Blockdit แพลตฟอร์มคุณภาพสำหรับคนที่ต้องการใช้เวลาออนไลน์อย่างมีคุณภาพ

วันนี้จะมาแนะนำเพื่อนๆ ในการตลาดวันละตอนให้รู้จักแพลตฟอร์มคุณภาพของคนไทยที่ชื่อว่า Blockdit ที่ผมเพิ่งได้รับคำเชิญชวนให้ไปสร้างเพจในนั้นเช่นกัน สารภาพตรงๆ จากที่เคยได้ยินชื่อ Blockdit มานานแต่ก็ไม่เคยมีเวลาลงไปศึกษาเรียนรู้ทำความเข้าใจ แต่เมื่อได้ลองเข้าไปรู้จักและทำความเข้าใจบวกกับพูดคุยกับ User หรือ Audience ผู้ใช้ ก็ทำให้ได้พบ Insight ที่น่าสนใจที่ทุกคนรอบตัวต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้าอยากอ่านแบบมีคุณภาพจะมาอ่านที่ Blockdit ก่อน Facebook หรือโซเชียลมีเดียอื่น

Blockdit แพลตฟอร์มคุณภาพเพื่อ Content Creator คุณภาพ

ท่ามกลางโซเชียลมีเดียมากมายหลายแพลตฟอร์ม แต่ต้องยอมรับนะครับว่าที่ผ่านมาบรรดา Content Creator สายคุณภาพที่เน้นการให้ความรู้ด้านต่างๆ มักจะพึ่งพา Facebook เป็นช่องทางหลัก

แต่ในขณะเดียวกันบรรดา Content Creator ที่ทุ่มเททำคอนเทนต์ดีๆ เนื้อหาคุณภาพทั้งหลายออกมา ก็ล้วนต้องพึ่งพารายได้จากโฆษณาเป็นช่องทางหลักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จนทำให้มีบางคนในบ้านเราเริ่มคิดว่า มันจะดีกว่าไหมถ้าเราคนไทยเองมีแพลตฟอร์มของคนไทยเองที่สนับสนุนบรรดา Content Creator ทั้งหลายให้สามารถมีรายได้จากการทำ Content คุณภาพในแบบที่ตัวเองต้องการ โดยยังสามารถสร้างรายได้ให้กลับมาเป็นกำลังใจในการทุ่มเททำคอนเทนต์ต่อไปโดยไม่ต้องหวังพึ่งพิงแต่รายได้จากโฆษณาของแบรนด์ต่างๆ เท่านั้น

ถ้าสังเกตดูจะเห็นว่าบรรดาเพจคุณภาพมากมายล้วนมาสร้างช่องทางเผยแพร่คอนเทนต์ใน Blockdit เช่นกัน และนั่นก็เลยเป็นแรงกระตุ้นให้บรรดาคนที่ต้องการใช้เวลาอย่างมีคุณภาพลดการเสียเวลากับโฆษณาต่างๆ ให้เข้ามาอยู่ในช่องทางนี้เป็นหลักเมื่อคิดจะอ่านอะไรที่ได้ความรู้สาระในแต่ละวัน ก็เลือกที่จะเข้าโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์ม Blockdit เป็นประจำก่อนจะเข้าช่องทางโซเชียลมีเดียทั่วไปเพื่ออัพเดทชีวิตกับเพื่อน หรือความบันเทิงอื่นๆ ครับ

Reach & Algorithm ที่คาดเดาไม่ได้ของ Facebook

อย่างที่เรารู้กันครับว่า Facebook นั้นอยากจะปรับ Algorithm การแสดงฟีดเมื่อไหร่ก็จะทำเลยโดยไม่บอกล่วงหน้ากับใคร แถมยังทำโดยไม่ถามความเห็นของ Content Creator ต่างๆ ที่เฝ้าฟูมฟักปั้นเพจมาด้วยหงาดเหงื่อแรงกาย แถมบางเพจบางแบรนด์ไม่รู้ใช้เงินทุ่มกับ Facebook ไปไม่รู้ต่อขนาดไหน แต่พี่มาร์คแกก็ได้หาแคร์ไม่ เพราะเขาใหญ่เกินกว่าจะก้มลงมามองมนุษย์ทำเพจตัวเล็กอย่างเรา

แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นที่รู้กันคือ Reach ของ Facebook ไม่เคยเพิ่มขึ้นจากวันวาน มีแต่จะปรับลดลงทุกครั้งที่รู้ข่าว จากที่เคยเข้าถึงคนมากๆ ได้ง่ายๆ กลายเป็นวันนี้สัดส่วนการได้รับ Engagement ของเพจที่มีผู้ติดตามหลักแสนขึ้นไปแทบจะเหลือต่ำกว่า 1% ไปเรียบร้อยครับ

ทำให้การแข่งกันสะสมจำนวนผู้ติดตามที่เคยผ่านมาด้วยการทุ่มเงินไปมากมายของแฟนเพจต่างๆ กลายเป็นไร้ค่าในทันที ดีไม่ดีกลายเป็นดาบสองคมกลับมาทำร้าย Reach ของตัวเองเพราะ Facebook มองว่าถ้าเพจไหนมีติดตามเยอะแต่คนไม่ค่อย Engage กับคอนเทนต์ที่ทำมา พี่มาร์คและทีมงานก็อนุมานว่าเพจนั้นน่าจะไม่มีคุณภาพ แล้วก็ยิ่งปรับลด Reach ลงไปเรื่อยๆ จนแทบจะได้ engagement สู้กับเพจหลักพันหรือหลักหมื่นไม่ได้แล้วในบางที

ทีนี้ Content Creator คุณภาพก็เลยมองหาช่องทางใหม่ๆ ที่จะไม่ได้หวังพึ่งแค่ Facebook อย่างเดียวอีกต่อไป และหนึ่งในแพลตฟอร์มคุณภาพที่อยากจะมาแนะนำก็คือ Blockdit เพราะผมก็พาการตลาดวันละตอนขึ้นไปอยู่บนนั้นได้ไม่นาน ลองมาดูกันนะครับว่าในฐานะผู้ใช้งานจริงคิดและรู้สึกอย่างไรกับแพลตฟอร์มนี้

Blockdit แพลตฟอร์มคุณภาพเพื่อคนที่ต้องการออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ

หลังจากผมได้ลองเข้าไปสร้าง Account การตลาดวันละตอนใน Blockdit ก็พบว่ามี Interface หรือ UI ที่คุ้นเคยเหมือน Facebook Fan Page สมัยแรกเริ่มมาก แม้จะดูไม่หวือหวาทันสมัย แต่บอกได้เลยว่าถูกใจสายอ่านอะไรนานๆ ด้วยหน้าตาที่ดีไซน์มาเรียบง่าย ไม่พยายามใส่โน่นนี่นั่นมาแย่งชิงความสนใจหรือสมาธิจากผู้อ่านไปเหมือนที่แพลตฟอร์มอื่นๆ ทำ

เมื่อ User Interface Design ที่ดูเรียบง่ายไม่ทำให้คนอ่านเสียสมาธิ ก็ทำให้เราสามารถอ่านคอนเทนต์คุณภาพได้อย่างเต็มที่ จากการสอบถามผู้ใช้ Blockdit หลายคนมาก็มักได้ยินเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้าอยากอ่านอย่างละเมียดกับคอนเทนต์ดีๆ พวกเขาจะเลือกเปิด Blockdit อ่านทุกเช้าก่อนเริ่มงาน

ถ้าเปรียบเทียบกับสื่อหนังสือพิมพ์ตอนผมยังเด็กก็คงเปรียบได้กับนักธุรกิจที่เลือกอ่าน​ Bangkok Post อ่านไม่อ่านไม่รู้ แต่แค่มีหนังสือพิมพ์นี้วางบนโต๊ะทำงานหรือในห้องที่บ้านก็รู้สึกว่าฉลาดขึ้นอีก 3 ระดับแล้ว

จากนั้นเราสามารถเลือกหมวดหมู่ของคอนเทนต์แต่ละโพสได้อย่างชัดเจน ทำให้การค้นหาคอนเทนต์ที่ตรงกับประเด็นความสนใจของผู้อ่านก็เป็นเรื่องง่าย เช่น การตลาดวันละตอนเองก็โฟกัสกับการเลือกหมวดหมู่การตลาดมากกว่าอย่างอื่น ทำให้เราสามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่ และขัดเกลาคอนเทนต์ให้แหลมคมขึ้นไปโดยไม่ต้องเสียสมาธิกับเรื่องใดๆ

ในแง่ของ Audience ผู้อ่านที่ไม่ใช่ Creator จากการพูดคุยก็ได้ Insight ที่น่าสนใจว่า พวกเขาชอบการอ่านบน Blockdit มากกว่า Facebook แม้จะเป็นคอนเทนต์เดียวกันจาก Creator คนเดียวกัน แต่การอ่านบน Blockdit นั้นมีสมาธิในการจดจ่อมากกว่า เมื่อไหร่ที่อ่าน Blockdit เสร็จถึงจะค่อยกลับไปเล่นชิทแชทกับเพื่อนๆ บน Facebook หรือ Social media platform อื่นแทน

เห็นมั้ยครับว่า Purpose ของ Platform นี้นั้นชัดเจน โฟกัสกับคุณภาพมากกว่าจะเน้นแค่เรื่องของปริมาณ และที่สำคัญที่สุดของแพลตฟอร์ม Blockdit คือ Creator สามารถอยู่ได้ด้วยเงิน Support จากผู้อ่านและ Blockdit ด้วยตัวเองครับ

คอนเทนต์ดีมีเงินใช้โดยไม่ต้องไปง้อโฆษณามาซัพพอร์ท

เดิมทีรายได้ของ Creator หรือผู้เป็น Publisher ล้วนมาจากสปอนเซอร์โฆษณาเป็นสำคัญ บางครั้งโฆษณาต่างๆ ที่มีขอลงก็พยายามเปลี่ยนแปลงคาแรคเตอร์ของ Creator แต่ละคนไปมากบ้างน้อยบ้างตามเงินที่จ่าย

บางครั้งถูกขอให้พูดแบบนั้นออกไปให้ Audience ทั้งที่ Creator เองก็อาจจะไม่ได้เชื่อเต็มร้อยหรืออินกับสิ่งนั้นเต็มที่ แต่ก็นั่นแหละครับเมื่อลูกค้าขอมาก็ยากจะขัดได้ ในฐานะ Creator ที่เคยผ่านจุดนั้นมาก็ยอมรับว่าเราเองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ต้องกินต้องใช้ต้องผ่านบ้านเลี้ยงลูกน้องนั่นเอง

แต่กับ Blockdit ที่สร้างมาจากคนเป็น Creator มาก่อนย่อมเข้าใจใน Pain point และ Insight ข้อนี้ดี จึงสร้าง Business model ใหม่ที่ให้คนอ่านสามารถซัพพอร์ทคนเขียนได้ และตัว Blockdit เองก็ยินดีเอาเงินรายได้ที่ตัวเองทำแพลตฟอร์มมาซัพพอร์ท Content Creator เช่นกัน

เพราะคอนเทนต์คุณภาพจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่ได้รับการซัพพอร์ทให้เรามีแรงและมีกำลังใจที่จะทำต่อ จากเท่าที่อ่านดูแม้จะไม่ได้อู้ฟู่มากมาย แต่ก็ทำให้เราสามารถทำตามความฝันที่อยากจะทำคอนเทนต์ดีๆ ได้ไม่ยากครับ

ตอนนี้การตลาดวันละตอนเองก็มีเพจบน Blockdit แล้ว ถ้าจะใจดีเข้ามาให้เพชรเพื่อสนับสนุนก็ยินดีนะครับ ขอกันตรงๆ นี่แหละ ไม่อายหรอก 555

ส่วนสุดท้ายนี้หลายคนอาจจะมีคำถามว่า Blockdit ในวันนี้โตแค่ไหนแล้วในบ้านเรา ผมมีข้อมูลบางส่วนจากทีมงาน Blockdit มาแอบแชร์ให้คนที่สนใจจะไปสร้างเพจในนี้ได้ตัดสินใจง่ายขึ้นครับ

Blockdit โตขึ้นเรื่อยๆ อย่างมีคุณภาพ

ในแง่ของการเติบโตที่เป็น WAU หรือ Weekly Active User นั้นโตขึ้นกว่า 1.5 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงต้นปี 2020 เมื่อผมเข้าไปหาข้อมูลเองต่อเพื่อดูว่าแล้วปริมาณการเสิร์จหา Blockdit เป็นอย่างไรบ้างนอกจากแค่ WAU ที่โตขึ้นแบบนี้

ผลปรากฏว่าจำนวนการค้นหาคำว่า Blockdit ของคนไทยนั้นก็เพิ่มขึ้นกว่า 66% ใน 12 เดือนที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นตัวเลขที่สวยงามไม่แพ้ใครสำหรับแพลตฟอร์มของคนไทยที่ต้องการให้คนไทยได้อ่านคอนเทนต์ที่ดีมีคุณภาพโดยไม่มีอะไรมารบกวนสายตาและสมาธิให้วุ่นวายครับ

สรุปส่งท้าย การตลาดวันละตอน คิดอย่างไรกับ Blockdit

บอกตรงๆ ว่าหลังจากได้ลองใช้แล้วก็รู้สึกว่าน่าสนใจ เพราะ Quality Audience จำนวนมากล้วนเข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์มนี้กันไม่น้อย หลายคนที่ได้คุยกันตรงๆ ก็รู้สึกเลยว่าเป็นกลุ่ม Intellectual ที่ไม่ได้ต้องการอ่านแค่อะไรสนุกๆ ทั่วไปในแต่ละวัน แต่พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่มีเวลาจำกัด อาจจะเป็นผู้บริหาร หัวหน้างาน หรือเจ้าของธุรกิจ ที่ต้องการจะอ่านอะไรที่ได้สาระเข้าประเด็นจริงๆ ไม่ต้องการเลื่อนหน้าฟีดไปเรื่อยๆ แล้วก็รอลุ้นว่าจะเจออะไรที่น่าสนใจโผล่ขึ้นมาบ้างแบบ Facebook

ตอนนี้ผมเองยังอยู่ในช่วงเรียนรู้การทำคอนเทนต์บน​ Blockdit เพื่อจะเข้าใจพฤติกรรมการใช้งาน Blockdit ของผู้คนบนแพลตฟอร์มแห่งนี้ เพราะการทำคอนเทนต์แบบเดิมที่ทำบนเพจอาจไม่ได้ผลในแพลตฟอร์มอื่นเสมอไป ดังนั้นใครที่จะหันมาเริ่มทำคอนเทนต์บน Blockdit ก็ต้องเข้าใจในจุดนี้ด้วยครับ

ในช่วงแรกแบบนี้ผมยังมีผู้ติดตามไม่เยอะ แต่ก็เรียนรู้จากการทำเพจมานานค้นพบว่าความสม่ำเสมอหรือ Consistency นั้นคือหัวใจสำคัญของการจะทำให้เพจหรืองานใดๆ ประสบความสำเร็จ

ดังนั้นถ้าใครที่ทำเพจเริ่มคงที่และอยู่ตัวแล้ว และก็เบื่อกับการปรับ Algorithm และ Reach ที่มีแต่ลดลงของพี่มาร์คลงไปทุกวัน ผมแนะนำให้ลองมาฝังตัวและเรียนรู้แพลตฟอร์มคุณภาพอย่าง Blockdit แห่งนี้ดู อย่างน้อยการเอาไข่กระจายไว้ในตะกร้าหลายใบ ก็ยังคงปลอดภัยกว่าการเอาไข่ทุกใบที่มีใส่ไว้ในตะกร้าใบเดียวที่คาดเดาไม่ได้จริงไหมครับ

ฝากติดตามการตลาดวันละตอนบน Blockdit ด้วยนะครับ > https://www.blockdit.com/pages/5ff71742be0268129a39475c