คู่มืออ่าน “ตัวชี้วัด” ที่จำเป็นต้องรู้ สำหรับการทำ YouTube ในปี 2022
มาอ่านให้รู้กันว่า ตัวบ่งชี้ หรือตัวชี้วัด ที่จำเป็นต้องรู้สำหรับการทำYouTube ในปี 2022 เพื่อรักษาคุณภาพวีดีโอและคุณภาพรายได้
ซึ่งถือว่าเป็นตัวเป็นตัวชี้วัดระดับสูงในปีนี้ มีมาตราการวัดหลักสำคัญมากๆ 2 อย่างดังนี้
1.Increase Audiene (มาตรการวัดผู้ชม)
- Watch time (hrs) เวลาการรับชม นับเป็นชั่วโมง
- Views จำนวนการดู
- Subscribers คนกดซับเพิ่มไหม
- Subscribers WT(hours) จำนวนคนที่เป็นซับดูจำนวนกี่ชั่วโมง
จะเห็นว่าการวัดของยูทูปแบบนี้เห็นชัดได้เลยว่า ยูทูปให้ความสำคัญกับ
- คุณภาพของวีดีโอ (เป็นอันดับแรก เพราะเน้นคุณภาพวีดีโอให้คนดูนานมากขึ้น)
- จำนวนวิว (ให้ความสำคัญรองลงมาจาก Watch Time)
ให้ความสำคัญกับวีดีโอจริงต้องมีคนกด subscribe ในวีดีโอนั้น และยังดูด้วยว่าคนกด subscribe นั้น ดูนานแค่ไหน ความหมายคือ ช่องคุณวีดีโอคุณรักษาคุณภาพวีดีโอไว้ได้เช่นเดิมหรือไม่ หรือเปลี่ยนแนวไปจนคนกดซับไม่กด subscribe แล้ว
2.) Increase Revenue (มาตรการวัดรายได้)
เราอย่าลืมว่า eCoSystems ของยูทูปนั้นเป็นสามเหลี่ยมทองคำดีๆนี่เอง นั่นคืออะไร
สามเหลี่ยมทองคำแห่งยูทูปประกอบด้วย
2.1> Creators หรือคนสร้างคอนเทนต์
2.2> Users คนเข้าชมคอนเท้นท์
2.3> Advertisers คนลงโฆษณา
ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็น Core หลักของ eCoySystem ของยูทูป ฉะนั้นสิ่งที่ยูทูปต้องคงไว้เลยต้องประกอบด้วย ข้อ 1 + 2 คือ คุณภาพวีดีโอ และรายได้ของคนสร้างคอนเทนต์ (หากมองลึก เขายังมองว่าคุณภาพวีดีโอที่ดีคือ คุณภาพของโฆษณาที่ดี คุณภาพโฆษณาที่ดีคือ รายได้ที่ดีของ Creators)
หลักใหญ่ๆของการวัดรายได้มีดังนี้
- Net Revenue ของช่องนั้นๆ หรือ Creators นั้นๆ
- RPM ยอดรายได้ต่อการดู 1,000 ครั้ง ความหมายคือหากทุกพันครั้งมีรายได้มากขึ้นแสดงว่ามีโฆษณามากขึ้น บ่งบอกถึงคุณภาพวีดีโอที่ดี คนดูนาน และมีสิทธิ์ดูจนจบวีดีโอ
- Fill rate (Views/est.meneit playback) คือมีโฆษณาลงเยอะหรือไม่ มีแอดลงตลอดหรือไม่ต่อการเล่นวีดีโอ
- Playback-based CPM (CPM ตามการเล่น)
CPM
ต้นทุนต่อการแสดงผล 1,000 ครั้ง (CPM) คือเมตริกที่แสดงจำนวนเงินที่ผู้ลงโฆษณาใช้เพื่อแสดงโฆษณาบน YouTube คุณจะเห็นเมตริก CPM ที่มีความแตกต่างกัน 2-3 รายการใน YouTube Analytics ดังนี้
- CPM: ต้นทุนที่ผู้ลงโฆษณาจ่ายสำหรับการแสดงโฆษณา 1,000 ครั้ง ระบบจะนับทุกครั้งที่มีการแสดงโฆษณา
- CPM ตามการเล่น: ต้นทุนที่ผู้ลงโฆษณาจ่ายสำหรับการเล่นวิดีโอที่มีการแสดงโฆษณา 1,000 ครั้ง
ทั้งสองเมตริกท์ข้างต้น YouTube จะดูอัตราการเติบโตใน 90 วันและดูว่า Growth Rate เป็นกี่ % เพื่อวัดคุณภาพของช่องคุณและรายได้ของคุณ ซึ่ง 90 วัน นั่นก็คือ 1 ควอเตอร์นั่นเอง ฉะนั้นเราจะเห็นว่าบางควอเตอร์วิวเท่ากันแต่รายได้สูงกว่าอีกควอเตอร์ก็เป็นไปได้
วันนี้มาสั้นแบบ Quick Win นำไปใช้ได้เลย คือเวลาดูสถิตเหล่านี้หรือเล่นกันดาต้าเหล่านี้ให้ดูเป็นช่วงๆ เช่น ข้อมูล 1 ปี (365วัน) 90 วัน 28 วัน และ 7 วัน และที่สำคัญดูเป็นช่วงเดือนในแต่ละเดือนเพื่อหาความต่อเนื่องของคอนเทนต์และแนวโน้มของรายได้
อ่านดาต้าออก เข้าใจความหมาย คุณก็ไปได้ไกลกว่าคนอื่นเสมอ จำไว้เสมอว่า ดาต้าเหมือนกันแต่การนำไปใช้และการตีความหมายของแต่ละคนต่างกัน
ฝึกบ่อยๆ ใช้บ่อยๆ แล้วคุณจะเป็นคนที่ตัดติดใจทุกอย่างด้วยดาต้า ไม่ใช่สัญชาติญาณ
สามารถอ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับเทคนิคการทำ YouTube เพิ่มเติมได้ ที่นี่