9 Data Insights เจาะลึกครีมทาหน้าโดย Social Listening

9 Data Insights เจาะลึกครีมทาหน้าโดย Social Listening

Data Research Insights เผยทุกดาต้าพฤติกรรมลูกค้าและธุรกิจครีมทาหน้าในประเทศไทย จากการใช้ Social Listening โดยการตลาดวันละตอน x Removed Group ผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตครีม อาหารเสริม เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ความสวยความงามคุณภาพให้กับหลากหลายแบรนด์ดังทั่วไทย ด้วยความตั้งใจอยากยกระดับอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง และอาหารเสริมของประเทศไทยให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพด้วย Data ด้วยการแจกรายงานฉบับนี้ให้ฟรีสำหรับคนที่สนใจเริ่มธุรกิจนี้ครับ

บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจทุกมิติของจักรวาลครีมทาหน้า ตั้งแต่สารสกัดแบบไหนที่ได้รับความนิยมมาก คนต้องการผลลัพธ์แบบใดมากที่สุด แพคเกจขนาดเท่าไหร่ที่นิยมพูดถึงกัน เนื้อสัมผัสของครีมควรเป็นอย่างไร ทิศทางโปรโมชั่นเป็นแบบไหน ช่องทางการขาย Infleuncer และยังมีอีกหลากหลายมิติอินไซด์ครีมทาหน้าที่คุณจะได้รู้ในบทความนี้

แน่นอนว่าบทความนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้นของโปรเจค #BeautyDataInsight ระหว่างการตลาดวันละตอน x Revomed Thailand ดังนั้นใครที่อยู่ในธุรกิจนี้ต้องกดติดตามไม่ให้พลาด ใครที่อยากได้ผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำเรื่องการผลิตก็ปรึกษา Revomed ได้ฟรีครับ

ถ้าอยากรู้ Insight การใช้ครีมทาหน้าและตลาดนี้ของเมืองไทย เลื่อนลงไปอ่านต่อได้เลยครับ

Data Research Insight เจาะลึกครีมทาหน้า Skincare ด้วย Social Listening

เราแบ่ง Insights ครีมทาหน้าออกเป็น 9 หมวดหมู่หลักจาก Data ได้ดังนี้ครับ

  1. Ingredients
  2. Benefit
  3. Texture
  4. Skin Type
  5. Skincare Routine
  6. Packaging
  7. Shop
  8. Promotion
  9. Influencer

เชื่อว่าจะทำให้คนสนใจในธุรกิจครีมทาหน้าเห็นดาต้าทุกแง่มุมครบถ้วนเพื่อให้ง่ายต่อการเอาไปใช้วางแผน ปรับกลยุทธ์ หรือออกสินค้าใหม่ได้ตรงกับใจผู้บริโภคมากขึ้นครับ

แต่ก่อนจะไปเจาะลึก Insight แต่ละด้าน ลองมาดูภาพรวม Data ครีมทาหน้ากันก่อนดีกว่าว่าในช่วงเวลา 15/8/2023 – 15/8/2024 เราเจอดาต้าที่พูดถึงครีมทาหน้าในโซเชียลมีเดียทุกช่องทางเป็นอย่างไร

มีการโพสถึงครีมทาหน้าทั้งหมด 97,979 ครั้งทั้งทาง Facebook, Instagram, YouTube, TikTok และ X หรือ Twitter เดิม จากคีย์เวิร์ดคำที่เราใส่เข้าไปดังนี้

  • ครีมผิวหน้า
  • ครีมทาหน้า
  • ครีม + ทาหน้า
  • ครีม + บำรุง + หน้า
  • ครีม + ดูแล + หน้า
  • ครีม + ใบหน้า

ทั้งหมดนี้สังเกตจะเป็นสองกลุ่มคำหลัก นั่นก็คือคำว่า “ครีม” และคำว่า “หน้า” ที่เหลือคือการใส่คำที่ให้ได้ Data ที่เฉพาะเจาะจงระดับหนึ่ง ไม่กว้างมากไปจนทำให้ได้แต่ขยะมาล้นเกินเสียเวลา Cleansing Data และไม่แคบไปจนทำให้ไม่ได้มุมมอง Insight ใหม่ๆ ของการใช้ครีมทาหน้าของคนไทยครับ

ถ้าดูจากภาพด้านบนเราจะเห็นว่าการพูดถึงคีย์เวิร์ดทั้งหมดที่เกี่ยวกับ “ครีมทาหน้า” กระจายอยู่บนโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่างๆ ดังนี้

  1. Facebook 50.9%
  2. Instagram 25.8%
  3. X หรือ Twiter 11.3%
  4. YouTube 6.7%
  5. TikTok 5.4%

ส่วน Data ในมุม Engagement จะค่อนข้างมีลำดับที่แตกต่างกันดังนี้

  1. YouTube 46.9%
  2. Instagram 17.7%
  3. Facebook 17%
  4. TikTok 13.5%
  5. X หรือ Twitter 4.9%

จากภาพรวมสัดส่วนการโพสถึงครีมทาหน้าในแต่ละแพลตฟอร์ม ลองมาดูในรายละเอียดตามช่วงเวลาต่างๆ บ้างดีกว่าครับว่าช่วงไหน เดือนใด ที่คนโพสถึงครีมทาหน้าแตกต่างกัน

ภาพด้านบนจะแสดงผลดาต้าครีมทาหน้าตามช่วงเวลาต่างๆ ซ้ายบนคือจำนวนการพูดถึงในแต่ละช่วงเวลา ส่วนซ้ายล่างคือสัดส่วน Engagement ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลาเช่นกัน ขวาบนคือจำนวนคลิปที่เกี่ยวกับครีมทาหน้าใน YouTube ว่าเดือนไหนคนโพสมากน้อย ขวาล่างคือยอดวิวที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ส่วนหนึ่งมาจากคลิปโฆษณาของแบรนด์ใหญ่ที่มักอัดงบ Media Budget ให้เข้าถึงคนจำนวนมากในช่องทางนี้

ความน่าสนใจคือดูเหมือนสัดส่วนการโพสด้วย Instagram จะค่อนข้างสม่ำเสมอ แต่ Engagement บน TikTok กลับมีสัดส่วนที่สูงมากกว่า อีกนัยหนึ่งบอกให้รู้ว่าถ้าใครจะทำคอนเทนต์ ทำการตลาด ลองไปขยับขยายบนช่องทาง TikTok กับ Instagram เพิ่มเติมนะครับ

ถัดจากภาพรวม Data Overall เราจะมาเจาะลึก 9 Data Insight ของครีมทาหน้าของคนไทยกันดีกว่าครับ

9 Data Insight ครีมทาหน้าคนไทยจาก Social Listening

คนไทยพูดถึงครีมทาผิวหน้าแง่มุมไหนอย่างไรบ้าง มาดูตามลำดับกันครับ

  1. Benefit ใช้แล้วช่วยอะไร ต้องการคุณสมบัติแบบไหน 33%
  2. Texture เนื้อผิวของครีมแบบไหน 24%
  3. Promotion โปรแบบไหนที่ครีมทาหน้านิยมใช้ 11%
  4. Skincare Routine ใช้แบบกลางวันหรือกลางคืนมากกว่ากัน 10%
  5. Skin Type ต้องการครีมสำหรับผิวแบบไหน 7%
  6. Ingredients ส่วนผสมในตัวครีม 6%
  7. Packaging ขนาดเท่าไหร่ 5%
  8. Top Retail Shop วางขายที่ไหน 4%
  9. Influencer คนที่เป็นอินฟลูโพสถึงครีมทาหน้าบ่อยๆ

ถ้าเห็นภาพรวมแล้วเรามาเจาะลึก Data Insight ครีมทาหน้าไปทีละหัวข้อกันดีกว่าครับ เตรียมหายใจเข้าลึกๆ เพราะบทความชุดนี้จะละเอียดและยาวมากๆ

1. Cream Benefit 33% คนอยากได้ครีมทาหน้าเพื่อรักษาหรือช่วยเรื่องไหนมากที่สุด

ดูเหมือนว่าสิ่งที่คนไทยต้องการจากครีมทาหน้าทั้งหลายจากดาต้ามีลำดับตามนี้ครับ

  1. Acne สิว 34% เรื่องสิวยังไงก็ยังคงเป็นปัญหาอันดับหนึ่ง ตั้งแต่วัยรุ่น วัยสาว วัยทำงาน ไปจนถึงเริ่มมีอายุมากขึ้น สิวก็คงเกิดขึ้นกับเราได้เรื่อยๆ ดังนั้นสรรพคุณเรื่องการรักษาสิวทุกชนิดในครีมทาหน้า ยังเป็นปัจจัยหลักที่คนเลือกใช้ครับ
    • ทาง Removed Group ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า สิวเกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัยไม่ใช่แค่ฮอร์โมน หรือการอักเสบ หรือการอุดตันของรูขุมขนในร่างกายเท่านั้น ปัจจัยภายนอกทุกวันนี้ก็มีส่วนกระตุ้นให้เกิดสิวไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น
      • การรับประทานอาหารบางชนิด
      • การรับประทานยา หรืออาหารเสริมบางชนิด
      • การใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางที่มีฤทธิ์กระตุ้นการเกิดสิว
      • การใส่หน้ากากอนามัยนานๆ
      • ฝุ่น PM 2.5
      • สิวจากสารสเตียรอยด์
        และยังมีอีกมากหมายหลากหลายปัจจัยที่ไม่อาจพิมพ์ได้ทั้งหมด ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยทำไมคนถึงหวังพึ่งครีมทาหน้าทั้งหลายกับการรักษาเรื่องสิวบนหน้าให้หมดไปไม่เคยเปลี่ยนแปลง
  2. Brightening หน้าขาวกระจ่างใส 19% ประเด็นนี้ไม่ได้หมายถึงแค่ต้องการให้หน้าขาวใส แต่ยังรวมถึงต้องการลดจุดด่างดำ ลดฝ้า บางสูตรจะล้ำลึกไปถึงการกระตุ้นคอลลาเจนอีกด้วย
  3. Sunscreen กันแดด 16% เมืองไทยเป็นเมืองแดดร้อนอย่างรุนแรง และ Social Insight ก็ระบุว่าครีมกันแดดเป็นครีมสำคัญที่ต้องทาทุกวัน แม้จะอยู่แต่บ้าน อยู่ในร่มก็ต้องทา เพราะนอกจากจะเพื่อป้องกันรังสี UV ที่มองไม่เห็น แต่ยังเพื่อปกป้องไม่ให้ผิวแก่เร็วเช่นกัน
  4. Moisture ความชุ่มชื้น 15% บางคนมีปัญหาเรื่องผิวแห้งก็เลยต้องการครีมทาหน้าที่มีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าเป็นพิเศษ ดังนั้นพวกเขามองหาคุณสมบัติเรื่องการป้องกันการสูญเสียน้ำบนผิวหน้า เพราะจะส่งผลให้ผิวดูเด็ก ผิวเนียนนุ่ม และอื่นๆ ที่ได้จากการที่มีผิวหน้าที่ชุ่มชื้นไม่แห้งกร้านครับ
  5. Anti-Aging ลดเลือนริ้วรอยชะลอวัย 8% ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยมากขึ้นทุกวัน ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่มีผู้บริโภคกลุ่มหนึ่งต้องการครีมที่มีความสามารถในการชะลอวัยเป็นอย่างดี บวกกับคนรุ่นใหม่อายุน้อยก็อยากรักษาผิวหน้าให้ดูเด็กอ่อนเยาว์ตลอดเวลา ครีมไหนสามารถช่วยเรื่องนี้ได้ก็จะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคไม่น้อยครับ
  6. Targeted Treatments การบำรุงดูแลเฉพาะจุด 5% บางคนต้องการการแก้ปัญหาเฉพาะจุด เฉพาะส่วนเป็นพิเศษ ก็เลยจะใช้ครีมทาหน้าที่บำรุงดูแลทั่วไปทั้งหน้าไม่ได้ แต่ต้องการแก้เรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ เช่น รอบดวงตา จมูก หรือบริเวณ T-Zone ครับ
  7. Exfoliating ผลัดเซลล์ผิวเก่า 3% อีกหนึ่งคุณสมบัติที่ผู้คนให้ความสนใจสำหรับครีมทาหน้าคือการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออกไป เพื่อเป็นการกระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ให้เกิดไวขึ้น

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 7 ประเด็น Insight คุณสมบัติแบบไหนในครีมทาหน้าที่คนไทยต้องการ ลองมาดูรายละเอียดตัวอย่าง Top Post Engagement แต่ละเรื่องจากแต่ละแบรนด์ เพื่อให้เราได้เห็นบริบทภาพรวมกันนะครับ

Benefit ที่ 1 Acne สิว 34% Top 3 Engagement

Top 3 engagement by brand ในหมวดสิว มีดังนี้:

  1. NISIT OFFICIAL: นิสิตเซรั่ม เซรั่มที่ช่วยเรื่องปัญหาผิวหน้าพร้อมกับสารสกัดที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว (เนื่องจากมีแฮชแท็กที่มีคำว่าครีม และผิวหน้า จึงถูกจัดลำดับเข้ามาด้วย) ในวิดีโอกล่าวถึงสรรพคุณ เนื้อครีมซึมไว
  2. Sistarbeautyskin: ซิสต้าร์ วอเตอร์เมลอน อีอี ครีม ใช้ได้ทุกสภาพผิวแม้คนเป็นสิว
  3. Smootojapan: ด้วยแบรนด์สมูทโตะ จะมีแฮชแท็ก #ครีมซองใช้ดีต้องสมูทโตะ และคำว่าหน้าใส ลดสิวอุตันและสิวอักเสปได้ เลยติดอันดับต้น ๆ เสมอ

Benefit ที่ 2 Brightening หน้าขาวกระจ่างใส 19% Top 3 Engagement

เป็นแบรนด์ที่หาซื้อง่าย และมี Influencer Review เน้นมีภาพผิวหน้าที่ดีประกอบด้วย ซึ่ง Top 3 engagement by brand ในหมวดความกระจ่างใส มีดังนี้:

  1. Sistarbeautyskin: ซิสต้าร์ วอเตอร์เมลอน อีอี ครีม เผยผิวกระจ่างใส ไม่หมองคล้ำ
  2. Rojukiss: แอมพลู+เจลครีม มีสารสกัด PDRN ที่อยู่ใน รีจูรัน ช่วยให้ผิวกระจ่างใส รูขุมขนกระชับ
  3. Jula’s Herb Thailand: โดสส้มแดงจุฬาเฮิร์บ ฟื้นฟูผิวคล้ำเสียให้ขาวขึ้น เร่งผิวขาวกระจ่างใส ปรับสีผิวสม่ำเสมอ

Benefit ที่ 3 Sunscreen กันแดด 16% Top Post Engagement

เป็นกระแสมากสำหรับกันแดดจากหลากหลายบรรจุภัณฑ์ ซึ่ง Top Post Engagement by brand ในหมวดครีมกันแดด มีดังนี้:

  1. ALESE: อะลิเซ่ครีมกันแดด กันฝ้า พร้อมบำรุง สู้ทุกแสง หน้าไม่หมอง ต้องมีติดบ้าน
  2. MizuMi: ไม่ใช่ครีมกันแดดที่ติดอันดับ แต่เป็นคอนเทนต์ที่ย้ำว่า ครีมกันแดด คือสิ่งที่สำคัญมากแค่ไหนต่อการดูแลผิวหน้า เนื้อหาคือก่อนใช้เซรั่ม MizuMi ต้องกลับไปเตรียมผิวให้แข็งแรงก่อน นั่นคือการทากันแดดในตอนเช้าของทุกวัน

Benefit ที่ 4 Moisture เพิ่มความชุ่มชื้นของผิว 15% Top Post Engagement

การเน้นความชุ่มชื้นจะเป็นคำที่แบรนด์ใหญ่ต้องมีติดเป็นสรรพคุณหลัก ๆ แข่งขันสูง มีผู้เชี่ยวชาญหรือผู้มีชื่อเสียงดึงดูด ซึ่ง Top Post Engagement by brand ในหมวดความชุ่มชื้น มีดังนี้:

  1. Rojukiss: Rojukiss Anti-Gravity Face Eye Neck Cream & Serum ครีมทาหน้า ตา คอ ที่ทาง Rojukiss เขาอัดส่วนผสมมาเพื่อดูแลปัญหาผิวตามอายุ ตั้ง 30 ชนิดคือ 10X Collagen, 10X Peptide และ 10 Forms Of Vitamin ทั้งหมดนี่จะช่วยให้ผิวยืดหยุ่น กระชับ นุ่มชุ่มชื้น
  2. 𝐊𝐀 𝐀𝐠𝐢𝐧𝐠 𝐏𝐫𝐨: เข้าบำรุงผิวล้ำลึก ปกป้องพร้อมยกกระชับผิวหน้า ลดเลือนริ้วรอยเฉพาะจุด เติมความชุ่มชื้นให้ผิวดูสุขภาพดี ไม่แห้งหยาบ

Benefit ที่ 5 Anti-Aging ลดเลือนริ้วรอย 8% Top 3 Engagement

เป็นสรรพคุณที่พ่วงไปกับการบำรุง 3 แบรนด์นี้จะย้ำคำว่า ลดริ้วรอย หรือหน้าเด้งอิ่มฟู แก้ปัญหาแก่ก่อนวัย เป็นต้น ซึ่ง Top 3 engagement by brand ในหมวด Anti-Aging มีดังนี้:

  1. ALESE: อะลิเซครีมเกาหลี หน้าเด้ง ผิวฉ่ำอิ่มฟูข้ามคืน ลดริ้วรอยสุด สุดจึ้ง
  2. NISIT OFFICIAL: นิสิตครีมเกลือชมพู ที่มีนวัตกรรมช่วยให้หน้ากระจ่างใส ลดริ้วรอย ตีนกา ลงลึกระดับเซลล์ผิว หน้าเด็กลง ผิวอ่อนเยาว์ รู้สึกได้ใน 28 วันหลังใช้
  3. Rojukiss: Rojukiss Anti-Gravity Face Eye Neck Cream & Serum ครีมทาหน้า ตา คอ ที่ทาง Rojukiss เขาอัดส่วนผสมมาเพื่อดูแลปัญหาผิวตามอายุ ตั้ง 30 ชนิดคือ 10X Collagen, 10X Peptide และ 10 Forms Of Vitamin ทั้งหมดนี่จะช่วยให้ผิวยืดหยุ่น กระชับ นุ่มชุ่มชื้น

Benefit ที่ 6 Targeted Treatments บำรุงเฉพาะจุดบนใบหน้า 5% Top 3 Engagement

คำว่าบำรุงเป็นคำที่ทุกแบรนด์ใช้ แต่ 2 แบรนด์นี้มีการรีวิวหรือเน้นสรรพคุณเฉพาะจุดบนผิวหน้าเป็นอย่างดี ซึ่ง Top 3 engagement by brand ในหมวดการบำรุงเฉพาะจุด มีดังนี้:

  1. NISIT OFFICIAL: รีวิวผู้ใช้จริง พลังผลึกเกลือชมพูฟื้นฟูบำรุงผิวหน้าและซ่อมแซมผิว
  2. NISIT OFFICIAL: อีกหนึ่งรีวิวผู้ใช้จริง พลังผลึกเกลือชมพูฟื้นฟูบำรุงผิวหน้าและซ่อมแซมผิว
  3. Her Hyness: Her Hyness คือ แบรนด์สกินแคร์ เจ้าของผลิตภัณฑ์ แผ่นมาสก์ชีทสีดำ ครีมกันแดดเนื้อบางเบาขวดสีชมพู และเซรั่มขวดสีพาสเทลตัวดังในโซเชียลมีเดีย

เพื่อส่องขยายบริบทของหารบำรุงผิวหน้า เราจะมาดูกันว่าแล้วจุดไหนล่ะที่ต้องการ การบำรุงมากที่สุด

ผลคือรอบดวงตาเป็นบริเวณที่ต้องการบำรุงมากที่สุด 64.3% เพราะมีปัญหาได้ทั้งใต้ตาคล้ำตีนกา ริ้วรอย ตามมาด้วยจุดที่มีรูขุมขนกว้างอย่าง จมูก ที่เกิดการอุดตันได้ง่าย 29.4% และบริเวณ T-Zone 6.3%

และทาง Removed Group ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตเครื่องสำอาง และอาหารเสริมมีความเห็นเพิ่มเติมว่าอีกสาเหตุหนึ่งที่อาจจะส่งผลให้ผู้บริโภคสนใจครีมบำรุงรอบดวงตามากกว่าบริเวณอื่น ๆ อาจจะเนื่องจากเป็นจุดที่ใกล้ดวงตา กลัวอันตรายหรือผลข้างเคียง หากจะต้องทำศัลยกรรมบริเวณนี้ ดังนั้น การเลือกทาครีมจึงเป็นวิธีที่คิดว่าสะดวก ราคาไม่แพง และปลอดภัยมากกว่า

Benefit ที่ 6 Exfoliating การผลัดเซลล์บนผิวหน้า 3% Top 3 Engagement

มักใช้การรีวิวหรือโปรโมตอย่างละเอียด มีการรับรอง เช่น กูรูด้านครีม อธิบายส่วนผสมและการทำงานของครีมซึ่ง Top 3 engagement by brand ในหมวดการผลัดเซลล์ผิวหน้าให้กระจ่างใส มีดังนี้:

  1. Rojukiss: แอมพลู+เจลครีม มีสารสกัด PDRN ที่อยู่ใน รีจูรัน บำรุงบ่อยๆหน้าใส หน้าสดก็ไม่กลัว
  2. Her Hyness: HER HYNESS POWER GLOW PORE REFINE SERUM 6.6 โปรเด็ดสุดปังจากบ้าน HER HYNESS x Shopee ลดทั้งแบรนด์ ซื้อ 1 แถม 1 !!
  3. AVENE : เจลครีมที่เน้นลดการเสื่อมของเซลล์ ทำให้ผิวเราเด้งเต่งตึง อิ่มฟู หน้าดูอ่อนกว่าวัย สารสำคัญหลักก็จะมี

เป็นอย่างไรครับนี่เป็นแค่ 1 Data Insight หลักจาก 9 หัวข้อก็ยังเต็มไปด้วยดาต้ามากมายขนาดนี้ เรามาต่อ Data Insight ที่ 2 นั่นก็คือเรื่อง Ingredients ส่วนผสมหรือสารกสกัดในครีมทาหน้าที่คนให้ความสนใจในวันนี้ครับ

2. Ingredients 6% ส่วนผสมหรือสารกสกัดใดในครีมทาหน้าที่ผู้บริโภคให้ความสนใจมากที่สุด

ส่วนผสมหรือสารสกัดในครีมทาหน้าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้คนให้ความสำคัญเป็นอันดับสองมากถึง 19% รองจากเรื่องคุณสมบัติหรือประโยชน์ที่จะได้รับ บอกให้รู้ว่าผู้คนใส่ใจกับรายละเอียดเยอะขึ้น หาข้อมูลกันมากขึ้น ไม่ได้หลงเชื่ออย่างเดียวว่าสิวหาย หน้าใส ผิวขาว หรือดูอ่อนเยาว์เท่านั้น แต่ยังดูไปถึงสารสกัดส่วนประกอบว่าตกลงใช้ไปแล้วผลลัพธ์ที่ได้จะตรงปกหรือเปล่า

และนี่ก็เป็น 19 อันดับส่วนผสมหรือสารสกัดในครีมทาหน้าที่คนไทยให้ความสนใจครับ

  1. Hyaluronic Acid 34% เพราะเทรนด์การมีผิวที่ดูใสอิ่มน้ำ หน้าเด้ง และครีมที่มีกลุ่มเป้าหมายเกินวัยรุ่นบนโซเชียลจะเน้นไปในเรื่องการเพิ่มความชุ่มชื้น สอดคล้องกับแนวโน้มที่ผู้คนต้องการผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงในการบำรุงผิว
  2. Vitamin C 21% ช่วยปรับสีผิวให้สว่าง กระจ่างใส และต้านอนุมูลอิสระ
  3. Vitamin E 9% ให้ความชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากการอักเสบ
  4. Niacinamide 7% ช่วยลดริ้วรอยและปรับสมดุลการสร้างน้ำมัน
  5. Retinol 6% ส่งเสริมการผลัดเซลล์ผิวและลดเลือนจุดด่างดำ
  6. Vitamin B3 4% ช่วยลดความแห้งกร้านและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ช่วยให้ผิวเต่งตึงและเรียบเนียน 
  7. AHAs 4% ช่วยลดเลือนริ้วรอย คืนความอ่อนเยาว์
  8. BHA 4% ละลายไขมันในรูขุมขน ลดการเกิดสิว
  9. Zinc Oxide 3% ปกป้องผิวจากรังสี UV และลดการอักเสบ
  10. Vitamin A 2% ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
  11. Salicylic Acid 2% ช่วยรักษาสิวและลดการอุดตันของรูขุมขน
  12. Titanium Dioxide 1% มีคุณสมบัติเป็นกันแดดที่ปลอดภัยต่อผิว
  13. Vitamin B5 ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูเซลล์ผิว
  14. Tea Tree Oil <1% มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อแบคทีเรียและต้านการอักเสบ
  15. Squalane <1% ช่วยให้ความชุ่มชื้นและเป็นมิตรกับผิว
  16. Lactic Acid <1% ช่วยผลัดเซลล์ผิวให้เรียบเนียนและให้ความชุ่มชื้น
  17. Glycolic Acid <1% ช่วยให้รอยสิว จุดด่างดำ ดูจางลง
  18. Peptides <1% กระตุ้นการฟื้นฟูเซลล์และลดเลือนริ้วรอย
  19. Vitamin K <1% ช่วยในการฟื้นฟูและลดรอยคล้ำใต้ตา

ถ้าจับกลุ่มสารสกัดจาก Benefit ผลลัพธ์ที่จะได้จริงๆ ก็จะมีเรื่องของความชุ่มชื้นมาเป็นอันดับ 1 ตามมาด้วยการปรับสีผิว แล้วก็ลดเลือนริ้วรอยต่างๆ ครับ

ใครกำลังมีแผนจะผลิตครีมทาหน้าแบรนด์ตัวเอง ลองเอา Data ชุดนี้ไปปรึกษากับทาง Removed Group พาร์ทเนอร์การตลาดวันละตอนในการทำดาต้าแจกฟรีชุดนี้ดูนะครับ

จากส่วนประกอบเรามาต่อกันที่ Insight ที่ 3 ที่คนให้ความสำคัญนั่นก้คือ Texture ผิวสัมผัสหรือเนื้อครีมทาหน้ากันดีกว่าครับ

3. Texture 24% ผิวสัมผัสหรือเนื้อครีมแบบไหนที่คนไทยให้ความสำคัญ

  1. Serum 54% เซรั่มในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเซรั่มทั่วไป แต่หมายถึงครีมเนื้อเซรั่ม เพื่อสื่อถึงความบางเบา ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย เพื่อจะได้ประสิทธิภาพจากสารสกัดสูงสุด
  2. เนื้อครีม 27% ผู้คนพูดถึงครีมที่เป็นเนื้อครีมแบบดั้งเดิม ข้นได้แต่ต้องไม่หนาจนเกินไป
  3. เจล 18% ผู้คนพูดถึงเนื้อใสแบบเจลเป็นหลัก แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องบางเบาอย่างเดียว อาจมีความเหนียวได้
  4. Balm เนื้อบาล์ม 2% มักมาในรูปแบบกระปุกบาล์ม หรือบาล์มแท่งที่ใช้งานง่าย พกพาสะดวก
  5. Emulsion 1% เป็นเนื้อน้ำนมกึ่งเจล บางสูตรเป็นน้ำมันในน้ำที่บางเบากว่าครีม แต่บำรุงได้อาจไม่เท่าเนื้อเซรั่ม

ทาง Removed Group ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ให้ความเห็นว่า “คนส่วนใหญ่ชอบเนื้อเซรั่มมากกว่าเนื้อครีม เพราะเนื้อบางเบา และตอบวัตถุประสงค์ตรงจุดมากกว่าครีม”

รู้แบบนี้ครีมขวดถัดไปเลือกผลิตออกแบบให้ตรงใจผู้บริโภคมากขึ้นนะครับ

ถัดจาก Texture ผิวสัมผัส เรามาเจาะลึกดู Insight สภาพผิวคนไทยกันดีกว่าว่าส่วนใหญ่ครีมทาหน้าที่ผลิตออกมาเน้นกลุ่มผู้ใช้สภาพผิวแบบไหนกัน

4. Skin Type 7% ครีมทาหน้าส่วนใหญ่ออกแบบมาเพื่อคนกลุ่มไหนบ้าง

จาก Data ทำให้เราเห็นว่ากว่า 65.8% ทำมาเพื่อคนผิวแห้ง น่าแปลกใจไหมครับทั้งที่เมืองไทยเป็นเมืองร้อน สภาพผิวส่วนใหญ่ควรทำมาเพื่อคนผิวมันซิ

แต่อย่าลืมว่าปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนไทยผิวแห้งก็คืออากาศในห้องแอร์ นั่นหมายความว่าครีมส่วนใหญ่อาจเน้นจับกลุ่มคนทำงานในออฟฟิศห้องแอร์เป็นหลัก เมื่ออยู่ในห้องแอร์นานๆ ผิวก็แห้ง ก็เลยจำเป็นต้องมีครีมเพื่อคนกลุ่มนี้มากเป็นพิเศษถึง 2 ใน 3 ที่วางขายในท้องตลาดครับ

อันดับ 2 คือ ผิวมัน 27.4% ที่อาจเน้นคนที่มีปัญหาเรื่องผิวมันมากแม้จะอยู่ในห้องแอร์ แต่กลุ่มเป้าหมายหลักๆ น่าจะเป็นคนที่ไม่ได้ทำงานในห้องแอร์ ไปจนถึงคนที่อยู่กลางแดด กลางแจ้ง แต่ก็อาจมีไม่มากนัก

อันดับ 3 ผิวผสม 6.7% สัดส่วนของครีมทาหน้าที่ทำมาเพื่อคนกลุ่มนี้ยังคงน้อยอยู่ครับ

ทาง Removed Group ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเรื่องการผลิตยา อาหารเสริม ไปจนถึงเครื่องสำอางมีความเห็นในเรื่องนี้ว่า

“โดยธรรมชาติคนไทยส่วนใหญ่มีผิวมันหรือไม่ก็ผิวผสมที่ค่อนไปทางมัน แต่ปัจจุบันคนไทยหลายคนประสบปัญหาผิวแห้ง ผิวลอก แล้วอาจจะเข้าใจผิดว่าตัวเองผิวแห้งโดยกำเนิด แต่จริง ๆ แล้วอาจจะเกิดจากพฤติกรรมและมลภาวะจากภายนอกที่เผชิญอยู่ในทุกวัน เช่น การดื่มน้ำไม่เพียงพอ การทานกาแฟมากเกินไป การนั่งทำงานในห้องแอร์นาน ๆ และ ฝุ่น PM 2.5 เป็นต้น”

จาก Insight สภาพผิวของคนไทยมาต่อกันที่ครีมทาหน้าส่วนใหญ่ทำมาเพื่อใช้ในช่วงเวลาไหนกันครับ

5. Routine 10% ครีมทาหน้าในท้องตลาดเน้นการบำรุงดูแลช่วงเวลาไหน

  1. Night 60% จาก Data Insight การใช้ครีมทาหน้าในช่วงกลางคืนมักเป็นเซรั่มหรือไนท์ครีม เน้นการบำรุงในช่วงเวลาที่สามารถพื้นฟูตอนอยู่บ้านได้เต็มที่ เพราะไม่มีกิจกรรมใดที่จะมาทำร้ายผิว ไม่มี UV จากแดดเหมือนตอนกลางวัน คนเลยให้ความสำคัญกับครีมบำรุงกลางคืนมากกว่ากลางวัน
  2. Day 40% ครีมเพื่อผิวหน้าเวลากลางวันอาจไม่เยอะมาก เพราะ Night Cream หลายตัวก็เคลมว่าใช้ได้ทั้งกลางวันกลางคืนในวันนี้

ทาง Removed Group มีความเห็นเพิ่มเติมในเรื่องนี้ในฐานะผู้เชี่ยวชาญว่า

“การดูแลผิวตอนกลางวันน้อยกว่าตอนกลางคืน อีกหนึ่งสาเหตุอาจจะเนื่องจากความเร่งรีบในตอนเช้า ทำให้มีเวลาดูแลผิวน้อยกว่าตอนกลางคืน ช่วงเช้าอาจจะเหมาะกับครีมหรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่หลายขั้นตอน โดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องต้องเผื่อเวลาแต่งหน้าในตอนเช้าด้วย”

6. Packaging 5% ครีมทาหน้าในท้องตลาดปัจจุบันมีกี่แบบ

จาก Data Insight การใช้งาน คุณสมบัติ ลองมาสำรวจตลาดกันดีกว่าว่าครีมทาหน้าปัจจุบันมีแพคเกจไซส์แบบไหนวางจำหน่ายบ้าง

  1. 35% แบบกระปุก
  2. 25.4% แบบหลอด
  3. 19.9% แบบขวด
  4. 16% แบบซอง
  5. 3.6% แบบแท่ง

ความน่าสนใจคือครีมทาผิวหน้าแบบกระปุกได้รับความนิยมมากที่สุด ส่วนแบบแท่งก็เริ่มมาเช่นเดียกัน มักใช้ในรูปแบบครีมกันแดดทาทับเครื่องสำอางได้เลย

เอาข้อมูลชุดนี้ไปอ้างอิงรูปแบบการผลิตได้เลยครับ

7. Top Retail Shop 4% ช่องทางการขายครีมทาหน้าในไทย

รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง ก่อนจะทุ่มทรัพยากรและวางแผนกลยุทธ์ว่าจะบุกตลาดช่องทางไหนดี ลองมาดูกันก่อนดีกว่าครับว่าจาก Data สินค้ากลุ่มครีมทาหน้านั้นนิยมวางจำหน่ายขายช่องทางไหนกัน

  1. Shopee 35.1%
  2. Lazada 26.7%
  3. ตัวแทนจำหน่าย 18.7%
  4. 7 Eleven 11.7%
  5. Watson 5.5%
  6. Lotus 1%
  7. ห้างสรรพสินค้าอื่นๆ 1%

ดูจากภาพรวมจะเห็นว่าช่องทางออนไลน์กลายเป็นช่องทางหลักของสินค้ากลุ่มครีมทาหน้า เพราะกินสัดส่วนไปมากว่า 2 ใน 3 ทางออฟไลน์มีแค่ 1 ใน 3 เท่านั้นเอง

เหตุผลที่ช่องทาง Shopee กับ Lazada เยอะมากก็เพราะสามารถทำ Affiliate Marketing หรือแปะลิงก์ช่วยขายเพื่อรับค่าคอมมิชชั่นส่วนแบ่งได้ ดังนั้นถ้าใครจะขายออนไลน์ก็อย่าลืมวางกลยุทธ์ Affiliate ด้วยนะครับ จะช่วยให้คนอยากสนับสนุนสินค้าคุณมากกว่าคู่แข่งได้ง่ายๆ

อ่านถึงตรงนี้แล้วยังมีแรงฮึดอ่านอยู่มั้ยครับ บอกแล้วว่า Data Research Insights ที่การตลาดวันละตอนทำต่อให้แจกอ่านฟรีก็อัดแน่นแบบจุกๆ เหลืออีกนิดเดียวใกล้จะจบแล้ว อ่านจบแล้วคุณจะได้เอาไปปรับใช้กับการทำธุรกิจให้มีประสิทธิภาพและแม่นยำได้กว่าเดิมสบายๆ

8. Promotion 11% ครีมทาหน้าในไทยชอบทำการตลาดเพิ่มยอดขายด้วยโปรโมชั่นส่งเสริมการขายแบบไหนบ้าง

แน่นอนว่าการจะเพิ่มยอดขายให้โตไวก็ต้องอาศัยการใช้โปรโมชั่นบ้าง ดังนั้นเราจะมาดูจาก Data กันว่าธุรกิจครีมทาหน้าในไทยทุกวันนี้แบรนด์ต่างๆ ของเล่นโปรแบบไหน เพื่อที่เราจะได้หลบเลี่ยงหรือทำให้ดีกว่า เพื่อดึงดูดลูกค้ามาซื้อเรามากกว่าคนอื่นครับ

  1. ส่งฟรี 47% ดูเหมือนจากข้อมูลทุกสำนักก็ล้วนมาในทิศทางนี้ ลองต่อยอดด้วยการเอาค่าส่งไปรวมกับค่าสินค้า หรือจัดโปรโมชั่นซื้อครบเท่านี้ชิ้น เท่านี้บาท จะได้รับการจัดส่งฟรีดูนะครับ
  2. Special Set 21% ดูเหมือนคนจะชอบการซื้อเป็นเซ็ทมากกว่า ลองหาไอเดียจัดเซ็ทชุดใหญ่เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้มค่าดูนะครับ
  3. ลดราคา 14% เดี๋ยวจะมาเจาะลึกในรายละเอียดว่าสินค้าครีมทาหน้าทุกวันนี้พวกเขาชอบเล่นโปรโมชั่นลดกี่เปอร์เซนต์กัน
  4. ราคาสมาชิก 8% ดูเหมือนว่าระบบ CRM หรือ Loyalty Program จะได้ผลน่าสนใจในบ้านเรา ลองออกแบบระบบสมาชิกดูนะครับว่าต้องซื้อครบเท่าไหร่ถึงจะได้ หรือเทรนด์ใหม่คือยอมจ่ายเงินเพื่อรับสิทธิพิเศษแบบสมาชิกเลยก็มีไม่น้อย
  5. 1 แถม 1 4%
  6. โปรโมชั่นเดือนเกิด 3%
  7. โปรจับคู่ 3%

โปรโมชั่นส่วนลดที่สินค้าครีมทาหน้าชอบเล่นกัน

  1. ลด 10% มีสัดส่วน 23.2%
  2. ลด 90% มีสัดส่วน 19.2%
  3. ลด 20% มีสัดส่วน 13.4%
  4. ลด 50% มีสัดส่วน 11.9%
  5. ลด 30% มีสัดส่วน 8%
  6. ลด 70% มีสัดส่วน 7.8%
  7. ลด 80% มีสัดส่วน 7.1%
  8. ลด 40% มีสัดส่วน 5.6%
  9. ลด 60% มีสัดส่วน 3.8%

ดูเหมือนสินค้ากลุ่มครีมทาหน้าจะมีทั้งชนิดที่เล่นโปรแรงจัดหนักลด 90% ไม่น้อย แต่ถ้าเอาสัดส่วนการลดของ 10-20% มารวมกันก็มีมากถึง 36.6% หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของทั้งหมด ส่วนตัวผมมองว่าส่วนลดแบบนี้ทำให้ธุรกิจอยู่ได้ และแบรนด์ก็ดูจริงใจไม่หลอกลวง

อย่างไรก็ตามเอาไปเลือกปรับใช้และตัดสินใจตามที่ตัวเองคิดว่าดี ถึงจะให้ผลดีที่สุดครับ

ภาพสรุปรวม Data Research 8 Insights ครีมทาผิวหน้าจาก Social Listening

มาถึงพาร์ทสุดท้ายส่วนเสริมจาก Data ชุดนี้แล้วนั่นก็คือ Influencers ในสินค้ากลุ่มนี้มีใคร จำแนกแยกออกได้เป็นกี่กลุ่ม ลองมาดูเพื่อเอาไปตัดสินใจว่าควรขยับไปจ้างอินฟลูคนไหน หรืออินฟลูด้านไหนที่เราอาจลืมคิดไปในปีก่อนครับ

4 Type Influencer สายครีมหน้า

จาก Data ที่เราเก็บมาจาก Social Listening ว่ามีใครโพสถึงเรื่องครีมทาหน้าบ้าง เมื่อเราคัดโพสจากแบรนด์หรือโพสขายของทั่วไปออก ก็พบว่ามี Influencer สินค้ากลุ่มนี้แบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มหลัก 4 กลุ่มย่อยดังนี้ครับ

  1. Expert & Guru คนกลุ่มนี้คือผู้รู้จริง มีความรู้จริงๆ หรือมีประสบการณ์จริงๆ ไม่ใช่แค่เก่งการทำคอนเทนต์ให้น่าดูเฉยๆ ประกอบด้วย
    • 1.1 Skincare Expert เป็นผู้ที่มีความรู้เฉพาะทางด้านสกินแคร์ ผลิตภัณฑ์บำรุงดูแลผิว อาจเป็นแพทย์ หรือเภสัชกร ทำให้สินค้าที่ถูกพูดถึงมีน้ำหนักความน่าเชื่อถืออย่างมาก ทำให้คนสนใจติดตามอยากดูนานขึ้น
    • 1.2 Beauty Influencer แม้คนกลุ่มนี้จะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้โดนตรง แต่ก็มีประสบการณ์ตรงทำคอนเทนต์ด้านความงามมานานพอจะบอกได้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี แล้วก็บวกกับมีฐานผู้ติดตามที่สนใจในเรื่องนี้อยู่มาก
  2. Content Creator เป็นกลุ่มนักทำคอนเทนต์ทั่วไป อินฟลูทั่วไป ข้อดีคือสามารถสร้างการรับรู้สินค้าของเราในวงที่กว้างขึ้นได้ ประกอบด้วย
    • 2.1 Lifestyle Influencer / TikToker / Creator เป็นกลุ่มคนที่มี Personal Look หรือ Personal Branding ที่น่าสนใจ แบรนด์ควรเลือกหาคนที่ตรงกับแบรนด์มากกว่าแค่จำนวนผู้ติดตาม คนกลุ่มนี้มีความ Creative ในการคิดคอนเทนต์รูปแบบใหม่ๆ ที่ Influencer กลุ่ม Expert & Guru อาจไม่สู้ได้ การใช้คนกลุ่มนี้ในการช่วยโปรโมทจะทำให้แบรนด์เราเป็นที่รู้จักมากขึ้นไปอีก
    • 2.2 Micro-Influencer เทรนด์นี้ยังคงใช้ได้อยู่และใช้ได้จริง มันคือการให้คนที่มีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียจำนวนหนึ่ง ระหว่าง 1,000 – 100,000 คนช่วยโปรโมทหรือโพสถึงเรา ข้อดีคือเราสามารถจ้างได้จำนวนมาก ถ้าเรามีวัตถุประสงค์เพื่อกระจายการรับรู้ออกไปให้ลึกกว่าแค่การใช้ Influencer เบอร์ใหญ่ คนกลุ่มนี้มีความเป็นธรรมชาติมากกว่า ดูเรียลกว่า และอาจเข้าถึงกลุ่มที่เฉพาะเจาะจงมากๆ ที่อินฟลูเบอร์ใหญ่เข้าถึงไม่ได้ครับ

จาก 4 Type Influencer เราลองมาเจาะลึกดูในรายละเอียดจาก Top Post Engagement ในแต่ละสายที่เล่าให้ฟังเพิ่มเติมดีกว่าครับ

Top 5 Engagement post: Skincare Expert

  1. foong.creamguy: แชร์ morning routine สำหรับคนเป็นสิว
  2. d_klang: หมอกลาง เอาครีมทาหน้า มาทารักแร้ได้มั้ย
  3. oak_smith: หมอโอ๊ค แชร์ skin care routine 
  4. GURUCHECK เช็ค กับ กูรู: หม่องมาป้ายยา 6.6 โปรเด็ดสุดปัง
  5. ร่างทองหมื่นปี สอนใช้สกินแคร์: 10 ข้อแนะนำ มือใหม่อยากเริ่มใช้เรตินอล Retinol กลุ่มวิตามินเอ

Top 5 Engagement post: Beauty Influencer

  1. babyjingko: CeraVe Skin Barrier Winter Wonderland ลาน Parc Paragon
  2. Skindex: ตรวจการบ้าน : Rojukiss Anti-Gravity Face Eye Neck Cream & Serum
  3. _fahnnr: รีวิวบิวตี้ น้องสามารถช่วยใต้ตาคนนอน 2 ชม. อย่างฟ้าได้
  4. แฟนบตบก: รีวิว Eucerin Spotless Brightening Booster Serum
  5. ผู้ชายใช้ครีม: รีวิวเซรั่มสิวที่ใช้ซ้ำตลอด 3 ปี จัดการสิวไว จบครบทุกสิว แนะนำต้องว่ามี | La Roche-Posay Effaclar Serum

Top 5 Engagement post: Lifestyle Influencer / TikToker / Creator

  1. Tuklittlemonster: แม่ตุ๊กรีวิวเจลล้างหน้าซิบบลิ้ง
  2. 2Madames เที่ยวและไลฟ์สไตล์แบบครอบครัว: รีวิว CeraVe Moisturizing Cream: ตรวจการบ้าน : Rojukiss Anti-Gravity Face Eye Neck Cream & Serum
  3. amporn_56: รีวิว Inn Beauty Gluta White Soothing Moist
  4. nutapiwich: ครีมทาหน้าบนชั้นธุรกิจ สายการบิน Qatar
  5. มิลค์เศษใจ: รีวิว Gravich Retinol Complex Concentrate Serum 30 ml หยุดสัญญาณความแก่ เซรั่มเรตินอล 1.7%

Top 5 Engagement post: Micro Influencer

ตัวเลข Follower บางคนอาจจะเกินเกณฑ์ความเป็น Micro Influencer ไปบ้าง แต่ถือเป็นลิสต์อินฟลูที่มีประโยชน์กับธุรกิจที่กำลังหาคนป้ายยาเก่ง ๆ แน่นอน

  1. บีนบอก: xhkppkแอมพลู+เจลครีม ของ Rojukiss
  2. เลี้ยงลูกตามใจหมอ: แนะนำผลิตภัณฑ์ Mustela
  3. ป้ายยา รีวิว: รวมไอเท็มสาวกคนทำงาน ใน7-11
  4. ตาลส ตั ล: ป้ายยา La Roche-Posay Cicaplast Baume B5+
  5. รีวิวเฉยๆ: ป้ายยา มอยเจอไรเซอร์ รู้งี้ซื้อนานแล้ว

สรุป Data Research 9 Insight ครีมทาหน้าจาก Social Listening

จากภาพรวมทั้งหมดคุณคงเห็นแล้วว่า Data Insights ครีมทาหน้านั้นมีแง่มุมที่หลากหลายกว่าที่คิด ดังนั้นธุรกิจนี้ไม่ง่าย แต่มันจะไม่ยากกว่าที่เป็นถ้าเรามี Data ดีๆ เอาไว้ตัดสินใจ และอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญก็คือผู้เชี่ยวชาญที่รู้จริงในด้านนี้ที่จะคอยให้คำปรึกษาแนะนำ ที่จะลดความเสี่ยงในการตัดสินใจพลาด เหลือแค่ทางที่ถูกต้อง กับเส้นทางใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครบุกเบิกไป

ผมขอสรุป 9 Data Insights ทั้งหมดทิ้งท้ายไว้อีกครั้ง

  1. 33% เน้น Benefit ผลลัพธ์ ใช้แล้วจะช่วยอะไรได้บ้าง
  2. 24% Texture เนื้อผิวครีม เนื้อเซรั่มมาอันดับหนึ่ง
  3. 11% Promotion ส่งฟรียังคงมาแรง จัดเป็นเซ็ตยังคงขายง่าย
  4. 10% เป็นครีมชนิดไหน ใช้กลางวันหรือกลางคืน
  5. 7% Skin Type ครีมสำหรับคนผิวแบบไหน
  6. 6% เน้นเรื่องส่วนผสมหลัก ใส่อะไรเข้าไปในครีมทาหน้าแต่ละตัวบ้าง
  7. 5% Packaging ขนาด ไซส์ บรรจุภัณฑ์แบบไหน
  8. 4% ช่องทางการขาย
  9. 4 Type Influencer

ถ้าให้มีคำแนะนำสำหรับคนจะเริ่มทำธุรกิจครีมทาหน้า หรือทำอยู่แล้วแต่อยากปรับปรุงให้ดีขึ้นมีดังนี้ครับ

9 คำแนะนำสำหรับการตลาดสินค้าครีมทาหน้า จากดาต้าโดยการตลาดวันละตอน

  1. เรื่องสิวยังคงมาเป็นอันดับหนึ่งสำหรับคนไทย ทั้งใช้เพื่อป้องกัน และลดรอยสิวที่มีอยู่แล้ว บวกกับการบำรุงส่วนต่างๆ บนใบหน้า โดยเฉพาะรอบดวงตาและจมูก
  2. ควรหาซื้อได้ง่ายในทุกช่องทาง ถ้าอยากขายดีให้ทำชิ้นเล็กๆ ราคาถูกๆ แล้ววางขายตามร้านสะดวกซื้อออฟไลน์ จะเป็นการส่งเสริมให้ Influencer หน้าใหม่หยิบสินค้าเรามีทำคอนเทนต์รีวิวเองได้ง่ายขึ้น
  3. อย่าลืมทำกลยุทธ์ Affiliate Marketing เพื่อให้บรรดาเหล่า Influencer อยากเลือกหยิบสินค้าเราไปรีวิวเพราะได้ส่วนแบ่งที่เยอะกว่าสินค้าอื่น
  4. บน X หรือ Twitter มี Influencer จำนวนมากรีวิวสินค้าประเภทครีมซอง แล้วก็ใส่ลิงก์ Affiliate อยู่แล้ว ดังนั้นข้อ 3 ไม่ทำไม่ได้
  5. เวลาใช้ Influencer อย่ามองแค่ Creator นักรีวิว แต่ให้มองหาคนที่มี Lifestyle ชอบดูแลตัวเองบ่อยๆ เพิ่มเติม
  6. ควรเน้นความจริงใจกับลูกค้า บอกส่วนผสมที่แท้จริง และไม่เคลมเกินคุณภาพที่ครีมเราทำได้
  7. ช่องทาง TikTok ควรเน้นการใช้ Influencer ประเภท Skincare Expert
  8. ถ้าจะจัดเซ็ตโปรโมชั่น ให้เน้นสินค้าจากตัวสิว แล้วก็บำรุง อย่าลืมจัดส่งฟรี และต้องมีบนสองช่องทางออนไลน์หลัก นั่นก็คือ Shopee และ Lazada
  9. เน้นการให้ความรู้เรื่องส่วนผสมกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ให้ Skin Expert เป็นคนช่วยสื่อสาร ถ้าอยากคุยกับกลุ่มเป้าหมายจริงๆ ให้ไปทาง TikTok และเอาคนที่มีความรู้จริงๆ มาเป็นตัวแทนตอบคำถามเรื่องผิวแทนแบรนด์

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับรายงานฉบับนี้ เจาะลึก Data Insight ครีมทาหน้าจาก Social Listening โปรเจคแจกดาต้าฟรีเพื่อยกระดับธุรกิจความสวยความงามและอาหารเสริม โดยการตลาดวันละตอน x Revomed Thailand ผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตครีม อาหารเสริม เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ความสวยความงามคุณภาพดีให้กับแบรนด์ดังมากมาย

หาใครสนใจอยากมีแบรนด์สินค้าความสวยความงาม หรืออาหารเสริมของตัวเอง สามารถติดต่อ Removed Group ได้ที่

ส่วนใครอยาก Download Data Skincare Report 2025 เต็มๆ สามารถลงทะเบียนแล้วรอรับไฟล์ได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้ครับ

https://bit.ly/dataskincare2025

สแกน QR Code เพื่อดาวน์โหลดรายงานตัวเต็ม

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *