Digital Marketing Skills & Tools ที่นักการตลาดต้องมีในปี 2021
Digital Marketing ปี 2021 ต้องมี Skills และรู้จัก Tools ด้านไหนที่เป็นอาวุธคู่กายที่หลายบริษัทอยากจะร่วมงานด้วย มาอัปเดตกันค่ะ
เริ่มปี 2021 แบบเต็มตัวแล้ว นักการตลาดบางคนอาจจะกำลังรู้สึกแอบตันกับสายงาน หรือคนอื่นๆ ที่กำลังสนใจงานด้านการตลาดกำลังหาคำตอบอยู่ใช่ไหมคะ ว่าการที่จะเป็น Digital Marketing ในยุคนี้ ควรเก่งอะไร ต้องเตรียมความพร้อมด้านไหน รวมถึงเจ้าของบริษัทหลายคนคงยังไม่รู้ว่าทุกวันนี้นักการตลาดมีอุปสรรคอะไรในการทำงานบ้าง
บทความนี้นุ่นลองเรียบเรียงจากรายงานของ Brandwatch ที่จะสรุปมาให้อัพเดทกันตั้งแต่ต้นปี เพื่อให้นักการตลาด คนที่อยากจะเปลี่ยนสายงาน หรือแม้แต่เจ้าของบริษัทได้ลองนำไปปรับใช้กับการทำงานในองค์กรดูค่ะ
อุปสรรคในการทำงานการตลาด
เราจะมาทำความเข้าใจนักการตลาดโดยเริ่มจากอุปสรรคในการทำงานส่วนใหญ่เลยนะคะ โดยความท้าทายของการทำความรู้จักลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมายในปี 2564 โชว์ให้เห็นดังนี้ค่ะ
โดยผลสำรวจข้อมูลเชิงลึกและผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด จำนวน 118 คน ในเดือนพฤศจิกายน 2020 ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า การไม่มีข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายถือเป็นปัญหาสำคัญ 58% อันดับสองคือไม่มีเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาช่วยในการทำงาน
อันดับที่สามเนี่ย นุ่นก็เคยเจอมาค่ะ คือบางคนในองค์กรไม่เข้าใจว่า Research แบบไหนที่ประโยชน์กับงานการตลาด ซึ่งก็ต้องแก้กันที่ตัวบุคคล ทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อน ใช้เวลาประชุมให้คุ้มค่าแทนที่จะมานั่งเล่าปัญหาชีวิตตัวเอง สู้คุยอะไรที่ทำให้งานมัน go on ดีกว่าค่ะ
นอกจากปัญหาเหล่านี้แล้วดูเหมือนว่าการที่ไม่มี Skill ที่ถูกต้องจะเป็นอุปสรรคน้อยที่สุดเลยนะคะ เพราะใครๆ ก็สามารถเป็นนักการตลาดได้ถ้าให้เวลาตัวเองศึกษาเรียนรู้จากประสบการณ์ทำงานภาคสนามประกอบกับทฤษฏีแจ่มๆ ซักเล็กน้อย
ยังไงก็ตามมีการให้สัมภาษณ์เสริมของ Mae Johnson ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของ Big Frog Franchise Group ที่พูดถึงการทำงานในทีมการตลาดขนาดเล็กในช่วงเวลาที่จำกัดไว้ว่า “สำหรับทีมการตลาดเล็กๆ ความท้าทายในคือการเจาะลึก Insight Information การวิเคราะห์เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคตลอดจนใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่มีอยู่ ภายใต้จำนวนคนในทีมที่อาจจะมีแค่ 1-2 คนในการทำทั้งหมดในเวลาที่จำกัดมากๆให้เต็มที่ที่สุดและสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ”
ในปี 2564 การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อทำให้กระบวนการที่ใช้เวลานาน กลายเป็นระบบอัตโนมัติด้วย AI หรืออะไรก็แล้วแต่ เพื่อลดระยะเวลาการทำงานให้ได้ข้อมูลเชิงลึกจะมีความสำคัญสำหรับทีมเล็กๆ บริษัทเล็กๆที่ต้องการเติบโต
แล้วเครื่องมือแบบไหนล่ะที่ Digital Marketing ต้องการ ?
เพื่อที่จะหาข้อมูลของกลุ่มเป้าหมาย โดยได้ insight ใหม่แบบเรียลไทม์ กราฟได้โชว์ถึงเครื่องมือที่นักการตลาดต้องการดังนี้ค่ะ
81% ของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่า Social data analysis tools เป็นสิ่งที่สำคัญพอๆ Data visualization tools ที่ได้ไป 75% เลยล่ะค่ะ เหตุผลคงเป็นเพราะว่าเป็นข้อมูลเรียลไทม์และเป็น Fact ที่ถูกโพสต์โดยกลุ่มเป้าหมายเอง เลยทำให้มีมูลค่า สามารถนำมาต่อยอดได้ดีกว่า หลายบริษัทใหญ่ๆ ในไทยใช้วิธีนี้ซัพพอร์ตองค์กรมาซักพักแล้ว
แต่ทราบไหมคะว่าบริษัทเล็กๆ SME รายย่อยก็สามารถมีเครื่องมือนี้ได้เหมือนกัน เพราะปัจจุบันมี Data tools และ Social Listening Tools หลายเจ้า หลายเรทราคาให้เลือกมากมายตามสะดวกเลยค่ะ
ตีคู่มากับ Search data analysis tools 73% ที่สามารถนำมาซัพพอร์ตกันได้เป็นอย่างดีในการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย นุ่นไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่ Traditional consumer research methods ตกมาอยู่อันดับสุดท้ายที่ 31%
อาจจะคลาสสิกและดูเป็นธรรมเนียมสืบทอดกันมา แต่ในสมัยนี้นุ่นขออนุญาตเรียกง่ายๆ ว่าเป็นวิธีเดิมที่ทำให้หลายองค์กรตามคู่แข่งไม่ทันซักที สิ่งนี้เป็นสิ่งที่นักการตลาดก็คงรู้กันดีอยู่แล้วใช่ไหมล่ะคะว่าใช้เวลานาน หาเอเจนซี่ที่ไว้ใจได้ยากว่าจะไม่ make ข้อมูลมาให้เรา และไม่แม่นยำเท่าการให้เทคโนโลยีช่วยทุ่นแรง
Digital Maketing หลายคนคงเริ่มมองภาพออกแล้วว่าอะไรคืออุปสรรค และเครื่องมือที่ช่วยในการทำการตลาดในปี 2021 คืออะไร และจะปรับตัวเองให้มีอาวุธติมมือยังไงได้บ้าง ยังมีประเด็นที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ได้จากคำถามปลายเปิดเกี่ยวกับ Human understanding อยู่ค่ะ
“For us, 2021 will be all about how do we add value to humanity through what we do – at every touchpoint”
— Rachael Zahn, VP, Marketing & Sales Optimization, Investis Digital
Personalization เป็นสิ่งที่มีมานานแล้ว และแบรนด์ต่างๆ ก็พยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้และตรงกับใจของผู้บริโภคมากที่สุด นักการตลาดทั้งใหม่และเก่าต้องอย่าลืมจุดนี้เป็นอันขาดเลยนะคะ
สิ่งที่ Digital Marketing ต้องมีความรู้นอกจากเรื่องของเวลาแล้วล่ะก็ ขอบอกก่อนว่า เวลา ณ ที่นี้หมายถึงเวลาในการเข้าหากลุ่มเป้าหมายนะคะ อาจผ่านการยิง Ads ก็ดี หรือการบอร์ดแคสต์ข้อความก็ดีให้ถูกกับ Activity ของกลุ่มเป้าหมาย เป็นสิ่งที่สำคัญพอๆกับเนื้อหาที่แบรนด์กำลังจะสื่อเลย
เนื้อหาที่เน้นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางนี่ไม่จำเป็นต้องหมายถึงเนื้อหาตามความต้องการของผู้บริโภคแต่ละรายอย่างเดียวนะคะ แต่เป็นการรับรู้กลุ่มเป้าหมายของคุณที่อาจมีความต้องการหรือความชอบที่แตกต่างกันด้วย Katy Howell ตำแหน่ง CEO ของ Immediate Future บอกว่าความท้าทายคือการทำให้แบรนด์นึกถึงผู้บริโภคในรูปแบบหลายมิติต่างหาก
การจะหาเวลาและเนื้อหาที่ impact ได้หลายมิติไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เชื่อว่าถ้ามีเครื่องมือเกี่ยวกับ Data analysis น่าจะช่วยให้ไม่ยากถ้าอยากจะรู้ค่ะ 😉
Working cross-functionally
หากธุรกิจต่างๆอยากจะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ข้อมูล Consumer Insight นี้ไม่ได้มีประโยชน์แค่กับทีมการตลาด ในปี 2564 เท่านั้น แต่ยังสามารถ cross ข้ามสายงานเพื่อให้ทั้งองค์กรถูกพัฒนาไปพร้อมกันได้ด้วยค่ะ
“In order to better react, predict and innovate in 2021, mastering and operationalizing digital consumer intelligence will require a cross-functional effort across marketing, sales, customer success, and data teams.”
Eva Taylor, Director of Social, Operations & CSR at Hootsuite
ตัวอย่าง Sharing consumer insights across the business อย่างง่าย
- ถ้า customer success managers และนักการตลาดทำงานร่วมกัน customer experiences ที่ลูกค้าจะได้รับก็จะดีขึ้นมาก
- ทีม Product สามารถทำงานร่วมกับนักการตลาดเพื่อหาว่าอะไรทำให้เกิดรีวิวเชิงลบ ทำให้สามารถนำมาแก้ไขได้ถูกจุด และลำดับความสำคัญได้ทันท่วงทีก่อนโดนด่าบนออนไลน์มากกว่านี้
- ทีมออกแบบสามารถสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจมากขึ้น ถ้านักการตลาดช่วย share data ที่เป็น positive sentiment
สรุป Digital Marketing Skills & Tools ที่นักการตลาดต้องมีในปี 2021
- Data, skills, and tools : ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ต้องหวังถึง Consumeer insight ที่ดีเลยล่ะ การที่แบรนด์สามารถเข้าใจข้อมูลและ monitor ฟีดแบคเชิงลบได้ก่อนผ่านเครื่องมือ จะช่วยให้ทีมของคุณประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก
- Being human : แบรนด์ที่มีมนุษยสัมพันธ์ หรือสร้างการตลาดแบบ Personalization เป็นประเด็นสำคัญ เมื่อประสบการณ์ของแบรนด์ทุกวันนี้กลายเป็นดิจิทัล คนดูรีวิวก่อนซื้อ ก็ควร monitor ความพึงพอใจขอลูกค้าว่าได้รับประสบการณ์ที่แบรนด์ต้องการให้หรือเปล่า เช่นความมิตรของพนักงาน ความสะดวกสบายต่างๆ
- Right place, right time, right message : เมื่อมี insights ที่ถูก generated ขึ้นมา ดูให้ดีว่าได้ถูก action รวดเร็วพอไหม ได้คิดถึงสื่อที่เข้าถึง individuals หรือเปล่า
- รวมถึงถ้าคุณเลือกส่งสารที่ถูกต้องแล้ว แต่ดันไม่ใช่เวลาและกลุ่มเป้าหมายที่ถูก มันคือการเป็นการเสียเวลาและทรัพยากรไปเปล่าๆ อย่างน่าเสียดายสุดๆ
- Connecting across the business : นักการตลาดมี insight information อยู่ในมือต้องทำงานส่งต่อไปยังทีมต่างๆ ส่งเสริมการทำงานร่วมกันให้เกิดประโยชน์บางอย่างแก่แบรนด์หรือองค์กรได้
หวังว่าสรุปรายงานนี้จะช่วยให้ Digital Marketing ทั้งหน้าใหม่และเก่า รวมทั้งเจ้าของธุรกิจได้ปิ๊งไอเดียการทำงานของปี 2021 เพื่อช่วยให้แบรนด์คุณไปไกลกว่าคู่แข่ง โดยเริ่มจากใส่ใจการทำงานของทีมการตลาดที่นั่งอยู่ในบริษัทของคุณก่อน รวมทั้งให้นักการตลาดได้พัฒนาตัวเองให้ทันยุค การตลาดวันละตอนจะ Update ความรู้ดีๆ อยู่เสมอ หวังว่าจะช่วยได้ไม่มากก็น้อยนะคะ
source: https://www.brandwatch.com
ไม่ว่าแบรนไหนสินค้าของแบรนจะปังใด้ก็คือการบริการใส่ใจลูกค้าและการส่งเสริมเพื่อนำไปสู่การต่อยอดส่งเสริมก็คือเราให้บริการจากที่เคยเป็นลูกค้าที่เคยใช้และบอกต่อสินค้าแบรนนั้นดีแบรนนี้เป็นยังไงให้บริการอย่างไหรดีน่ะ และก็จะส่งเสริมเพื่อให้เขามาเป็นตัวแทนจากตัวแทนเป็นร้านค้าจากร้ารค้าเป็นสื้อส่งเสริมให้เป็นตัวแทนและนำให้เป็นร้านค้าเล็กๆเพื่อที่จะก้าวเป็นธุระกิจและสื้อนำพาไปสู่ต่างประเทศใด้อย่างทั่วถึงและง่ายมากยิ่งขึ้น ตัวสื้อสารที่สำคันคือการบอกต่อๆและสื้อออนไลค์ที่เข้าถึงต่างประเทศใด้ เป็นความคิดส่วนตัวผมครับ