Instoptica ตรวจสายตาผ่าน Stories บน Instagram การตลาดของร้านขายแว่นตา Luxoptica
Instoptica แคมเปญการตลาดจากร้านขายแว่นตา Luxoptica ที่ประเทศยูเครน ที่ฉลาดในการใช้สื่อใหม่ใกล้ตัวอย่าง Instagram Stories ในการเข้าถึงคนยุคใหม่ที่ติดมือถือมาก และหนึ่งในสิ่งที่คนรุ่นใหม่ติดกันงอมแงมมากนั่นก็คือ Stories บน Instagram ที่ในแต่ละวันมีคนใช้งานมากถึง 500,000,000 คน ดังนั้นร้านแว่นตาแห่งนี้เลยมองเห็นโอกาสจากสื่อใหม่ ที่จะทำให้คนรุ่นใหม่ส่วนมากรู้ว่าตัวเองมีปัญหาเรื่องสายตาผ่านการทำ Instagram Stories Marketing ครับ
เมื่อความท้าทายของธุรกิจร้านขายแว่นตาทั้งหลายก็คงหนีไม่พ้นการพากลุ่มเป้าหมายให้มาถึงร้าน เพื่อจะได้ตรวจวัดสายตาเพื่อทำให้พวกเขารู้ว่าสายตาของพวกเขามีปัญหานะ
แต่ปัญหาก็คือกว่าที่แต่ละคนจะเดินเข้าร้านแว่นเพื่อไปตรวจวัดสายตานั้นยากมาก เพราะคนส่วนใหญ่นั้นชอบคิดว่าสายตาตัวเองไม่ได้มีปัญหาอะไร แค่พักสายตาซักหน่อยก็จบ หรือที่แย่ไปกว่านั้นคือการหลงคิดไปเองว่าตัวเองน่าจะเจ็บป่วยร้ายแรงเกี่ยวกับหัว ระบบประสาท หรือสมอง ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วอาการปวดหัวไม่น้อยนั้นเกิดขึ้นเพราะสายตามีปัญหาครับ
ผมคนหนึ่งเคยมีปัญหาเดียวกันนี้ ในช่วงนั้นผมปวดหัวด้านขวามาก รู้สึกปวดแบบน่ารำคาญเป็นพักๆ จนผมเผลอคิดว่าตัวเองต้องเป็นไมเกรน ตัวเองต้องมีเนื้องอกในสมองแน่ๆ จนได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลแล้วพบว่าที่จริงแล้วสมองผมไม่ได้มีปัญหา ผมไม่ได้เป็นไมเกรน แต่ผมสายตาสั้นและเอียงเท่านั้นเองครับ
เหมือนกันกับแคมเปญการตลาด Instagram Marketing ที่ใช้ Stories ให้เป็นประโยชน์ที่คนรุ่นใหม่ติดงอมแงม ด้วยการที่ร้านแว่นตาแห่งนี้ทำโพสแบบ Stories ขึ้นมาเพื่อชวนให้คนมาตรวจวัดสายตาตัวเองได้ง่ายๆ อย่างไม่น่าเชื่อ
ขั้นตอนก็ง่ายมากแค่เข้าไปที่ Instagram Account ของร้านแว่น Luxoptica แล้วก็กดเลือก Stories ที่ทางร้าน Highlights เอาไว้ด้านบน จากนั้นคุณก็แค่กดดู Stories ทีละรูปไป และถ้าเมื่อไหร่พบว่ามีปัญหาในการมองเห็นไม่ชัดเจนกับภาพนั้น ก็แค่กดปัดขึ้นไปด้านบนแล้วจะพบว่าคุณน่าจะมีปัญหาเรื่องค่าสายตาอยู่ที่เท่าไหร่ครับ
เบื้องหลังแคมเปญนี้ไม่ได้ง่ายเหมือนขั้นตอนการใช้งาน เพราะทั้งแบรนด์และเอเจนซี่ต้องทำงานร่วมกันหนักมากกว่าจะสามารถทำให้การตรวจสายตาผ่าน Instagram Stories สามารถแม่นยำใกล้เคียงการตรวจด้วยเครื่องจริงๆ ได้ครับ
แคมเปญ Instoptica นี้ไม่ได้โปรโมตแค่บน Instagram Stories เท่านั้น แต่ยังมีการติดป้ายโฆษณาหรือบิลบอร์ดออกไปทั่วเมือง เพื่อให้กดติดตามมาที่ Instagram ของร้านแว่นตา Luxoptica เป็นการทำแคมเปญการตลาดที่ใช้ทั้งสื่อออฟไลน์และออนไลน์ได้อย่างลงตัวครับ เพราะอย่างที่เรารู้กันว่าบน Instagram นั้นเราไม่สามารถจ่ายเงินเพื่อซื้อผู้ติดตามได้เหมือน Facebook ดังนั้นเราต้องใช้สื่อออฟไลน์กระตุ้นให้คนอยากกดติดตามเองแทนครับ
และมาถึงผลลัพธ์ของแคมเปญนี้ก็ดีอย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะด้วยความเรียบง่ายของผู้ใช้ที่มาจากการทำงานร่วมกันอย่างหนักหน่วง ก็ส่งผลให้ 1 ใน 7 คนพบที่พบว่าตัวเองมีปัญหาเรื่องสายตาเดินเข้าไปวัดสายตาที่ร้านทันที ซึ่งทำให้ร้านแว่นตา Luxoptica มีคนเดินเข้าร้านมากขึ้นถึง 6,801 คนด้วยแคมเปญนี้ และทำให้มีคนติดตาม Instagram ของ Luxoptica เพิ่มขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ เป็นจำนวนเท่ากับ 6 เดือนที่ทำมา
ถ้าจะบอกว่าแคมเปญ Instoptica ไม่ปังก็คงไม่ใช่ เพราะทั้งปังและดันให้คนเดินเข้าร้านได้มากขนาดนี้ เป็นอีกหนึ่งแคมเปญการตลาดที่รู้จักใช้สื่อใหม่ให้เป็นประโยชน์ ด้วยการเข้าใจพฤติกรรมของผู้คนยุคใหม่ ที่ไม่ใช่แค่ติดโทรศัพท์มือถือหรือเล่นออนไลน์ แต่ยังเข้าใจว่าพวกเขาในวันนี้ใช้ Instagram Stories มากขนาดไหน
แคมเปญนี้ผมยกให้เรื่อง Creative media เป็นเบอร์หนึ่ง เพราะสามารถเข้าใจว่าสื่อใหม่ๆ ทำงานอย่างไรได้ เพราะถ้า Creative ไม่เข้าใจว่าสื่อใหม่ๆ และเครื่องมือต่างๆ ทำงานอย่างไร แคมเปญ Instoptica ก็คงไม่มีวันออกมาเป็นแบบนี้ได้ครับ
ครีเอทีฟในวันนี้ควรเรียนรู้และเข้าใจเรื่อง Media ใหม่ๆ ให้มากขึ้นและเร็วขึ้น เพราะถ้าคุณเข้าใจเครื่องมือต่างๆ ได้ดีกว่าคนอื่น คุณก็จะสามารถคิดงานที่แตกต่างจากคนอื่นได้ครับ
อ่านอัพเดทการทำการตลาดบน IG หรือ Instagram Marketing ต่อ https://www.everydaymarketing.co/update-news/5-secret-from-instagram-from-instagram-for-news-part-2/