5 สิ่งที่ควรรู้ก่อนขายออนไลน์แบบ Social Commerce

5 สิ่งที่ควรรู้ก่อนขายออนไลน์แบบ Social Commerce

จากที่ปกติการขายออนไลน์เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว พอมี COVID19 เข้ามา เหมือนมีหนึ่ง accelerator สำคัญ ในการ Force และยกระดับการขายออนไลน์ให้กลายเป็น Norm ไปซะอย่างงั้นเลย เรียกได้ว่าช่วง COVID19 น้อยแบรนด์มากๆ ที่จะไปโยกเอาตัวเองมาอยู่ในโลกดิจิตอล แถมยังไม่พอ มากกว่าการขายแค่ดิจิตอล เห็นที่จะเป็นเรื่องของการขายแบบ Social Commerce ที่มีทั้งการพูดคุยบนออนไลน์หรือแชท ไปพร้อมๆ กับการขายของไปในตัว

โดยเรื่องของ Social Commerce หรือ Social Media + E-Commerce เนี่ย ไม่ใช่เรื่องใหม่แน่นอนอยู่แล้ว แต่เมื่อมัน Boom ขึ้นมาจนจะกลายเป็น Norm ที่ใครๆ วันนี้ก็ทำกัน วันนี้เพลินก็เลยจะมาแชร์ 5 สิ่งที่คนขายออนไลน์ควรรู้ก่อนเปิดร้าน Social Commerce ค่ะ

ซึ่งต้องบอกว่า จากการไหลเข้าสู่การขายออนไลน์ ไม่ใช่แค่พ่อค้าแม่ค้า นักการตลาด หรือว่าเจ้าของธุรกิจต้องปรับตัวอย่างเดียวเท่านั้นนะ แต่เจ้าของแพลตฟอร์มเองก็ต้องปรับตัวอย่างหนักเลย เพราะหากสังเกตดูในส่วนของแพลตฟอร์มออนไลน์ ไม่ว่าจะ Chat App หรือ Social Media ใครๆ ก็พยายาม Add ฟีเจอร์การขายเข้าไปเพิ่มทั้งนั้น

Instagram Social Commerce
Instagram Social Commerce

อย่างล่าสุด Instagram เองก็มีการพัฒนา เปิดตัว Shopping Tab ให้คนสามารถซื้อของกันง่ายขึ้น  คนขายเองก็สามารถติดแท็กสินค้า ให้คน Discover ได้ง่ายขึ้นเช่นกัน ยังไม่พอ TikTok เองก็เริ่มทำแคมเปญโปรโมต ให้ Advertisers เข้ามา Join การใช้แพลตฟอร์มสำหรับโปรโมตสินค้ามากขึ้นเช่นกัน นอกจากนั้นยังมี แพลตฟอร์มที่ Support ทั้งแชทและ Commerce ที่รุกตลาดหนักขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็น LINE – MyShop ที่ทำหน้าที่คล้ายๆ กัน ให้คนสามารถมีระบบ E-commerce ของตัวเองได้ง่ายขึ้นค่ะ

งั้นเราไปดู 5 สิ่งที่ควรรู้ก่อนลงมือขายของบนออนไลน์กันเลยดีกว่า

1. Social Commerce กำลังโตทั่วโลก

จากผลการสำรวจ เค้าพบว่าในปี 2021 นั้น การขายผ่านออนไลน์ที่ต้องแชทไปด้วยเนี่ยจะโตขึ้นทั่วโลกอีก 34% หรือตลาดเนี่ย จะมีมูลค่าสูงถึง 735 พันล้านดอลล่าร์ในปี 2023 ทำให้เราสามารถเห็นได้เลยว่า ต่อไปนี้ตลาดจะไปแคบแค่ในประเทศใดประเทศนึงละ แต่จะไปยาวๆ กว้างๆ แบบ Unlimited และ Borderless กว่าที่เคยอีก แบรนด์ของเราที่ปกติขายแค่ในไทย ในกทม. ก็สามารถขยายและต้องเตรียมรับมือกับการทำ Global Shipping ให้พร้อม เพราะอย่างที่บอกว่า แพลตฟอร์มอย่าง Instagram ที่เป็นพื้นที่สากลเนี่ย จะทำให้เราเข้าถึงกลุ่ม Target ที่กว้างขึ้น เราเห็นของที่ขายจากอเมริกา คนไต้หวันเห็นของของเราค่ะ

2. Partnership คืออีกฟีเจอร์ที่ใครๆ ก็ทำกันในวันนี้

Snapchat Social Commerce

แน่นอนว่าการขายออนไลน์ แค่ยิง Ads ก็เข้าถึงคนได้แล้วแหละ อยากได้คนเยอะก็ลงเงินเพิ่ม แล้วยิง Ads ใส่ไปรัวๆ แต่มันก็ยังเป็นการเข้าถึงแบบแคมเปญเล็กๆ อยู่ดี ทำให้หลายๆ แบรนด์ในวันนี้ เริ่มกันมาร่วมด้วยช่วยกัน หรือ Co-branding ทำ Partnership ด้วยกันแทน ทั้งนี้ก็เพื่อเข้าถึงฐานลูกค้าของแบรนด์ที่เราเข้าไปจับมือด้วย อย่างการที่ Nike จับมือกับ Snapchat เพื่อโปรโมต Air Jordan III ทำให้รองเท้าของเค้าขายหมดภายใน 23 นาทีเท่านั้นค่ะ หากใครที่กำลังทำออนไลน์อยู่ อาจจะลองมองหาแบรนด์ที่ Represent Brand หรือกลุ่ม Target ใกล้ๆ กันแล้วลองจับเข่าคุยกันดู เผื่อว่าจะมี Campaign ร่วมกันแล้วสนุกมากขึ้นด้วย

3. อย่าลืมใส่ใจกลุ่ม Target รุ่นใหม่

Gen Z

อย่างที่เพลินเคยเขียนไปก่อนหน้านี้ ว่ากลุ่ม Gen Z เนี่ย ถ้าเทียบ Population ทั่วโลกถือว่าอยู่ที่ 41% ของโลกแล้วนะตอนนี้ เพราะฉะนั้นแบรนด์ต้องหันกลับมามองเด็กรุ่นใหม่มากขึ้นแล้ว เพราะหลายๆ แบรนด์ยังมีความเชื่อว่า เด็ก Gen Z คือไม่มีกำลังซื้อต่างๆ นาๆ แต่การ Invest ในเรื่องของวัฒนธรรมเดียวกันกับพวกเค้า เป็นเรื่องที่ควรทำมากๆ ในช่วงนี้ จาก Research พบว่ากำลังซื้อของ Gen Z ก็เพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะปีนี้ ก็ปาไปแล้วกว่า 140 พันล้านบาททั่วโลกค่ะ เพราะฉะนั้น ทำ Content หรือตลาดครั้งหน้า อย่าลืมคิดถึงเด็กกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นนะคะ

4. เรียนรู้จาก Douyin หรือแอป TikTok ของจีน

หลายๆ คนคงรู้จักแอป Douyin ในนามแอปฝาแฝดของ TikTok ซึ่งต้องบอกว่า Douyin เนี่ย เรียกได้ว่าเหมือนจะเป็นแม่ของ TikTok มากกว่า เพราะเป็นเคสในการสอนติ๊กต่อกมากมาย ตั้งแต่การทำแอป ไปยันเรื่องของ Monetization ต่างๆ ด้วย อย่างเรื่องนึงที่ Douyin เอาใจใส่ก็คือ ฟีเจอร์การ Zoom รูปภาพหรือวิดิโอ ให้คนสนใจสินค้าในโซเชียลสามารถ Zoom in เพื่อชมใกล้ๆ แถมยังสามารถคลิกจากตรงนั้นเพื่อสั่งซื้อได้ด้วย เรียกได้ว่า ถ้าอยากได้ต้นแบบที่ดี อย่าลืมเรียนรู้จาก Douyin ที่เรื่อง Social Commerce เค้าไปไกลมากๆ แล้วในวันนี้นคะ ไม่ว่าจะเป็นผ่าน WeChat หรือ Xiaohongshu

5. เรื่องของ Recommendation และ Referrals ยังสำคัญมากๆ อยู่

สมัยก่อน คนเรายังไม่คุ้นชินกับการรีวิวออนไลน์ จนหลังๆ มานี่รีวิวหนักมาจนแทบไม่รู้แล้วว่าอันแบรนด์จ้าง อันไหนแบรนด์ไม่ได้จ้างบ้าง โดย Research เค้าพบว่า 71% ของคนซื้อของออนไลน์เนี่ยจะทำรีวิวจากการซื้อของผ่าน Social Media เพราะฉะนั้น แคมเปญต่อมาที่ดีคือ การเตรียมตัว รองรับคำรีวิวเรานั้น เพื่อปิดยอดขายต่อจากคนที่ถูก Recommend เข้ามาค่ะ นอนเหนือจากนี้ เรื่องของ Influencer Review ยังเป็นเรื่องสำคัญอยู่ แต่อย่างที่บอกว่า แบรนด์หรือนักการตลาดต้องเปลี่ยนมาเป็นการขายผ่านกลุ่ม Influencers ที่รีวิวแทน เพื่อปิดยอดขายได้เร็วขึ้น อย่าให้เค้าต้องคลิกเยอะ ไหนจะเข้ามาหาเรา เลื่อนดูสินค้าที่จะเอา กดอ่าน กดทักแชท กดสั่ง รอตอบอะไรอีก ระหว่างทางเนี่ย อาจทำลูกค้าหล่นไปหลายรายแล้วก็ได้ เพราะฉะนั้นอย่าลืมนะคะ เมื่อมีคนรีวิวแล้ว รองรับลูกค้าที่มาจากรีวิวเหล่านี้ให้ดีค่ะ

ทั้งหมดนี้ก็คือ 5 สิ่งที่คนขายออนไลน์ เจ้าของแบรนด์และนักการตลาดควรรู้ก่อนทำการขายออนไลน์ ด้วยการแชทนะ ใครที่อยากรู้เรื่อง Conversational Commerce เพิ่ม คลิกตรงนี้ได้เลยนะคะ

Source: https://analisa.io/blog/Social-Commerce-Facts-To-Know-Before-Selling-on-Social-Media

Plearn Wisetwongchai

Marketing Strategic Planner ในเครือการตลาดวันละตอน | A Creator สาวพลัสไซส์ @Fabfatkid | A Travel Lover ที่หมดเงินเกือบ 80% ไปกับการเดินทางแบบแมสๆ | An Instagrammer @theplearn ที่ชอบเล่น Story เป็นชีวิตจิตใจ | สุดท้ายคือ Data Researcher ทั้ง Social และ Search Data etc. ค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *