ร้านอาหารยุคใหม่ เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ด้วยการใช้ Data

ร้านอาหารยุคใหม่ เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ด้วยการใช้ Data

ก่อนจะไปอ่านบทความ ลองมาเช็กกันดูก่อนดีกว่าว่าตั้งแต่ทำร้านอาหารมาเคยเจอปัญหาเหล่านี้กันบ้างไหม?

– ออเดอร์ตกหล่น จนทำให้พลาดลูกค้าไปหลายราย

– สั่งวัตถุดิบโดยใช้วิธีกะประมาณ โดยไม่รู้ว่าแต่ละเดือนใช้วัตถุดิบจริงๆ ไปเท่าไหร่

– พยายามหาลูกค้าใหม่ แต่ยังทำให้เป็นขาประจำไม่ได้สักที

– ต้องเข้าร้านเพื่อนับเงินหลังปิดร้านทุกวัน

– มีช่องทางขายหลากหลาย แต่ไม่รู้ยอดจริงๆ จากในแต่ละช่องทาง

– อยากส่งเดลิเวอรีอย่างคนอื่นเขาบ้าง แต่ก็ไม่รู้ต้องเริ่มยังไง

ถ้าคุณเคยเจอปัญหาเหล่านี้มากกว่า 3 ข้อ เราคิดว่าคุณคงต้องหาตัวช่วยแล้วแหละ ซึ่งอาวุธลับที่จะมาช่วยเราแก้ไขปัญหาเหล่านี้ก็คือสิ่งที่หลายร้านมองข้ามไปอย่าง Data นั่นเอง

Data อาวุธลับสู่ความสำเร็จในการทำร้านอาหารยุคดิจิทัล

เมื่อพูดถึงข้อมูล หรือ Data ร้านอาหารขนาดกลางไปจนถึงขนาดเล็กมักจะมองว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัว และไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเองมากนัก แต่ในความเป็นจริงแล้วปัจจุบัน Data เข้ามามีบทบาทสำคัญในการร้านอาหารเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นร้านเล็กหรือร้านใหญ่ก็สามารถนำข้อมูลในมือมาต่อยอด ใช้ประโยชน์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลดรายจ่าย เพิ่มยอดขาย นำไปพัฒนาระบบการทำงานต่างๆ ภายในร้าน รวมถึงสร้างความรู้สึกและประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการภายในร้านด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่าเวลานี้ใครมี Data อยู่ในมือมากที่สุด ก็ได้เปรียบกว่า และมีโอกาสที่วิ่งไปถึงเส้นชัยได้ไวกว่าเช่นกัน

ถ้าจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดขึ้นก็อย่าง KFC ร้านไก่ทอดชื่อดังที่มีสาขาในประเทศจีนประสบวิกฤตออเดอร์เดือดในช่วงวันฝนตก เนื่องจากลูกค้าสั่งอาหารกันเข้ามาเยอะมากทั้งทางหน้าร้านและเดลิเวอรี ทำให้พนักงานไม่สามารถทำออเดอร์ได้ทันเวลา จนลูกค้าโมโหหิวยกเลิกออเดอร์ไปหลายราย เมื่อประสบปัญหานี้หลายครั้งเข้า KFC จึงนำ Data ของลูกค้าในช่วงวันฝนตกมาวิเคราะห์เพื่อดูว่าในช่วงเวลาฝนตกลูกค้าชอบสั่งเมนูไหน ระยะเวลาในการจัดเตรียมในแต่ละออเดอร์ใช้เวลานานเท่าไหร่ ลูกค้าสั่งทานที่ร้าน, Pick up หรือเดลิเวอรีมากกว่ากัน เมื่อวิเคราะห์เรียบร้อยแล้ว KFC จึงได้แก้เกม จัดแคมเปญ The God of Rain ผ่านแอปพลิเคชัน โดยจะจัดโปรโมชันคอมโบลดราคาอาหารที่ทำง่าย เตรียมง่าย หรือเมนูที่ไม่มีความซับซ้อนเพื่อให้พนักงานสามารถเตรียมอาหารตรงเวลาได้มากขึ้นค่ะ โดยโปรโมชันนี้จะทำงานอัตโนมัติผ่านข้อมูลสภาพอากาศและตำแหน่งแบบเรียลไทม์ ฝนตกเมื่อไหร่ก็จะส่งข้อความโปรโมตเมนู The God of Rain ไปให้ลูกค้าผ่านแอปฯ เมื่อนั้น เพื่อบรรเทาแรงกดดันในการทำงานของพนักงานในร้านและลดความล่าช้าต่อการจัดส่งอาหารด้วย เห็นไหมคะว่า Data ที่เรามีนั้น สามารถช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุด และสร้างยอดขายได้จริงๆ 

แน่นอนว่าในวันที่ธุรกิจร้านอาหารในแต่ละวันนั้นเต็มไปด้วยข้อมูลมากมาย ปัญหาสำคัญคือเราจะเก็บข้อมูลที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วร้านได้อย่างไรบ้าง ซึ่งทาง Wongnai ก็หาคำตอบนี้มาให้ด้วย เครื่อง Wongnai POS และ ระบบ Software จัดการร้านอาหารซึ่งมาพร้อมกับตัวเครื่อง บอกเลยว่าระบบเดียวสามารถจัดการได้จบครบทุกอย่างที่ธุรกิจร้านอาหารต้องการ ลองมาดูกันค่ะว่าตัวระบบ Software ที่ให้มาพร้อมกับเครื่อง Wongnai POS จะสามารถเก็บข้อมูลส่วนไหนเอาไปต่อยอดได้อย่างไรบ้าง

อยู่ที่ไหนก็ดูรายงานผลยอดขายได้ไม่ต้องเฝ้าร้าน

เคยเป็นกันไหมคะเวลาที่ตัวต้องออกไปทำธุระอื่นๆ แต่ใจก็ยังคงเป็นกังวลว่าวันนี้ร้านจะขายดีไหม เมนูไหนขายได้มากหรือน้อยเท่าไหร่ สุดท้ายก็ทนไม่ไหวต้องรีบเข้าร้านไปดูสักหน่อยทุกที จะดีกว่าไหมถ้าคุณสามารถรู้ทุกความเคลื่อนไหวของร้านอาหารได้แม้จะไม่ได้อยู่ที่ร้านด้วยฟีเจอร์รายงานยอดขาย (Sales Report) ที่จะทำให้คุณสามารถเช็กยอดขายได้แบบ Realtime ทำให้คุณรู้ได้ทันทีว่าวันนี้ขายดีไหม เมนูไหนขายได้บ้าง หรือช่วงเวลาไหนที่ขายดีที่สุด

นอกจากนี้ยังสามารถดูยอดขาย หรือจำนวนลูกค้าในแต่ละวันแบบอย่างละเอียด โดยเลือกช่วงวัน เวลาที่ต้องการ รวมถึงข้อมูลเก่าๆ แถมยังช่วยวิเคราะห์ยอดขายทำให้รู้ว่าร้านของเราตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงกำไรหรือขาดทุนเพื่อจะได้นำมาปรับกลยุทธ์ในการขายและเทคนิคการตลาดได้อย่างทันท่วงที

ลดต้นทุนวัตถุดิบอาหาร ด้วยระบบการจัดการสต๊อก

“วัตถุดิบ” เป็นอีกหนึ่งปัญหาหลักของธุรกิจร้านอาหาร บางร้านซื้อวัตถุดิบมาตุนจนเยอะเกินไปเมื่อปล่อยของไม่ทัน กว่าจะรู้ตัวอีกทีวัตถุดิบก็หมดอายุ หรือเน่าเสีย จนต้องทิ้งไปทุกที ซึ่ง Wongnai POS สามารถช่วยคุณตรงนี้ได้ ด้วยฟีเจอร์การจัดการสต๊อกวัตถุดิบ (inventory Management) จะช่วยให้คุณบริหารจัดการวัตถุดิบในร้านได้อย่างเป็นระบบระเบียบยิ่งขึ้น

ซึ่งระบบนี้เปรียบได้กับเครื่องเตือนความจำว่าตอนนี้ร้านคุณมีวัตถุดิบอะไร เท่าไหร่ และขาดวัตถุดิบใดอยู่บ้าง โดยระบบจะแจ้งเตือนเมื่อเหลือวัตถุดิบในปริมาณที่ต่ำกว่าเกณฑ์ที่ทางร้านกำหนดไว้ ซึ่งช่วยให้ร้านอาหารสามารถวางแผนในการใช้วัตถุดิบให้เหมาะสม และยังสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์เพื่อวางแผนในการคำนวณสำหรับการสั่งวัตถุดิบในครั้งถัดไป รวมถึงนำมาช่วยในการคิดต้นทุนต่อจานเพื่อเพิ่มกำไรให้กับร้านได้อีกด้วย เพราะหลายๆ ร้านไม่ได้เช็กวัตถุดิบ หรือตรวจสต็อกให้ดี ได้แต่ทำไป ขายไป แต่ไม่เคยรู้ว่ามีกำไรเท่าไหร่ บางเจ้าหักลบต้นทุนดูแล้วถึงกับขาดทุนเลยก็มี

จัดการออเดอร์ได้ง่ายไม่มีตกหล่น

สำหรับร้านเล็กที่มีพนักงานน้อยหรือในช่วง Rush Hours ที่พนักงานมีงานจนล้นมือ จนเกิดปัญหารับออเดอร์ไม่ทันหรือทำให้งานบริการช้าจนลูกค้าไม่ประทับใจ ลองเปลี่ยนมาใช้ Wongnai POS ดู รับรองว่าหายห่วงเรื่องออเดอร์ตกหล่นหรือจำไม่ได้ว่าลูกค้าคนไหนสั่งอะไร เพราะตัวระบบสามารถจัดเก็บได้ครบทุกออเดอร์ไม่ว่าจะนั่งทานที่ร้านก็ระบุข้อมูลโต๊ะได้ จะสั่งกลับบ้าน หรือออเดอร์จากเดลิเวอรี LINE MAN ก็แยกเป็นหมวดหมู่ชัดเจน แถมยังคำนวณราคาให้เสร็จสรรพ ทำให้จัดการได้ง่าย พนักงานไม่เกิดความสับสนจนลูกค้าวีนแน่นอน

ยิ่งในตอนนี้ที่ลูกค้าหันมาสั่งเดลิเวรีมากขึ้น บอกเลยว่าระบบจัดการร้านอาหารนี้ช่วยได้มากเพราะสามารถกดรับออเดอร์จากเดลิเวอรีได้ทันที ไม่ต้องพิมพ์ออเดอร์เองแถมยังสามารถแยกยอดขายได้ด้วยว่ายอดนี้มาจากเดลิเวอรีหรือหน้าร้าน ทำให้เจ้าของร้านสามารถเลือกทำโปรโมชันได้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้เจ้าของร้านยังสามารถเข้าไปดูบิลที่ยกเลิกหรือทำลายในแต่ละวันได้ เพื่อป้องกันการโกงเงิน หรือเงินหายได้ด้วย

ช่วยวิเคราะห์แผนการตลาดได้ว่าเมนูไหนที่ใช่และได้กำไรดี

นอกจากระบบรายงานยอดขาย (Sales Report) จะช่วยในการคำนวณรายรับรายจ่ายของร้านแล้วยังสามารถจัดอันดับสินค้าขายดี โดยเรียงลำดับตามสินค้าที่ทำยอดขายได้เยอะที่สุด ซึ่งผลการวิเคราะห์เหล่านี้จะทำให้เจ้าของร้านสามารถนำข้อมูลมาจัดทำกลยุทธ์ทางการตลาดเริ่ดๆต่อยอดเพื่อกระตุ้นยอดขายได้ เช่น การทำ Recommened Menu หรือ โปรโมชั่นเมนูขายดีในช่วงเวลาที่คนเข้าร้านหรือมีคนสั่งอาหารมากที่สุด เป็นต้น

สำหรับปัญหาเบสิกของร้านอาหาร ส่วนใหญ่คนจะพีคมากในช่วงเที่ยง เพราะเป็นช่วงที่คนส่วนใหญ่พัก จึงทำให้คนมาทานอาหารพร้อมกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ลูกค้าอาจต้องรออาหารเป็นเวลานาน ลองนึกภาพตามว่าในช่วงเวลารีบเร่งที่ลูกค้ากำลังหิว ถ้าเราไม่มีระบบการจัดการที่ดีก็อาจทำให้ต้องสูญเสียลูกค้าจำนวนหนึ่งไปได้ แต่หากเราหาวิธีบริหารจัดการร้าน โดยอาศัยการใช้ประโยชน์จากการนำ Data ที่เรามีมาคิด วิเคราะห์ และวางแผน เพื่อรับมือกับ Pain Point ที่เกิดขึ้นได้ เช่น ถ้าเรารู้ว่าเมนูโปรดของกลุ่มลูกค้าประจำที่มักจะทานเมนูซ้ำๆ ในช่วงเวลานี้คือ กระเพราไก่ไข่ดาว เราก็อาจจะเตรียมของบางส่วนไว้ก่อน เพื่อลดเวลาในการทำอาหาร เช่น ทอดไข่ดาวเตรียมไว้ก่อน ผัดไก่ให้พอสุก เวลานำไปปรุงอีกครั้งเมื่อลูกค้าสั่งจะได้ใช้เวลาไม่นานมาก จากจานละ 5 นาที ก็เหลือเป็นจานละ 3 นาที เป็นต้น วิธีนี้นอกจากจะไม่ทำให้ลูกค้ารอนานแล้ว ยังช่วยให้ร้าน มีรอบในการเข้ามาใช้บริการหรือ Turn Over ดีขึ้น รวมถึงมียอดขายเพิ่ม เนื่องจากสามารถรับออเดอร์ได้มากขึ้นด้วย

ยืนหนึ่งเรื่องความปลอดภัย

หมดกังวลเรื่องปัญหาความปลอดภัยในการทำงานเพราะ Wongnai POS นั้นสามารถตั้งรหัส PIN Access ประจำตัวสำหรับพนักงานแต่ละคนเพื่อกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลของร้านได้ตามหน้าที่

โดยทางร้านสามารถระบุได้ว่าตำแหน่งไหนจะสามารถเข้าถึงหรือแก้ไขข้อมูลในฟังก์ชันไหนได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็น ระดับเจ้าของร้าน ผู้จัดการร้าน พนักงานคิดเงิน ไปจนถึงพนักงานเสิร์ฟ แถมยังสามารถตรวจสอบสถานะการทำงานย้อนหลังและรายงานชั่วโมงการทำงานของพนักงานแต่ละคนได้อีกด้วย

นอกจากนี้ระบบยังเอื้อในเรื่องการป้องกันทุจริตด้วย เนื่องจากปกติแล้วพนักงานจะสามารถ Void บิลได้ ดังนั้นอาจเกิดเหตุการณ์ที่พนักงาน Void บิล แล้วเก็บเงินสดไว้กับตัวได้ แต่ Wongnai POS นั้น เจ้าของร้านสามารถตรวจเช็กได้ทันทีที่เกิดการยกเลิกบิลว่า พนักงานคนไหนเป็นคน viod และเหตุผลที่ void คืออะไร จึงสามารถป้องกันการทุจริตในกรณีนี้ได้แบบ 100%

เพิ่มโอกาสกลับมาซื้อซ้ำด้วยการสร้างโปรโมชันที่หลากหลาย

เมื่อเรามีข้อมูลของลูกค้าแล้ว เราก็สามารถวิเคราะห์เข้าไปลึกถึงอินไซต์ได้มากขึ้นว่าทำไมลูกค้าถึงสั่งเมนูเหล่านี้ อะไรเป็นเหตุจูงใจให้สั่ง หรือเวลาสั่งมักจะสั่งคู่กับอะไร ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะสามารถช่วยให้เจ้าของร้านสามารถต่อยอดไปสู่ขั้นตอนในการทำตลาดเพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายได้ดีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำโปรโมชันราคาพิเศษ หรือการจับคู่สินค้าแบบ Cross sell ที่จะช่วยให้สามารถขายเมนูนั้นๆ ได้ง่ายขึ้น และช่วยเพิ่มยอดขายเมนูอื่นๆ ในเวลาเดียวกันได้มากขึ้นด้วย 

ซึ่งระบบของ Wongnai POS เองนั้นก็มีโปรโมชันหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้งานได้ตามสะดวก โดยทางร้านสามารถเพิ่มยอดขายให้แต่ละเมนูด้วยการสร้างโปรโมชั่นที่หลากหลายง่ายๆ ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่นส่วนลดเป็นจำนวนเงิน ลดเป็นเปอร์เซ็นต์ หรือเป็นโปรโมชันแบบการซื้อสองแถมหนึ่ง ซึ่งการตั้งโปรโมชันนี้เจ้าของร้านสามารถกำหนดระยะเวลาได้เองด้วย

นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มโอกาสในการกลับมาซื้อซ้ำและดึงดูดลูกค้าใหม่ด้วยระบบสะสมแต้มออนไลน์อย่าง Wongnai Reward Card ที่ให้ทางร้านสามารถกำหนดสิทธิ์ที่พิเศษได้ตามต้องการแถมยังสามารถนำข้อมูลลูกค้าที่ได้มาวิเคราะห์ เพื่อจัดโปรโมชั่นเจาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดอีกด้วย

ต่อยอดการขายด้วยช่องทาง Delivery

นาทีนี้ร้านอาหารร้านไหนไม่มีเดลิเวอรีถือว่าพลาด เพราะในช่วงที่เราต้องเว้นระยะห่างทางสังคมแบบนี้ บริการเดลิเวอรีถือเป็นหัวใจหลักที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจร้านอาหารให้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้ ซึ่ง Wongnai POS เองก็มีฟีเจอร์ที่จะช่วยเพิ่มช่องทางการขาย และเข้ากับการใช้ชีวิตในยุค New Normal โดยเชื่อมต่อทั้งกับบริการเดลิเวอรี LINE MAN เมื่อมีออเดอร์จากฝั่งเดลิเวอรีก็จะมีเสียงและข้อความเตือนขึ้นบนหน้าจอ POS ทางร้านก็สามารถเข้าไปกดรับและตรวจสอบข้อมูลออเดอร์ต่างๆ ได้ทันที 

นอกจากนี้  ทางร้านยังสามารถเลือกระบุเมนูที่สร้างไว้ในระบบ Wongnai POS ให้สามารถสั่งผ่านเดลิเวอรี่ได้ตามต้องการ  เรียกได้ว่าเครื่องเดียวครบ จบในระบบเดียว ไม่ต้องเปิดแอปฯ เพื่อรับออเดอร์ให้ยุ่งยาก 

อยากเปลี่ยนมาใช้ Wongnai POS ต้องทำอย่างไร

ด้วยฟีเจอร์ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานี้คิดว่าน่าจะมีร้านอาหารหลายร้านเริ่มสนใจระบบ และ ตัวเครื่อง Wongnai POS กันขึ้นมาบ้างแล้วใช่ไหมคะ ถ้าเจ้าของร้าน หรือคนที่กำลังคิดจะเปิดร้านอาหาร เครื่องดื่ม หรือเบเกอรี่คนไหนสนใจอยากจะมีตัวช่วยดีๆ ที่ช่วยให้การจัดการร้านอาหารของคุณง่ายขึ้น สามารถศึกษาและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก

กระซิบบอกนิดนึงนะคะว่าตอนนี้  Wongnai POS  เขามีโปรโมชันดีๆ ในราคาจับต้องได้ให้เลือกใช้ได้ตามสะดวกเลยค่ะ

– 1 จอ จากราคา 21,900 บาท มีโปรโมชันเหลือเพียง 12,900 บาท 

ฟรี! ซอฟต์แวร์ 6 เดือน หากสมัคร LINE MAN GP พร้อมบริการซอฟต์แวร์รายวัน เพียงวันละ 9 บาท หลังหมดช่วงฟรี

– 2 จอ จากราคา 22,900 บาท มีโปรโมชันเหลือเพียง 13,900 บาท 

ฟรี! ซอฟต์แวร์ 6 เดือน หากสมัคร LINE MAN GP พร้อมบริการซอฟต์แวร์รายวัน เพียงวันละ 9 บาท หลังหมดช่วงฟรี

สำหรับการตลาดวันละตอนเรายังคงบอกเสมอว่า Data นั้นมีอยู่ทุกที่ในธุรกิจของเรา ไม่จำเป็นต้องเป็นข้อมูลมหาศาลแบบ Big Data อย่างที่องค์กรใหญ่ๆ เขาใช้กัน แต่อยากให้หยิบจับเอาข้อมูลขนาดเล็ก ที่เกี่ยวข้อง มีประโยชน์ และหยิบใช้ง่าย มาวิเคราะห์ต่อยอดให้เป็นประโยชน์ในธุรกิจเราแทน

และนั่นก็เป็นโอกาสที่เรามองเห็นจากเจ้าเครื่อง Wongnai POS ที่จะเป็นตัวช่วยในการเก็บข้อมูล ทำให้เราเห็นภาพข้อมูลจากธุรกิจที่เรามีได้ชัดเจนขึ้น อีกทั้งยังสามารถ Export Data ทั้งหมดออกมาเป็น Excel เพื่อต่อยอดในการทำ Data Analytics เพื่อทำความเข้าใจ Insight ลูกค้า และนำไปปรับเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับร้าน เพื่อเพิ่มกำไรให้คุณได้แบบไม่ยากเย็น

Bambinun*

Content Creator แห่งการตลาดวันละตอน ที่หลงรักการเล่าเรื่องผ่านตัวหนังสือ พอๆ กับการกินของอร่อย และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเป็นทาสแมว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ใช้ Social Listening บ้างไม่ ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถาม ว่าปกติใช้ Social Listening บ้างหรือไม่ แล้วถ้าใช้ ใช้ตัวไหนอยู่