“ดอยคำ” สร้างแคมเปญ Pain Made my Day ปลุกกระแสรักตัวเอง จาก Insight ผู้บริโภค

ถ้าคุณเป็นสายเฮลท์ตี้ตัวจริงเสียงจริงที่ใส่ใจในการดูแลทั้งสุขภาพและผิวพรรณแล้วล่ะก็ เราเชื่อว่าคุณจะต้องรู้จักและเคยลองชิมผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ ‘ดอยคำ’ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ในกลุ่มมะเขือเทศ ที่หลายคนรู้จักในฐานะ “น้ำมะเขือเทศตัวแม่” กันแน่ๆ

แจ้งเกิดจากกระแสน้ำมะเขือเทศฟีเวอร์

จากกระแสรักสุขภาพของคนรุ่นใหม่นั้นถือเป็นโอกาสที่ดีในการขยายตลาดของดอยคำเพราะนอกจากจะขึ้น ชื่อในเรื่องมะเขือเทศแท้คุณภาพระดับพรีเมียมแล้ว ในช่วงหลายปีที่ผ่านมายังได้รับการแนะนำแบบปากต่อปากจนเกิดกระแสน้ำมะเขือเทศฟีเวอร์ในโลกออนไลน์ จนทำให้แบรนด์ดอยคำเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นด้วย 

ต่อยอดจากจุดแข็งด้วยการแตกไลน์ผลิตภัณที่หลากหลาย

ไม่เพียงแต่ชูจุดขายเป็นน้ำมะเขือเทศ 99% ที่เปรียบเสมือน Hero Product เท่านั้น แต่ดอยคำยังก้าวต่อไปอีกขั้น เพื่อย้ำภาพลักษณ์ของการเป็นผลิตภัณฑ์ ‘ครอบครัวมะเขือเทศ’ ด้วยการพัฒนาน้ำมะเขือเทศ ได้แก่ น้ำมะเขือเทศ 99% สูตรโซเดียมต่ำ และน้ำมะเขือเทศผสมน้ำผลไม้รวม 98% ม็อกเทล รวมถึงแตกไลน์เป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ โดยใช้มะเขือเทศเป็นวัตถุดิบหลักด้วย ได้แก่ ซอสมะเขือเทศ และซอสมะเขือเทศสูตรโซเดียมต่ำ มาจนถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดอย่างซอสสปาเกตตี และพิซซาสเปรด เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่หลากหลายและครอบคลุมมากขึ้น

“Pain Made my Day” ส่งต่อความห่วงใย ปลุกกระแสให้รักตัวเอง

ด้วยสภาพสังคม เศรษฐกิจที่ตึงเครียดขึ้นทุกวัน ทำให้ระยะหลัง เพียงแนวความคิด Self Care อาจไม่เพียงพออีกต่อไป จึงเกิดเป็นกระแส Self-Love หรือกระแสรักตัวเองนั้นมาแรงแซงทางโค้ง ไม่ว่าจะเป็นการหันมาให้ความสนใจกับสุขภาพ รูปลักษณ์ภายนอก หรือแม้กระทั่งจิตใจ ความคิด และทัศนคติต่อตัวเองในเชิงบวก 

เพราะการรักตัวเองนั้นนอกจากจะช่วยเยียวยาความเจ็บปวดได้แล้ว ยังช่วยให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นพลังสำคัญในการผลักดันให้เราดูแลคนรอบๆ ตัวเราได้ดีขึ้นอีกด้วย ลองคิดดูสิว่า ถ้าเรายังรักตัวเองไม่มากพอ แล้วเราจะไปรักคนอื่นได้อย่างไร

เพื่อช่วยให้ทุกคนพัฒนาความรู้สึกเชิงบวกกับตัวเองมากขึ้น แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเบอร์ต้นๆ อย่างดอยคำจึงพยายามหามุมมองที่เป็น Insight ของผู้บริโภคยุคใหม่ที่อยู่ภายในบริบทสังคมที่มีความแตกต่างหลากหลาย การเมืองที่สร้างความเคร่งเครียด เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ความเบื่อหน่ายจากภาวะงานที่หนักเกินไป หรือแม้กระทั่งความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน เป็นที่มาของแคมเปญโฆษณาชุดใหม่ภายใต้แนวคิด “Pain Made my Day” ที่สนับสนุนให้ทุกคนที่พบเจอความเจ็บปวดต่างๆ ในชีวิตมาเปลี่ยนเป็นพลัง เพื่อเป็นไฟในการเริ่มต้นในการหันกลับมาดูแลตัวเอง

เปลี่ยนภาพมายาคติของความเจ็บปวด

ถ้าหากนึกถึงภาพความเจ็บปวด หลายคนคงนึกถึง Mood & Tone แบบหม่นๆ เศร้าๆ หรือสีดำแบบดาร์กๆ แต่แคมเปญโฆษณาซีรีส์ใหม่ของดอยคำในครั้งนี้นั้นมาแปลก แหวกทุกมายาคติด้วยการใส่ความคิดสร้างสรรค์ ทำให้รูปแบบโฆษณาครั้งนี้แปลกตาไปจากสไตล์ของดอยคำเดิมๆ 

ด้วยการบอกเล่าความเจ็บปวดผ่านการเล่าเรื่อง Key Visual แนว Fashionable สีสันจี๊ดจ๊าดสะดุดตา ที่ดูแล้วมีความทันสมัยและมีชีวิตชีวามากขึ้น มาพร้อมกับข้อความแบบ Insightful ที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่คนส่วนใหญ่มักจะเจอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของความรักความสัมพันธ์ที่ลงเอยด้วยความเศร้า หรือความเจ็บปวดของคนวัยทำงาน 

แต่ไม่ว่าเรื่องอะไรจะทำให้คุณเจ็บปวดขนาดไหนก็ตาม มะเขือเทศจากดอยคำจะ Made Your Day ของคุณให้ดีขึ้นได้เหมือนอย่างสโลแกนที่ว่า “ดูแลตัวเองทุกวันด้วยผลิตภัณฑ์จากมะเขือเทศดอยคำ” เพื่อสนับสนุนให้ทุกคนหันมาดูแลและรักตัวเอง

สร้างประสบการณ์ใหม่ให้ผู้บริโภคผ่านสื่อแบบ 360 องศา

ความจริงแล้วก่อนหน้านี้ทางดอยคำก็มีการใช้การสื่อสารทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้นอยู่แล้ว ซึ่งในแคมเปญนี้ดอยคำเองก็ยังคงมองหาวิธีสื่อสารใหม่ๆ เพื่อให้เข้ากับพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างการรับรู้และเป็นที่จดจำให้กับผลิตภัณฑ์ครอบครัวมะเขือเทศ

ซึ่งนอกจากการทำคอนเทนต์ในการส่งต่อความรู้ คุณประโยชน์ของสินค้า และโปรโมชั่นต่างๆ ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของดอยคำแล้ว ยังมีการใช้ Influencerในการพูดถึงสินค้าผ่านช่องทางยอดฮิตอย่าง TikTok 

อีกทั้งยังมีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อสร้างมิติของการสื่อสารที่หลากหลายบนช่องทางสื่อนอกบ้าน ด้วยการใช้สื่อโฆษณา Out of Home ในรูปแบบ 3D ผ่านจอยักษ์ในย่านที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนรุ่นใหม่ และวัยทำงานหนาแน่นอย่างที่สีลมและสุขุมวิทด้วย

จะเห็นได้ว่าแคมเปญโฆษณานี้ของดอยคำชิ้นนี้ ถือเป็นอีกเคสหนึ่งที่นำเสนอเรื่องราวของผลิตภัณฑ์ครอบครัวมะเขือเทศ ได้สอดคล้องกับเทรนด์ และบริบทในสังคมปัจจุบัน ทั้งเรื่องของสุขภาพกาย สุขภาพใจ และการมองเห็นคุณค่าในตัวเอง