้ MTA (Multi-Touch Attribution) แต่ คุณอรรถวุฒิ แนะนำให้ใช้ MMM (Marketing Mix Model) เพราะจะทําให้เห็นภาพใหญ่ และเห็น Impact ที่แท้จริงของบริษัทมากกว่า
Trend 10: Sustainability As A Core Strategy “Circular & Regenerative”
ในปัจจุบัน Sustainability เป็นเรื่องที่ทุกคนให้ความสำคัญ แต่เหตุผลที่ทำให้คนไม่ค่อยใช้สินค้า บริการที่ Sustain คือเรื่องของ ราคา แต่จากการศึกษา พบว่า ถ้าแบรนด์บวกราคาเพิ่มมา 10% จากราคาสินค้าทั่วไป คนก็จะยอมซื้อยอมจ่าย ดังนั้นการจัดการต้นทุนให้ไม่กระทบปัจจัยด้านราคานั้นเป็นความท้าทายของธุรกิจที่เล่นประเด็นนี้เป็นอย่างมาก
และอนาคตของ Sustainability จะเป็นการ Combine ทั้ง System ของ Business และ System of the World ว่าต้อง Sustain ตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ หลังจาก Consumer ใช้ จนกระทั้งวนกลับมาใช้ได้อีก เกิดเป็นวงกลมที่เรียกว่า Regeneration
สรุป
ก็จบกันไปแล้วกับ 8 เทรนด์สุดท้ายเกี่ยวกับความสำคัญของการเข้าใจ Customer Insight, การตลาดยุคใหม่ 4Ps Turn to 5Ps, ความท้าทายของ Social Media, บทบาทของ AI ที่มากขึ้น, การลองผิดลองถูกเพื่อลดความเสี่ยง, การสร้าง Effective ในองค์กร และ Sustainability ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเนื้อหาของซีรีส์ 10 Marketing Trends 2025 ที่จบได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ หวังว่าความรู้ที่ผู้เขียนนำมาฝากกันนี้ จะสามารถช่วยให้นักการตลาดทั้งมือใหม่และมือเก๋าได้เตรียมความพร้อม พร้อมรับมือกับการตลาดที่จะเปลี่ยนแปลงไปในปีหน้าค่ะ
สำหรับใครที่สนใจอ่านบทความอื่นๆ หรือ ต้องการอัปเดตความรู้การตลาดเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ที่ช่องทาง Website, Facebook, Instagram, Twitter, YouTube และ Tiktok ของการตลาดวันละตอนตามนี้ได้เลยค่ะ