Introvert Marketing Guideline – การตลาดมัดใจมนุษย์ Introvert
ช่วงนี้ได้เห็นคำว่า Introvert และ Extrovert บ่อย ๆ จนอยากเอามาพูดคุยกับทุกคนค่ะ ในฐานะคนทำการตลาด เราจะต้องรู้จักลูกค้าหลากหลายบุคลิกภาพเพื่อให้เราเลือกกลยุทธ์มาใช้ได้แม่นยำขึ้น เพราะตอนนี้ทฤษฎี Consumer segment ใครตีแตกก่อนก็ได้เปรียบ
ในบทความนี้เราเลยจะมาทำความรู้จักกับลูกค้ากลุ่ม Introvert ไปพร้อมกัน บอกเลยว่าที่ไม่ได้ซับซ้อน ทั้งยังน่าสนใจเพราะเป็นคนที่คิดได้ลึกซึ้ง มาดูกันว่านักการตลาดจะเข้าหาคนชอบเก็บตัวอย่างไรค่ะ
ความน่าสนใจคือนุ่นจะยกตัวอย่างธุรกิจที่เหมาะกับ Introvert เพื่อเป็นไอเดียให้ใครที่กำลังศึกษาอยู่ หรือไม่รู้มาก่อนว่าแบรนด์ของตัวเองสามารถจับกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ได้เช่นเดียวกันค่ะ
เอาล่ะ~ ก่อนจะมัดใจนาง มาอ่านเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับ Introvert กันก่อนนะคะ
Introvert คือคนที่ใช้เอเนอจี้เมื่ออยู่กับคนอื่น และชาร์จเอเนอจี้เมื่ออยู่คนเดียว
เราต้องเข้าใจก่อนว่า Introvert เค้าไม่ใช่คนต่อต้านสังคม ซุกในผ้าห่มล็อกห้องอยู่คนเดียวตลอดเวลา แต่แค่จะใช้พลังเยอะหน่อยถ้าต้องพบปะผู้คน ในขณะเดียวกันถ้าได้กลับมาอยู่กับตัวเองปุ๊ปก็เหมือนได้ชาร์จพลังนั่นเอง
ต่างจาก Extrovert ที่จะรู้สึกได้ชาร์จพลังถ้าได้เจอเพื่อนฝูง และจะเหงา หดหู่ หมดแรงเมื่อกลับมาอยู่คนเดียว
นุ่นลองหาลิสต์มาเบื้องต้นให้ทุกคนเห็นภาพ introvert ดังนี้ค่ะ
- เป็นลูกค้าที่ Deep thinkers มีสติและมีความคิดเป็นของตัวเองสูง จะหลอกขายอะไรต้องระวังนะจ๊ะ ความจริงใจเป็นสิ่งสำคัญ จะมาฉาบฉวยโดน Instrovert แบนไม่รู้ด้วยน้า
- take time พอสมควรถ้าจะตัดสินใจซื้ออะไร อย่าบีบคั้นหรือเร่งเร้าให้ซื้อ เช่นพี่พนักงานประจำจุดขายอย่าเดินตามและยัดเยียดอะไรถ้าลูกค้ายังไม่ได้ถาม
- พวกเขารู้สึกสบายใจมากกว่าถ้าได้อยู่คนเดียว และไม่ชอบการทำงานเป็นกลุ่ม ทำกิจกกรมเป็นกลุ่ม โดยเฉพาะคนแปลกหน้า
- พฤติกรรมตอบโต้ผ่านการเขียนหรือแชทจะดีกว่าการพูด เพราะเหมือนเค้าได้ทบทวนในแบบตัวเองที่ถนัด
และนักการตลาดทราบไหมคะ Introvert เนี่ยมัดใจได้ไม่ยาก แค่ต้องเลี่ยงการตลาดที่เน้น Interaction หรือ Experience ในระดับสูงจากลูกค้า เพราะเค้าจะรู้สึกอึดอัดและไม่อยากเข้าร่วมเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นขอให้คุยกับหัวหน้าให้เข้าใจว่าเราต้องบิด KPI ไปทางอื่นถ้าจะขายคนเหล่านี้นะคะ
ใช้ low-interaction marketing
อย่างที่นุ่นเกริ่นไปเมื่อซักครู่ นักการตลาดต่อสู้ชีวิตซักหน่อย จากปกติการตลาดเราจะเน้นโหวกเหวก มี Event ออกบูธ จัดสัมนา จริงอยู่ที่ Introvert ไม่ได้ต่อต้าน แต่เค้าจะหลีกเลี่ยงกว่ากลุ่ม Extrovert นั่นเองค่ะ นักการตลาดเซฟพลังตรงนั้นมาเน้นช่องทาง low-intreraction กันนะคะ ลองดูประมาณนี้ค่ะ :
- Podcasting
- Blog หรือที่ทุกคนกำลังอ่านอยู่นี่ก็เหมาะกับลูกค้ากลุ่มนี้นะ
- Social media (ทางแชทหรือโพสต์ ไม่ต้องเดินทาง ง่าย ไม่ใช้พลังงานเยอะ)
- Creating short videos
- Product หรือ Self-service
ช่องทางที่ไม่ต้องให้ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์มาก หรือตอบโต้แบบเรียลไทม์น้อยที่สุดเป็นเทคนิคที่น่าสนใจ และได้ผลดีที่สุด ยิ่ง podcating นี่เป็นอีกช่องทางที่จะเปิดฟังย้อนหลังเมื่อไหร่ก็ได้ บนรถ ก่อนนอน ทำอาหาร อยู่บ้านในวันหยุด นักการตลาดไม่ต้องเน้นคอลเซ็นเตอร์ที่รอตอบคำถาม 24 ชั่วโมง
แต่ให้เน้น Auto Reply ในแชทหรือ Live Chat อัตโนมัต ให้เค้ากลับมาอ่านเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่จับเวลาการติดต่อ อยากสอบถามเพิ่มเติมเมื่อไหร่ก็รอลูกค้าแชทกลับมาเอง เป็นต้นค่ะ
มีตัวอย่างการบริการ Self-service ที่เหมาะกับ Introvert อย่างร้านที่มีตัวเลือกเตาเดี่ยวแบบ Yakiniku like ที่นุ่นเคยเขียนรีวิวไว้ เข้าไปอ่านต่อกันได้น้า >
Check List เอาใจลูกค้า Introvert
เตรียมความพร้อมตอบคำถามและการจองล่วงหน้า เป็นสิ่งที่นุ่นอยากแนะนำ และปรับใช้ได้กับทุกแบรนด์ ทุกกลุ่มเป้าหมายเลย อย่าอาศัยค่อยทำเมื่อเจอปัญหาหน้างาน แบบนี้ Introvert จะไม่ค่อยปลื้มค่ะ
ข้อมูลหลังการขายที่จำเป็น เตรียมขึ้นไว้ในพื้นที่ที่หาอ่านได้ง่าย ไม่ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ยิ่งดีค่ะ ประหยัดเวลาทั้งเราและลูกค้า ลองดูตามลิสต์นี้นะคะ :
- โพสต์ข้อมูลการติดต่อและข้อมูลจำเป็น ทุกที่ที่เราจะโพสต์ได้ เว็บเอย หน้าเพจ ไลน์ Official เป็นต้น
- มีช่องทางสมัครรับข้อมูลข่าวสารทางอีเมล คนที่ตามเราห่าง ๆ อย่าง ห่วง ๆ ยังมีค่ะ อย่าทิ่ง Email Marketing นะคะ
- มีหน้าเว็บที่แสดงถ้าข้อมูลสินค้า สต็อก ราคา ให้ละเอียดในที่เดียว การที่จะให้ทักแชทเพื่อถามราคา จะตัดโอกาสในการขายให้ลูกค้ากลุ่มนี้ไปเยอะเลย
- Auto Reply การเช็กสถานะสินค้าตัวด้วยเองได้
- มีบริการนัดจองคิวล่วงหน้าออนไลน์
- เตรียม FAQ คำถามที่พบบ่อย
ไกด์สุดท้าย ต้องไม่ตื้อเกินไป รู้ว่าเมื่อไหร่ควรหยุดขาย
ปิดท้ายด้วยไกด์ง่าย ๆ ลูกตื้อใช้ไม่ได้ผลเสมอไปกับลูกค้ากลุ่มนี้ค่ะ อย่างที่เล่าให้ฟังข้างต้นว่าเค้าค่อนข้างมีบุคลิกคิดเยอะ คิดลึก และ take time การมีระยะห่างให้ได้เดินเลือกชมด้วยตัวเอง ไม่ยัดเยียด แนะนำพองามจะเป็นวิธีที่แนะนำนะคะ เก็บไว้เทรนด์พนักงานหน้าร้านได้เลย
Introvert Marketing เหมาะกับใคร ธุรกิจแบบไหน
จริง ๆ แล้วไกด์ไลน์ทั้งหมด สามารถนำไปปรับใช้ได้ทุกธุรกิจ ทั้งสินค้าและบริการ เช่นร้านอาหาร ของที่ขายตามห้าง หรือธุรกิจที่มีหน้าร้านของตัวเอง
และถ้านักการตลาดคนไหนกำลังทำแคมเปญเกี่ยวกับคนโสดก็น่าจะชอบลิสต์ในบทความนี้ที่นุ่นรวบรวมมาไว้ทั้งการเตรียมข้อมูลให้พร้อมบนเว็บไซต์ Email, Podcasting, Blog, Social media และ Creating short videos หากยังไม่ได้ลองข้อได้ ก็ฟอร์มทีมมาทำกันดูนะคะ
อยากเน้นว่าให้เลี่ยงการตลาดที่เน้น Interaction หรือ Experience ในระดับสูงจากลูกค้า เพราะเค้าจะรู้สึกอึดอัดและไม่อยากเข้าร่วมเท่าไหร่ ประชุมกับทีมว่าเราต้องมี KPI อย่างไรถึงจะเหมาะนะคะ
สรุปแล้วในบทความนี้นักการตลาดไทยน่าจะเข้าใจลูกค้ากลุ่มนี้มากขึ้นไม่มากก็น้อย ผ่านลิสต์บุคลิกภาพเบื้องต้น เช่นการคิดที่ลึกซึ้งและใช้เวลาตัดสินใจมากกว่ากลุ่มอื่น รวมทั้งเทคนิคการเข้าหาโดยใช้กลยุทธ์ low-interaction marketing ไม่เน้นโหวกเหวก มี Event ออกบูธ จัดสัมนา
พร้อมด้วย Check list ที่นักการตลาดหรือแบรนด์ต้องเตรียมความพร้อม ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลและ consumer support ที่สำคัญ บางอย่างเรามีอยู่แล้วก็มาเตรียมให้พร้อมมากขึ้นไปอีกกันนะคะ สุดท้ายนักการตลาดต้องเทรนพนักงานให้รู้เทคนิคการขายของ ที่ไม่ตื้อเกินไป ต้องรู้ว่าเมื่อไหร่ควรหยุดให้ลูกค้าตัดสินใจเองค่ะ แม้จะไม่ซื้อวันนี้ วันพรุ่งนี้อาจจะเดินกลับมาก็ได้
ถ้าชอบบทความนี้อย่าลืมคอมเมนต์มาแชร์ความเห็นกันน้า และถ้าอ่านจบแล้ว คิดว่าตัวเองเป็น Introvert หรือ Extrovert คะ? ^o^
