Steelcase Leap เก้าอี้ทำงานที่จะทำให้การ Work From Home นานๆ ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป

Steelcase Leap เก้าอี้ทำงานที่จะทำให้การ Work From Home นานๆ ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป

ในช่วง Work From Home ที่เพื่อนๆ การตลาดวันละตอนหลายคนต้องมานั่งทำงานจากที่บ้านอย่างจริงจัง จากเดิมที่เราเคยคิดว่าการได้นั่งทำงานอยู่บ้านไม่ต้องเข้าออฟฟิศนั้นน่าจะเป็นเรื่องที่ดีและมีแต่ความสบาย แต่ในขณะเดียวกันเมื่อเราส่วนใหญ่ได้ Work From Home นั่งทำงานอยู่บ้านเต็มเวลาแบบจริงๆ ก็ทำให้พบปัญหาจุกจิกกวนใจมากมายทั้งน้อยใหญ่ และหนึ่งในปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก็คงหนีไม่พ้นเก้าอี้ทำงาน ที่ใครหลายคนไม่เคยเตรียมใจเอาไว้ว่าวันหนึ่งฉันจะต้องมานั่งทำงานอยู่บ้านหลังขดหลังแข็งทั้งวันจนทำให้ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดเมื่อไปทั้งตัวได้ขนาดนี้ครับ

และผมเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ต้องอยู่บ้าน Work From Home เต็มเวลา ก็ทำให้พบว่าเจ้าเก้าอี้กินข้าวที่เคยใช้นั่งทำงานแปบๆ ชั่วโมงสองชั่วโมงนั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการนั่งทำงานอยู่บ้านแบบจริงจังตลอดทั้งวันจริงๆ และสำหรับคนที่คิดว่า “เอาน่า อดทนนั่งไปสักหน่อยเดี๋ยวอีกสักพักรัฐบาลเขาก็คงจะประกาศเปิดเมืองแล้ว”

คุณคิดแบบนั้นจริงๆ หรือครับ? ผมคนนึงที่ไม่กล้าคิดแบบนั้นเพราะดูทรงจากหลายประเทศรอบตัวแล้วพอว่าเหตุการณ์เหมือนจะดี COVID-19 เหมือนจะสงบ แต่พอเปิดเมืองเลิกล็อคดาวน์ปุ๊บกลายเป็นว่ากลับมาแพร่ระบาดหนักกว่าเดิมจนต้องกลับมา Lockdown กันอีกครั้งเลย

ดังนั้นวันนี้ผมเลยมาแนะนำให้เพื่อนๆ ในการตลาดวันละตอนได้รู้จักกับเก้าอี้ทำงานตัวหนึ่ง ผมเชื่อว่าคนทำงานหลายคนคงคุ้นเคยกับเก้าอี้ทำงานยี่ห้อนี้ดี Steelcase ซึ่งเรามักจะเห็นบริษัทเก๋ๆ หลายที่มีเก้าอี้ Steelcase รุ่นต่างๆ ไว้ให้พนักงานนั่ง สาเหตุที่บริษัทส่วนใหญ่เลือก Steelcase นั้นก็ไม่ใช่เพราะแค่ดีไซน์สวยงาม แต่เป็นเพราะเก้าอี้ทำงาน Steelcase ช่วยให้การทำงานของพนักงานมีประสิทธิภาพเพิ่มด้วยต่างหากครับ

Steelcase LEAP เก้าอี้ทำงานไม่ปวดหลัง Work From Home
Steelcase LEAP เก้าอี้ทำงานไม่ปวดหลัง Work From Home

ที่ผมกล้าพูดแบบนี้ก็เพราะตั้งแต่ผมได้เก้าอี้ทำงาน Steelcase รุ่น Leap มานั่งทำงานแทนเก้าอี้ทำงานตัวเก่า ก็พบว่ามันดีกว่าอย่างเทียบกันไม่ได้ นอกจากจะความนุ่มสบายของเบาะและพนักพิงต่างๆ แล้ว เจ้า Steelcase รุ่น Leap ตัวนี้ยังสามารถ Optimized หรือปรับแต่งการใช้งานได้มากมาย เพื่อให้เข้ากับสรีระร่างกายของเรามากที่สุดอีกด้วยครับ เรียกได้ว่านั่งสบายตั้งแต่เริ่มงานไปจนถึงตอนเลิกงานก็ไม่เกินจริงจนเกินไป เพราะเก้าอี้รุ่นนี้เค้าเรียกว่า Ergonomics ที่ออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ ที่จะทำให้คุณภาพชีวิตการ Work From Home ของคุณจากนี้ไปสะดวกสบายขึ้นอีกหลายระดับครับ

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ผมขออนุญาตไล่อธิบายฟังก์ชั่นการทำงานและฟีเจอร์ลูกเล่นต่างๆ ของเก้าอี้ทำงาน Steelcase Leap นี้ไปเจาะไปทีละส่วนเลยนะครับ

1. พนักพิงศีรษะทำจากหนังแท้และยังสามารถปรับระดับความสูงได้

Steelcase LEAP เก้าอี้ทำงานไม่ปวดหลัง Work From Home
Steelcase LEAP เก้าอี้ทำงานไม่ปวดหลัง Work From Home

ดังนั้นถ้าใครตัวสูงจะปรับให้รองรับศีรษะก็เป็นไปได้ง่ายแค่ดึงขึ้นไป ส่วนถ้าใครไซส์มาตรฐานก็แค่เลื่อนลงมาเท่านั้นเองครับ

2. Lumbar Support เป็นอุปกรณ์รองรับส่วนเว้าของเอวและหลังช่วงล่าง

Steelcase LEAP เก้าอี้ทำงานไม่ปวดหลัง Work From Home

ข้อดีคือมันจะช่วยทำให้เราสามารถนั่งทำงานได้อย่างถูกต้องตามหลักสรีระศาสตร์อยู่ตลอดเวลา และนั่นหมายความว่าคุณจะสามารถนั่งทำงานนานๆ ในช่วง Work From Home ได้แบบไม่ต้องรู้สึกปวดเมื่อยไม่สบายตัวแล้วต้องเสียสมาธิบิดร่างกายไปมาบ่อยๆ แล้วที่ดีที่สุดคือเราสามารถปรับระดับความสูงเพื่อรองรับสรีระที่แตกต่างกันไปได้จนกว่าจะพอใจครับ

3. Natural Glide System ระบบที่ช่วยเลื่อนที่นั่งออกขณะพิง แบบหยุดการพิง แถมยังปรับได้ถึง 4 ระดับ ปรับได้ทั้งความสูง และปรับได้ทั้งความหนืด

Steelcase LEAP เก้าอี้ทำงานไม่ปวดหลัง Work From Home

ข้อดีคือช่วยป้องกันการเอนหลังมากเกินไปจนอาจจะเผลอตกใจกลัวล้มไม่รู้ตัว หรือผมจะชอบปรับให้เอนไม่ค่อยได้เพื่อให้ผมจะได้มีสมาธิจดจ่อในการทำงานเพิ่มขึ้นในบางครั้งครับ ก็ถ้าเอนมากไปเดี๋ยวจะเผลอหลับเอา ก็มันนั่งสบายจริงๆ นี่พูดเลย

4. ที่เท้าแขนปรับได้ 4 ทิศทาง เพื่อรองรับท่าทางในการนั่งในอริยาบถต่างๆ

Steelcase LEAP เก้าอี้ทำงานไม่ปวดหลัง Work From Home
Steelcase LEAP เก้าอี้ทำงานไม่ปวดหลัง Work From Home

ทั้งระดับความสูงเพื่อให้เข้ากับขนาดร่างกาย หรือจะปรับเลื่อนหน้าเลื่อนหลังก็ได้ ผมชอบใช้เวลาถ้าอยากจะโฟกัสกับงานมากๆ จะก็เลื่อนเข้าหาตัวเพื่อให้เลื่อนตัวเข้าชิดโต๊ะทำงานได้มากขึ้น หรือจะปรับเลื่อนออกซ้ายขวาก็ได้ ดังนั้นอยากจะได้ท่านั่งทำงานแบบไหน เน้นโฟกัสกับการทำงานก็เลื่อนเข้าให้ชิดตัว หรือถ้าอยากนั่งสบายๆ เวลาจะอ่านหนังสือเอกสาร ก็ปรับออกมาให้มีที่ว่างข้างตัวเพิ่มขึ้นได้ง่ายๆ ครับ

5. สามารถปรับความสูงเบาะนั่งเพื่อให้เข้ากับความสูงของโต๊ะได้อย่างเหมาะสม

Steelcase LEAP เก้าอี้ทำงานไม่ปวดหลัง Work From Home
Steelcase LEAP เก้าอี้ทำงานไม่ปวดหลัง Work From Home

เอาเป็นว่าจะโต๊ะเตี้ยโต๊ะสูงต่อไปนี้ก็ไม่มีปัญหา เพราะคุณสามารถปรับที่นั่งได้ตามใจ หรือจะปรับให้เบาะร่นเข้าออกก็สามารถทำได้ เรียกได้ว่าปรับได้ทุกอย่างตามใจแบบตามสไตล์ที่คุณชอบนั่ง หรือจะปรับให้เข้ากับสรีระก็ได้ครับ

และเก้าอี้ทำงานในช่วง Work From Home ของ Steelcase Leap นี้ก็ยังรับประกันสินค้านานถึง 12 ปี เอาเป็นว่าในราคาแบบนี้เมื่อนับกับการได้คุณภาพชีวิตการทำงานดีๆ กลับคืนมา รวมไปถึงการช่วยดูแลหลังและร่างกายในระยะยาวโดยเฉพาะกับคนที่อยู่ในวัยเลข 3 แล้วถือว่าคุ้มค่าเป็นอย่างยิ่งครับ

แอบบอกเพิ่มเติมส่งท้ายว่าเก้าอี้ทำงานช่วง Work From Home ตัวนี้สามารถรับน้ำหนักได้มากถึง 136 กิโลกรัมสบายๆ แถมโครงเก้าอี้เค้าก็มีให้เลือกสองสี คือจะเอาสีเงินหรือสีดำ ส่วนตัวผมได้สีเงินมาบอกเลยว่าโดนใจ เข้ากับตีมของห้องทำงานผมมาก

สรุป Steelcase Leap เก้าอี้ทำงานที่ช่วยดูแลคุณภาพชีวิตในช่วง Work From Home ไปอีกนาน

Steelcase LEAP เก้าอี้ทำงานไม่ปวดหลัง Work From Home

ถ้าใครกำลังมองหาเก้าอี้ทำงานดีๆ ซักตัวด้วยราคาที่สมเหตุสมผล ผมบอกได้เลยว่า Steelcase Leap นี่แหละที่ตอบโจทย์คนทำงาน Work From Home วัยเลข 3 ที่เริ่มรู้สึกแล้วว่ารางกายเรามันบอบบางกว่าที่คิด ต้องรีบดูแลให้ดีตั้งแต่วันนี้

ด้วยการรับประกันนานถึง 12 ปี แถมยังออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์หรือ Ergonomics ที่จะช่วยดูแลหลัง บ่า ไหล่ และส่วนอื่นๆ ของร่างกายคุณให้อยู่ช่วยคุณทำงานหาเงินไปอีกนาน ผมแนะนำให้คุณควรมีติดห้องทำงานที่บ้านไว้สักตัวไปด้วยกันครับ

และพิเศษ ในช่วงนี้ ModernFrom เค้ามีโปรโมชั่นลดราคาแบบหนักมาก จากปกติ 43,656 เค้าลดเหลือ 25,900 รวม Vat แล้ว!

สั่งก่อนได้ก่อน แล้วคุณจะมานั่งคิดเหมือนผมตอนได้นั่งเก้าอี้ตัวนี้ครั้งแรกว่า “รู้งี๊ซื้อมาติดบ้านไว้นานแล้ว!”

Steelcase LEAP เก้าอี้ทำงานไม่ปวดหลัง Work From Home

สนใจดูข้อมูลเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่นี่ > https://bit.ly/ModernFormSteelCaseLeap

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ ModernForm ด้วยครับสำหรับเก้าอี้ดีๆ ที่ส่งมาให้ใช้ถึงบ้าน ช่วง Work From Home นี้ผมสามารถนั่งทำงานอยู่บ้านได้สบายๆ ทั้งวันแล้ว 🙂

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ใช้ Social Listening บ้างไม่ ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถาม ว่าปกติใช้ Social Listening บ้างหรือไม่ แล้วถ้าใช้ ใช้ตัวไหนอยู่