การใช้ Social Media พลิกโฉมสำหรับ การตลาดธุรกิจร้านเสริมสวย และความงาม

การใช้ Social Media พลิกโฉมสำหรับ การตลาดธุรกิจร้านเสริมสวย และความงาม

สำหรับธุรกิจร้านเสริมสวย และความงามต่างๆ ที่ต้องการผลักดันยอดขายไปจนถึงการสร้างแบรนด์ให้สดใหม่อยู่ตลอด ซึ่งเรารู้กันดีว่าลูกค้าประจำเป็นหัวใจของธุรกิจ ทำให้เราแบรนด์ขยับยาก แต่อย่างไรก็ตามค่ะ การเติบโตเป็นสิ่งสำคัญและหลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับ การตลาดธุรกิจร้านเสริมสวย แนวใหม่ เราอาจจะต้องรักษาลูกค้าประจำของเราไว้ ในขณะที่ธุรกิจเองก็ต้องเติบโตอย่างต่อเนื่องไปด้วยเช่นกันค่ะ

แล้วแบรนด์ควรทำอย่างไร? ต้องบอกว่าการหาวิธีที่ดีที่สุดนั้น ปลื้มขอนำเสนอเทคนิคการตลาด 4 ข้อ จาก Digitalmarketer ที่คาดว่าจะได้ผลมากที่สุดสำหรับ การตลาดธุรกิจร้านเสริมสวย ค่ะ

1. โซเชียลมีเดียคือกุญแจสำคัญ

ในโลกปัจจุบันที่เชื่อมต่อกันได้ง่ายแบบไร้สาย แบรนด์ที่ขาดสื่อสังคมออนไลน์จะขาดการเติบโต ลูกค้าส่วนใหญ่ใช้ Social Media หลายแพลตฟอร์มตลอดทั้งวัน ทำให้แบรนด์ต้องเชื่อมต่อกับลูกค้าหรือผู้บริโภคผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์

ซึ่งหลักๆ แบรนด์ของเราจะต้องมีเพจ Facebook ที่สร้างศูนย์กลางการเชื่อมต่อสำหรับลูกค้าทั้งทางตรงและทางอ้อม นอกจากนั้นเมื่อเรากำหนดเป้าหมายผู้ชมของเรา เราจะรู้ว่าควรใช้ Instagram Twitter Youtube หรือ TikTok ต่อไปอย่างไร แต่ในอีกมุมหนึ่งหากเราลองทำช่องทางโซเชียลมีเดียไหนแล้วปัง ปลื้มคิดว่าเราควรโฟกัสที่ช่องทางนั้น แล้วค่อยดึงผู้ชมไปแพลตฟอร์มอื่นๆ ต่อไปค่ะ

ตัวอย่าง การใช้โซเชียลมีเดียเป็นกระบอกเสียงสาธารณะของร้านเสริมสวย ร้านทำผม อย่างคอนเทนต์จากผู้ความเชี่ยวชาญ มาให้ความรู้โดยใช้ Pain Point ที่ผู้บริโภคอยากรู้ ในการสร้างการตลาดบนออนไลน์ ช่วยให้แน่ใจว่าร้านทำผมมีตัวตนบนโลกออนไลน์ พร้อมทั้งคอนเทนต์นี้จะช่วยผู้ชมตระหนักถึงปัญหาเส้นผมของตัวเองมากขึ้น จนมีอิทธิพลที่จะทำให้ผู้ชมอยากไปใช้บริการที่ร้านของเขา

2. มุ่งเน้นไปที่ลูกค้า

ลูกค้าในปัจจุบันมีความเข้าใจในเรื่องการตลาด การแจ้งเตือนทางอีเมล SMS แชท หรือโฆษณาบน Facebook Instagram และแพลตฟอร์มอื่นๆ พบว่าผู้บริโภคเกือบ 80% ต้องการการตลาดที่สื่อสารที่เกี่ยวข้อง และเป็น Personalized

ซึ่งการสื่อสารที่เกี่ยวข้อง หมายถึงการที่ผู้ชมได้รับสิ่งที่คาดว่าจะเป็นประโยชน์กับพวกเขา เช่น โปรโมชันวันเกิด ลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลดพิเศษ เมื่อผู้ใช้รับรู้ถึงการสื่อสารเขานี้อย่างน้อยปลื้มเชื่อว่าเขาจะเปิดเข้าไปดู แต่ถ้าหากโปรโมชันทั่วไป ที่ส่งไปแบบหว่านแห เป็นไปได้น้อยที่จะได้รับการตอบสนอง ถ้าไม่ใช่การแจกฟรีนะคะ

ธุรกิจความงามสามารถสร้างความสัมพันธ์และประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้าได้ โดยการค่อยๆ กระตุ้นจากช่องทางการสื่อสารที่เป็นการส่วนตัว เช่น แชทนัดหมาย การแจ้งเตือนการนัดหมาย จนไปถึงการข้อเสนอพิเศษในอนาคต ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความสำคัญ และการเข้าถึงที่เป็นมิตร แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือไม่ควรลุกล้ำความเป็นส่วนตัวจนน่ากลัวค่ะ

3. การรักษาลูกค้าให้เกิดความ Loyalty

การตลาดบนโซเชียลมีเดีย ช่วยให้มั่นใจว่าแบรนด์ความงามหรือธุรกิจความงามขนาดเล็กสามารถเข้าถึงคนจำนวนมากได้ และที่สำคัญโซเชียลมีเดียเป็นตัวดึงลูกค้าให้เกิดความ Loyalty ได้ ด้วย Loyalty Programs คือกลยุทธ์การสร้างความภักดีและการรักษาลูกค้า

จะเป็นการให้ประโยชน์และสิทธิพิเศษต่างๆ ให้กับลูกค้าที่มีการซื้อสินค้าหรือบริการในระยะเวลานับสะสม เช่น สะสมแต้ม, คะแนน, หรือสิทธิพิเศษอื่นๆ ค่ะ ซึ่งเกือบ 85% ของลูกค้าทั้งหมดเลือกธุรกิจที่มีโปรแกรมสะสมคะแนน และส่วนใหญ่รู้สึกว่าโปรแกรมเหล่านั้นมีประโยชน์ค่ะ

ทั้งนี้เราอาจจะให้รางวัลแก่ผู้ที่กลับมาซื้อซ้ำด้วยการมอบบริการฟรีครั้งที่ 10 หรือสนับสนุนการซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่ผ่านส่วนลดเมื่อชำระเงิน จะเป็นรับแรงจูงใจในซื้อครั้งต่อไปของลูกค้า ดังนั้น เมื่อใช้ส่วนลด ลูกค้าก็มีแนวโน้มที่จะซื้อมากขึ้นนั่นเองค่ะ

4. การ Communication และการเข้าถึง

วิธีที่ดีในการสื่อสารหรือโฆษณาธุรกิจความงาม อย่างร้านเสริมสวย ร้านทำผม ควรเน้นไปที่การกำหนดพื้นที่ใกล้เคียงโดยรอบ เช่น ‘ร้านทำผม ใกล้ฉัน’ เพื่อช่วยเรื่องของการเข้าถึงผู้คนในท้องถิ่น จากออนไลน์สู่ออฟไลน์ เพราะบางทีผู้คนมักจะเสิร์จหา เพื่อเทียบระยะทาง และตัดสินใจ

เนื่องจากธุรกิจเหล่าจะมีหน้าร้าน แม้จะต้องสื่อสารออนไลน์ได้ก็ตาม แต่หัวใจหลักคือการสร้างประสบการณ์ หรือ Experience เพื่อให้ผู้ชมออนไลน์ มาที่หน้าร้าน ซึ่งมันเป็นแนวทางในการสนับสนุนยังสร้างโอกาสในการขายครั้งต่อไป เมื่อลูกค้ารู้สึกดีกับร้านของเราค่ะ

บทสรุป

การใช้ Social Media พลิกโฉมสำหรับ การตลาดธุรกิจร้านเสริมสวย และความงาม

พลิกโฉมสำหรับ การตลาดธุรกิจร้านเสริมสวย และความงามโดยใช้ Social Media ถือเป็นการใช้สื่อในถืออย่างมีประโยชน์ค่ะ ซึ่งการสื่อสารบนออนไลน์มีส่วนทำให้ผู้ชมสัมผัสกับแบรนด์อย่างใกล้ชิด และเกิดความรู้สึกคุ้นชินกับร้านของเรามากขึ้น และเมื่อพวกเขาอยากไปร้านเสริมสวยก็จะนึกถึงแบรนด์ของเรา

เมื่อแบรนด์หรือร้านของเรามาแนวโม้นที่ลูกค้าจะไปใช้บริการ ผู้คนเห่านั้นมักเสิร์จดูข้อมูลจากโซเชียลและเว็บไซต์อีกครั้ง เพื่อความมั่นใจ ทำให้แบรนด์ต้องวางกลยุทธ์ไว้ทุกจุดบนออนไลน์ เพื่อสกัด Journey ของผู้ชม ที่มีโอกาสเป็นลูกค้าของเราค่ะ

สำหรับใครที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม หรือข่าวสารการตลาด สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนด้วยนะคะ

Source

Yoswimol

🎡PLEUM | Data Research Executive ในเครือการตลาดวันละตอน | สนใจเรื่องการตลาด ชอบดูการแข่งขันทางการตลาด และเป็นทาสตลาด... ทุกบทความตั้งใจเขียนมาก ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ มันเป็นกำลังใจที่ทำให้อยากเขียนต่อไปเลย☺️

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

คุณคิดว่าปัญหา PM 2.5 ที่เชียงใหม่วิกฤตหรือยัง ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถามก่อนอ่านการตลาดวันละตอน แล้วเราจะเอาไปทำเป็น Infographic โชว์หน้าเพจให้รู้ด้วยกัน