4 แนวทางการปรับตัว เมื่อ AI กำลังพลิกโฉมวงการสื่อมวลชน จาก VERO

4 แนวทางการปรับตัว เมื่อ AI กำลังพลิกโฉมวงการสื่อมวลชน จาก VERO

สวัสดีนักการตลาด และนักอ่านทุก ๆ คนครับ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา VERO บริษัทที่ปรึกษาด้านการสื่อสารและการตลาดดิจิทัลชั้นนำของ Southeast asia ได้เผยแพร่ผลการสำรวจที่น่าสนใจเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยี AI ในวงการสื่อสารมวลชนครับ พบว่า AI กำลังเป็นตัวเปลี่ยนเกมในหลาย ๆ ด้าน ตั้งแต่การรวบรวมข้อมูล การเขียนและเล่าเรื่อง ไปจนถึงการนำเสนอข่าวสารในรูปแบบใหม่ ๆ บทความนี้จะพาไปดูสถิติต่าง ๆ และพามาดู 4 แนวทางการปรับตัว กับ AI กันครับ

AI ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการประมวลผลข้อมูลอย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่ยังช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและช่วยให้นักข่าวสามารถทำข่าวเชิงสืบสวนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยครับ ตัวอย่างเช่น การใช้ AI เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มการบริโภคข่าวสาร หรือการค้นพบข้อมูลที่ซ่อนอยู่ในฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่มนุษย์อาจไม่สามารถทำได้ในเวลาอันสั้น แต่ก็ต้องแลกกับความแม่นยำและความถูกต้องทีอาจจะน้อยลง

อีกทั้ง AI ยังสามารถช่วยในการสร้างเนื้อหาเชิงสร้างสรรค์ เช่น การเขียนบทความหรือการสรุปข่าวสารที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้อ่าน และยังช่วยให้นักข่าวสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในเวลาที่เร็วขึ้นครับ ทั้งนี้การที่ AI สามารถปรับปรุงและปรับตัวเองให้ดียิ่งขึ้นได้ตามข้อมูลที่ได้รับ ทำให้เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าของวงการสื่อมวลชนได้อย่างไม่ต้องสงสัย

ผลการสำรวจที่ตีพิมพ์ในหัวข้อ ‘AI and Journalism in Southeast Asia: A Survey of Opportunities and Challenges’ ได้สำรวจนักข่าวจำนวน 75 คนใน 4 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม โดยผลการสำรวจได้แสดงให้เห็นว่า นักข่าวและสื่อมวลชนในแต่ละประเทศต่างมีระดับความเข้าใจและการยอมรับ AI ที่แตกต่างกันไปครับ พามากางสถิติดูกันดีกว่า

แนวทางการปรับตัว AI
  • อินโดนีเซียและไทย: นักข่าวในทั้งสองประเทศนี้มีการทำความเข้าใจ AI อย่างลึกซึ้งถึง 95% และมีการปรับใช้ AI ในการทำงานจริงในระดับสูง นั่นหมายถึงการที่นักข่าวในประเทศเหล่านี้ได้เรียนรู้และเริ่มนำ AI มาใช้ในงานข่าวสารในชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยปรับปรุงกระบวนการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพครับ
  • ฟิลิปปินส์: ที่นี่นักข่าวถึง 90% รู้จักและคุ้นเคยกับ AI แต่เพียง 52% เท่านั้นที่ได้เริ่มนำ AI มาปรับใช้จริงในงานของพวกเค้า ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการขาดทรัพยากรหรือการสนับสนุนจากองค์กรในการฝึกอบรมหรือการนำเทคโนโลยีใหม่นี้มาใช้ครับ
  • เวียดนาม: แม้ว่ามีถึง 78% ของนักข่าวที่คุ้นเคยกับ AI แต่ทุกคน (100%) ก็แสดงท่าทีเชิงบวกต่อการใช้ AI ในอนาคต โดยมองว่าเทคโนโลยีนี้จะสามารถช่วยเสริมสร้างคุณภาพของงานข่าวได้ครับ
แนวทางการปรับตัว AI

พามาดูในแง่ของข้อกังวลเกี่ยวกับ AI กันบ้างดีกว่าครับ นักข่าวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับ AI ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการ การลดผลกระทบต่อแรงงาน และปัญหาด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยเฉพาะในไทยที่นักข่าวหลายคนกังวลว่า การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจทำให้คุณภาพและความน่าเชื่อถือของข่าวสารลดลง

  1. ฟิลิปปินส์: นักข่าวในฟิลิปปินส์มีความกังวลมากที่สุดเกี่ยวกับเรื่อง จริยธรรม ของการใช้ AI ตามมาด้วยความกังวลเรื่อง การทดแทนแรงงานมนุษย์ และ นโยบายและการบริหารจัดการ AI ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีความกังวลว่าการใช้ AI อาจนำไปสู่การแทนที่แรงงานมนุษย์และการขาดแนวทางที่ชัดเจนในการกำกับดูแลครับ
  2. อินโดนีเซีย: นักข่าวในอินโดนีเซียมีความกังวลหลักในด้าน จริยธรรม และ การทดแทนแรงงานมนุษย์ เช่นเดียวกับฟิลิปปินส์ โดยมี นโยบายและการบริหารจัดการ AI เป็นประเด็นที่สามที่กังวลครับ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความกังวลที่คล้ายคลึงกันเกี่ยวกับผลกระทบที่ AI อาจมีต่อการทำงานและมาตรฐานจริยธรรมในสื่อมวลชน
  3. ไทย: นักข่าวในไทยแสดงความกังวลเกี่ยวกับ จริยธรรม ของการใช้ AI มากที่สุด ตามมาด้วยความกังวลเรื่อง การพึ่งพา AI มากเกินไป ซึ่งอาจทำให้คุณภาพและความน่าเชื่อถือของข่าวลดลง และ นโยบายและการบริหารจัดการ AI นอกจากนี้ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการที่ AI อาจเข้ามาแทนที่กระบวนการตัดสินใจของมนุษย์อีกด้วย
  4. เวียดนาม: ความกังวลของนักข่าวในเวียดนามนั้นแตกต่างไปเล็กน้อย โดยประเด็นหลักคือ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซะมาก ตามมาด้วยความกังวลเรื่อง ความแม่นยำของข้อมูล และ การใช้ AI อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งแสดงถึงความกังวลในเรื่องความปลอดภัยและความถูกต้องของข้อมูลที่ AI อาจสร้างหรือจัดการ

โดยรวมแล้ว นักข่าวใน SEA นี้ได้แสดงความกังวลในหลายประเด็นเกี่ยวกับการใช้ AI ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริยธรรม การทดแทนแรงงานมนุษย์ ความเสี่ยงทางไซเบอร์ และการพึ่งพา AI มากเกินไป ซึ่งสามารถสรุปได้ว่ามีความกังวลว่า AI อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้ควบคุมและอาจกระทบต่อคุณภาพของการทำข่าวอย่างมีนัยสำคัญครับ

ผลการสำรวจ ‘เทคโนโลยี AI และการสื่อสารมวลชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (AI and Journalism in Southeast Asia)’ สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจากเว็บไซต์ VERO ได้เลยครับ

การนำ AI มาใช้ในสื่อมวลชนยังมีความท้าทายหลายประการ นักข่าวหลายคนกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ความมั่นคงในการทำงาน และความเป็นธรรมในการใช้ AI ตัวอย่างเช่น มีความกังวลว่า AI อาจทำให้เนื้อหาที่ถูกสร้างขึ้นมามีลักษณะซ้ำซากหรือขาดความเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการใช้ AI ในทางที่ไม่เหมาะสม เช่น การปลอมแปลงข้อมูลหรือการสร้าง fake news

อย่างไรก็ตาม การมี AI เข้ามาในสื่อมวลชนยังเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับนักข่าวและองค์กรข่าว ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความสามารถในการรายงานข่าวแบบเรียลไทม์ การใช้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อทำข่าวเชิงสืบสวนที่มีคุณภาพสูงขึ้น หรือการพัฒนาวิธีการใหม่ ๆ ในการสื่อสารกับผู้อ่านที่หลากหลายมากขึ้น

#1 การศึกษาและการฝึกอบรม

การพัฒนาหลักสูตรและโปรแกรมการฝึกอบรมที่เหมาะสมเป็นขั้นตอนสำคัญในการเตรียมความพร้อมให้กับนักข่าวและสื่อมวลชนในการใช้ AI ในการทำงานข่าว ซึ่งหลักสูตรเหล่านี้ควรครอบคลุมเนื้อหาเกี่ยวกับพื้นฐานของ AI วิธีการทำงานของ AI และการประยุกต์ใช้ AI ในงานข่าวครับ เช่น การใช้ AI ในการรวบรวมข้อมูลข่าวสาร การวิเคราะห์ข้อมูล การสร้างเนื้อหา และการตรวจสอบข้อเท็จจริง

นอกจากนี้ การฝึกอบรมยังควรเน้นให้ความรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงและข้อจำกัดของ AI เช่น การเข้าใจว่าข้อมูลที่ AI ประมวลผลอาจมีอคติหรือความผิดพลาด และวิธีการจัดการกับความท้าทายเหล่านี้ในบริบทของการทำข่าว

ตัวอย่างการฝึกอบรม

  • หลักสูตรพื้นฐานเรื่อง AI สำหรับสื่อมวลชน: การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ AI เบื้องต้นและการประยุกต์ใช้ในงานข่าว
  • การใช้ AI ในการตรวจสอบข่าวสาร: การฝึกอบรมการใช้ AI ในการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารเพื่อลดการเผยแพร่ข้อมูลที่ผิดพลาด
  • การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกด้วย AI: การเรียนรู้วิธีใช้ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนและสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงขึ้น
AI-Generated Image by Shutterstock (Prompt: A journalist in a modern newsroom, surrounded by advanced ai tools, analyzing data on multiple screens, training on ai powered software to enhance reporting skills, blending traditional journalism with ai technologies)

2. การยอมรับและการปรับตัว

การสนับสนุนให้นักข่าวทุกระดับเข้าใจและยอมรับการใช้ AI เป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้เกิดการปรับตัวที่ราบรื่น การปรับตัวนี้ไม่ใช่เพียงการนำ AI เข้ามาแทนที่มนุษย์ แต่เป็นการเสริมสร้างความสามารถในการทำงานของมนุษย์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ เช่น การใช้ AI เพื่อช่วยทำงานที่ซ้ำซ้อนหรือใช้เวลาในการประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก เพื่อให้นักข่าวมีเวลาและทรัพยากรมากขึ้นในการทำข่าวเชิงลึกหรือข่าวเชิงสืบสวนที่มีความซับซ้อนมากขึ้น

แนวทางการสนับสนุน:

  • การจัดเวิร์คช็อปและการสัมมนาเกี่ยวกับบทบาทของ AI ในการทำข่าว เพื่อเปิดโอกาสให้นักข่าวและผู้สื่อข่าวได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์เกี่ยวกับการใช้ AI
  • การสร้างคู่มือการใช้งาน AI สำหรับนักข่าว เพื่อให้ความรู้และแนวทางในการประยุกต์ใช้ AI ในงานข่าว
  • การจัดตั้งกลุ่มสนับสนุนภายในองค์กรข่าว เพื่อช่วยให้นักข่าวปรับตัวและเรียนรู้วิธีการใช้ AI อย่างมีประสิทธิภาพ

3. ความโปร่งใสและความรับผิดชอบ

การให้ข้อมูลที่ชัดเจนและโปร่งใสเกี่ยวกับฟังก์ชันและข้อจำกัดของ AI เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นจากผู้อ่านและผู้บริโภคข่าวสารครับ โดยสื่อมวลชนต้องมีความโปร่งใสในการสื่อสารถึงวิธีการที่ใช้ AI ในการสร้างเนื้อหา รวมถึงข้อจำกัดและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น การกระทำโปร่งใสจะช่วยป้องกันความเข้าใจผิดและเพิ่มความไว้วางใจจากผู้อ่านครับ

มาตรการที่อาจนำมาใช้:

  • การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ AI ในการทำข่าว เช่น การระบุในบทความว่าเนื้อหาบางส่วนถูกสร้างหรือแก้ไขโดย AI
  • การเผยแพร่แนวทางการใช้ AI อย่างมีจริยธรรมและโปร่งใส เพื่อสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นให้กับผู้อ่าน
  • การสร้างนโยบายภายในองค์กรเกี่ยวกับการใช้ AI ที่ชัดเจนและมีความรับผิดชอบ เช่น การกำหนดให้มีการตรวจสอบและยืนยันข้อมูลจาก AI ก่อนเผยแพร่

4. การสนับสนุนจากองค์กรและการวางนโยบายที่ชัดเจน

องค์กรข่าวควรสร้างระบบสนับสนุนที่แข็งแกร่งและวางนโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้ AI เพื่อให้แน่ใจว่า AI ถูกนำมาใช้ในทางที่ถูกต้องและมีจริยธรรม การสร้างนโยบายนี้ควรครอบคลุมทั้งการใช้ AI ในการสร้างเนื้อหา การตรวจสอบข้อมูล และการใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก นอกจากนี้ การวางนโยบายควรเน้นที่การรักษาความเป็นธรรมและความถูกต้องของเนื้อหาข่าว เพื่อป้องกันไม่ให้ AI ถูกนำมาใช้ในทางที่ผิดหรือเป็นอันตราย

ตัวอย่างของนโยบายและการสนับสนุน:

  • การจัดตั้งคณะกรรมการภายในองค์กรเพื่อดูแลและตรวจสอบการใช้ AI ในการทำข่าว
  • การกำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้ AI เพื่อให้มั่นใจว่าเนื้อหาข่าวยังคงรักษาความเป็นธรรม ความถูกต้อง และความน่าเชื่อถือ
  • การสร้างระบบสนับสนุนทางเทคนิคและการให้คำปรึกษาสำหรับนักข่าวที่ใช้ AI ในงานข่าว

บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ

Tlee Krit

ชื่อเติ้ลครับ ทำงานเป็น Data Research Insight & Marketing Content Creator แห่งการตลาดวันละตอนครับ ^^

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *