การตลาด SCG ส่ง 3 บ้านแบบใหม่รับเทรนด์ Health & Well-being
สวัสดีครับเพื่อน ๆ นักการตลาดและผู้อ่านทุกท่าน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลังจากการระบาดของโรคโควิด-19 อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับด้านสุขภาพ (Health & Well-being) มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 12% มาตั้งแต่ปี 2020 และคาดว่าจะเติบโตมากขึ้นกว่า 50% ภายในปี 2027 นี้ การตลาด SCG ก็ลงเข้ามาในสนามแข่งนี้ด้วยเช่นกันด้วย Product อย่างบ้านที่อยู่อาศัย
แต่ก่อนจะไปดูว่า SCG ใช้กลยุทธ์อะไรในการมาแข่งขันในตลาดนี้ เราไปดูก่อนก่อนว่ามี Trend อะไรที่น่าสนใจในตลาดนี้บ้าง
#Biophilic Design การนำธรรมชาติเข้าสู่ภายใน
หนึ่งในแนวโน้มที่ใหญ่ที่สุดในปี 2024 คือการออกแบบแบบ Biophilic ซึ่งจะเชื่อมโยงผู้คนเข้ากับธรรมชาติ โดยการรวมสิ่งที่มาจากธรรมชาติเข้าสู่สภาพแวดล้อมหรือสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้น มีการศึกษาและวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าการสัมผัสกับธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นพืชในร่ม วัสดุธรรมชาติ สีและรูปทรงที่เป็นธรรมชาติก็สามารถลดความเครียดและพัฒนาการทำงานของระบบสมองได้
นอกจากนี้ Biophilic Design ไม่ใช่เพียงแค่การเพิ่มพื้นที่สีเขียวลงไปในพื้นที่โล่ง ๆ เท่านั้น แต่ต้องนึกถึงและเข้าใจถึงธรรมชาติของสิ่งนั้น ไม่ว่าจะต้นไม้ ดอกไม้ แมลงและสัตว์จิ๋ว หรือพื้นที่สวนขนาดใหญ่ก็ตาม หรือก็คือเราต้องสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสิ่งเหล่านี้ได้นั่นเอง
#Mindful Material Selection การเลือกวัสดุที่ยั่งยืน
การเลือกวัสดุในการนำมาใช้ในการก่อสร้าง เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญในการออกแบบภายในที่ตอบโจทย์ Health & Well-being วัสดุก่อสร้างแบบมีหลายประเภทซึ่งบางชนิดก็สามารถปล่อยสารเคมีอันตรายต่อมนุษย์ ที่เรียกว่าสารอินทรีย์ระเหย (VOCs) ซึ่งอาจพบได้ในสีทาบ้าน นอกจากนี้มันยังสามารถเข้าสู่ร่างกายเราทั้งจาก ทางการหายใจ การรับประทาน และการสัมผัสทางผิวหนังอีกด้วย ดังนั้นการเลือกใช้วัสดุที่มีสาร VOC ต่ำหรือไม่มีเลย ก็จะช่วยให้นักสร้างสภาพแวดล้อมภายในที่ส่งผลดีสุขภาพของผู้อยู่อาศัยได้
#Dedicated spaces for mindfulness and meditation การเชื่อมต่อธรรมชาติจากภายในและภายนอก
การเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ในร่มและพื้นที่กลางแจ้ง เป็นอีกหนึ่งแนวโน้มที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่างก็พยายามชูเรื่องนี้ โดยการออกแบบในลักษณะนี้ก็เพื่อ ให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติและสามารถเข้าถึงธรรมชาติได้ง่ายขึ้น เช่น การใช้ประตูกระจกบานใหญ่ที่สามารถเปิดกว้าง เพื่อเชื่อมต่อภายในบ้านกับสวนหรือระเบียง หรือการสร้างพื้นที่ครึ่งในครึ่งนอก (semi-outdoor spaces) ที่สามารถสัมผัสธรรมชาติได้โดยตรง
#A good solution to support home design โซลูชันต้องตอบโจทย์
อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญคือ Solution ภายในบ้านที่มาซัพพอร์ตการออกแบบ เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยให้ปลอดภัยทั้งภายนอก และภายใน พร้อมตอบสนองความต้องการหลากหลายของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการทำงาน การใช้เวลาร่วมกับครอบครัว หรือแม้แต่การช่วยป้องกันมลพิษจากสิ่งแวดล้อมรอบตัว
รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีต่างและนวัตกรรมต่าง ๆ เข้ามาผสมผสานกับการออกแบบตกแต่งภายในที่เน้นสุขภาพ ทำให้พื้นที่อยู่อาศัยช่วยสนับสนุนสุขภาพกายและจิตใจได้ดียิ่งขึ้น
SCG HEIM มุ่งตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภค
SCG HEIM ใช้กลยุทธ์นี้เป็นแนวทางในการทำธุรกิจที่เน้นการทำความเข้าใจและตอบสนองความต้องการ ความพึงพอใจ และส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับของลูกค้า โดยมีองค์ประกอบต่าง ๆ ดังนี้
#A home for good health
SCG HEIM ได้พัฒนาแบบบ้านใหม่ ๆ ที่ไม่เพียงแต่สวยงามและทันสมัย แต่ยังคำนึงถึงการใช้งานและความสะดวกสบายของผู้ใช้งานทุกกลุ่ม เช่น การออกแบบห้องนอนชั้นล่างสำหรับผู้สูงอายุ หรือการมีพื้นที่เปิดโล่งที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามความต้องการของลูกค้า
นอกจากนี้ยังตอบโจทย์ครอบครัวทุกวัย ทุกไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย โด้วยฟังก์ชันและพื้นที่ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ เพื่อให้ลูกค้าได้รับบ้านที่ตรงตามความต้องการ โดยเฉพาะเหล่าผู้รักสุขภาพก็สามารถปรับให้ภายในหรือภายนอกบ้าน มีพื้นที่ธรรมชาติได้เหมือนกัน
#Innovation in construction is assured
แบรนด์ให้ความสำคัญตั้งแต่ในเรื่องของการออกแบบ การเลือกวัสดุก่อสร้างไปจนถึงการเลือก Solution ในนวัตกรรมที่จะมาช่วยส่งเสริมให้ลูกค้าสามารถอยู่อาศัยได้อย่างสบายใจ เช่น Air Factory System และ Thermal & Sound Insulated System ที่นำมาใช้เพื่อสร้างบ้านที่มีอากาศสะอาด ปลอดภัย และเงียบสงบ ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อความต้องการด้านสุขภาพและความสะดวกสบายของลูกค้าโดยตรง
#Comprehensive after-sales service
แบรนด์ให้ความสำคัญ ในการบริการหลังการขายที่ครอบคลุมและยาวนาน เช่น การตรวจเช็กสภาพบ้านฟรีตลอด 20 ปี เป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นในการดูแลลูกค้าแม้หลังจากการขายแล้ว นอกจากนี้ยังให้คำปรึกษาเฉพาะกับลูกค้าเกี่ยวกับการออกแบบและการสร้างบ้าน เป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในการตัดสินใจซื้อ
โดยบ้าน 3 แบบที่จะมาตอบโจทย์ภายใต้ Concept “ULTIMATE Series Modern Style” มีดังนี้
- ULTIMATE 3-8 A ขนาดพื้นที่ใช้สอย 318.2 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ พร้อมที่จอดรถ 3 คัน โดดเด่นด้วยโถงทางเข้าภายในบ้าน สูง 6 เมตร ทำให้ดูโอ่โถง โปร่งสบาย ใช้ประตูกระจกทรงสูง ให้แสงธรรมชาติไหลผ่าน ให้ความรู้สึกอบอุ่น และการเพิ่มห้องทำงาน ห้องนอนขนาดใหญ่ พร้อมระเบียงเป็นมุมพักผ่อน
- ULTIMATE 3-8 B ขนาดพื้นที่ใช้สอย 350.3 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ พร้อมที่จอดรถ 3 คัน และพื้นที่ในบ้านที่จัดสรรเป็นสัดส่วน รองรับการใช้งานได้หลากหลาย เพิ่มพื้นส่วนตัวสำหรับครอบครัว (FAMILY ROOM) บริเวณ ชั้น 2 และระเบียงส่วนตัวติดกับห้องนอนใหญ่ สามารถรับวิวธรรมชาติได้เต็มที่เพื่อการพักผ่อนอย่างมีคุณภาพ
- ULTIMATE 3-8 C ขนาดพื้นที่ใช้สอย 313.9 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ พร้อมที่จอดรถ 2 คัน พร้อมส่วนกลางชั้นล่างแบบ Open plan ช่วยให้บ้านดูโปร่ง โล่ง สบาย และเชื่อมต่อพื้นที่ใช้สอยถึงกันอย่างลงตัว รวมถึงห้องนอนชั้นล่างขนาดใหญ่เหมาะสำหรับผู้สูงวัยในการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายได้มากยิ่งขึ้น
สรุป
การตลาด SCG เปิดตัวแบบบ้านใหม่ 3 แบบใน Concept “ULTIMATE Series Modern Style” เพื่อตอบสนองความต้องการในตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วของ Health & Well-being นับว่าเป็นการแสดงให้เห็นถึงการปรับตัวของแบรนด์ต่อแนวโน้มที่กำลังมาแรงได้อย่างชัดเจน
อย่างการนำ Solution นวัตกรรมในการสร้างระบบอากาศบริสุทธิ์ (Air Factory System) และระบบกันเสียงและความร้อน (Thermal & Sound Insulated System) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการบ้านที่ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังมีคุณภาพชีวิตที่ดีและสุขภาพที่แข็งแรง
ด้วยกลยุทธ์ที่เน้นการสร้างประสบการณ์และบริการหลังการขายที่ครอบคลุมแบรนด์ได้สร้างความมั่นใจและความพึงพอใจให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้แบรนด์สามารถรักษาความน่าเชื่อถือและเติบโตได้อย่างยั่งยืน
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่นี่
