หลาย ๆ คน อาจจะเคยคิดว่าการซื้อประกันรถยนต์ ประกันเดินทาง เป็นเรื่องยาก เพราะประกันก็มีหลากหลายประเภท หลายเจ้าให้เลือก ต้องมานั่งเปรียบเทียบไล่เช็คราคาแบบตาลายยย จะให้โทรถามทั้งหมดก็คงไม่มีเวลาขนาดนั้น ถ้าสนใจพอกรอกข้อมูลเสร็จกว่าจะรอเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ ไหนจะความ Privacy ของข้อมูลส่วนตัว แค่คิดก็มีเรื่องน่าปวดหัวมากมาย
เรียกได้ว่ากลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนแรงแซงอากาศในช่วงเดือนเมษายนไปเลย เมื่อบริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR ประกาศแผนขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก แน่นอนค่ะว่าเมื่อข่าวนี้ออกไปก็ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามรวมถึงตัวนุ่นเองด้วย ซึ่งในวันที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมา TIDLOR ก็ได้จัดโรดโชว์เพื่อนำเสนอข้อมูลและรายละเอียดต่าง
แคมเปญการตลาดที่เป็น Business Case Study จาก Facebook ที่ผมจะเล่าให้ฟังในวันนี้เป็นแคมเปญการตลาดที่ดูจากภาพแล้วจะรู้สึกว่าบ้านมาก นั่นก็คือแคมเปญไก่กันชนจากเงินติดล้อเมื่อสองปีก่อน ที่ทำมาเพื่อสร้าง Awareness ให้คนรู้สักทีว่าที่เงินติดล้อก็มีประกันรถยนต์ขายนะ แถมที่สำคัญประกันรถยนต์ที่เงินติดล้อยังผ่อนเงินสดได้ด้วย วันนี้ผมจะมาเล่าเบื้องหลังแคมเปญนี้ให้คุณฟังในฐานะคนคิด Strategy แคมเปญนี้เมื่อตอนนั้นว่า
บทความสรุปจากงาน UX Thailand Meetup 22 : How to collaborate with UI & Dev ที่การตลาดวันละตอนได้รับเชิญจากเงินติดล้อ(ขอบคุณพี่โย่ด้วยครับ) แต่ไม่สามารถไปเองได้เลยได้พี่ปลา
เงินติดล้อ ผมเชื่อว่าหลายคนในที่นี้คงรู้จักองค์กรนี้ดีเป็นแน่แท้ ถ้าถามว่าเงินติดล้อทำธุรกิจอะไร ผมมั่นใจว่าร้อยละร้อยห้าสิบของคนส่วนใหญ่น่าจะรู้ดีว่าเงินติดล้อปล่อยเงินกู้ แต่มีอย่างที่ไหนกันกับบริษัทปล่อยเงินกู้กลับใช้เงินทำแคมเปญโฆษณาหลายสิบล้านเพื่อบอกให้คนไทยห่างไกลจากหนี้ให้มากที่สุด ถ้าเราคิดถึงกำไรน้อยลง คำพูดนี้ออกมาจากพี่ที่ผมรู้จักเป็นการส่วนตัวที่ทำงานอยู่ในเงินติดล้อเป็นระดับเฮดขององค์กรนี้ ในวันนั้นที่แคมเปญนี้ยังไม่ปล่อยออกมา ในวันที่เหมือนได้สัมภาษณ์เชิงลึกในแบบกินไปคุยไปครับ คำพูดนี้ทำให้ผมรู้สึกทึ่งกับองค์กรนี้มากว่ากล้าคิดและพูดแบบนี้ได้อย่างไร ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยได้ยินองค์กรไหนพูดแบบนี้มาก่อน เพราะแต่ละองค์กรใหญ่ๆต่างก็มีเป้าหมายที่คล้ายกัน นั่นก็คือทำอย่างไรถึงจะเพิ่มยอดขายและกำไรให้มากที่สุด แต่กับที่เงินติดล้อนี้นั้นคิดต่าง เพราะพี่คนนี้กลับคิดแต่ว่าทำอย่างไรถึงจะช่วยชาวบ้านที่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินนอกระบบให้ไม่ถูกเอาเปรียบเกินไปให้มากที่สุด
Data-Driven Culture กับ เงินติดล้อตามติด Data ว่าใครเป็นพนักงานที่ Popular ในหมู่พนักงานด้วยกัน แล้วก็ให้พนักงานนั้นเป็นตัวเชื่อมต่อสิ่งที่องค์กรอยากบอกไปถึงพนักงานทุกคนได้อย่างใจ จากงานเปิดบ้านรับสื่อแสดงวิสัยทัศน์และวัฒนธรรมองค์กรของเงินติดล้อเมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา ผม(การตลาดวันละตอน)ได้รับคำเชิญจากเงินติดล้อ(ลูกค้าเก่าสมัยอยู่เอเจนซี่ที่หนึ่ง)ให้ไปร่วมงานนี้ เลยขอหยิบเอาบางส่วนในงานที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟัง ว่าแท้จริงแล้วเงินติดล้อองค์กรที่ดูติดดินนั้น
แคมเปญการตลาด เงินติดล้อ แจกประกันอุบัติเหตุฟรีในช่วงสงกรานต์ เจอแคมเปญดีต้องรีบเล่า เงินติดล้อ อาสาดูแลคนไทยในช่วงสงกรานต์นี้ด้วยการจัดแคมเปญแจกฟรีประกันอุบัติเหตุถึง 100,000 บาท เพราะอุบัติเหตุอยู่รอบตัว และรถกว่าครึ่งบนท้องถนนก็ไม่มีประกันติดรถ เชื่อมั้ยครับว่ารถเกือบ 20 ล้านคันนั้นมีประกันติดรถกันแค่ครึ่ง นั่นเท่ากับว่าอีกครึ่งบนถนนนั้นเป็นรถไม่มีประกัน ทำให้เวลาเกิดอุบัติเหตุทีก็ยากที่จะหาข้อสรุปลงตัวกันได้ทั้งสองฝ่าย เป็นผลให้นอกจากเสียเวลาและยังต้องเสียเงินทองโดยใช่เหตุทั้งที่เป็นเรื่องที่ป้องกันได้ และช่วงสงกรานต์เทศกาลคืนสู่ถิ่นของคนไทยก็เป็นช่วงที่รถออกเดินทางเต็มท้องถนนไปหมด