จิตวิทยาการตลาด – ใช้หลักการ “ความหายาก” กระตุ้นให้เกิดความอยากซื้อ

จิตวิทยาการตลาด – ใช้หลักการ “ความหายาก” กระตุ้นให้เกิดความอยากซื้อ

เคยได้ยิน​ไหมครับ​ว่าอะไรที่​่ได้มายากนั้นจะดูมีความหมายมากขึ้นเสมอ

Case​ Study​ วันนี้ผมเอาตัวอย่างโฆษณา​ ที่เอาหลักจิตวิทยา​ในเรื่องของ​ความมาใช้ในการดึงความสนใจของคน

ตามมาดูกันครับว่าจะหายากสักแค่ไหน​ แล้วความหายากนั้นสามารถ​ดึงใจคนได้จริงไหม… แต่เตือนไว้ก่อนนะครับว่าอย่าพบาดสักบรรทัด​ เพราะระวัง! จะหาไม่เจอ

ใช้หลักจิตวิทยา​เพื่อ​สร้างโอกาส​ในแง่การตลาด​

Ad ชุดนี้จะไม่ทำคุณเสียเวลาชีวิตมากมายนัก เพราะเขาให้เวลาคุณแค่ 15 วินาทีเท่านั้น! แต่ถ้าคุณพลาด บอกเลยว่าคุณจะไม่ได้เห็นมันอีกตลอดการ

ว่าด้วยหลักการเรื่อง “ความหายาก” ที่เอามาเล่นกับความอยากได้อยากมีของคนในพาสู่ยอดขายได้

ความหายาก ของบางสิ่งบางอย่างบ่งบอกถึงคุณค่าของการได้เป็นเจ้าของได้อย่างชัดเจน เช่น รถที่มีแค่สิบคันในโลก หรือ ที่พักสุดหรูที่น้อยคนจะมีปัญหาซื้อได้ หรือจะเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเงิน แต่เกี่ยวกับความพยายามก็ยังอยู่ในหลักการของ “ความหายาก” ได้ทั้งนั้น

ยิ่งหายาก​ ยิ่งยากได้

Yoox แบรนด์ร้านขายของหรูบนออนไลน์ในต่างประเทศ ก็เอาหลักการว่าด้วย “ความหายาก” ไม่ว่าจะด้วยการจำกัด หรือการหมดแล้วหมดเลยมาใช้ร่วมกับ YouTube Pre-Roll Ads

ด้วยโฆษณา 15 วิ ที่เสนอสินค้าหรูในคลิปด้วยราคาที่พิเศษจริงๆ ถ้า Skip หรือกดไม่ทันก็จะไม่มีวันได้เห็นอีก

เร้าใจมั้ยครับ สำหรับผมโคตรจะเร้าใจมาก

เลือกกลุ่ม​เป้าหมาย​ดี​ มีชัยไปกว่าครึ่ง

โฆษณาชุดนี้ไม่แต่เพียงใช้หลัก​ความหายากเท่านั้น​ แต่ยังบวกกับการใช้เลือกกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าเท่านั้นถึงจะเห็นโฆษณาจาก Yoox เช่น คนที่เลือกติดตามแบรนด์หรูๆ​ ที่ร้านตัวเองมีขาย หรือกำลังเลือกหาไอเทมบางอย่างที่ร้านตัวเองมีขาย เป็นต้น 

ซึ่งนั่นทำให้ผลลัพธ์ก็คือยอดการคลิก CTA สูงมาก แถมยังเกิดการบอกต่อทั้งบนออนไลน์และออฟไลน์อีกด้วย เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ ก็เลยเป็นประเด็นให้เม้ากันต่อได้ไม่ยาก

แคมเปญนี้ทาง Yoox ทำคลิปชิ้นงานมากกว่า 400 ชิ้น กับประเทศอเมริกา อิตาลี ญี่ปุ่น และเกาหลี เสียดายไม่มีในบ้านเราไม่งั้นผมคงจะเฝ้ารอที่จะคลิกแล้วล่ะครับ

ส่วนใครที่อยากเรียนรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์การทำตลาดในรูปแบบอื่นๆ แนะนำให้ไปอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่ ในบทความหน้าผมจะมีอะไรมาอัปเดตอีกบ้าง สามารถติดตามได้ผ่านเพจการตลาดวันละตอน รวมถึง Twitter และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนนะค​รับ

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *