รีวิว Business Class สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ กับ Brand Experience

รีวิว Business Class สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ กับ Brand Experience

รีวิว Business Class สิงคโปร์แอร์ไลน์ ลองมาดูกันนะครับว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายมากขนาดไหน จากมุมมองของนักการตลาดคนหนึ่ง

วันที่ 30 กรกฎาคม 2022 ถึงวันที่ 2 สิงหาคม 2022 ผมพอมีช่วงเวลาว่างสั้นๆ แบบกระชับๆ ก็เลยถือโอกาสนี้บินไปเที่ยวต่างประเทศใกล้บ้างอย่างสิงค์โปรสักหน่อย

แต่ด้วยความที่เวลาว่างมีน้อยมาก ดูจากตัวเลขวันเหมือนว่าผมจะเที่ยวได้เยอะ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่เลยครับ ผมแทบจะมีเวลาเหลือเที่ยวจริงๆ แค่ 2 วันถ้วนเท่านั้นเอง

วันที่ 30 กรกฎาคม 2022 ช่วงเช้าถึงบ่ายผมมีสอบนักศึกษา DiMC ป.โท ม.กรุงเทพ ด้วยความที่งกเวลาเที่ยว เลยเลือกจองไฟท์บิน 16:00 แทนที่จะเป็นช่วงหัวค่ำแทน ส่วนวันที่ 2 ที่บินกลับนั้นด้วยความที่ติดงานบรรยายคลาส Mission X SCB ตอนบ่ายสอง เลยต้องเลือกบินไฟท์ 9 โมงเช้าเพื่อให้ทันงานที่รับไว้

นั่นเลยเป็นเหตุผลว่า ขอลองเลือกบินแบบ Business Class ดูสักหน่อย เพราะคิดว่าน่าจะได้ความสะดวกสบายรวดเร็วไม่น้อย โดยเฉพาะขาไปที่นี่แหละครับที่กลัวตกเครื่องแบบสุดๆ

สอบนักศึกษาเสร็จเกือบบ่าย บึ่งจาก ม.กรุงเทพ รังสิต ยิงยาวมาสุวรรณภูมิ ขึ้นทางด่วนยาวถึงสนามบิน ใช้ระยะเวลาราวๆ หนึ่งชั่วโมงนิดๆ เท่านั้น

โชคดีเลี้ยวเข้าตึกจอดรถอาคาร 3 เจอรถกำลังออกจากช่องจอดพอดี เหมือนฟ้าบันดาลสงสารชายผู้มีเวลาเที่ยวน้อยคนนี้ ให้ไม่ต้องตกเครื่องเลื่อนตั๋วเป็นไฟท์ถัดไป

Check-in รวดเร็วทันใจเมื่อบิน Business Class

จอดรถเสร็จตรงเข้าสู่ช่องเช็คอิน Business Class ของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ พบว่ามีคนต่อแถวน้อยมาก ก็เลยประหยัดเวลาการเช็คอินออก Boarding Pass ไปได้โข

ขอบคุณพนักงานเช็คอินด้วยนะครับ ที่บริการอย่างดีและรวดเร็วมากในวันนั้น

Fast Track ช่องลัดประหยัดเวลาสุดๆ

จากเดิมที่เมื่อได้ Boarding Pass แล้วต้องไปต่อคิวยาวมากๆ เพื่อผ่านการตรวจเช็คเอกสารความเรียบร้อย เดิมทีอาจต้องใช้เวลาหลายนาที ยิ่งเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนสำหรับผม เลยไม่แน่ใจว่าจะขึ้นเครื่องได้ทันเวลาหรือไม่

นี่เลยเป็นอีกหนึ่งเหตุผลหลักที่นอกจากสามารถเลื่อนไฟท์ได้โดยเสียค่าใช้จ่ายน้อย ก็คือการผ่านการตรวจเช็คเข้าสู่พื้นที่สนามบินได้อย่างรวดเร็ว ใครที่ซื้อตั๋วแบบ Business Class ฝั่งประเทศไทย จะมีช่องพิเศษ Fast Track ที่คนน้อยมากกกกกกก มากจนแทบจะมีแค่คุณเท่านั้นจริงๆ

แถวมันก็จะโล่งๆ ประมาณนี้แหละครับ สะดวกสบายมาก ไม่ต้องกังวลว่าจะทำอะไรผิดพลาดจนเสียเวลาคนข้างหลังหรือเปล่า

เมื่อเราผ่านเข้าสู่พื้นที่สนามบินแล้ว ไหนๆ เราจ่ายแพงกว่าเพื่อความสะดวกสบายทั้งที เราก็ต้องลองไปดู Lounge ของ Business Class กันหน่อยดีไหมครับ

Business Lounge หาของกินรองท้อง แต่กลับอิ่มจุกท้องจริงๆ

เดิมทีถ้าบินตั๋วปกติ ถ้าผ่านเข้าพื้นที่สนามบินแล้ว จะต้องหาร้านนั่งพักระหว่างรอเรียกขึ้นเครื่อง ซึ่งร้านส่วนใหญ่ก็มักจะเต็มไปด้วยนักเดินทางที่รอขึ้นเครื่องเหมือนกับเรา ทำให้หลายทีมักไม่มีที่ว่างในร้านที่เราอยากนั่ง หรือลำพังจะต่อคิวซื้อก็ใช้เวลาไม่น้อย

เมื่อเดินเข้ามาก็จะพบว่าว่างมากกกกกก ไม่ใช่อะไรครับ ผมยังเดินเข้าไปไม่ถึงโซนที่มีอาหาร พอเดินเข้าไปข้างในเท่านั้นแหละ ก็เต็มไปด้วยผู้คนไม่น้อย แต่ก็ยังหาที่ว่างได้ไม่ยาก จากนั้นก็ถึงเวลาที่ผมเดินไปสำรวจอาหารว่ามีอะไรที่ดูน่ากินบ้าง

เลยถือโอกาสถ่ายเป็นคลิปสั้นๆ มาให้ดูกัน จริงๆ มีเยอะกว่านี้พอควรครับ เยอะไม่แพ้บุฟเฟ่ต์โรงแรมดีๆ เลย

เมื่อกินอาหารอิ่มท้องเรียบร้อย ก็ถึงเวลาขึ้นเครื่อง แต่ด้วยการที่ผมเดินเล่นเยอะไปหน่อย เลยได้ขึ้นเครื่องเป็นคนท้ายๆ แต่ยังโชคดีไม่ใช่คนสุดท้ายครับ

และแล้วมาถึงไฮไลท์สำคัญของการบิน Business Class ก็คือเบาะที่นั่ง มาดูกันดีกว่าครับว่าสะดวกสบายสมราคาที่ยอมจ่ายแพงกว่าตั๋วธรรมดาเกือบ 3 เท่าหรือเปล่า

รีวิวเบาะที่นั่ง Business Class สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์

ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่า คลิปนี้เป็นคลิปขากลับ ไม่ใช่คลิปขาไปนะครับ แต่ทุกอย่างเหมือนกันหมด แม้แต่ตำแหน่งที่นั่งผมก็ยังได้ที่เดิมด้วยซ้ำ อุตส่าห์แอบลุ้นว่าจะได้ที่นั่งริมหน้าต่างบ้างไหมนะ

ภาพรวมของที่นั่งคือใหญ่มากๆ ปรับยืดนอนได้เกือบสุด แต่ยังไม่ถึงขนาด Flat ราบเรียบ แต่ก็สามารถยืดขาออกไปได้สุด ภาพเหมือนโซฟาเบดสบายๆ ตัวหนึ่ง มีที่วางของมากมายช่องโน้นช่องนี้ มีจอทีวีส่วนตัวขนาดใหญ่ มีรีโทมควบคุมใช้งานง่ายแบบทัชสกรีน จะเปลี่ยนมาเล่นเกมก็ได้

ที่ประทับใจคือมีหนังใหม่มากบนเครื่อง คือมี Spiderman กับ Dr.Strange ภาคล่าสุดที่เพิ่งออกจากโรงให้ดูด้วยครับ

ส่วนตัวผมชอบตรงมีไฟมากมายให้เลือกเปิด เหมาะกับคนที่เอาหนังสือไปนอนอ่านระหว่างบินทั้งไปและกลับมาก

มีช่องวางกระเป๋าใต้ที่นั่งตัวเองเป็นสัดส่วน แถมยังมีหมอนกับผ้าห่มส่วนตัวให้สำหรับคนอยากนอนจริงๆ

มีหูฟังดีๆ ให้ใช้ แต่ส่วนตัวผมไม่ได้ลองใช้ฟังอะไรเลยครับ

มีปลั๊กมากมายให้เลือกเสียบ ตั้งแต่เสียบ USB ชาร์จไฟมือถือหรือ iPad หรือจะเสียบ HDMI ต่อกับจอของที่นั่งเราเพื่อทำงานเลยก็ได้ครับ ดีจริงๆ ต่อไปนี้คนนั่ง Business Class ถ้ามีงานด่วนต้องทำก็สามารถนั่งทำระหว่างบินตลอดไฟท์ได้เลย เพราะเขามีอินเทอร์เน็ตบนเครื่องให้ใช้ด้วย!

อยู่บนเครื่องก็ใช้อินเทอร์เน็ตได้

เดี๋ยวนี้เวลาเราบินเราสามารถเชื่อมต่อกับคนบนพื้นดินได้แล้ว ผมเองเพิ่งรู้ว่าเราสามารถใช้อินเทอร์เน็ตบนเครื่องบินได้ โดยสายการบิน Singapore Airline มีการแยกบริการอินเทอร์เน็ตเป็นสองระดับตามตั๋วเครื่องบิน

ถ้าบิน First หรือ Business Class เราจะสามารถใช้อินเทอร์เน็ตทำอะไรก็ได้มากถึง 100 MB เอาจริงๆ ก็เพียงพอจะอัพโหลดหรือเล่นเฟซบุ๊กได้อยู่ครับ แต่อาจจะช้าหน่อย แต่ข้อดีคือไม่จำกัดชั่วโมงการใช้งานเหมือนกับ Economy Class ที่จำกัดให้ใช้ได้ 2 ชั่วโมง แต่ใช้งานได้แค่การแชทเท่านั้น

แต่ถึงจะใช้ได้แค่แชท ก็ดีกว่าใช้อะไรไม่ได้เลยจริงไหมครับ

ส่วนการใช้งานก็ง่ายมาก ไม่ต้องกรอกอะไรให้วุ่นวาย แค่กรอกอีเมล นามสกุล และเลขที่นั่งของเรา ง่ายๆ เท่านี้จริงๆ ครับ ง่ายกว่าใช้เน็ตฟรีหลายที่ในบ้านเราด้วยซ้ำ

และนี่ก็เป็นปุ่มสำหรับปรับเบาะที่นั่ง Business Class ของเราให้สะดวกสบายเต็มที่ตามอัธยาศัยของแต่ละคนครับ

รีวิวเบาะที่นั่งไปก็เยอะแล้ว เรามาลองดูเมนูอาหารของ Business Class กันดีกว่า

กินดีอยู่ดี เมื่อบิน Business Class

เดิมทีเราอาจจะเลือกได้แค่เล็กน้อย แต่พอบิน Business Class เราจะได้เมนูมาเป็นเล่มที่เราสามารถเลือกได้มากมาย โดยเฉพาะในหมวดหมู่เครื่องดื่ม คนที่ชอบดื่มเบียร์ ดื่มไวน์ รับรองว่าการบินของคุณจะลื่นไหลจนหน้าแดงได้ไม่ยากจริงๆ ครับ

ส่วนผมวันนั้นเลือกเมนูสเต็กไก่ แม้จะไม่อร่อยว้าวน้ำตาไหล แต่โดยรวมถือว่าเป็นมื้อบนเครื่องที่ประทับใจอยู่ครับ

เมนูกาแฟก็มีให้เลือกมากมาย แม้รสชาติจะมีดีเท่าบนดิน แต่ดีกว่าไม่มีให้เลือกกินครับสำหรับผม

สุดท้ายเมื่อกินอิ่มและเก็บจานไป ก็ถึงเวลาเอนหลังปรับเบาะ แล้วก็หยิบหนังสือมาอ่านระหว่างไฟท์บิทไปสิงค์โปรในวันนั้น

ตอนนี้ผมเพิ่งได้มีโอกาสอ่านหนังสือชีวประวัติของ Steve Jobs ผู้ก่อตั้ง Apple บอกเลยว่าเป็นหนึ่งในหนังสือที่สนุกกว่าที่คิด ยิ่งได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับ Apple มาหลายเล่ม คุณก็จะยิ่งเข้าใจภาพรวมของ Apple ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

หลังจากนั้นไม่นานก็ถึงสนามบิน shang chi ประเทศสิงคโปร์ แม้จะเป็นไฟท์บินสั้นๆ ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง แต่เทียบกับประสบการณ์ที่ได้ ความสะดวกสบายที่ได้รับ ไปจนถึงการประหยัดเวลาต่อคิววุ่นวายมากมาย ถือว่าราคาที่ยอมจ่ายแพงกว่าตั๋ว Economy ในเวลานั้น นับว่าคุ้มค่าไม่น้อยครับ

ค่าตั๋ว Business Class ในข่วงที่ผมบินไปกลับอยู่ที่คนละ 40,000 บาทโดยประมาณ แต่เมื่อเทียบกับตั๋ว Economy Class ปกติก็หมื่นต้นๆ แล้ว ส่วนตัวผมถือว่าเป็นราคาที่รับได้ เพื่อแลกกับความสะดวกสบายสำหรับคนที่มีเวลาว่างน้อยมากอย่างผม

รีวิวแถมหลังลงเครื่อง นี่คือสภาพท้องถนนที่ประเทศสิงคโปร์ ถนนโล่งมากแม้จะเป็นช่วงหัวค่ำที่ดูเหมือนเป็นหลังเลิกงาน ถ้าเป็นบ้านเรายากจะหาถนนที่รถจะวิ่งฉิวได้ขนาดนี้ครับ ทำให้จากสนามบินไม่กี่นาที ก็มาถึงโรงแรม Marina Bay Sand ที่จองไว้

สรุป รีวิว Business Class สิงคโปร์แอร์ไลน์

วิวจากบนดาดฟ้าโรงแรม Marina Bay Sand ที่ผมพัก
น้ำตกในสนามบินที่แวะไปดูขากลับ เสียดายไปเช้าเกิน น้ำเลยยังไม่ตกให้เห็น

เป็นประสบการณ์ที่ดีมากครับ คุ้มค่าเงินทุกบาทที่จ่ายไป ทำเอาทริปเวลาน้อยนิดของผมสามารถเป็นไปได้อย่างราบรื่น ส่วนตัวรู้สึกประทับใจกับ Business Class สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์จริงๆ ถ้ามีโอกาสทริปหน้า ก็คงจะเลือกตัวเลือกนี้เหมือนเดิมครับ

ในมุมของนักการตลาดคนหนึ่งผมมองว่า กับ Brand Experience ที่ได้รับตั้งแต่การจองตั๋ว ไปจนถึงระหว่างบินและลงเครื่อง คือความประทับใจในรายละเอียดและบริการที่พนักงานมีให้ ไปจนถึง Digital Experience ที่สะดวกสบาย และสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะได้รับ อย่างอินเทอร์เน็ตบนเครื่องที่ผมเองก็ไม่รู้มาก่อน

ดังนั้นการสร้าง Brand Experience จะไม่ใช่แค่การทำอีเว้นท์ใดอีเว้นท์หนึ่งแล้วจบไป แต่มันคือการทำสิ่งละอันพันละน้อยในรายละเอียดทุกอย่าง ถ้าอยากให้แบรนด์คุณแตกต่างด้วย Experience ลองเทียบดูระหว่าง Business Class กับ Economy Class ก็ได้ครับ

แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมคนบางคนถึงยอมจ่ายแพงกว่าอย่างมาก ทั้งที่เครื่องบินก็ Landing พร้อมกันทุกคลาส

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ใช้ Social Listening บ้างไม่ ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถาม ว่าปกติใช้ Social Listening บ้างหรือไม่ แล้วถ้าใช้ ใช้ตัวไหนอยู่