สรุป 5 Insight GEN Z 2021 หลัง Social distancing จาก Facebook Report
วันนี้มีรายงานใหม่จาก Facebook มาแชร์ให้เพื่อนๆ นักการตลาดได้ฟังกัน ถึง Insight GEN Z 2021 หลัง Social distancing ในยุค COVID-19 ที่ผมตั้งใจแปลและเรียบเรียงให้เพื่อนๆ นักการตลาดได้อัพเดทกันครับ
Gen Z เจนแห่งอนาคตกับการนิยามใหม่หลังโควิด19 เพราะปัจจุบันโลกนี้ช่างไม่แน่นอน ยากที่จะคาดเดาอนาคตได้ ถ้าอยากรู้ว่าอนาคตของโลกใบนี้จะเป็นอย่างไร เราก็ต้องเริ่มจากการเดินเข้าไปถามเหล่า Future Generation หรือ GEN Z นี่แหละครับถึงจะพอเห็นภาพโลกใบนี้ในวันหน้าได้ในวันนี้
ในปี 2020 ที่ผ่านมา คนที่อายุ 25 ปีลงไปนั้นมีสัดส่วนถึง 41% ของประชากรทั่วโลก และนั่นก็คือ Gen Z หรือคนรุ่นใหม่ที่ไม่ใช่แค่ใหญ่เกินกว่าจะมองข้าม แต่พวกเขากำลังจะกลายเป็นอนาคตของโลกเราอย่างแท้จริง
และ GEN Z ก็ได้เติบโตมาท่ามกลางการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ไม่มีใครคาดคิด ทำให้แวดวงการศึกษาถูก Disruption อย่างไม่มีใครคาดฝัน ระบบการศึกษาถูกรื้อและสร้างใหม่ให้พร้อมจะเรียนผ่านออนไลน์ได้ในเวลาแค่ไม่กี่วัน จากเดิมพยายามกันมาหลายสิบปีไม่เคยขยับ พอทุกคนต้อง Social distancing อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ก็ทำให้พบว่าการเรียนผ่าน Video conference นั้นก็มีแนวทางให้เป็นไปได้ถ้าเราทุกคนปรับตัวจริงๆ ไปพร้อมกัน
GEN Z ตอนปลายยังพบกับปัญหาใหม่ที่ไม่มีผู้ใหญ่คนใดเคยเจอ นั่นก็คือปัญหาในเรื่องของอาชีพการงาน ในกลุ่มคนที่เรียนจบปีนี้แต่ไม่รู้ว่าจะต้องไปหางานที่ไหนทำ หรือบางคนเพิ่งจะได้งานก่อนโควิดแต่ก็ต้องเรียนรู้วิธีการทำงานใหม่ที่ต้องออนไลน์ 100% ให้ได้ เรียกได้ว่าเป็นอีกสิ่งที่ไม่เคยมีใครสอนว่าการทำงานสามารถออนไลน์ได้ 100% มาก่อนแบบนี้เลย
และในเรื่องการเริ่มต้นทำงานหลังเรียนจบของ GEN Z ก็ไม่ได้กระทบแค่กลุ่มคนที่เริ่มหางานทำในปีนี้เท่านั้น แต่ยังกระทบไปถึงกลุ่ม GEN Z ที่กำลังเรียนอยู่แต่ใกล้จบแล้ว กลุ่มนี้รู้สึกเปราะบางยิ่งกว่าเพราะไม่รู้ว่าตกลงอนาคตที่เคยคิดไว้จะยังเป็นอยู่ได้สักแค่ไหนกัน
เกิดโรคระบาดไม่หายไป เกิดเราต้องใส่หน้ากากตลอดชีวิต เกิดเราต้องกลับมากักตัวอยู่บ้านกันอีกครั้ง(หลายประเทศในยุโรปเริ่มประกาศอีกรอบแล้ว) แล้วความมั่นคงในอาชีพการงานจะเหลืออยู่ตรงไหนให้ GEN Z กัน
ดังนั้น GEN Z ในวันนี้ดูเหมือนกำลังอยู่ท่ามกลางพายุมรสุมใหญ่แบบที่ไม่เคยมีวัยรุ่น GEN ใดเคยเจอมาก่อน (ตอนรุ่นผมเจออย่างมากก็เศรษฐกิจตกต่ำจากฟองสบู่แตก แต่เรายังสามารถออกไปใช้ชีวิตได้ตามปกติครับ) และด้วยทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็เลยทำให้ความเป็น GEN Z นั้นเปลี่ยนไปจากเดิมมากจนนักการตลาดอย่างเราต้องมาทำความรู้จักพวกเขาใหม่อีกครั้ง
ลองมาดูกันนะครับว่าในวันนี้ GEN Z เปลี่ยนไปในทิศทางไหน และพวกเขายืนหยัดความเชื่อไว้กับสิ่งใด แล้วอะไรบ้างที่เป็นแรงบันดาลใจที่จะสามารถขับเคลื่อนคนรุ่นใหม่อย่างพวกเขาได้ครับ
1. Identity is a call to action เรียนรู้ที่จะเรียนรู้ตลอดชีวิตด้วยตัวเอง
เมื่อลองถาม GEN Z ในยุโรปว่าให้ช่วยอธิบายตัวเองให้ฟังหน่อยคิดว่าตัวเองเป็นคนอย่างไร น่าแปลกใจที่พบว่า GEN Z ในยุโรปส่วนใหญ่กว่าบอกว่าตัวเองเป็นพวก Introverts หรือชอบเก็บตัวมีความสุขกับตัวเองมากกว่าที่บอกว่าตัวเองเป็น Extroverts ถึง 2.4 เท่า ผิดกับวัยรุ่นที่ยุคก่อนๆ ที่มักบอกว่าตัวเองเป็นพวก Extroverts ชอบออกปาร์ตี้ เข้าสังคม หรือชอบอยู่กับเพื่อนมากกว่าเก็บตัวอยู่บ้านคนเดียว
อาจจะเป็นเพราะการแพร่ระบาดของโควิด19 ที่ผ่านมาทำให้ทุกคนบนโลกต้องรู้จักเก็บตัวอยู่บ้านไม่ได้ออกไปเจอเพื่อนฝูงคนแปลกหน้า ซึ่งก็ไม่แปลกว่าจะส่งผลให้ GEN Z หรือแม้แต่คนจำนวนไม่น้อยเริ่มรู้สึกตัวจริงๆ แล้วตัวเองอาจจะชอบเก็บตัวอยู่บ้าน สามารถทำกิจกรรมที่มีความสุขด้วยตัวเองได้ เลยส่งผลให้กลุ่มคนที่เป็น Extroverts ย้ายมาเป็น Introverts ไม่มากก็น้อยด้วยเหตุผลนี้ครับ
แต่ในขณะเดียวกันก็อย่าเข้าใจ GEN Z ผิด ว่าพวกเขาไม่อยากที่จะพบปะใครต่อไปแล้ว เพียงแต่การพบปะกันอาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเจอหน้ากันจริงๆ แบบ Face to Face บนโลกออฟไลน์ แต่พวกเขาชอบที่จะได้เจอเพื่อนๆ หรือแม้แต่รู้จักกับคนใหม่ๆ ผ่านทางออนไลน์หรือโซเชียลมีเดียด้วยมือถือในมือมากกว่า
จะเห็นว่าโควิดเข้ามาเปลี่ยนไม่ใช่แค่วิถีชีวิต แต่เข้ามาเปลี่ยนกระทั่งวิธีการคิดที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของทุกคนบนโลกไม่น้อยเหมือนกัน
และนั่นก็หมายความว่า GEN Z ที่เป็นคนรุ่นใหม่ในวันนี้ พวกเขาคือคน Generation แรกที่เรียกว่า Digital Natives ได้ยิ่งกว่า Gen ไหนๆ พวกเขาไม่ใช่แค่โตขึ้นมากับ Smartphone เท่านั้น แต่พวกเขายังรู้จักโลกส่วนใหญ่ผ่านกรอบหน้าจอเล็กๆ บน Smartphone ในมือเป็นปกติด้วย
ในขณะเดียวกันสิ่งนี้ก็ทำให้ GEN Z เรียนรู้ว่าพวกเขาสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลมากมายได้จากช่องทางต่างๆ ที่เหมือนจะมีให้เรียนรู้หรือนั่งอ่านได้ไม่รู้จบ อยากรู้อะไรแค่กดคลิ๊ก หรือสงสัยอะไรก็แค่พูดถามกับ AI อย่าง Google หรือ Siri แน่นอนว่าบางครั้งพวกเขาก็รู้สึกว่าตัวเองเสียเวลาจมอยู่กับข้อมูลที่ไม่สำคัญมากเกินไป แต่คนรุ่นใหม่ในวันนี้ก็เข้าใจว่าการเข้าถึงข้อมูลมากมายย่อมมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่จะเชื่อแหล่งที่มาของข้อมูลนั้นๆ มากกว่าคนรุ่นก่อน
แม้พวกเขาจะเสพเนื้อหาเยอะ แต่พวกเขาก็ไม่ได้หลงเชื่อไปทั้งหมด พวกเขาชอบที่จะตั้งคำถามไปอีกด้านของสิ่งที่เห็น เรียกได้ว่าพยายามหาคำตอบมาหักล้างกันไม่ได้จมอยู่กับ Filter bubble โดยไม่รู้ตัว
แล้วทั้งหมดที่พวกเขาเรียนรู้มาด้วยตัวเองผ่านปลายนิ้วและอินเทอร์เน็ตก็คือแค่รู้อย่างเดียวไม่พอแต่ต้องลงมือทำด้วย ความรู้จะไม่เกิดค่าถ้าเรา(คนรุ่นใหม่)ไม่ทำให้มันเกิดผล
79% ของ GEN Z ทั่วโลกคิดเหมือนกันว่า พวกเขาให้ความสำคัญกับการพัฒนาตัวเองและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา และจะเป็นเช่นนี้ตลอดชีวิตพวกเขาไป เรื่องนี้ผิดกับความเชื่อของคนรุ่นเก่าอย่างมาก ที่มักชอบหลงคิดว่าเรารู้สิ่งที่เรารู้ได้ดีอยู่แล้ว คนรุ่นใหม่เชื่อในเรื่องการเรียนรู้ตลอดชีวิต อนาคตของการทำงานร่วมกันดูท่าคนรุ่นเก่าที่ไม่พร้อมปรับตัวน่าจะอยู่ได้ยากมากเลยครับ
77% ของ GEN Z ทั่วโลกบอกว่าพวกเขายินดีที่จะอัพเดทข้อมูลข่าวสารให้เท่าทันโลกตลอดเวลา สรุปสั้นๆ ได้เลยว่า GEN Z ในวันนี้เป็นกลุ่มคนที่รักการเรียนรู้ยิ่งกว่า Generation ใดที่เคยมีมาเป็นไหนๆ ครับ
และในปี 2020 ที่โรงเรียนกับมหาวิทยาลัยทั่วโลกล้วนต้องปิดการเรียนการสอนในห้องเรียนทั้งหมดลงพร้อมกันเพราะ COVID-19 เราก็พบว่า GEN Z ส่วนใหญ่ก็อยากจะเปลี่ยนมาเรียนบนออนไลน์มากยิ่งขึ้น เมื่อดูจากการพูดคุยที่เกิดขึ้นบน Facebook ในกลุ่มหัวข้อการศึกษาออนไลน์
สรุปสั้นๆ ได้ว่า GEN Z ในวันนี้ปรับตัวเข้าสู่ออนไลน์ไปสู่การรู้สึกว่าตัวเองเป็น Introverts จนมากกว่า Extroverts ถึง 2.4 เท่า และพวกเขาก็รู้เท่าทันสื่อออนไลน์ด้วยการระแวดระวัง Fake News ดีกว่าที่ผู้ใหญ่กังวลกัน สุดท้ายพวกเขาก็เป็นคนกลุ่มแรกที่ยอมรับเรื่องของการเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นอย่างดี ทำให้พวกเขาเองกระหายที่จะหาความรู้อยู่ตลอดเวลา อยากเรียนรู้ในเรื่องที่ตัวเองสนใจเป็นอย่างมาก คำถามสำคัญคือนักการตลาดอย่างคุณมองเห็นโอกาสตรงนี้มากน้อยแค่ไหน
2. Activism takes everyone อยากเห็นโลกเปลี่ยนจึงลงมือโดยไม่รีรอ
GEN Z หรือคนรุ่นใหม่ในวันนี้บอกว่า พวกเขามีความเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าพวกเขาสามารถเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้นได้ ทั้งในเรื่องของความไม่ยุติธรรมในสังคม ปัญหาสิ่งแวดล้อม และเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย
จากการสำรวจก่อนหน้านี้พบว่า GEN Z เป็นคนกลุ่มแรกที่บอกว่าพวกเขาสามารถเป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ ท่ามกลางคนมากมายที่อาจจะไม่ได้เหมือนกับตัวเขาเลย ผิดกับวัยรุ่น GEN Z ก่อนบอกว่าขอเลือกอยู่กับกลุ่มคนที่ใกล้เคียงกันดีกว่า คนรุ่นใหม่ในวันนี้กลับรู้สึกว่าความแตกต่างหลากหลายหรือพหุวัฒนธรรมนี่แหละคือทรัพย์สินที่มีค่า และสื่อต่างๆ ก็ควรจะเผยแพร่ความหลากหลายเหล่านี้ออกไป เลิกคิดแบบ Stereotype เหมารวมได้แล้ว
71% ของ GEN Z ทั่วโลกบอกว่าพวกเขาอยากจะเห็นความหลากหลายในโฆษณามากกว่านี้ เลิกคิดเองเออเองว่าคนรุ่นใหม่จะต้องหมายถึงแค่ไลฟ์สไตล์แบบใดแบบหนึ่ง นั่นหมายความว่าการทำ Personalized Communication ที่ให้ตรงกับใจ GEN Z แต่ละกลุ่มจะยิ่งตอบโจทย์มากขึ้นหรือเปล่า
และจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 ก็ทำให้พบว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่ GEN Z ในวันนี้ใส่ใจในเรื่องของความยั่งยืนหรือ Sustainability เป็นอย่างมากครับ
จากการสำรวจพบว่า GEN Z ทั่วโลกมองว่าการลดผลกระทบต่อโลกและสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญมากกว่าคน Generation อื่นถึง 1.2 เท่า
61% ของ GEN Z ในยุโรปบอกว่าพวกเขาสนใจการรณรงค์ในประเด็นปัญหาทางสังคมมากขึ้นตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด(หลายประเทศเกิดการประท้วงจากคนรุ่นใหม่ไม่ใช่แค่ในบ้านเรานะครับ)
ทาง Facebook เองก็ทำการเก็บข้อมูลข้ามไปยังแพลตฟอร์มอย่าง Instagram ที่เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมของคนรุ่นใหม่ GEN Z และก็พบว่าผู้คนทุกเพศทุกวัยต่างร่วมกันระดมทุนกันได้กว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อสู้กับโรคโควิด19 ตั้งแต่ต้นปี 2020 ที่ผ่านมา
แต่จากการสำรวจสอบถาม GEN Z ทั่วโลกก็พบว่าพวกเขามีแนวโน้มจะบริจาคเป็นครั้งแรกมากกว่าคน Generation อื่นตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด19 ขึ้น
สรุปได้ว่า GEN Z ในวันนี้ห่วงใยและใส่ใจต่อสังคมมากอย่างเกินกำลังทรัพย์ที่พวกเขามีอย่างเห็นได้ชัด และพวกเขาก็เป็นนักปฏิบัติหรือลงมือทำอย่างจริงจัง ไม่ได้เป็นแค่วัยรุ่นที่ดีแต่พูดเหมือนวัยรุ่น Generation ที่ผ่านๆ มา ในแง่หนึ่งก็ต้องบอกว่าด้วยอำนาจของ Internet และ Social media ที่ทำให้การสามารถระดมทุนเป็นเรื่องง่าย แถมการจะหาเงินในวันนี้ก็สามารถทำได้ผ่านการเป็น Creator หรือใดๆ ที่ไม่ต้องง้อการทำงานแลกเงินจากบริษัทเหมือนคน Generation ก่อนครับ
3. Community is a feeling คนรุ่นใหม่จริงจังในการ Join Groups
คนรุ่นใหม่ Gen Z ในวันนี้เป็นผู้สร้างกติกาใหม่ให้กับแบรนด์ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน นิยามของคำว่า Community สำหรับ Gen Z นั้นไม่เหมือนกับ Community ในวันวาน เพราะพวกเขาให้ความสำคัญกับการจับกลุ่มรวมตัวกันบนออนไลน์เป็นอย่างมาก Community หรือ Facebook Group ใดที่พวกเขาเลือก Join พวกเขาจะต้องรู้สึกมีความเป็นเจ้าของร่วมด้วยนิดๆ ไม่ใช่แค่ผู้อยู่อาศัยที่มารอฟังใครประกาศ และถ้าพวกเขาเลือกที่จะเข้าร่วม Community หรือ Facebook Group ใดแล้ว พวกเขาก็อยากจะอยู่กับกลุ่มนั้นนานๆ ตั้งแต่วันแรกที่กด Join เข้าไป
แต่ในขณะเดียวกันในช่วง Social distancing ที่เราทุกคนต้องกักตัวอยู่บ้านนั้นก็ทำให้เกิด Community ใหม่ๆ มากมาย เกิด Facebook Groups ขึ้นมามหาศาล และในขณะเดียวกันก็มีหลายกลุ่มที่เคยดังนั้นดับไปในช่วงโควิด19 เช่นกัน
เมื่อถามไปยังคนรุ่นใหม่ GEN Z ว่าพวกเขารู้สึกว่าตัวเองมีความสัมพันธ์อย่างไรกับกลุ่ม Community ต่างๆ ที่เข้าร่วมบ้าง น่าสนใจว่าคำตอบแบ่งออกเป็นสองด้านใหญ่ๆ ที่ย้อนแย้งกันเอง
45% บอกว่าตัวเองมีความเห็นที่เป็นตัวของตัวเอง โดดเด่นไม่เหมือนใคร ส่วนอีก 41% ก็บอกว่าพวกเขามักคล้อยตามความเห็นคนส่วนใหญ่ในกลุ่มเป็นประจำ ซึ่งถ้าวิเคราะห์ดูดีๆ ก็จะเห็นว่าความย้อนแย้งนี้ไม่ใช่เรื่องย้อนแย้งของวัยรุ่น เพราะวัยรุ่นหรือ GEN Z ก็คือคนที่กำลังค้นหาตัวตนที่จะเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง บวกกับการต้องการกลุ่มแก๊งค์ที่จะรวมกันมันส์กว่า เอ้ย มีพลังและมั่นใจกว่าตัวคนเดียวครับ (อ่านข้อมูลในส่วนนี้เพิ่มเติมได้จากหนังสือ วัยรุ่น 4.0)
และด้วยการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 ในปี 2020 ที่ผ่านมาและก็ยังไม่ผ่านไป เป็นตัวเร่งให้คนทั้งโลกต้องเข้าสู่โลกออนไลน์อย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้ประชากรบนโซเชียลนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมากบวกกับการใช้งานอย่างหนาแน่นกว่าที่เคยเป็นมา
1 ใน 4 ของ GEN Z ในยุโรปบอกว่าตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 มา พวกเขาเข้าไป join facebook groups มากมายเพื่อจะหากลุ่มคนที่สนใจในเรื่องเดียวกัน ไปจนถึงอยากค้นพบคนใหม่ๆ ในเรื่องที่ตัวเองกำลังให้ความสนใจ
ดังนั้น Online Community ที่ดีสำหรับ GEN Z ที่ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็น Facebook Groups เท่านั้น ต้องสามารถตอบสนองความต้องการที่จะให้ GEN Z ทั้งในแง่ของ Personality และ Professionally ได้พร้อมกัน
จะเห็นว่า GEN Z อนาคตของคำว่า Community ถูกรื้อสร้างและนิยามใหม่โดย GEN Z ในวันนี้ เริ่มตั้งแต่วิธีที่พวกเขามีส่วนร่วมกับ Facebook Groups หรือ Community ต่างๆ บนออนไลน์ จากวิธีการร่วมกลุ่มโดยตาม #Hashtag เพื่อจะแสดงความเห็นของตัวเองออกมา ไปจนถึงติดตามสนับสนุนความเห็นที่ตัวเองเชื่อเหมือนกัน
พวกเขากล้าที่จะส่งข้อความตรงหรือ DM ไปยังคนที่เห็นด้วยหรือเห็นต่าง พร้อมกับมีวิธีการแชร์ความเห็นออกไปผ่าน Stories ไม่ใช่แค่การโพสปกติแบบคน Generation ก่อน
สรุปทั้งหมดทั้งมวลในเรื่องของ Community สำหรับ GEN Z 2021 ก็คือ พวกเขาเต็มที่กับการเข้าร่วมกลุ่มบนออนไลน์ มีความจริงจังและจริงใจ แล้วก็พร้อมจะแสดงตัวตนและรับฟังความเห็นไปพร้อมกัน
4. Commerce demands discovery จ่ายได้ถ้าดีกว่า
Insight การตัดสินใจซื้อสินค้าออนไลน์ของ GEN Z เป็นเรื่องที่นักการตลาดทุกคนอยากรู้ เพราะถ้าเรารู้ว่าพวกเขาตัดสินใจจากอะไร และอะไรที่ตัวแปรที่ทำให้เลือกแบรนด์นี้แทนแบรนด์อื่น ก็จะทำให้เราสามารถปรับ Business & Marketing ได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นครับ
Gen Z เป็นกลุ่มวัยที่เลือกช้อปให้กับสิ่งที่สามารถสะท้อนความเชื่อของตัวเอง พวกเขาเลือกที่จะจ่ายให้กับแบรนด์ที่หยิบออกมาใช้หรือถ่ายรูปแชร์ออกไปแล้วภูมิใจ แต่ในขณะเดียวกันเรื่องความคุ้มค่าหรือประสิทธิภาพของสินค้าหรือบริการที่ได้รับก็ยังเป็นพื้นฐานสำคัญ บวกกับต้องซื้อหรือใช้บริการได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย
และคนรุ่นใหม่ GEN Z เองก็คาดหวังว่าแบรนด์ต่างๆ จะพร้อมอยู่ตรงหน้าเมื่อพวกเขาเริ่มค้นหาหรือให้ความสนใจ ดังนั้นถ้าแบรนด์ใครยังมีตัวตนที่ไม่พร้อมทั้งบนโลกออนไลน์หรือโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่างๆ ที่พวกเขาใช้งานอยู่เป็นประจำ บอกได้เลยว่าคุณกำลังพลาดโอกาสสำคัญที่จะได้เงินจากกลุ่ม GEN Z ไปอย่างน่าเสียดาย
GEN Z ในวันนี้ไม่ได้เลือกจากราคาหรือความถูกอย่างที่ผู้ใหญ่หลายคนเชื่อกัน แต่พวกเขายังให้ความสำคัญกับการจ่ายเพื่อคุณภาพที่ดีกว่า บริการที่ดีกว่า หรือที่เรียกว่า Premium และยังจ่ายเพื่อสินค้าที่ Eco-friendly อีกด้วยครับ
ดังนั้นถ้าแบรนด์คุณราคาถูกแต่ของไม่ดี ไม่มีคุณภาพ แถมยังผลิตออกมาแบบไม่ใส่ใจโลกหรือสิ่งแวดล้อม เตรียมบอกล่ากลุ่มเป้าหมาย GEN Z ได้เลย
ดังนั้นความท้าทายของแบรนด์ต่างๆ และนักการตลาดในวันนี้คือ GEN Z นั้นคุ้นเคยกับการเต็มไปด้วยตัวเลือกมากมายบนโลกออนไลน์ที่ออกจะมากเกินไป เพราะ 67% ของ GEN Z ทั่วโลกบอกว่าพวกเขาคิดว่าพวกเขามีตัวเลือกให้เลือกมากเกินไปด้วยซ้ำ
ดังนั้นคำถามสำคัญของเรื่องนี้คือคุณเตรียมเนื้อหาทั้งในแง่ของสินค้าและบริการที่เป็นแบบรู้ใจ Personalization สำหรับ GEN Z แต่ละคนที่มีความชอบหรือไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันไว้แล้วหรือยัง แถมที่สำคัญยังต้องทำให้การค้นหาง่ายด้วยนะ อย่าลืมข้อนี้! เพราะถ้าทำออกมาดีแต่หาไม่เจอก็เสียเงินเปล่า
เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่ GEN Z ค้นหาคุณแล้วเจออย่างง่ายดายแค่ปลายนิ้วไม่กี่คลิ๊ก จากนั้นก็ได้เจอกับเนื้อหาบนออนไลน์ที่ทำมาแบบ Personalization สำหรับพวกเขาแต่ละคนเท่านั้น บวกกับเป็นแบรนด์ที่เป็นตัวจริงในเรื่องของคุณค่าที่ไม่ซ้ำใคร(แม้สินค้าจะซ้ำกัน) ถ้าแบรนด์ไหนหรือนักการตลาดคนใดสามารถทำได้ทั้งหมดนี้ คุณก็จะได้ความ Loyalty จาก GEN Z ไปอีกนาน
5. Resilience requires adaptability รู้จักปรับตัวปรับใจให้เข้ากับโลกที่วุ่นวายได้ดี
คนรุ่นใหม่ GEN Z ในวันนี้พวกเขาทำให้โลกใบนี้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ และหลายคนก็เลือกที่จะเริ่มทำให้โลกดีขึ้นด้วยการดูแลตัวเองและใช้ชีวิตให้ดีขึ้น ทั้งในแง่ของสุขภาพกายและสุขภาพใจไปพร้อมกัน
เดิมทีวัยรุ่นใน Generation ก่อนไม่เคยให้ความสนใจในเรื่องการใช้ชีวิตให้ดีหรือมีคุณภาพเท่า GEN Z มาก่อน แต่ GEN Z ในวันนี้กลับเลือกที่จะทำงานหนักและใช้ชีวิตให้เต็มที่ไปพร้อมกัน แต่การใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ไม่ใช่ปาร์ตี้แบบวัยรุ่นวันวาน แต่เป็นเรื่องของการกลับมาดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจของตัวเองให้ฟื้นฟู ทำให้เทรนด์แฮชแท็ก #SelfCare เป็นที่นิยมโพสกันในหมู่คนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อย
จากการสำรวจพบว่าคนรุ่นใหม่ GEN Z ในปี 2021 จำนวนไม่น้อยชอบที่จะทำกิจกรรมอย่างการนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจ 36% ของ GEN Z ในอังกฤษบอกแบบนั้น ส่วนในอเมริกาก็มีมากถึง 38% เลยทีเดียว
ในขณะที่ GEN Z บางกลุ่มเลือกที่จะดูแลสุขภาพใจตัวเองด้วยการกินช็อคโกแลตหรือขนมหวานเพื่อเยียวยาสภาพจิตใจ ซึ่งจากการสำรวจก็พบว่ามีมากถึง 51% ในอังกฤษและอเมริกาที่บอกแบบนั้นครับ
ดังนั้นกิจกรรมของ GEN Z ในวันนี้นั้นมีมากมายหลากหลายที่พวกเขาชอบเลือกทำในเวลาว่าง ตั้งแต่กิจกรรมประเภทใช้สมองหนักๆ อย่างการเล่นบอร์ดเกม หรือกิจกรรมประเภททำอะไรที่ปราณีตมากๆ จำพวกงาน Craft จ๋าๆ ซึ่งสรุปโดยรวมได้ว่าพวกเขาชอบที่จะทำอะไรสนุกๆ ให้ตัวเองได้ผ่อนคลายครับ
4 กิจกรรมยอดนิยมที่ GEN Z ชอบทำเวลาว่าง
46% ชอบออกกำลังกาย
34% ชอบเรียนรู้อะไรใหม่ๆ
32% ชอบเล่นเกม
28% ชอบทำบ้านให้น่าอยู่มากกว่าเดิม
ในช่วง Social distancing ที่ต้องกักตัวอยู่บ้านเพื่อลดการแพร่ระบาดของโควิด19 ที่ผ่านมา คนรุ่นใหม่หรือ GEN Z ทั่วโลกล้วนปรับตัวเข้ากับภาวะนี้ได้ดีกว่าที่คิดไว้ มิหนำซ้ำพวกเขายังเรียนรู้ที่จะค้นหาเรื่องที่น่าสนใจใหม่ๆ บนอินเทอร์เน็ตไม่ได้เอาแต่นอนดูซีรีส์หรือเล่นเกมอยู่เฉยๆ แต่ยังมี GEN Z จำนวนมากที่ค้นพบเรื่องใหม่ๆ ที่ตัวเองสนใจและก็ลงมือเรียนรู้และเริ่มต้นทำบางสิ่งบางอย่างในช่วงเวลานั้นขึ้นมาแบบจริงจัง
หลายคนกลายเป็น Content Creator บนแพลตฟอร์มใหม่ๆ อย่าง TikTok หลายคนกลายเป็นค้นพบว่าจริงๆ แล้วตัวเองมีทักษะใหม่ๆ บางอย่างขึ้นมาในช่วงเวลานี้ไม่น้อย ผมคนหนึ่งที่ค้นพบว่าการสอนผ่าน LIVE เป็นเรื่องสนุก และการ LIVE สรุปหนังสือให้เพื่อนนักการตลาดในการตลาดวันละตอนได้ฟังกันก็เป็นอะไรที่ดีกว่าที่คิดไว้ก่อนหน้าจะลงมือทำมากครับ
GEN Z ทั่วโลกพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเขาน่าจะทำกิจกรรมที่ทำในช่วงกักตัวอยู่บ้านต่อไปแม้การกักตัวจะหมดลงก็ตาม นั่นหมายถึงพวกเขาไม่ได้ทำแค่ฆ่าเวลาเท่านั้น แต่ในช่วงเวลานั้นพวกเขายังได้ค้นพบความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่ตัวเองก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนครับ
ตั้งแต่เริ่มจริงจังกับการเรียนออนไลน์ในเรื่องใหม่ๆ ที่ตัวเองสนใจ หรือทุ่มเทกับงานอดิเรกมากขึ้นจนน่าจะกลายเป็น Influencer ในด้านนั้นได้บ้างไม่มากก็น้อย เราได้พบหลายคนที่ได้ค้นพบตัวเองก็ในช่วงเวลานี้กันทั้งนั้น
พฤติกรรมใหม่ๆ ในช่วงกักตัวอยู่บ้านของ GEN Z ที่แม้จะยังคงเดินหน้าทำต่อไป
1.5 เท่า บอกว่าจะยังเรียนออนไลน์ต่อไป
1.4 เท่า บอกว่าจะยังดูวิดีโอออนไลน์ต่อไป
1.3 เท่า บอกว่าจะยังใช้แอปส่งข้อความและบริการต่างๆ ต่อไป
1.2 เท่า บอกว่าจะกลับไปทำสิ่งที่เคยชอบก่อนการกักตัว
สรุป 4 Insights GEN Z 2021 สำคัญที่นักการตลาดต้องรู้
1. Diversity คือหัวใจของ GEN Z
แบรนด์ที่จะครองใจคนรุ่นใหม่ GEN Z ได้ต้องสนับสนุนเรื่องความแตกต่างหลากหลายหรือพหุวัฒนธรรมของพวกเขาให้ได้ เพราะ GEN Z ในวันนี้เต็มไปด้วยความหลากหลายทั้งสไตล์ ความชอบ หรือรสนิยมในเรื่องต่างๆ
แต่ท่ามกลางความหลากหลายพวกเขาก็รู้สึกไม่ได้แตกต่างกันมากมาย พวกเขากลับรู้สึกว่าความหลากหลายนี่แหละดีผิดกับคน Generation ก่อน
นักการตลดาต้องหาทางที่จะสนับสนุนเรื่องความหลากหลายที่กล่าวมา ไปจนถึงจับไลฟ์สไตล์ของ GEN Z ที่แตกต่างเข้ามาผสมผสานกัน ทั้งผ่านรูปภาพ ข้อความ ไปจนถึงการจัดกิจกรรม และยังไปถึงการจับมือกับแบรนด์ต่างๆ ที่จะใช้โอกาสจากความหลากหลายให้กลายเป็นหนึ่งครับ
2. สร้าง Community ให้กับ GEN Z ที่หลากหลาย
แม้ GEN Z หรือวัยรุ่นเป็นช่วงอายุที่กำลังสร้างเอกลักษณ์ของตัวเองขึ้นมา ในขณะเดียวกันพวกเขาก็อยากจะรู้จักคนที่มีความชอบที่แตกต่างและหลากหลายไม่เหมือนตัวเองไปพร้อมกัน นั่นเลยทำให้พวกเขาเลือกที่จะไป Join Facebook Groups ต่างๆ เพื่อทำให้ตัวเองได้รู้จักโลกกว้างผ่านหน้าจอเล็กๆ
ดังนั้นการสร้าง Community ให้กับ GEN Z ไม่ได้มีแค่ Facebook Groups แต่ยังมีไปถึงการสร้างแฮชแท็กที่รวมกลุ่มความสนใจเข้าไว้ด้วยกัน หรือการขยันโพส Stories ที่จะเรียกความสนใจจาก GEN Z ได้ครับ
3. อยากได้เงินจาก GEN Z ต้องเป็นแบรนด์ที่ดีจากใจจริง
ความท้าทายสำคัญของนักการตลาดที่ต้องการเงินจากกระเป๋าของ GEN Z ไม่ใช่แค่คุณต้องมีราคาไม่เกินเอื้อมของพวกเขา ไม่ใช่แค่มีข้อมูลพร้อมเสิร์ฟ GEN Z ในทุกช่องทาง แต่คุณยังต้องเป็นแบรนด์ที่ดีจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น Brand Value Proposition หรือ Vision ของแบรนด์
เพราะเรื่องนี้คืออะไรที่ GEN Z ให้ความสำคัญมากกว่าแค่ราคาถูกและหาซื้อง่าย เพราะถ้าคุณไม่ใช่แบรนด์ที่ดีจริงจากใจ พวกเขายอมที่จะจ่ายแพงกว่าคุณได้ถ้าแบรนด์นั้นดีจริง
4. ร่วมมือกันเพื่อทำได้ดีกว่า
คนรุ่นใหม่ GEN Z ในวันนี้ชอบที่จะร่วมมือกันเพื่อทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ด้วยตัวคนเดียว ไม่ว่าจะร่วมมือกับ GEN Z ด้วยกันหรือหน่วยงานองค์กรใดก็ตาม
แบรนด์ที่จะได้ใจ GEN Z ต้องหาทางให้พวกเขาได้มาร่วมมือกันผ่านคุณ และสามารถทำผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียหรือออนไลน์ได้ง่ายๆ ตั้งแต่เริ่มต้นทำ Poll บน Instagram Stories ที่อาจจะให้พวกเขาได้มาช่วยออกไอเดียกับแบรนด์ในการทำสิ่งดีๆ ร่วมกัน หรือจะไปถึงขั้นออกแบบสินค้าใหม่ของแบรนด์ร่วมกันก็ได้ครับ
เป็นอย่างไรครับกับ Insight GEN Z 2021 ที่เปลี่ยนไปเพราะการกักตัวอยู่บ้านจากโควิด19 พวกเขาคือกลุ่มเป้าหมายใหญ่ที่นักการตลาดจะมองข้ามไม่ได้อีกต่อไป และทัศนคติของพวกเขาในวันนี้ก็ไม่เหมือนวัยรุ่น Generation อื่นในวันวาน อ่านแล้วเอาไปประยุกต์ใช้กับแบรนด์คุณ และรีบปรับ Marketing Plan ให้ไวเพื่อจะได้โดยใจพวกเขาก่อนเข้าปี 2021 ครับ
Download รายงาน Insight GEN Z 2021 ฉบับเต็มจาก Facebook > https://www.facebook.com/business/news/insights/meet-the-future
อ่าน Insight GEN Z ในการตลาดวันละตอนต่อ > https://www.everydaymarketing.co/tag/gen-z/
