Citi Prestige เข้าใจพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ กินหรู อยู่สบาย และช้อปของออนไลน์
ปกติเราเลือกสมัครบัตรเครดิตจากอะไรกันบ้างคะ? สิทธิประโยชน์น่าตื่นเต้นหรือเปล่า? เพลินเองเป็นคนนึงที่พูดตรง ๆ คือไม่รู้หรอกว่าต้องสมัครบัตรกับธนาคารไหนดี แต่เห็นสิทธิประโยชน์ว้าวก็เซย์เยส ตกลงสมัคร ๆ ไป สุดท้ายก็ไม่เคยได้ใช้ Benefits อะไรเหล่านั้นเลย เหมือนแบงก์ทำมาล่อตาไปยังงั้นแหละ แต่วันนี้เพลินมีบัตรเครดิตบัตรนึงมาบอกค่ะ เพราะชอบที่สิทธิประโยชน์เค้ามาก นั่นก็คือบัตรเครดิต Citi Prestige World Elite™ Mastercard® นั่นเอง
ถ้าถามว่าสิทธิประโยชน์ดียังไง บอกเลยว่า สิทธิประโยชน์อาจไม่ได้สวยหรู เวอร์วัง แต่มันใช้ได้จริง! ที่สำคัญคือสิทธิประโยชน์ที่เค้าคิดมาแล้วว่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อย่างเรามาก โดยเฉพาะนักโฆษณา นักการตลาดและเจ้าของธุรกิจ SMEs ทุกท่าน ที่ชอบ Lifestlye การกินหรู อยู่สบาย และช้อปปิ้งออนไลน์ ตั้งแต่แอปแบรนด์ยัน E-commerce ของร้าน Retail เจ้าต่างๆ ด้วย
กินหรู: กับชุดน้ำชา
หนึ่งในไลฟ์สไตล์ของคนเราวันนี้ หนีไม่พ้นการไป Check-in ร้านคาเฟ่หรือเลานจ์โรงแรมสวยๆ เพื่อทำ Content จริงไหมคะ ยิ่งมีคาเฟ่หรือ Afternoon tea ที่ไหนเปิดใหม่ ต้องขอไปแจม ไปถ่ายรูปลง Instagram ก่อนใครทุกครั้งไป ซึ่ง Citi Prestige เค้าเข้าใจไลฟ์สไตล์เหล่านี้มาก จนเกิดเป็นอภินันทนาการชุดน้ำชายามบ่าย และมื้อกลางวัน กับ Mastercard® World Elite™ (1 ม.ค. 64 – 30 มิ.ย. 64) มอบให้ผู้ถือบัตร Citi Prestige World Elite™ Mastercard® ด้วย
(ดูรายละเอียดและเงื่อนไขโปรแกรม Mastercard World Elite ได้ที่ https://specials.priceless.com/CITI/en-ap/landingPage)
อยู่สบาย: กับรถลีมูซีน
เมื่อเราได้กินหรูแล้ว เราก็ห้ามพลาดกับบริการรถลีมูซีน ที่การันตีความอยู่สบาย ให้เราได้ถ่ายรูปสร้าง Content แบบคนแพงๆ ไปได้อย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญคือ บริการรถลีมูซีนที่ให้บริการในประเทศ (กรุงเทพฯ หรือภูเก็ต) และเอเชีย แปซิฟิก โดยปกติบัตรเค้ามอบบริการรถลีมูซีนแบบสบาย ๆ นี้เพียง 2 ครั้งต่อปีเท่านั้น แต่ตอนนี้เค้าเพิ่มให้อีก 1 ครั้ง สำหรับที่กรุงเทพฯ หรือภูเก็ต รวมเป็น 3 ครั้งต่อปีเลยทีเดียว (1 มี.ค. 64 – 31 ธ.ค. 64)
ช้อปของออนไลน์: รับพ้อยท์ 5 เท่า
แน่นอนว่าหัวใจต่อมาของการทำบัตรเครดิตคือการสะสม Points เพื่อรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม ซึ่งต้องบอกว่า Citi เค้าเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคใหม่จริง ๆ เพราะเค้ามอบคะแนนสะสมพิเศษ 5 เท่า หากเราใช้บัตร Citi Prestige ในการช้อปปิ้งสินค้าและบริการออนไลน์นั่นเองค่ะ เรียกได้ว่าเป็นสิทธิประโยชน์ที่เข้าใจลูกค้ามาก ๆ แต่มีข้อแม้นิดเดียวคือ ต้องเป็นการช้อปออนไลน์ยอดสะสม 10,000 บาทขึ้นไปต่อเดือนนะคะ (1 มี.ค. 64 – 31 ส.ค. 64)
แน่นอนว่านอกจาก 3 สิทธิประโยชน์นี้ ยังมี Benefits อื่น ๆ อีกมากมายรออยู่ด้วย ซึ่งสิ่งที่เราได้เรียนรู้จาก Citi ก็คือการเข้าใจลูกค้า ว่าลูกค้าใน Range เท่านี้ มีพฤติกรรม ไลฟ์สไตล์แบบไหน เพื่อออก Benefit ที่เข้ากันมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ออกสิทธิประโยชน์ใครๆ ก็ให้ได้ค่ะ สิ่งสำคัญที่สุดคือความจริงใจ ที่ออก Benefits ที่คนสามารถใช้งานได้จริง
ทั้งนี้ก็เหมือนกับการสร้าง Product หรือ Brand Promise เอาไว้ ว่าถ้าซื้อของของเรา ลูกค้าจะได้อะไรบ้าง แล้วลูกค้าได้มาจริง ๆ ไม่ใช่แค่การขายฝัน พอเห็นแบบนี้ นอกจาก Lifestyle จะ Match กันแล้ว ยังได้ใจลูกค้า คนที่มาสมัครบัตรด้วยค่ะ เพราะไม่ใช่แค่ลูกค้าจะได้ Lifestyle แต่ลูกค้าจะได้ Esteem ภาพลักษณ์ที่ดูดีมีระดับไปด้วย เหมือนเป็นการเติมเต็มแง่ Emotional Value ให้แก่สินค้าและตัวลูกค้าเองแบบเต็ม ๆ เลย
ดังนั้นหากนักการตลาดท่านใดกำลังทำสินค้าที่เป็นเชิง Luxury หรูหรา อย่าลืมคิดถึง Emotional Value และความ Practical ที่ลูกค้าจะสามารถใช้งานสิ่งเหล่านั้นได้จริงด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้นมันก็จะเป็นเพียงสินค้าฟุ่มเฟือย เพียงแค่ Nice to Have เฉย ๆ ส่วนใครที่สนใจอยากสมัครบัตร Citi Prestige เพื่อเติมเต็มความกินหรู Lifestyle อยู่สบาย และช้อปออนไลน์ละก็ สามารถดูรายละเอียดและเงื่อนไข หรือสมัครบัตรได้ที่ลิ้งค์นี้เลยค่ะ www.citibank.co.th/prestige
