Creative Advertising เล่นใหญ่สไตล์ Netflix เพื่อโปรโมต “Space Sweepers”

ไม่ง่ายเลยค่ะที่จะสร้าง Creative Advertising ได้ถูกใจและเรียกเสียงฮือฮาไม่น้อยจากผู้คน แถมต้องโปรโมตให้ตรง concept แบบจังๆ เมื่อไม่นานมานี้หลายคนรวมถึง Netflix Lover คงรู้จักกันมาบ้างแล้วกับ “Space Sweepers” ภาพยนต์ไซไฟอวกาศฟอร์มยักษ์ระดับ Blockbusters เรื่องแรกของเกาหลี 

ถ้าใครอยากลองเปิดโลก CG อลังการเจ๋งๆ update ความก้าวหน้าของวงการภาพยนตร์เกาหลี ก็ได้หาดูได้แล้ววันนี้ที่ Netflix นะคะ อย่างในกลุ่ม NETFLIX LOVER THAILAND คอหนังต่างมาแสดงความคิดเห็นและรีวิวในมุมของตัวเองกันยกใหญ่และโดนหนูน้อย “โดโรธี” หนึ่งในตัวละครตกไปตามๆ กัน  

ความว้าวคือภาพยนตร์ที่มีทุนสร้างหลายร้อยล้านปรับตัวให้อยู่รอดในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเลือกฉายช่องทางสตรีมมิ่งอย่าง Netflix แทนที่จะเข้าฉายผ่านโรงภาพยนตร์ และเราต่างก็ไม่เคยผิดหวังกับวิธีการโปรโมตที่เล่นใหญ่สไตล์เน็ตฟลิกซ์ ส่วนตัวเห็นครั้งแรกก็อึ้งสุดๆ แถมตื่นเต้นที่จะได้แชร์ให้ทุกคนได้อ่านกันด้วยค่ะ

การทำ Creative Advertising: Out of Home เล่นใหญ่สไตล์ Netflix

สิ่งหนึ่งที่นักการตลาดต้องจดไว้เลยคือสื่อโฆษณา OOH จะต้องเรียกความสนใจได้เกินกว่ามูลค่าที่จ่ายไป และต้องคำนึงถึงความเกี่ยวโยงกับ objective ของข่าวสารเป็นสำคัญ เนื่องด้วยเนื้อเรื่องของ “Space Sweepers” เกี่ยวกับอวกาศ ภารกิจนอกโลก เน็ตฟลิกซ์สร้างสรรค์สื่อให้เป็นรูปแบบ Light Box คล้ายกับป้ายที่เราคุ้นเคยหน้าโรงภาพยนตร์ ตกลงมาจากนอกโลกจนปักลงสู่พื้นโลก

โดยป้ายโฆษณาจะถูกตั้งไว้ตามพื้นที่ต่างๆ ในกรุงเทพฯ เน้นย่านชุมชนเพื่อให้คนเข้าใจคำว่า ‘ฉายแล้ววันนี้ที่บ้านคุณ’ นอกจากจะโปรโมตภาพยนต์ได้แล้ว ยังทำให้คนอินกับ Netflix ด้วยนะคะ คนที่ยังใจแข็งไม่เคยดูหนังผ่านเน็ตฟลิกซ์ก็อาจจะเกิดความทรงจำว้าวๆ จนใจอ่อนยอมเป็นสมาชิก Netflix ซะเลย เพราะที่จริงเรื่องนี้มีพากย์ไทยให้รับชมด้วย เหมาะกับการดูที่บ้านได้เหมือนดูที่โรงภาพยนตร์ ลดความเสี่ยงโควิด-19 ไปได้อีก 1 กิจกรรม

ไอเดียนี้ทำให้อยากจะลองเสิร์ชดูแบบเร็วๆ ในทวิตเตอร์ว่าคนที่เจอป้ายรู้สึกว้าวเหมือนกันไหม  

นี่เป็นกระแสตอบรับส่วนหนึ่งที่เจอบนทวิตเตอร์ เรียกได้ว่าเน็ตฟลิกซ์ประสบความสำเร็จไม่น้อยจากวิธีการโปรโมตสุดเล่นใหญ่นี้ แน่นอนหนังได้ว่าคว้าอันดับ 1 ในวันที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมาจนถึง 11 ก.พ. 64 แบบปังๆ

ข้อสรุปการเรียนรู้จากโฆษณาที่เล่นใหญ่แบบ Netflix

นักการตลาดหลายคนอาจจะยังเข้าใจว่าสื่อโฆษณาประเภท Out of Home เป็นสื่อ One Way Communication มีหน้าที่แจ้งข่าวสารไปงั้นๆ ไม่ได้ต้องว้าวอะไร แต่นักการตลาดเอาเคสนี้มาเรียนรู้และพยายาม ยิ่งถ้าสร้างให้เป็น Interactive Media ต่อได้อีกก็จะทำให้เกิดทั้ง experience และกระแสให้สินค้า เพิ่มประสิทธิภาพหลายแง่มุมได้ไม่ยาก ที่ท้าทายคือต้องสร้างสรรค์ให้ไปในทางเดียวกันกับสารที่จะสื่อ ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันให้ได้แบบเน็ตฟลิกซ์ค่ะ 

นุ่นคิดว่าถ้านักการตลาดลองนำไปต่อยอดให้เหมาะกับแบรนด์ตัวเอง เพราะแต่ละแบรนด์จะได้ผลกับกลยุทธ์ไม่เท่ากันอยู่แล้ว ในสถานการณ์แบบนี้ยังมีอะไรให้ปรับตัวอีกมาก จากเคสนี้คงได้เห็นมุมมองเจ๋งๆ ไปมากพอสมควรเลย น่าจะได้เห็นวงการโฆษณาไทยทำอะไรสนุกๆ แบบนี้บ่อยๆ ในปีนี้นะคะ