การตลาดวันละตอน x Sellsuki: EP5.เจาะลึก การหา investor หรือ funding หาเงินระดมทุนเพิ่มต้องทำอย่างไร

การตลาดวันละตอน x Sellsuki: EP5.เจาะลึก การหา investor หรือ funding หาเงินระดมทุนเพิ่มต้องทำอย่างไร

วันนี้เราจะมาพูดกันในเรื่องที่น่าจะเป็นหัวใจสำคัญ ของสตาร์ทอัพและธุรกิจต่างๆ ที่คิดจะหานักลงทุนมาช่วยในธุรกิจของตัวเอง 

เราจะมาคุยกันว่าทำอย่างไรให้ธุรกิจของตัวเองน่าสนใจในการที่จะหาเงินจากนักลงทุน ในชื่อตอนที่ว่า “เจาะลึก การหา investor หรือ funding หาเงินระดมทุนเพิ่มต้องทำอย่างไร?”

มีเป้าหมายหรือวิธีการในการหานักลงทุนอย่างไร?

จริงๆ แล้ว Sellsuki ก็เริ่มต้นในรูปแบบของสตาร์ทอัพเช่นกัน แต่เราไม่ได้มี Investor มาตั้งแต่แรก ซึ่งเป้าหมายในการหา Investor ในเวลาถัดมาก็คือเมื่อเราพร้อมและคิดว่าจะต้องโต ก็เลยคิดว่าต้องหา Investor มาช่วย 

ในวันที่ Sellsuki มองหา Investor นั้นเราได้มีโอกาสพูดคุยกับหลาย Investor แต่โอกาสที่มันจะ Match กันนั้นค่อนข้างยาก เนื่องจากทางเราเองก็พยายามจะตั้งโจทย์ในการหา Investor ที่มีความเป็น Strategic Partner ที่สามารถเสริมพลังโดยไม่ใช่ในแง่ของแค่เงินทุนเพียงอย่างเดียว แต่สามารถตอบโจทย์การเติบโตของธุรกิจเราได้ด้วย

มีการเตรียมตัวอย่างไรให้ธุรกิจเราถูกใจนักลงทุน

สำหรับการทำธุรกิจนั้นเราจำเป็นต้องมีจุดแข็ง เพื่อหาความแข็งแกร่งหรือ Unfair Advantage ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบทางธุรกิจที่เรามี 

สำหรับในมุมของสตาร์ทอัพนั้นก็อาจจะมีปัญหาอยู่บ้าง เนื่องจากคุณอาจจะไม่ได้มีความได้เปรียบเหมือนบริษัทใหญ่ๆ ทั้งในเรื่องของความน่าเชื่อถือ ประสบการณ์ ชุดความรู้ ฐานข้อมูล รวมถึงจำนวนเงิน

การหา investor

เพราะฉะนั้นถ้าเราอยากมีข้อได้เปรียบทางธุรกิจเราต้องหาจุดแข็งของเราให้เจอ ซึ่งการจะทำให้เรามี Unfair Advantage นั้นจะต้องประกอบด้วยหลัก 3 T คือ

1.Time

เป็นเรื่องของระยะเวลาในการพิสูจน์ตัวเองก่อน เพื่อให้คนอื่นๆ ได้รับรู้และมั่นใจในการทำธุรกิจของเรา นอกจากนี้ยิ่งถ้าเราได้ลงมือทำนานเท่าไหร่ ปริมาณ Database ก็จะมากตามไปด้วยเช่นกัน

2.Team

ทีมในที่นี้คือ Co-Founder รวมถึงพนักงานกลุ่มแรกๆ ซึ่ง เราจะต้องเฟ้นหาคนที่มีเคมีตรงกันมากๆ เพราะสตาร์ทอัพหลายเจ้าที่ล้มหายตายจากไปก็เกิดจากการทะเลาะกันนี่แหละ

ดังนั้นนอกจากคนกลุ่มนี้จะต้องมีความเหนียวแน่นแล้ว ยังต้องมีการตั้งกฎกติกาขึ้นในทีม เพื่อให้คนในทีมมีภาพหรือมุมมองที่เหมือนกันเพื่อที่จะไปด้วยกันต่อได้ไกลขึ้น

3.Traction 

ถัดมาเป็นเรื่องของสถิติหรือผลงานที่เราทำ สมมุติว่าเป็นระบบของ Sellsuki เอง ตัว Traction ก็จะเป็นจำนวนของร้านค้าที่เข้ามาใช้งานในระบบ ยอดซื้อขาย หรือยอดขายต่อบิล เป็นต้น

เราจะหานักลงทุนได้จากที่ไหน

เรื่องนี้ฟังดูแล้วเหมือนจะยาก แต่เมื่อเราแสดงจุดยืนและออก  Product มาแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด แต่การจะหา Investor นั้น เราจำเป็นต้องทำตัวเองให้มีความพร้อมก่อน เพื่อให้เกิดแรงดึงดูดในการมาเจอกัน

โดยเราสามารถหา Investor ได้ทั้งการโทรหานักลงทุนโดยตรง หรือใช้ Social Media เป็นตัวช่วย นอกจากนี้ยังควรจะไปร่วมงาน Networking หรือเข้าร่วมโปรแกรมสตาร์ทอัพต่างๆ ซึ่งงานเหล่านี้นั้นมี Investor อยู่เป็นจำนวนมาก

เตรียมตัวอย่างไรให้ Investor สนใจธุรกิจ

การเตรียมตัวเพื่อทำให้นักลงทุนสนใจธุรกิจของเรานั้นสามารถเตรียมตัวได้โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ ดังนี้ 

-สร้าง Profile และ Pitche Deck ให้โดดเด่นและอัปเดตอยู่เสมอ

อย่างแรกคือต้องสร้าง Profile ของตัวเองให้มีความโดดเด่น ด้วยการสร้าง Pitche Deck ประกอบข้อมูลของว่าคุณกำลังทำอะไร ธุรกิจของคุณสามารถแก้ปัญหา หรือ Pain Point อย่างไรได้บ้าง ลูกค้าคือใคร มีจุดแข็งอะไร รวมถึงมีแผนในการเติบโตอย่างไรบ้าง

ซึ่งข้อมูลต่างๆ ที่เราใส่ลงไปมันก็จะสะท้อนออกมาเป็นตัวเลขที่ Investor จะคำนวณและวิเคราะห์ ได้ว่าถ้าลงทุนไปแล้วจะได้รีเทิร์นที่คุ้มค่าหรือไม่

-Branding นั้นเป็นสิ่งสำคัญ

นอกจากการสร้าง Profile และการทำ Pitch Deck แล้ว การทำ Branding ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากปัจจุบัน Social Listening กำลังมาแรง จึงมีความเป็นไปได้สูงว่าทาง Investor อาจจะมีการไปรีเสิร์จว่าบริษัทหรือธุรกิจของเรามีคนเสิร์ช หรือพูดถึงมากน้อยแค่ไหน และพูดถึงในทิศทางใดบ้าง

ซึ่ง Branding นั้นเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนใส่ใจ ถ้า Product ของคุณไม่ได้ยังไม่แข็งแรงมากนัก หรืออาจจะยังมีฟีเจอร์น้อยอยู่ คุณก็ควรทำ Branding ให้ดีด้วยการทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง คุณมีแผนการตลาดที่ดี เพื่อเติมเต็มในส่วนที่ขาดไป

การหา investor

เมื่อ Investor สนใจแล้ว กระบวนการต่อไปคืออะไร

เมื่อสร้าง First Impression ให้นักลงทุนใจแล้วกระบวนการต่อไปคือการลงถึงรายละเอียดของตัวธุรกิจ ซึ่งสิ่งที่เราควรเตรียมตัวมีดังนี้

1.เตรียมตัวนำเสนอโดยยึดผู้ฟังเป็นหลัก

ในการนำเสนอทุกครั้ง สิ่งแรกที่เราจะต้องคิดเลยก็คือผู้ฟังของเราเป็นใคร และจึงค่อยปรับภาษา วิธีคิด และรูปแบบการนำเสนอให้เหมาะสมกับผู้ฟัง เพราะความฉะฉาน ความละเอียด และเนื้อหาที่ครบถ้วน จะสามารถสร้างความประทับใจให้กับนักลงทุนได้มากกว่า

2.เตรียมข้อมูลและเอกสารให้พร้อม

ของอย่างนี้เตรียมตัวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะฉะนั้นการเก็บข้อมูลและเอกสารทุกอย่างเอาไว้ให้ครบตั้งแต่วันแรกที่คุณเริ่มต้นทำธุรกิจน่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด เพราะมีเปอร์เซ็นต์สูงที่ Investor จะขอดูเอกสารต่างๆ เหล่านี้ 

จะรู้ได้ยังไงว่าธุรกิจของเราควรมี Investor

การทำธุรกิจความสุขและความสบายใจเป็รเรื่องสำคัญ ถ้าถามว่าธุรกิจไหนควรมี Investor ต้องบอกตรงนี้ว่าตอบไม่ได้จริงๆ เพราะแต่ละธุรกิจก็มีโมเดล และวิธีบริหารงานที่แตกต่างกันไป

บางทีบางคนอาจจะคิดว่าเราสามารถพาธุรกิจเติบโตได้ด้วยตัวเราเอง หรือเราไปหาเงินในรูปแบบอื่นได้โดยไม่ต้องพึ่งนักลงทุนก็ได้เช่นกัน จริงๆ เรื่องอย่างนี้มันแล้วแต่ธุรกิจเลย ส่วนใหญ่แล้ว การหา Investor โดยเฉพาะธุรกิจสตาร์ทอัพจะเกิดขึ้นในกรณีที่เรายังเชื่อในสิ่งที่เราทำอยู่แต่เงินทุนนั้นมีไม่มากพอ เป็นต้น

สิ่งสำคัญคือเราก็ควรจะเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับธุรกิจของเรามากที่สุด โดยที่เราสบายใจมากที่สุด แล้วที่เหลือก็เป็นเรื่องของการทำงานอย่างใส่ใจ แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าธุรกิจของคุณจะเป็นอย่างไร จะเดินหน้าแบบไหน คุณเองเป็นคนกำหนด

สำหรับใครที่สนใจใช้บริการผู้ช่วยด้านการทำธุรกิจหรือปรึกษาเพิ่มเติมกับทีมงาน Sellsuki

📨 m.me/Sellsuki

📞 02-026-3250​

🖥️ www.sellsuki.co.th

สำหรับใครที่ต้องดูวิดีโอการสัมภาษณ์ SellSuki EP.5 แบบเต็มๆ สามารถรับชมเพิ่มเติมได้ ที่นี่

Bambinun*

Content Creator แห่งการตลาดวันละตอน ที่หลงรักการเล่าเรื่องผ่านตัวหนังสือ พอๆ กับการกินของอร่อย และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเป็นทาสแมว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

คุณคิดว่าปัญหา PM 2.5 ที่เชียงใหม่วิกฤตหรือยัง ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถามก่อนอ่านการตลาดวันละตอน แล้วเราจะเอาไปทำเป็น Infographic โชว์หน้าเพจให้รู้ด้วยกัน