หนึ่งในอาวุธไม่ลับของ ‘Pepsi’ ที่ใช้ Social Listening ช่วยวางแผนธุรกิจ
หนึ่งในเครื่องมือที่แบรนด์ระดับ Global อย่าง Pepsi ใช้เพื่อวางแผนธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นในด้านทำความเข้าใจผู้บริโภค วางโฆษณา กลยุทธ์การตลาด คือ Social Listening Tools เป็นพาร์ทที่ส่งเสริมภาพรวมธุรกิจให้ปังต่อเนื่องจริง ๆ
ความสำเร็จของแบรนด์เป็นตัวการันตีได้เลยว่าองค์ประกอบทางธุรกิจที่แบรนด์เลือกใช้ได้ดีจริงและหัวใจของความปังของหลาย ๆ แบรนด์นุ่นเชื่อว่ามาจากความเข้าใจ เข้าถึง และรับฟังคนซื้อค่ะ
ยืนยันจากคุณ Todd Kaplan รองประธานฝ่ายการตลาดของ PepsiCo ที่เปิดเผยว่าเจ้า Social Listening Tools นี่แหละที่ทำให้ Pepsi ผ่านปี 2020 ที่เป็นสมรภูมิโรคระบาดไปได้ เทคนิคของ Pepsi มีกลไกที่เรียกว่า “culture in, brand out” คอยสำรวจสถานการณ์ และองค์ประกอบที่มีผลทางการตลาดทั้งหมดอยู่เสมอ
Case Study Ads Campaign : Pepsi x Kendall Jenner
ซึ่งช้อมูลที่นุ่นนำมาเล่าให้นักการตลาดในบทความนี้ PepsiCo Inc. และสื่อต่างประเทศ ได้แชร์ไว้ 1-2 ปีที่ผ่านมาค่ะ เราจะมาดูกันว่า Social Listening จะถูกใช้ในแคมเปญโฆษณา Pepsi x Kendall Jenner อย่างไรบ้างกันนะคะ
Pepsi สามารถควบคุม Media Crisis ได้ภายใน 24 ชั่วโมง
แคมเปญโฆษณาดังกล่าวที่มีทั้งมุมประสบความสำเร็จ และมุมที่ต้องเก็บไว้เป็น Feedback และวิเคราะห์เพิ่มเติมเพื่อแคมเปญหน้า ใดใดคือแบรนด์สามารถควบคุม crisis ที่เกิดขึ้นระหว่างแคมเปญได้ภายใน 24 ชั่วโมง
อย่างที่นักการตลาดทราบดีว่า Social Listening นั้นเป็นเครื่องมีที่เราใส่ Keyword ลงไป เช่นชื่อแบรนด์ แฮชแท็ก แล้วเครื่องมือจะกวาดโพสต์สาธารณะจาก Platform ต่าง ๆ แล้วแต่ยี่ห้อและแพ็คเกจ
และในเคสนี้ Pepsi เจอ crisis เล็กน้อยที่ไม่ทันลุกลามก็ถูกแบรนด์เจอซะก่อนผ่านเครื่องมือ เลยมีการแก้เกมโดยเพิ่ม conversations และแก้ไข Negative PR ที่เป็นต้นปัญหาได้ทัน จริง ๆ เรื่องนี้เราอาจจะเคยชินในแบบที่โพสต์แล้ว รอดูเมนต์ แชร์ แต่อาจจะพลาดอะไรไปหากไม่มีเครื่องมือที่ดีซัพพอร์ตนั่นเองค่ะ
ไม่ใช้แค่ Pepsi แต่ Coca-Cola ก็ใช้นะ
แผนการตลาดของ Coca-Caola มีประสิทธิภาพมากขึ้น ผ่านการวิเคราะห์หา Customer Insight จาก Social Data เช่นกันค่ะ นุ่นมีบทความที่เคยเอา Report มาอธิบายเจาะลึกเอาไว้ เพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพมากขึ้นด้วยว่าเราได้ Insight แบบไหนบ้าง และจะใช้ประโยชน์ได้จริงอย่างไร
‘ก่อนที่ Coca Cola จะผลิตสินค้ารสชาติใหม่ ๆ วิธีหนึ่งที่ใช้คือลองเช็กความคิดเห็นของลูกค้าก่อน เริ่มจากแบ่งการพูดถึงจับโดย Keyword แล้วสร้างเป็น Pie Chart โชว์สัดส่วนของแต่ละรสชาติออกมาก่อน แล้วเจาะบริบทอีก 1 ชั้น อย่างโค้กไปเจอว่าลูกค้าชอบโค้กรส Cherry Coke มากเป็นพิเศษ’
นี่คือเสี้ยวนึงจากความสามารถของเครื่องมือเท่านั้น หากเราใช้บ่อย ๆ ให้เวลากับข้อมูล เชื่อว่าจะนำไปปรับใช้กับแบรนด์ของตัวเองได้ดีแน่นอน และถ้าเพื่อน ๆ นักการตลาดอยากเรียนรู้การใช้เครื่องมือ เพื่อวางแผนธุรกิจและการตลาด หา Consumer Insight โดยการตลาดวันละตอนมีเปิดคลาสเรียนแบบออนไลน์ด้วยนะคะ
คอร์สเรียนออนไลน์ Social Listening Analytics Boostcamp รุ่นที่ 29
เนื้อหาที่จะได้เรียน
- ทำความรู้จักเครื่องมือ ความสามารถ และข้อจำกัดในการทำงาน
- เรียนรู้ผ่าน Case study การใช้เครื่องมือเพื่อหา Insight และ Opportunity ให้กับธุรกิจจากประสบการณ์ผู้สอนและทีมการตลาดวันละตอน
- เรียนผ่านการทำ Workshop ไปด้วยกัน ในการฝึกหา New Insight จาก Data ที่กระจัดกระจายอยู่บนโลกโซเชียล
- เรียนผ่านแนวคิด CPVAI Model ตามแบบหนังสือ Data Thinking ในการประยุกต์ใช้จริงเพื่อให้มีประสบการณ์
- ปรึกษาแนวทางการประยุกต์ใช้ส่งท้าย สำหรับธุรกิจแต่ละคน
คลาสเรียนออนไลน์ Social Listening Analytics รุ่น 29 // เรียนวันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 ค่าเรียนคนละ 9,900 รับจำกัด 20 คน // อ่านรายละเอียดและลงทะเบียนก่อนเต็มได้ที่ลิงก์นี้ครับ https://bit.ly/sociallistening29