การตลาดวันละตอน x Sellsuki EP.10: KaiKong ผู้ให้บริการและแนะนำการทำ Content แบบครบวงจร ที่พร้อมดูแลเพจคุณ
วันนี้เราจะมาพูดถึง KaiKong ที่เป็นหนึ่งในบริการ ที่ทาง Sellsuki ส่งมอบให้กับลูกค้า ซึ่งจะให้คำแนะนำในเรื่องของการทำคอนเทนต์ แบบครบวงจร ใครอยากรู้ว่าครบวงจรในด้านไหนบ้างต้องลองติดตาม
KaiKong คืออะไรและมีจุดเริ่มต้นอย่างไร
KaiKong เป็นทีมบริหารจัดการ โซเชียลมีเดียแบบครบวงจร เนื่องจากแต่ละแบรนด์มีความต้องการในการทำโซเชียลมีเดียที่ต่างกัน KaiKong จึงให้บริการวิเคราะห์ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำโดยออกแบบให้เข้ากับธุรกิจนั้นๆ โดยเฉพาะ
ตั้งแต่การวางแผนการสื่อสาร การวิเคราะห์แบรนด์ วิเคราะห์ Target Audien วิเคราะห์คู่แข่ง จากนั้นก็นำการวางแผนนี้มาจัดทำเป็น Content Pillar ซึ่งแต่ละ Pillar ก็จะมี Objective ต่างๆ ให้แบรนด์สามารถนำไปยิงโฆษณาต่อได้
นอกจากนี้เรายังมีบริการแอดมินที่คอยตอบคำถาม เพื่อเก็บฟีดแบกต่างๆ ไปจนถึงการปิดการขาย แล้วก็ส่งออเดอร์ให้ด้วย
อะไรที่ทำให้ลูกค้ามาใช้บริการเรา KaiKong
ย้อนกลับไปเมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว การขายของผ่านช่องทางออนไลน์นั้นเป็นที่นิยมมาก จนทำให้เกิดธุรกิจใหม่ขึ้นมากมาย แต่ปัญหาก็คือถึงจะมีผู้ผลิตรายใหมาเพิ่มขึ้นในตลาดเรื่อยๆ แต่คนที่คอยดูแลจัดการในฝั่งออนไลน์กลับมีน้อยมาก จึงทำให้โอกาสและเข้าไปพัฒนาต่อยอดในการดูแลฝัานงออนไลน์ ทั่งในเรื่องสารสื่อสาร คแนเทนต์ รวมถึงการปิดการขายได้แบบครบงวงจรเป็นเจ้าแรกๆ
ความต้องการของลูกค้าที่เข้าใช้บริการ KaiKong
ความต้องการของเจ้าของธุรกิจส่วนมากนั้นจะคล้ายๆ กันก็คือ ต้องการยอดขายที่มากขึ้น รวมถึงต้องการเข้าคนที่เข้ามาคอยช่วยบริหารจัดการหลังบ้าน
โดยปกติแล้วแบรนด์จะมีชุดข้อมูลปละความรู้ที่ทางแบรนด์เชี่ยวชาญ แต่อาจจะไม่รู้ว่าจะต้อง
สื่อสารออกไปในลักษณะไหน ซึ่งเราก็เปรียบเสมือนตัวกลางระหว่างแบรนด์และกลุ่มเป้าหมายของเขา
กระบวนการในการได้มาซึ่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับลูกค้า
แน่นอนว่าในเรื่องของความรู้หรือข้อมูลเราอาจจะมีไม่มากเท่าเจ้่ของแบรนด์ แต่สิ่งที่ทีม KaiKong เชี่ยวชาญก็คือเรื่องของโซเชียลมีเดีย ที่เรารู้และเข้าใจว่าคนบนโลกออนไลน์ส่วนใหญ่นั้นอยากรู้อะไร
ดังนั้นการได้มาซึ่งข้อมูลก็จะเป็นการทำงานร่วมกันกับแบรนด์ เพื่อให้เรามองเห็นเป้าหมายและเป้าหมายเดียวกัน สิ่งที่เราไม่รู้สิ่งที่เราสงสัย สิ่งที่เราไม่เข้าใจมาก่อน ทีมก็จะไปทำความเข้าใจร่วมกันกับแบรนด์ เอาความรู้ความเชี่ยวชาญที่มีมาแชร์กัน เพื่อจะได้สามารถต่อยอดและเติบโตไปพร้อมกันได้
Case Study สไตล์การทำงานของ KaiKong
สำหรับการสไตล์การทำงานของ KaiKong นั้นจะขออนุญาตยกตัวอย่างเป็น Case Study เพื่อให้เห็นภาพได้ชัดขึ้น
Case1: คลินิกผู้มีบุตรยาก
สำหรับเคสนี้นั้น ทางแบรนด์อยู่กับเราตั้งแต่คลินิกยังสร้างไม่เสร็จด้วยซ้ำ จนกระทั่งตอนนี้กำลังจะเข้า IPO แล้ว ซึ่งในฝั่งของ KaiKong เองก็เติบโตมากับแบรนด์เรื่อยๆ
โจทย์ของธุรกิจนี้จะไม่ได้เน้นเรื่องการปิดการขายเป็นหลัก แต่จะเน้นในเรื่องของการสื่อสาร การให้ความรู้ และข้อมูลที่ถูกต้องมากกว่า
ความท้าทายก็คือเราจะทำอย่างไรให้ความตั้งใจที่ดีของแบรนด์ มันไม่หลุดกรอบเลยตั้งแต่ระหว่างทางจนไปถึงปลายทาง ซึ่งถึงแม้ว่าเคสนี้จะเพิ่มระดับความยากในแง่ของคำศัพท์เทคนิคทางการแพทย์ หน้าที่ของเราคือเราจะสื่อสารสิ่งเรานั้นออกไปในมุมมองที่ลดทอนความซับซ้อนลง ย่อยให้ง่ายขึ้น เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายในแพลตฟอร์มที่เราวางแผนไว้เข้าใจได้ง่ายขึ้น
เนื่องจากศัพท์เทคนิคค่อนข้างเยอะยากรวมถึงมีคู่แข่งที่มากด้วย เราถึงได้ทำการรีเสิร์ชคู่แข่ง ทำ Targer Audien รวมถึงสิ่งที่เขาต้องการสื่อเราก็จะมาวางแผนว่า อาทิตย์นั้นๆ เดือนนั้นๆ ไปจนถึงควอเตอร์นั้นๆ เราจะลำดับความสำคัญเรื่องไหนก่อนหลัง
นอกจากนี้ทางคลินิกนี้มีการใช้บริการแอดมินกับเราด้วย ซึ่งแอดมินก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยในการเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับคลินิก
จึงต้องมีการเรียนรู้กับทางแบรนด์ด้วยว่าควรที่จะตอบไปในทิศทางไหน
Case2: ธุรกิจโซล่าเซลล์
จริงๆ แล้วก็มีหลายบริษัทที่นำสินค้าประเภทนี้มาขาย แต่โจทย์ก็คือเราจะทำอย่างไรให้ธุรกิจของเราแตกต่าง ดังนั้นเราเลยจำเป็นต้องสร้างแบรนด์ความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจให้ได้ เพราะโลกสมัยนี้ มันไม่ใช่ว่าคุณกำลังซื้ออะไรแต่มันคือการซื้อจากใครมากกว่า
สำหรับขั้นตอนการทำงานนั้น จากการที่เราเรียนรู้ร่วมกันกับแบรนด์ พอเรารู้ว่ากลุ่มเป้าหมายมองหาอะไร เราจึงมีการวางคอนเทนต์ทั้งในรูปแบบโพสต์ ภาพ อินโฟกราฟฟิก ไปจนถึงวิดีโอ เพื่อเพิ่มเติมความน่าเชื่อถือด้วยการเน้นเนื้อหาที่มีความเฉพาะทางมากขึ้น เนื่องจาคนที่มาติดตามเพจนั้นส่วนใหญ่เป็นคนที่ศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจังอยู่แล้ว
เมื่อเรารู้ว่ากลุ่มเป้าหมายมองหาอะไรการทำคอนเทนต์เพื่อยิงโฆษณาก็จะคมขึ้น ผลลัพธ์ก็คือเราสามารถประหยัดค่าโฆษณาให้เขาได้ถึง4เท่าจากเดิมที่เขาทำอยู่
นอกจากนั้นเราก็ยังให้ทีมแอดมินเราคอยเก็บคอมเมนต์ต่างๆ คำถามที่เจอบ่อย ประเด็นที่คนสนใจ หรือสิ่งที่คนเข้าใจผิด มาเป็นข้อมูลในการทำคอนเทนต์เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายต่อไปด้วย
KaiKong มีการเทรนด์ทีม Admin อย่างไรให้ตอบโจทย์ลูกค้าในแต่ละธุรกิจ
สำหรับทีมแอดมินนั้นเป็นทีมงานของ KaiKong100% ความท้าทายต่อมาก็คือ ทีมแอดมินของเราจะต้องดูแลในหลากหลายธุรกิจ ซึ่งถึงแม้ว่าทางทีมของเราอาจจะมีความรู้ความเชี่ยวชาญไม่เท่ากับเจ้าของธุรกิจแต่เราพร้อมที่จะเรียนรู้ไปพร้อมกัน
โดยขั้นตอนแรกอาจจะเป็นการรวบรวม FAQ เพื่อเป็นพื้นฐานในการตอบคำถามของลูกค้า นอกจากนี้ทางแอดมินของเรายังมีการจัดทำรายงานผล และเก็บฟีดแบกแบบรายวัน และค่อนข้างเรียลไทม์ เป็นเหมือนการรวบรวม Data ไปเรื่อยๆ เป็นเหมือนการ Develop ข้อมูลเหล่านั้น
ซึ่งในการทำงานก็จะมีทั้งการเทรนด์กันก่อนเริ่มงาน และเทรนด์ไปพร้อมๆ กับการทำงานด้วยการทำความเข้าใจและศึกษาข้อมูลเหล่านั้นในทุกๆ วัน
สำหรับลูกค้าทุกคนที่ทักเข้ามาทุกรายล้วนเข้ามาเพราะปัญหา มีปัญหาต้องการซื้อสิ่งนี้ มีปัญหาต้องการข้อมูล หรือมีข้อสงสัย เพราะฉะนั้นอีกสิ่งหนึ่งที่ทีมแอดมินต้องมีนอกเหนือจากข้อมูลก็คือต้องมี Mindset รวมถึง Service Mind ที่ดี เข้าใจ เต็มใจที่จะตอบคำถาม และให้ความช่วยเหลือกับลูกค้าทุกคน
ถ้าจะยกตัวอย่างคาแรกเตอร์งานในฝั่งแอดมินของ KaiKong ให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นก็เช่น ธุรกิจผลิตภัณฑ์เพิ่มน้ำนมแม่ ความท้าทายอย่างแรกก็คือแอดมินของเรายะงไม่เคยเป็นคุณแม่เลย บางครั้งลูกค้าทักมาด้วยความกังวลใจในเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวผลิตภัณฑ์เลย แต่ทางแอดมินของเรา ทุกคนก็พยายามหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับลูกค้าที่เป็นคุณแม่ให้ได้มากที่สุด โดยไม่ปฏิเสธที่จะตอบคำถามเหล่านั้น
ซึ่งสิ่งนี้ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่จะทำให้ลูกค้าหรือผู้บริโภครู้สึกอุ่นใจ เเละเชื่อใจในความเป็นมืออาชีพของเรา เมื่อถึงเวลาที่เขาต้องการสินค้าประเภทนี้ เราก็จะเป็นตัวเลือกแรกที่เขานึกถึง
การกำหนดช่วงเวลาการทำงานของแอดมินที่ให้บริการ
ก่อนอื่นเราก็ต้องมาดูว่าผู้บริโภคนั้นเสพสื่อกันในช่วงเวลาไหน หรือชอบซื้อกันตอนไหน ซึ่งส่วนใหญ่ผู้บริโภคมักจะเสพสื่อกันตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของวันก็จริง แต่ในช่วงเวลานั้นอาจเป็นเพียงการเลื่อนดูเพื่อเสพข้อมูลข่าวสารเท่านั้น ไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะซื้อของจริงๆ
ซึ่งช่วงเวลาที่คนมีความต้องการซื้อก็คือช่วงเวลาว่างจากการทำงาน อาจจะเป็นช่วงพักเที่ยงบ้าง แต่ช่วงเวลาที่คนต่องการซื้อมากที่สุดก็คือช่วงเวลาหลังเลิกงานไปจนถึงก่อนนอน
ดังนั้นบริการของเราจึงทำขึ้นเพื่อรองรอบพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างครอบคลุมก็คือ 9.00 น. – 24.00 น.
ถ้าอยากมาทำงานร่วมกับ KaiKong จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
จริงๆ แล้วนอกเหนือจากข้อมูนสินค้าและบริการต่างๆ ที่จำเป็นต้องเตรียมให้พร้อมแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เราอยากให้เตรียมมาก็คือแพชชั่นที่จะเติบโตไปด้วยกัน เพราะบางครั้งถ้าเจ้าของธุรกิจเองยังไม่อินกับสิ่งที่ทำ มันก็เป็นเรื่องยากที่เราจะนำไปต่อยอด หรือถ่ายทอดต่อ
แต่ถ้าแพชชั่นคุณพร้อม ทาง KaiKong ก็พร้อมเข้าไปช่วยในทุกๆ สถาการณ์เพื่อจะทำให้แบรนด์คุณเติบโตไปพร้อมๆ กัน
สำหรับใครที่สนใจใช้บริการผู้ช่วยด้านการทำธุรกิจหรือปรึกษากับทีมงาน Sellsuki โทร 02-026-3250 หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.sellsuki.co.th
สำหรับใครที่ต้องดูวิดีโอการสัมภาษณ์ SellSuki EP.10 แบบเต็มๆ สามารถรับชมเพิ่มเติมได้ ที่นี่