20 เทคนิคทำ SEO ให้เว็บไซต์ของคุณถูกหาเจอง่ายขึ้น

20 เทคนิคทำ SEO ให้เว็บไซต์ของคุณถูกหาเจอง่ายขึ้น

เพลินเชื่อว่าหลายๆ คนที่เป็นแฟนๆ การตลาดวันตอนคงรู้จัก SEO กันอยู่แล้วแหละ ว่ามันคืออะไร วันนี้เพลินเลยจะมาแชร์แค่ 20 Tips หรือ เทคนิคทำ SEO ให้เว็บที่หลายๆ ท่านกำลังทำอยู่ได้ Ranking ที่ดีขึ้น มีโอกาสที่คนจะหาเจอมากขึ้นค่ะ

อย่างที่เรารู้กันค่ะ ว่า SEO นั้นล้วยแต่ต้องปรับปรุงและเริ่มทำตั้งแต่เว็บไซต์บ้านของเราเป็นหลัก โดยที่เราไม่ต้องไปยุ่งกับเครื่องมืออื่นให้มันยุ่งยากเลย ไม่ว่าจะเป็น การทำให้โครงสร้างของเว็บมันดีขึ้น การเชื่อม Link การใช้ Keyword การเขียน Content สนุกๆ การเขียนชื่อ Title การสร้าง Sitemap ที่เข้าใจง่ายเพื่อที่จะให้ Search Engine เข้าใจเว็บของเรา แล้วพาคนมาหาเราได้ดีและตรงเป้าประสงค์มากขึ้นค่ะ งั้นเรามาดูกันเลยว่า 20 เทคนิคทำ SEO วันนี้ที่เพลินนำมาฝากจาก BOOM มีอะไรที่เราสามารถแก้ไข้ในเว็บของเราได้เลยบ้าง?

1. สร้าง Site Structure ให้เข้าใจง่าย

เทคนิคทำ SEO ที่สำคัญคือการสร้าง Site Structure คือโครงสร้างเว็บให้เข้าใจง่าย

ถ้าคนกดเข้ามาเจอหน้า Homepage แล้ว เค้าจะเจออะไรบ้าง? เลื่อนไปข้างล่างแล้วจะพบกับอะไร? งงหรือเปล่า? อันนี้ต้องวาด Structure ออกมาให้ง่ายค่ะ เพราะถ้าคนสามารถพบในสิ่งที่เข้าสนใจเร็วขึ้นเท่าไร หรือใช้เว็บของคุณง่ายขึ้นเท่าไร ก็จะเพิ่มโอกาสในการที่เค้าจะเล่นอยู่บนเว็บของคุณนานขึ้นเท่านั้น ไม่พาหงุดหงิดจนปิดกากะบาดออกไปซะก่อน นอกจากนี้การที่ Site Structure ของคุณเข้าใจง่ายเนี่ย ยังส่งผลดีให้กับคะแนน Index จาก Search Engine ที่จะส่งคนเข้ามาในเว็บของคุณได้มากขึ้นและแม่นยำมากขึ้นด้วยค่ะ

2. ทำเว็บของคุณให้รองรับการใช้งานบนมือถือ

การทำเว็บที่เป็น Mobile Friendly ก็ส่งผลต่อ SEO Ranking เช่นเดียวกัน

อันนี้แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องทำเนอะ เพราะอย่างที่เรารู้ๆ กันว่า วันนี้คนหันมา Browse อินเตอร์เน็ตผ่านมือถือกันเป็นหลักแล้ว เพราะฉะนั้นการทำเว็บไซต์ให้ Mobile-Friendly จึงสำคัญมากๆ เพราะมันส่งผลกระทบต่อ Experience ของผู้ชมที่เข้ามาบนเว็บของคุณ ลองคิดดูว่าถ้าเป็นตัวคุณเอง เจอเว็บไซต์ที่ไม่ Flexible บนขนาดจอมือถือ คุณจะรู้สึกอย่างในวันนี้? ซึ่งวิธีการทำเว็บที่มีระบบ Mobile Responsive ก็ไม่ได้ยุ่งยากเลย เพียงเลือกธีมเว็บที่รองรับ หรือเสริม Plug-ins เข้ามาเพิ่มก็ช่วยได้ค่ะ ใครที่ใช้ Wordpress ยิ่งง่ายเลย อย่าลืมไปปรับหรือเลือกธีมดูนะคะ แล้วลองไปเช็คที่ Google Mobile-Friendly Test ดูก็ได้ค่ะ

3. อย่าปล่อยให้เว็บโหลดช้า

เทคนิคทำ SEO อย่าให้เว็บโหลดช้าเด็ดขาด เพราะคะแนนค่าดัชดีจะตก

ปัญหาการโหลดช้า แน่นอนว่ากระทบต่อ Experience ของคนที่เข้ามาชมเว็บคุณแน่นอนค่ะ ซึ่งอาจจะเป็นที่ Coding หลังบ้านของคุณใหญ่หรือหนักเกินไป เว็บ Hosting ที่ใช้ไม่ดีพอ หรืออื่นๆ อย่างถัง Database หนักมากๆ ก็เป็นได้ และถ้าการโหลดมันช้าอยู่ตลอดละก็ สิ่งที่ตามมาก็คือ Bounce rate จะเพิ่มสูงขึ้นและ Time-on-site ของคนที่เข้าชมเว็บคุณก็จะน้อยลงด้วย แบบนี้คะแนน SEO ของเว็บคุณที่ Search Engine ก็จะลดลงไปด้วยค่ะ

4. ใช้ HTTPS หรือ Hypertext Transfer Protocol Secure

เลือกใช้ HTTPS มากกว่า HTTP เฉยๆ เพราะ Google ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น

ในปี 2014 ทาง Google ได้ออกมา Confirm แล้วค่ะว่าเว็บที่ใช้ HTTPS นั้นจะได้รับ SEO Ranking ที่ดีกว่าเว็บที่ใช้ HTTP ธรรมดานิดนึง เพราะ Google นั้นให้ความสำคัญเรื่องของความปลอดภัยของผู้ใช้งานมากๆ เพราะฉะนั้นหากมีใครค้นหาอะไรบนอากู๋ Google ก็จะพยายามคว้าเว็บที่เป็น HTTPS ขึ้นมาก่อนค่ะ

5. จิ้มไปเลยว่าจะใช้ WWW หรือ non-WWW

จิ้มเลยว่าจะใช้ www หรือ non-www เพื่อป้องกันการ Duplicate Content และการกระจายของ SEO

ข้อนี้ถ้าใครที่เป็น Media หรือทำเกี่ยวกับ Content SEO น่าจะรู้กันอยู่แล้ว ว่าทุกครั้งที่เรา Published content ออกไปนั้น จะมีการ Duplicate เนื้อหานั้นขึ้นมาทันที ซึ่งเนื้อหานั้นจะถูกแสดงผลในเว็บชื่อของคุณเองแหละ เพียงแต่มีหรือไม่มี www. ด้านหน้าเท่านั้น เพราะฉะนั้นสิ่งที่คุณควรทำคือ การตั้งค่าป้องกันการ Duplicate ของเนื้อหาที่อาจจะเกิดขึ้น โดยการเข้าไปตั้งค่าใน Website Preference หรือ Google’s Search Console ว่าคุณอยากให้เว็บของคุณเป็น www.everydaymarketing.co หรือ everydaymarketing.co ไปเลยค่ะ และหากคุณตั้งค่าเสร็จแล้ว ไม่ว่าคนจะ Search เข้ามาแบบมี www หรือไม่มี www มันก็จะลิ้งค์กลับไปที่หน้าเดียวกันกับที่คุณตั้งค่าเท่านั้นค่ะ แบบนี้ SEO Ranking ของคุณก็จะเพิ่มขึ้น เพราะมันจะมากองกันในที่ๆ เดียวค่ะ

6. ระวังเมต้าแท็ก Noindex

ระวังการใช้ noindex tag ถ้าอยากให้เว็บติด SEO

เวลาเราเขียน content ต่างๆ ก็จะมี tag มากมายให้เราใส่ใช่ไหมคะ แต่อันนึงที่ควรระวังมากๆ ในการใช้งานก็คือ Noindex meta tag ค่ะ เพราะเจ้าเมตเมต้าแท็ก Noindex นี้มีไว้สำหรับใส่ในหน้าเว็บที่เรายัง ‘ไม่ต้องการ’ แสดงผลใน Search Engine เท่านั้น เช่น ในกรณีกำลังตกแต่งหน้านี้อยู่ หรือยังเป็น Draft เป็นต้นค่ะ

7. เพิ่ม Site Map เข้าไปในเว็บ

อีกหนึ่ง เทคนิคทำ 20 คือการใส่ Sitemap ให้ Google เข้าใจเว็บง่ายขึ้น

ทุกเว็บไซต์ควรมีเลยค่ะ กับเจ้าตัว Sitemap ที่จะทำให้ Google สามารถเข้าใจ Site Structure หรือโครงสร้างเว็บของคุณได้เร็วมากขึ้น ซึ่งระบบ Plugin ของ Yoast SEO นั้นก็เป็นอะไรที่เราแนะนำเลย เพราะง่ายแล้วก็เวิร์คสุดๆ ถ้าเรามีเจ้า XML sitemap แล้ว เมื่อมีคนค้นหาอะไรที่ตรงกับเว็บเรา Google จะสามารถดึงหน้าที่เกี่ยวข้องนั้น ขึ้นมาได้เร็วขึ้นค่ะ

8. วางแผนการใช้ Keyword ก่อน

สำคัญมากๆ กับการทำ SEO คือการวางแผนว่าจะใช้ Keyword อะไรให้ Google จับ

อย่าลืมว่าการทำ SEO นั้น หลักๆ มาจากการใช้ Keyword ที่ตรงกันเป็นหลัก เพราะฉะนั้นเรื่องของการเลือกใช้คำจึงเป็นอะไรที่สำคัญมากๆ ค่ะ พยายามคิดว่าคนทั่วไปจะพิมพ์หรือ Search คำว่าอะไร ถ้าอยากจะเจอบทความแบบที่คุณกำลังเขียน ซึ่งอาจจะลองเปรียบเทียบดู Search Volume หรือเดาใจคนหาเรื่องนั้นๆ หรือลองคิดว่าถ้าเป็นคุณ คุณจะพิมพ์หาว่าอะไรค่ะ

9. สร้าง Content ที่น่าแชร์

อยากได้ SEO ต้องเขียน content ที่น่าแชร์

ทำไมถึงต้องน่าแชร์หรอ? เพราะนั้นแปลว่า content ของคุณนั้นมี Quality ที่ดี ควรค่ากับการแชร์นั้นเองค่ะ และสิ่งหลักๆ ที่ Google ใช้วัด SEO Ranking นั้น ก็คือคุณภาพของเนื้อหา พยายามมุ่งเป้าไปที่การเขียน Content แบบยาวๆ แทนเนื้อหาสั้นๆ แล้วใช้ เนื้อหาหลายๆ รูปแบบดู ไม่ว่าจะเป็น Text / Image / Video หรืออื่นๆ เพื่อให้คนรู้สึก Engage แล้วอยากกลับเข้ามาที่เว็บของคุณบ่อยๆ ค่ะ

และสิ่งต้องห้ามสำหรับการทำ SEO เลยก็คือการ Repeat คำ Keyword ซ้ำๆๆๆๆๆ หลายๆ รอบ เพราะหวังว่าให้มันติด Rank เพราะ Google จริงจังมากกับโทษที่จะตามมา เค้าอาจจะเอาเว็บคุณออกจากตารางค่าดัชนีเลยก็ได้ค่ะ

10. พยายามเขียนบทความยาวๆ มากกว่าสั้นๆ

บทความยาวๆ จะได้ SEO Ranking ที่ดีกว่า

ความยาวของเนื้อหาที่จะได้รับ Ranking ที่ดีขึ้นนั้นอยู่ที่ 1800-2000 คำค่ะ ซึ่งถ้าคุณเขียนเนื้อหาได้ยาวขึ้นเท่าไร ก็ยังสามารถเพิ่มโอกาสที่เราจะถูกพูดในเว็บอื่นๆ พร้อม Link ที่โยงกลับมาที่เว็บของคุณเอง (Backlink) ทำให้ Google เข้าใจว่า เว็บของคุณนั้นน่าเชื่อถือ ขนาดที่คนอื่นนำไปแชร์ต่อพร้อมใส่ Credit กลับมานั่นเองค่ะ

11. ใส่ใจกับ Title และ Meta Description Tags

ทำ SEO ต้องใส่ใจ Title Tag กับ Meta Description ด้วย

เพราะ 2 titles นี้สำคัญมากในการทำให้คนคลิกหรือไม่คลิกอ่านบทความของคุณ ถึงแม้ว่าคุณจะได้ Ranking ดีๆ แล้ว แต่ถ้าชื่อ Title กับ Description ไม่น่าอ่าน หรือไม่ตรง ตั้งแต่ในหน้าแสดงผลการค้นหา คุณก็อาจทำคนหล่นหายไปอีกหลายสิบก็ได้นะคะ ซึ่งการเขียน Title และ Meta Description นั่น สำคัญมากๆ คือเรื่องของความยาว และความเกี่ยวข้องหรือ Relevancy ที่เชื่อมโยงกับเนื้อหาจริงๆ ที่คุณเขียน ทั้งนี้ก็เพื่อเพิ่ม CTR หรือยอด Click-though ของคนเข้าเว็บค่ะ

12. ให้ความสำคัญกับ H1 หรือ Header Tag

ใส่ใจ H1 หรือ Header ที่เป็นหัวเรื่อง ทำให้มันสอดคล้องกับ Title Tag และ Keyword

เพราะ H1 หรือ Header Tag ที่เป็นหัวข้อเรื่องนั้น เป็นสิ่งแรกที่คนจะเห็นก่อนเข้าถึงเนื้อหาของคุณ พยายามเขียน H1 ให้ใกล้เคียงกับ Title Tag ให้ได้มากที่สุด แล้วอย่าลืมใส่ Keyword เข้าไปด้วยนะคะ

13. ใส่พวก Multimedia เข้าไปด้วย

การใส่ Multimedia เข้าไป ช่วยดัน SEO ได้

การเสริมเหล่า Multimedia อย่างรูปภาพ วิดิโอ ไฟล์เสียงต่างๆ เข้าไปในบทความของคุณด้วย สามารถช่วยให้คน Engage กับบทความของคุณได้มากขึ้นค่ะ และแน่นอนว่ามันส่งผลต่อ SEO อยู่แล้ว

14. เขียน Permalink ให้เข้าใจได้

เขียน Slug หรือ Permalink ของบทความให้เข้าใจได้ง่าย

Permalink หรือลิ้งค์ URL ของหน้าบทความนั้นๆ ที่คุณควรเขียนให้เข้าใจได้ง่ายๆ ยิ่งถ้าใครทำกับ Wordpress นั่นง่ายเลยค่ะ เพราะเราสามารถ Edit Permalink ให้ SEO-Friendly ได้เลย โดยสิ่งที่ควรทำคือ อย่าให้ Permalink นั่นยาวเกินไปและใส่ Keyword ที่ต้องการเข้าไปด้วยค่ะ ตัวอย่างเช่น บทความนี้เพลินตั้งว่า .com/20-techniques-in-advancing-your-seo-level แบบนี้ แค่อ่าน URLs ก็เข้าใจเลยใช่ไหมคะว่าบทความนี้เกี่ยวกับอะไร แต่หากเป็น .com/seo=p764sp แบบนี้ Google จะไม่ค่อยดันขึ้น Rank ค่ะเพราะมัน User-Friendly

15. สร้าง Network ของ Internal-link ให้คนวนอยู่ในเว็บเรา

สร้าง Network ของ Internal-link ให้คนวนอยู่ในเว็บเรา และเพิ่ม Link Juice

เวลาเขียนบทความ ถ้าหากมีจุดไหนที่ Refer กลับไปเนื้อหาก่อนๆ ที่คุณเคยเขียนได้นั้น อย่าลืมทำ Backlink กลับไปที่บทความของคุณเองนะคะ เพราะมันจะช่วยให้คนวนอยู่ในเว็บนานขึ้น แถมยังเป็นการสร้าง Link Juice หรือเครือข่าย Link Juice ที่ Google จะวัดว่าบทความนี้น่าเชื่อถือแค่ไหน แล้วมีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาไหนบ้าง และดันเนื้อหาที่เกี่ยวข้องขึ้นมาให้ด้วยค่ะ

16. การใช้ Attribute Link ต่างๆ ที่มี

ใช้ Link Attribute ให้ถูกแบบ เพื่อ SEO Ranking ที่ดีขึ้น

เวลาเราเชื่อม Link ต่างๆ พยายามใช้ Attribute ของการทำ Link ให้คุ้มค่าและช่วยให้ Google สามารถคัดแยกได้เร็วขึ้น เช่น ใช้ rel=”nofollow” สำหรับลิ้งค์ที่เชื่อมไปยัง Low Quality Content อื่นๆ เพื่อไม่ให้ Bot ตามไปเก็บข้อมูล SEO ของเว็บนั้นๆ หรือใช้ rel=”ugc” เพื่อเชื่อมไปที่เนื้อหาที่เป็น User-generated Content ต่างๆ อย่าง Comment เป็นต้น สุดท้ายคือ rel=”sponsored” เพื่อบอกว่า link นี้มีการจ่ายเงินเกิดขึ้นค่ะ

17. หลีกเลี่ยงปัญหาการใช้ Link ที่คนส่วนใหญ่ชอบทำผิด

เวลาเขียนบทความต้องระวังอย่าใส่ Link ผิดๆ สะกดผิดๆ

ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Link Attribute ผิดๆ หรือการใส่ลิ้งค์ที่หมดอายุแล้ว หรือแม้กระทั่งพิมพ์ Link URL ผิดจนไม่สามารถทำการเชื่อมต่อไปได้นั่นเองค่ะ เพราะถ้าใช้ผิดเมื่อไร ก็จะกระทบกับจำนวน Crawler หรือจำนวนคนเข้าชมและคะแนนดัชนีทันที

18. ทำให้ 404 Not Found มันสนุกน่าสนใจขึ้น

หลายๆ ครั้งเรื่องของเว็บก็ต้องมีอยู่แล้ว ว่ามีช่วงที่ Link มันพังหรือเข้าไปแล้วเจอ 404 Not Found บ่อยๆ ซึ่งตรงจุดนี้ เราก็สามารถกู้สถานการณ์ Design หน้าเว็บ Error ให้เหมือนเว็บของเราปกติ แล้วแจ้งไปตรงๆ เลยว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น อย่าให้คนต้องกด Refresh ใหม่ๆ ซ้ำๆ จนพาลหงุดหงิดค่ะ

19. ทำให้การแชร์บทความลง Social Media เป็นเรื่องง่าย

คนจะหาเว็บเราเจอมากขึ้นถ้ามีคนแชร์บทความออกไปเยอะๆ

เพราะยิ่งมันง่ายเท่าไร ก็เท่ากับว่าจะมีความเป็นไปได้มากว่า บทความของคุณจะมีคนเห็น เข้าอ่านเพิ่มขึ้นค่ะ เพราะฉะนั้นปุ่มแชร์อะไรทำให้พร้อมเลย อ่านถึงตรงนี้แล้ว ก็อย่าลืมแชร์บทความนี้ให้นิดนึงนะคะ 

20. กระตุ้นให้คน Comment เยอะๆ

คนจะหาเว็บเราเจอมากขึ้นถ้ามีคน Comment มากขึ้น

การที่มีคนเข้ามา Comment ใต้โพสต์ของคุณมากๆ นั่นส่งผลดีกับดัชนี SEO ของ Google มากๆ เลยค่ะ เพราะมันเป็นการเพิ่มคุณค่าให้กับคนอ่าน แถมยังทำให้บทความของคุณยาวขึ้นด้วย และเมื่อบทความยาวขึ้นแน่นอนว่า ส่งผลต่อ Ranking อยู่แล้วอย่างที่เพลินบอกไปในข้อ 10 นอกเหนือจากนี้ การที่มีคนเข้ามา Comment ยังเป็นการสร้างภาพ Community ที่สามารถกระตุ้นให้คนใหม่ๆ อยากเข้าร่วม อยาก Join บทสนทนาเพิ่มขึ้นค่ะ ส่วน Comment Spam นั้น แนะนำเลยว่าลบทิ้งไปทันที เพื่อป้องกัน Ranking หล่นค่ะ

และทั้งหมดนี้ก็คือ 20 เทคนิคทำ SEO Ranking ให้ดีขึ้นจาก Boom Agency ที่คนมีเว็บ ทำเว็บ เขียน Content ต่างๆ ก็สามารถทำได้เลยทันที อย่าลืมลองเอาไปใช้นะคะ ถ้าอยากให้เว็บของคุณติดหน้าแรกๆ อันดับดีๆ บน Google ค่ะ ถึงตรงนี้ ถ้าท่านไหนอ่านจบแล้ว อย่าลืม Share และ Comment ให้เพลินนิดนึงนะคะ ว่าบทความนี้มีประโยชน์มากน้อยแค่ไหน (อยากดัน SEO แหละ) หรือนำไปปรับใช้กันแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?

แต่ถ้าใครยังอยากรู้เพิ่ม แนะนำว่าอ่านเรื่องของ Voice Search และผลกระทบกับ SEO ต่อกันเถอะค่ะ เพราะพฤติกรรมการเสริชด้วยการพิมพ์กับการพูดนั้นแตกต่างกันลิบลับเลย จะได้วางแผนการใช้ Keyword ได้ดีขึ้นค่ะ

Plearn Wisetwongchai

Marketing Strategic Planner ในเครือการตลาดวันละตอน | A Creator สาวพลัสไซส์ @Fabfatkid | A Travel Lover ที่หมดเงินเกือบ 80% ไปกับการเดินทางแบบแมสๆ | An Instagrammer @theplearn ที่ชอบเล่น Story เป็นชีวิตจิตใจ | สุดท้ายคือ Data Researcher ทั้ง Social และ Search Data etc. ค่ะ

One thought on “20 เทคนิคทำ SEO ให้เว็บไซต์ของคุณถูกหาเจอง่ายขึ้น

  1. ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ 🙂

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

คุณคิดว่าปัญหา PM 2.5 ที่เชียงใหม่วิกฤตหรือยัง ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถามก่อนอ่านการตลาดวันละตอน แล้วเราจะเอาไปทำเป็น Infographic โชว์หน้าเพจให้รู้ด้วยกัน