จับตาศึกโลจิสติกส์! เมื่อขนส่งรายใหญ่หันมาตีตลาด “ส่งของขนาดใหญ่”

จับตาศึกโลจิสติกส์! เมื่อขนส่งรายใหญ่หันมาตีตลาด “ส่งของขนาดใหญ่”

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้บริโภคสั่งอาหารผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ และมีการซื้อสินค้าออนไลน์กันมากยิ่งอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้ตลาดโลจิสติกส์เติบโตขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

เริ่มต้นจาก “ส่งพัสดุชิ้นเล็ก”

ช่วงแรกคนขายของออนไลน์มักจะจัดส่งพัสดุขนาดไม่ใหญ่เท่าไหร่นัก สามารถใส่ซอง ใส่กล่องได้ และมีน้ำหนักไม่มาก โดยส่วนใหญ่แล้วคนขายของออนไลน์จะส่งสินค้าน้ำหนักไม่เกิน 5 กิโลกรัม ต่อ 1 พัสดุ ในช่วงแรกสินค้าที่ได้รับความนิยมมักจะเป็นเสื้อผ้าแฟชั่น สินค้าแม่และเด็ก ซึ่งมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา

เทรนด์เปลี่ยนไป ลูกค้าซื้อสินค้าขนาดใหญ่ขึ้น

เมื่อผู้คนอยู่บ้านกันมากขึ้นก็ไม่ได้ซื้อแต่สินค้าขนาดเล็กกันอย่างเดียวแล้วนะครับ เพราะกระแสการซื้อเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ หรือแม้แต่อุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยงก็เริ่มเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน ในช่วงที่ผ่านมาสินค้าขนาดใหญ่อย่างเช่น ตู้เย็น เครื่องออกกำลังกาย โซฟา คอนโดแมว ฯลฯ ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ร้านค้าประเภทนี้ก็เริ่มเข้าไปเปิดร้านผ่านแพลตฟอร์อีคอมเมิร์ซต่าง ๆ ส่งผลให้ความต้องการขนส่งสำหรับสินค้าขนาดใหญ่ก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกันครับ

ขนส่งเริ่มขยายตลาดสู่ “ส่งพัสดุขนาดใหญ่”

เมื่อกระแสเปลี่ยนไป เงื่อนไขการจัดส่งแบบเดิม ๆ อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าแล้ว เดิมทีขนส่งพัสดุด่วนมักจะรับส่งพัสดุน้ำหนักตั้งแต่ช่วง 0 – 30 กิโลกรัม ในขณะเดียวกันตลาดโลจิสติกส์ก็มีการแข่งขันที่รุนแรงในเรื่องของ “สงครามราคา” ส่งผลให้หลายขนส่งก็ต้องคิดกลยุทธ์ใหม่ ๆ และออกบริการใหม่ ๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าเพิ่มด้วย เทรนด์มาแรงตอนนี้ก็คือ “การส่งพัสดุสำหรับสินค้าที่มีขนาดใหญ่” ครับ เพราะหลายขนส่งเริ่มหันมาทำตลาดนี้กันอย่างจริงจัง และเริ่มเปิดตัวและทำการโปรโมทกันอย่างต่อเนื่องเลย สำหรับขนส่งที่เปิดตัวแล้ว ได้แก่

  • Best Express กับบริการ “BEST Big Parcel”

โดยลูกค้าสามารถส่งพัสดุที่มีน้ำหนักปริมาตรสูงสุดไม่เกิน 300 กิโลกรัม (น้ำหนักจริงไม่เกิน 100 กิโลกรัม) และมีขนาดพัสดุทั้ง 3 ด้าน (กว้าง + ยาว + สูง) รวมกันแล้วไม่เกิน 600 เซนติเมตร หรือมีขนาดด้านใดด้านหนึ่งไม่เกิน 200 เซนติเมตร

  • Flash Express กับบริการ “Flash Bulky”

โดยการชูคอนเซปต์ “ส่งของใหญ่ ไว้ใจแฟลช”  และลูกค้าสามารถส่งพัสดุขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 5 – 100 กิโลกรัมได้ โดยขนาดแต่ละด้านจะต้องไม่เกิน 160 ซม. และขนาด 3 ด้านรวมกันไม่เกิน 400 ซม. (กว้าง+ยาว+สูง) นอกจากนั้นยังคงคอนเซปต์เข้ารับฟรีถึงหน้าบ้านแบบไม่กำหนดจำนวนขั้นต่ำอีกด้วย

  • ไปรษณีย์ไทย กับบริการ “โลจิสโพสต์”

บอกได้เลยว่าถูกใจคนขายของออนไลน์ที่สินค้ามีขนาดใหญ่ และน้ำหนักเยอะ เพราะสามารถส่งพัสดุที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 20-200 กิโลกรัม โดยขนาดไม่เกินด้านละ 150 x 200 x 150 เซนติเมตร (กว้าง x ยาว x สูง) ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์หรือรถจักรยานยนต์ก็สามารถส่งได้อย่างแน่นอน

  • SCG Express กับบริการ “ยกใหญ่ไซซ์บิ๊ก”

ลูกค้าสามารถจัดส่งสินค้าที่มีน้ำหนักได้ตั้งแต่ 26-50 กิโลกรัม และความยาวของพัสดุไม่เกิน 2 เมตร สามารถแพ็คสินค้าลงกล่อง ลัง ไม้ ถุง หรือ กระสอบได้ แต่จะต้องทำการแพ็คให้มิดชิดและแน่นหนา เพื่อป้องกันสินค้าเสียหาย

  • Kerry Express กับบริการ “Kerry XL”
Source: https://bit.ly/33K3PV6

เคอรี่ร่วมมือกับเซ็นทรัล รีเทล เปิดให้บริการส่งสินค้าขนาดใหญ่ โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับธุรกิจทั้งสองฝ่ายเลยครับ เพราะด้านของเซ็นทรัลเองก็มีผู้ค้าอยู่ในมือหลายราย และเคอรี่ก็สามารถมีระบบโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่งสามารถตอบความต้องการของผู้ค้าได้

หลังจากนี้เราคงได้เห็นการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น เริ่มจากสงครามราคา และยังต้องแข่งขันกันในเรื่องของบริการต่าง ๆ เราอาจจะได้เห็นการจัดส่งสินค้าในแบบที่เฉพาะทางมากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันเราจะเห็นว่ามีทั้งบริการจัดส่งผัก ผลไม้ ต้นไม้ สินค้าขนาดใหญ่ หากขนส่งใดที่ยังไม่เร่งปรับตัวหรือไม่พยายามทำบริการใหม่ ๆ ออกมา ก็อาจจะอยู่ในตลาดนี้ได้ยากมากขึ้น

ส่วนใครที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับเรื่องของโลจิสติกส์ในแง่มุมอื่น ๆ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่
ในบทความหน้าผมจะมีอะไรมาอัปเดตอีกบ้าง สามารถติดตามได้ผ่านเพจการตลาดวันละตอน รวมถึง Twitter และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนนะครับ

Sutthikead Chantarachairoj

โมชิ จากโปรแกรมเมอร์ ต่างจังหวัด สู่นักธุรกิจ Startup SHIPPOP.COM ทำรายได้มากกว่า 500 ล้านต่อปี ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษา โค้ช และนักลงทุน ให้กับ SME และ Startup ชั้นนำหลายเจ้า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

คุณคิดว่าปัญหา PM 2.5 ที่เชียงใหม่วิกฤตหรือยัง ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถามก่อนอ่านการตลาดวันละตอน แล้วเราจะเอาไปทำเป็น Infographic โชว์หน้าเพจให้รู้ด้วยกัน