เรียนเรื่อง Brand จากปลาท่องโก๋หนึ่งจาน กับพี่ Dan Zonmani

เรียนเรื่อง Brand จากปลาท่องโก๋หนึ่งจาน กับพี่ Dan Zonmani

บทความนี้เป็น Exclusive content ที่ผมได้ขออนุญาตจากพี่ Dan Zonmani ผู้เป็น Global Brand Lead ของ LINE Thailand ที่สามารถวิเคราะห์เรื่อง Branding ออกมาอย่างละเอียดและเป็นขั้นเป็นตอนจากปาท่องโก๋หนึ่งจาน ไม่น่าเชื่อเลยว่าปาท่องโก๋หนึ่งจานจะมีเรื่อง Brand ให้เราเรียนรู้ได้มากขนาดนี้ ถ้าพร้อมแล้วเชิญอ่านได้เลยครับ

ก่อนจะอ่านบทความนี้พี่ Dan Zonmani ฝากคำนำนักเขียนไว้แบบนี้ครับ

ผมไม่ใช่นักเขียนเลยแชร์มุมตลกของ ปนกัดเสียดสีเอาขำไม่ได้ให้คิดเป็นทฤษฎี แต่เรื่องปาท่องโก๋นี้คือการมองตลาดจากสิ่งที่พ่อค้าแม่ค้าทำแบบไม่ได้ต้องจบการสร้างแบรนด์หรือมีที่ปรึกษาแต่ประสบความสำเร็จในKPI ของเค้า ผมเพียงแค่สนุกในการวิเคราะห์แบบมีหลักการ (ผสมฮา) ความสำเร็จของการสร้างแบรนด์ลักษณะนี้ทำให้เราเห็นได้ว่าบางครั้งการปฏิบัติไปเรื่อยๆจนกลายเป็น product perception และ brand จึงตามมาแบบธรรมชาติโดยที่พ่อค้าแม่ค้าไม่รุ้ตัวครับ

คำนำนักเขียน Dan Zonmani

Brand Review – ปาท่องโก๋ หัวหิน

หนึ่งในอาหารเช้า classic breakfast set meal ที่มาพร้อมกับโจ๊กและน้ำเต้าหู้

1.ราคาต่อตัวๆละ2บาท (ราคาอตก.อยู่ที่ 2 บาทมา 7 ปี แล้ว)คาดว่าราคาจะปรับตามราคาน้ำมันโลก แต่ปรับเป็นแนว ตัวละ 2 บ. สามตัว 5บ. เอาวอลลุ่ม ก่อนปรับเป็น ตัวละ3บาทภายในรัฐบาลชุดนี้

2. ขนาด 4cm x 7cm (เฉลี่ยจากการสำรวจ 20ตัวและขนาดเล็กลงอย่างมีนัยยะมาตลอด5ปี) ถึงแม้มีตลาดบนตามห้าง (Kanom อ่านว่า คานม)แต่เชื่อว่ามีช่องว่างตลาดที่คนขายเลือกจะ ลดขนาดเพื่อตรึงราคาช่วยmass หรือ ปรับไปเล่นตลาดกลาง-บน เพิ่มราคาเพิ่มขนาด

3.รสชาติ ได้ฟิลลิ่งร้อนและhandmade จนลูกค้าแยกรสชาติไม่ออก (น่าจะมาจากรอนาน หิว กินแม่งทั้งร้อนๆและจิ้มนม)

4.มวลเนื้อแป้ง product (ความหนาแน่น *ความกรอบ) มีความแตกต่างระหว่างแบรนด์ ลองนึกถึงburger ของ Mc vs Burger King

5.จุดขาย ( location location location – three times) ส่วนใหญ่จะยึดtrafficหน้า 7-11 หรือตลาดสด และตั้งร้านติดกับอาหารเช้าอื่นๆ (ไม่แคร์ แข็งแรงเรื่อง Breakfast -share of stomach)

6. กรรมวิธีการผลิต เป็นแนว homemade +live show ( การนวดแป้ง การตัดประกบชิ้น การเอากาวทา กะทะ น้ำมันและ การทอด ร่ม ไม้คีบ)ไม่ต่างกันมากมาย ถึงแม้ลูกค้าไม่รู้ว่าแป้งยี่ห้ออะไร นวดมากน้อยแค่ไหน (มีผ้าขาวคลุมกันลม)แต่ขาดขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งไม่ได้ จะทำให้ลูกค้าไม่มั่นใจ

7. จุดขายหลักที่สำคัญคือ โหวเฮ้ง ส่วนใหญ่จะดูที่คนขายเป็นหลัก ที่สำคัญบุคลิกที่หลากหลาย ใจดี ดุ เงียบขรึม ขี้เล่น งกและไร้วิญญาณ (เดี่ยวหรือคู่สามีภรรยา สามีพูดน้อย ภรรยาจะโซเชี่ยลหรือพล่าม) พนักงานและเจ้าของคือคนเดียวกัน เพียง2%จะมีลูกมือ (low margin)

8. Originality จุดขายนี้ ต้องเป็นคนไทย ( ใจดี ยิ้มแย้ม)หรือไทยเชื้อจีน (ขยัน มีของ)แต่แขกขายโรตีเข้าไม่ได้เพราะแขก=โรตี=ตลาดกลางคืน (พ่อค้าแขกไม่ตื่นเช้า) *วันหลังวิเคราะห์ตลาดโรตี หมูปิ้ง2018

9. Brand engagement สูงเพราะลูกค้าชอบเพราะการยืนรอจะได้เห็นกรรมวิธี (starbucks เอาไปใช้) ใกล้ชิดประมาณว่าจะช่วยนวดแป้งหรือคีบปาท่องโก๋แทนแม่ค้าแล้ว
10.brand communication -ไม่มีการโฆษณาเพราะลูกค้าทราบดีว่าขายที่ไหน ถึงกี่โมง แต่จะได้ brand conversation จากการสั่ง แค่การสั่งซ้ำ สั่งเพิ่ม แยกสองถุง เปลี่ยนสัดส่วนออเดอร์ ซาลาเปา vs ปาท่องโก๋ และที่สำคัญ ขอแบบร้อนๆใหม่ๆ เพราะการโดนด่าต่อหน้าลูกค้าด้วยกันนั้น ถือเป็น brand experiences ระดับ premium

11.ชุดuniform ทุกวันจะใส่ชุดเดิม ผ้ากันเปื้อนเดิม สีชมพูจะดึงดูดได้ดีกว่าสีอื่น (ในการสำรวจ15เจ้าตลอด 6เดือน) สะอาดไปไม่อร่อย คาดว่าคนขายมีชุดแบบเดียวกัน 7ชุด และไม่ซักเพราะต้องการความขลัง (brand value)

คำแนะนำสำหรับนักธุรกิจที่จะเข้าตลาดนี้ด้วยการสร้าง brand

A.Basic foundation

1.Low entry cost but highly commitment.
2.Location (three times) is the key.
3.Live show is a must.

B. key winning

1.Set Brand personality ให้ชัด
2. Product postioning (size, ความหนาแน่น กรอบ)
3. Price Positioning ( ต่อชิ้น เซทเมนูหรือ combo)
4.Clarifying Brand Positioning

คุณขายอะไรกันแน่

a. ปาท่องโก๋ ราคาถูก แพงโคตร หรือ แพคขาย
b. Brand story ปาท่องโก๋ในตำนาน, organic หรือ innovated
c. ปาท่องโก๋ ไร้สารเคมี น้ำมันbio
d. ปาท่องโก๋จาก ผัวเมียคู่โหด ผัวจ๋อยเมียพล่าม หรือแนว แม่ค้านมหก พ่อค้าsix pack
e. ปาท่องโก๋ ไร้ถุงพลาสติก ( ร้อนๆจากเตา หยิบเอง)
f. ปาท่องโก๋ มีดีไซน์ แพคสาม สามเหลี่ยม ลูกเต๋า หรือรูปสัตว์

สุดท้าย.
5. Technology ??

สินค้าประเภทนี้ไม่ต้องทำเอง #lineman #grab #get จัดให้ ก้มหน้าก้มตาขายไป เดี๋ยว technology พาลูกค้ามาเอง

อ่านเอาฮานะครับ อาจจะปนสาระบ้าง มั่วๆไปครับ

#การตลาดการตลก
#การตลาดบ้านๆ
#brandology

เป็นอย่างไรครับกับการวิเคราะห์ทั้งเรื่องแบรนด์และธุรกิจออกมาเสร็จสรรพ ลึกซึ้ง และสามารถเอาไปประยุกต์ใช้ได้เลย ถ้าไม่ใช่นักสร้างแบรนด์ที่มากประสบการณ์ขนาดนี้ จะไม่มีวันมองเห็นสิ่งที่คนอื่นมองข้ามได้อย่างนี้เลย

ขอบคุณพี่ Dan Zonmani มากครับที่อุตส่าห์แท็กผมเข้าไปในโพสนี้ ไว้โอกาสหน้าถ้าพี่แดนแท็กผมมาอีก จะรีบเอามาเล่าให้เพื่อนๆ การตลาดวันละตอนฟังกันอีกครั้งครับ

Source: https://www.facebook.com/dan.zonmani/posts/2589732931146738

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ใช้ Social Listening บ้างไม่ ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถาม ว่าปกติใช้ Social Listening บ้างหรือไม่ แล้วถ้าใช้ ใช้ตัวไหนอยู่