อากาศร้อน ๆ แบบนี้ไม่มีแคมเปญไหนเหมาะสมไปกว่า Green Light Signal ซึ่งเป็น The winner ในหมวดหมู่ Use of Real-time Data คว้ารางวัลจาก
Tag: Cannes Lion
Billy The Watcher แคมเปญที่ใช้ AI หยุดยั้งการบูลลี่ใน ‘เกม’ ใครที่มีลูกเล็ก เด็กอ่อน หรือหลานตัวกะเปี๊ยก เตยขอเดาว่าต้องเคยเจอเหตุการณ์ที่เราได้ยิน ได้เห็นคำหยาบ การบูลลี่ หรือคำพูดที่ทำร้ายจิตใจออกมาจาก ‘เกม’
The Cost of Inequality-แคมเปญที่เปลี่ยน ‘ความไม่เท่าเทียม’ ให้เข้าใจง่ายด้วย Data Visualization วนมาอีกครั้งกับแคมเปญจาก Cannes Lions โดยในบทความนี้จะเป็นในเรื่องของ ‘ความไม่เท่าเทียม’ ที่เกิดขึ้นในสังคมค่ะ และเมื่อเราพูดถึงความไม่เท่าเทียม
แคมเปญลดการปล้นจี้ ด้วย Hijack Strategy ขโมยพื้นที่ ads บอกโซนอันตราย กลับมาอีกครั้ง (อย่าเพิ่งเบื่อกันค่ะ เคสสนุก!) กับแคมเปญที่ได้รับรางวัลจาก Cannes Lion โดยในบทความนี้จะเป็นแคมเปญ Anti-Hijack
แคมเปญ ‘การเงิน’ เปลี่ยน Data จากหน้ากระดาษสู่ระบบคอมพิวเตอร์ กลับมาอีกครั้งกับแคมเปญที่ได้รับรางวัลจาก Cannes Lion ที่เตยได้นำมาแชร์กับบ่อย ๆ สำหรับการตลาดวันละตอน โดยในบทความนี้จะเป็นบทความที่เกี่ยวกับการเงิน และพิเศษสุด ๆ เพราะเป็นแคมเปญที่จะทำให้ผู้อ่านอึ้ง
Shah Rukh Khan-My-Ad แคมเปญ การตลาด ที่ใช้ Deepfake และ Deep voice ช่วยเหลือ SME สายเอเจนซี่หรือนักการตลาดคงทราบกันดีว่า การดีลดาราเบอร์ใหญ่ ไฮโซโบว์แดง
AAMI ปรับใช้ Data ลดการเกิด ‘อุบัติเหตุ’ และ ‘เคลมประกัน’ ได้ถึง 70% เตยว่าต้องมีคนรู้กันมาบ้างแล้วล่ะ ว่าตอนเราทำประกันสักอันนึง บริษัทประกันจะเอาชื่อเราไปทำบุญเสริมดวง จะได้ไม่ต้องเจ็บป่วย หรือประสบอุบัติเหตุ เพื่อลดอัตราการเคลมประกัน
Skittles รู้ว่าผิด ‘ขอโทษ’ ผ่าน การตลาด ด้วย Social Listening เตยเชื่อว่า ไม่มีใคร ไม่เคยทำผิด แม้กระทั่งแบรนด์เองก็ทำผิดได้เหมือนกัน เฉกเช่นกับ Skittles แบรนด์ขนมคบเคี้ยวชื่อดัง
MyHooman แก้ปัญหาสัตว์ไร้บ้านด้วย Data-Driven Targeting หลายคนอาจจะมีคำถามในใจบ่อย ๆ ว่า เอ๊ะ เรามี data เราแล้วจะเอาไปปรับใช้ยังไง เอาไปแก้ปัญหาแบบไหน? แต่คิดไปคิดมาแล้วก็นึกไม่ออก วันนี้เตยเลยนำแคมเปญ MyHooman
Behavioral Marketing หรือการตลาดแบบกระตุ้นพฤติกรรมให้คนอยากทำตามเป้าหมายที่เราวางไว้ ฟังดูอาจเป็นเรื่องยากเกินไป แต่ถ้าเราเข้าใจ Insight ว่าทำไมคนส่วนใหญ่จึงทำแบบนั้นเราก็จะสามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมให้เป็นไปตามที่เราต้องการได้ง่ายขึ้น ก็เหมือนกับแคมเปญการตลาดหนึ่งที่ประเทศสิงค์โปรเมื่อหลายปีก่อน พวกเขาค้นพบว่าส่วนใหญ่ติดมือถือกันงอมแงมจนทำให้อัตราการอ่านหนังสือลดลงไปไม่น้อยที่สะท้อนผ่านยอดขายสำนักพิมพ์ต่างๆ นั่นเอง ลองมาดูกันนะครับว่าแคมเปญนี้ทำงานอย่างไรถึงทำให้คนสนใจอยากอ่านหนังสือมากขึ้นด้วยตัวเอง The Offline Book เปลี่ยนหน้าไร้เน็ตให้กลายเป็นหน้าจากหนังสือดีๆ