5 Global Shifts ที่ Facebook สังเกตเห็นได้จากแพลตฟอร์ม

Email LinkedIn Tweet Facebook ShareShares322

ล่าสุด Facebook เค้าได้ปล่อยรายงานเรื่อง 5 Global Shifts ที่กำลังมาให้อนาคตอันใกล้ วันนี้เพลินก็เลยจะถือโอกาสหยิบประเด็นนี้ มาแปลและสรุปให้เพื่อนๆ การตลาดวันละตอนบ้าง เราจะได้อัพเดทว่าอะไรหนอ กำลังมาหรือกำลังเป็นนิสัยพฤติกรรมของคนในวันนี้หลังโควิดผ่าน Data จาก Facebook ค่ะ

1. Shop แบบไรเชื้อ

ที่ผ่านมา เวลาคนจะซื้อของออนไลน์ ส่วนมากก็จะดูเรื่องของราคาที่ถูกกว่าหน้าร้าน ค่าส่งหรือความสะดวกสบายในการใช้งานช่องทางออนไลน์ แต่วันนี้สิ่งที่ Facebook เห็นได้จาก Data ก็คือ มีการค้นหาและพูดคุยระหว่างซื้อสินค้า เกี่ยวกับประเด็นความปลอดเชื้อ เช่น ‘Contact-free’ หรือ ‘การส่งถึงบ้าน’ เพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า เพราะคนนั้นไม่ต้องการไปเจอคนให้มาก และจับของให้น้อย ความเสี่ยงก็น้อยลงในการติดโควิด

โดยเทรนด์เรื่องความปลอดภัยไร้เชื้อนี้ ต้องบอกว่า แค่ในอเมริกาเนี่ย 71% ก็ให้ความสำคัญมาเป็นอันดับต้นๆ เป็นรองเรื่องของราคาเพราะราคานั้นอยู่ที่ 79% ค่ะ นอกเหนือจากนั้น ประเด็นที่บอกว่า คนอยู่บ้านแล้วไม่ซื้อของ เห็นทีจะผิด เพราะคนกลับซื้อของตลอด เพียงแต่ปรับตัว หันมาซื้อผ่านออนไลน์ เพื่อลดความเสี่ยงมากขึ้นแทน โดย 40% ของคนที่ Facebook ได้ทำการ Surveyed พบว่า พวกเขาจะช้อปผ่านออนไลน์จากนี้ต่อไป แม้ว่าจะหมด COVID19 แล้วก็ตามที

2. หาอะไรทำเพื่อสงบจิตใจ

ต้องบอกว่า COVID19 ทำพิษไว้มากมายจริงๆ เพราะไม่ใช่แค่เรื่องของธุรกิจ บ้านเมือง เศรษฐกิจอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของจิตใจคนเราด้วย ทุกคนต้องปรับตัวเข้ากับสภาวะใหม่ๆ หรือ New Normal ที่เข้ามา ไม่ว่าจะพ่อแม่ที่ต้องหันมา Work from home แถมเด็กๆ ก็ต้องอยู่ที่บ้านด้วย จนกลายเป็น Working while Parenting พอเด็กเริ่มเปิดเทอม เด็กๆ ก็ต้องเรียนผ่าน Virtual Classroom อีก นับว่าเป็นช่วงเวลาที่เครียดสำหรับหลายๆ คนจริงๆ ค่ะ

นั้นจึงเป็นผล เรียกว่าเป็นตัวเร่ง Speed ก็ได้เช่นกัน กับความสนใจของแอปอย่าง Meditation App เพิ่มขึ้น ให้จิตใจสงบ และลดความเครียด เรียกสมาธิ ไม่ให้วอกแวก นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ Yoga ออนไลน์ ที่มีคนมองหาเพิ่มขึ้นมาก กิจกรรมเพื่อความสงบอย่างปลูกต้นไม้ก็เช่นกัน และที่ขาดไม่ได้ เห็นทีจะเป็นเรื่องของการเข้าครัว #QuarantineBaking ค่ะ

บทสนทนาที่เกี่ยวกับการทำ Sourdough ที่เป็นเมนูขนมปังที่ทำจากยีสต์หมักสดธรรมชาติ แถมใช้เวลาทำเยอะมากๆ แบบ 2 วันในการหมัก กลับมีเทรนด์ในการพูดถึงเพิ่มขึ้น กิจกรรมเกี่ยวกับการทำสมาธิเองก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการวาดรูป ระบายสีก็โตขึ้นแบบ 2 เท่าจากปีที่แล้วด้วยค่ะ

3. ยกระดับ Community

หลังจากที่หลายๆ Retails และร้านค้าต้องปิดตัวไปเพราะโควิด ทำให้ผู้คนหันมาสนใจร้านใกล้เรือนเคียง ตั้งแต่ร้านเพื่อนบ้าน ไปจนถึงการจัด Online community ซึ่งในไทยเอง จะเห็นได้ชัดๆ จากกลุ่มดังธรรมศาสตร์และการฝากร้าน ที่เรียกได้ว่า อบอุ่นแบบอุ่นหนาฝาคั่ง มีคนเข้ามาฝากร้านอะไรต่างๆ นาๆ กันแทบทุกวัน

ซึ่ง Facebook พบว่าในช่วงเดือนก.พ. – พ.ค 2020 นั้น มีการค้นหาของร้านแบบ Local สูงขึ้น 23% แถม Users ยังเข้าร่วมกลุ่ม Local community เพิ่มขึ้นถึง 3.3 เท่าค่ะ ส่งผลให้นอกจากจะซื้อของผ่าน Community แล้ว ยังมีการบริจาคเงินทั่วโลกกว่า 100 ล้านดอลล่าร์เพื่อช่วยเหลือสังคมผ่าน Facebook และ Instagram ในยามยากสูงขึ้นด้วยค่ะ

4. ยุคของ Gen Z แบบเต็มตัว

เราต่างก็รู้ดีว่า Gen Z นั้นมาแรงแค่ไหน ยิ่งในปี 2020 ที่ประชากรโลกกว่า 41% อายุต่ำกว่า 25 ปีแล้วละก็ ทำให้นักการตลาดอย่างเราๆ ไม่ควรมองข้ามคนกลุ่มนี้เลยค่ะ ซึ่งหลังโควิดมานี้ เราจะเห็นคนกลุ่ม Gen Z เนี่ยแหละในการปรับตัวเข้าสู่โลกใหม่ๆ ที่รักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพราะจากโควิดแล้ว พวกเค้าจะหันกลับมามองว่าเนี่ยแหละ คือโลกที่พวกเค้าต้องอยู่ต่อไปอีกนาน ทำให้มีกลุ่มเด็ก Gen Z ที่สนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นอีก 1.21 เท่า เรียกได้ว่าพอๆ กับการค้นหาเกี่ยวกับเรื่องของ Coronavirus เลยละค่ะ ยังไม่พอเด็กรุ่นใหม่ใน Europe กว่า 54% ยังบอกด้วยว่า พวกเค้าให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องของ Activism และ Social Causes หรือเรื่องการบ้านการเมือง สังคมเพิ่มขึ้นเพราะ COVID19 ด้วย

5. โลกที่เชื่อมต่อ

เพราะโรคที่ทำให้เราต้องห่างกันทางกายวันนี้ พาคนไปเจอกัน เชื่อมต่อกันทางออนไลน์แทน ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ที่เข้าออนไลน์เพื่อคุยเรื่องลูกๆ ร่วมกัน หรือคนที่มองหารอมฎอนในโลกดิจิตอล คนทำงานเองก็หันมาใช้ Zoom เอ่ยอะไรเอ่ยเพื่อประชุมร่วมกัน นอกจากนี้ยังมีอะไรหลายๆ อย่างที่ย้ายเข้ามาออนไลน์กันมากขึ้นด้วย อย่างการหาหมอออนไลน์ การซื้อของจำพวก Grocery ผ่านออนไลน์ค่ะ โดย 40% ของคนบอกว่า จะหันมาซื้อของจากแบรนด์ที่พวกเค้าสามารถ Message หาได้เพิ่มขึ้นค่ะ

สำหรับนักการตลาด

แน่นอนว่าการเข้าใจพฤติกรรมอย่าง 5 Global Shifts เหล่านี้ เป็นอะไรที่สำคัญมากๆ เพราะเทรนด์เหล่านี้นั้น เป็นปัจจัยหลักๆ ที่จะกระทบธุรกิจในแต่ละช่วง หากไม่อยากศูนย์เสียลูกค้าไป ก็จะต้องปรับตัวให้เร็วขึ้น เข้าถึงความสนใจใหม่ๆ ของคนค่ะ อย่างการที่คนเริ่มให้ความสำคัญกับความสะอาด ปลอดเชื้อ ร้านต่างๆ ก็ยังคงต้องเสริมความมั่นใจมากขึ้น รวมไปถึงเรื่องของสุขภาพจิต กิจกรรมใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น อาจจะลองดูว่า กิจกรรมใหม่ๆ พวกนี้ สามารถ Blend in หรือสร้าง Opportunity ให้กับธุรกิจของเราได้ยังไงผ่านแลพตฟอร์มออนไลน์ที่คนเข้าหา เชื่อมต่อกันมากขึ้น จะเป็นการสร้าง Community แบบ Facebook Group หรือเปล่า อันนี้อย่าลืมพิจารณากันดูเพิ่มด้วยนะคะ