ส่วนแบ่งทางการตลาดมากขึ้น เมื่อแบรนด์บอกให้คนซื้อน้อยลง

ส่วนแบ่งทางการตลาด มากขึ้น เมื่อบอกให้ลูกค้าซื้อน้อยลง เอ้า !!! อย่างนี้ก็ได้เหรอ
ได้ครับ เพราะมีแบรนด์หนึ่งอยู่แถวซาอุที่ชื่อว่า Sadia ขายพวกอาหารแช่แข็งให้คนซื้อกลับไปทำอาหารกินกันที่บ้าน ป่าวประกาศทำโฆษณาให้คนซื้อกันให้น้อยลง เลิกกินทิ้งกินขว้าง แต่กลับเป็นว่าส่วนแบ่งทางการตลาดของเค้าเพิ่มขึ้นอีกตั้ง 3% กินคู่แข่งไปได้ยังไงหละงานนี้
เรื่องก็คือในช่วงเทศกาลถือศีลอด รอมฎอน ในแถบตะวันออกกลางหรือประเทศมุสลิมนั้นเป็นช่วงที่หลายแบรนด์แข่งกันโฆษณายังกับเทศกาล Super Bowl ของอเมริกาเลย เพราะในเทศกาลนี้เดิมทีคือ การให้คนไม่กินอาหารในช่วงกลางวัน จะเริ่มกินได้ก็ต่อเมื่อตะวันตกดินแล้ว เพื่อให้เข้าใจหัวอกคนอดอยากที่ไม่มีข้าวกินจะแม้จะหมดวัน จะได้เข้าใจเราใจเขารู้จักบริจาคแบ่งปันให้กันและกันบ้าง

ในช่วงนี้แหละครับที่หลากแบรนด์โดยเฉพาะแบรนด์อาหารทั้งหลายแข่งกันโฆษณากระตุ้นให้คนซื้อวัตถุดิบกลับไปทำกินกันที่บ้านพร้อมหน้าพร้อมตากันยกใหญ่ ผลที่ตามมาก็คือซื้อไปเยอะเกินจนทำกินไม่หมดหรือไม่ทัน สุดท้ายก็ต้องทิ้งกันไปมหาศาล ตกเป็นเงินค่าอาหารที่เททิ้งกันไปวันนึงกว่า 10,000,000 บาท ใช่ครับสิบล้านบาทคุณอ่านไม่ผิดหรอก
ในเมื่อทุกคนไปทางกระตุ้นให้คนซื้อไปเยอะๆ แต่ Sadia เลือกที่จะสวนทางกับทุกเจ้าในตลาดด้วยการทำให้คนตระหนักคิดว่ายังมีคนอีกไม่น้อยที่อดอยาก แล้วการจะทำอาหารกินกันทั้งครอบครัวอย่างอิ่มท้องและมีความสุขนั้นแท้จริงแล้วกลับใช้วัตถุดิบแค่นิดเดียว

ตรงนี้แหละคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้พวกบริโภคนิยมทั้งหลายตาสว่าง ส่งผลให้การซื้อของไปทำกินทั้งหมดลดลงกว่า 8% แต่ตัว Sadia เองนั้นกลับได้ส่วนแบ่งทางตลาดเพิ่มขึ้นมากว่า 2.7%
นี่แหละครับคือผลของการคิดต่าง คิดสวนทาง หรือลองไม่ทำตามกระแส เพราะการได้ใจผู้ซื้อก็การได้เงินในกระเป๋านั้นไม่ใช่เรื่องยากที่จะตามมา

ลองคิดดูเล่นๆ ว่าถ้าร้านขายกาแฟหวานๆ เย็นๆ ทั้งหลาย ยืนยันที่จะบอกลูกค้าว่าให้กินไซส์เล็ก หรือความหวานลง อาจจะขัดใจเราในแว็ปแรก แต่พอลูกค้าคิดได้ก็จะรู้ว่าที่คนขายเค้าบอกแบบนั้นเพราะเค้าหวังดีกับเราจริงๆ ในระยะยาว ถ้าเรามัวแต่ทำธุรกิจโดยเอาแต่เงินหรือผลกำไรเป็นที่ตั้ง แล้วในระยะยาวผู้คน โลก และแบรนด์จะอยู่รอดได้ยังไงจริงมั้ยครับ
Credit VDO & Thumbnail : https://www.youtube.com/watch?v=QQXeS_ZNo1g
ติดตามเรื่องราวการตลาดวันละตอน สดใหม่ทุกวันได้ที่ : https://www.everydaymarketing.co/