Branding 101 – Real Competitor เมื่อคู่แข่งที่แท้จริงคือความน่าเบื่อของคุณ

Branding 101 – Real Competitor เมื่อคู่แข่งที่แท้จริงคือความน่าเบื่อของคุณ

Branding 101 ตอนที่ 4 Real Competitor เมื่อคู่แข่งที่แท้จริงคือความน่าเบื่อของแบรนด์คุณ

การที่ธุรกิจจะสร้างแบรนด์ในยุคที่คนดูโซเชียลมีเดียมากกว่าดูทีวีไม่ใช่เรื่องง่าย และปัญหาที่นักการตลาดหรือเจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่ยังคงเข้าใจผิดก็คือเรื่องของ “คู่แข่ง”

เพราะแบรนด์ส่วนใหญ่ยังชอบคิดว่าคู่แข่งของพวกเขาในวันนี้คือแบรนด์อื่นในท้องตลาด เช่น แปรงสีฟันยี่ห้อ A คิดว่าแปรงสีฟันยี่ห้อ B และ C ไปจนถึง Z คือคู่แข่ง

แต่ในความเป็นจริงแล้วคู่แข่งของแปรงสีฟันยี่ห้อ A ไม่ใช่แปรงสีฟันยี่ห้ออื่นอย่างที่เคยคิดอีกต่อไป เพราะคู่แข่งจริงๆ ในวันนี้ก็คือความน่าเบื่อของตัวแบรนด์เองที่ไม่เคยเข้าใจผู้บริโภคหรือลูกค้าอย่างเราเอาเสียเลย

ถ้าไม่เชื่อว่าความน่าเบื่อของแบรนด์คุณเองคือคู่แข่งที่สำคัญที่สุด ผมอยากให้คุณลองถามตัวเองว่า เมื่อครู่ก่อนจะเปิดบทความนี้อ่าน “คุณเห็นโฆษณาอะไรมาบ้างครับ?”

เชื่อมั้ยครับว่าเวลาที่ผมถามคำถามนี้กับนึกศึกษา กับเวลาไปบรรยายพิเศษให้กับนักการตลาดหรือผู้บริหารที่ไหน มีคนที่ตอบถูกแบบนับนิ้วได้จริงๆ นั่นก็เพราะคนส่วนใหญ่ไม่เคยจำโฆษณาส่วนใหญ่ที่ผ่านตาได้เลย ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าเราเล่น Facebook เรามักจะเห็นโฆษณา 1 ชิ้นในทุกๆ 20 โพสที่ผ่านตาไป ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะโฆษณาส่วนใหญ่นั้นน่าเบื่อ และการทำ Content ของแบรนด์ก็ไม่เคยเข้าใจคนดูอย่างเรา ไม่เคยพูดในสิ่งที่ลูกค้าอย่างเราต้องการเลยจริงๆ

เพราะแบรนด์ส่วนใหญ่เอาแต่พูดเรื่องของตัวเองบ้าง แต่กลับไม่เคยสนใจเลยว่าจริงๆ แล้วคนที่ติดตามเพจของเขาเหล่านั้น หรือติดตาม LINE@ ของเขาเหล่านั้นกำลังสนใจจะฟังหรืออยากรู้เรื่องอะไรจากการที่ติดตามเรากันแน่

ทำให้ต่อให้เขาเห็นโฆษณาของเรา ก็จะเกิดอาการที่มองข้ามไปโดยอัตโนมัติที่ผมขอตั้งชื่อให้ว่า “Blind Ads” นั่นก็คือต่อให้ผ่านตาอยู่ตรงหน้าแต่ก็ไม่ได้วิ่งเข้าสมองแต่อย่างไร หรือต่อให้กดติดตามแต่ก็ไม่เคยกดเปิดเข้ามาอ่านแต่อย่างไร

นั่นก็เพราะวันนี้ผู้คนเต็มไปด้วยเนื้อหามากมายให้อ่าน ทั้งโพสจากดาราที่ชอบ โพสจากคนที่เค้าสนใจและกดติดตาม หรือจากแหล่งข่าวต่างๆ และแม้แต่โพสจากเพื่อนสนิทคนใกล้ตัวของเขา แถมในแต่ละวันยังเต็มไปด้วย Notification แจ้งเตือนเพื่อเรียกความสนใจจากแอปต่างๆ ตลอดเวลา และนั่นก็ทำให้ผู้คนเกิดอาการปฏิเสธโฆษณาหรือเนื้อหาที่น่าเบื่อไม่น่าสนใจขึ้นมาเองครับ

ถ้าอ่านถึงตรงนี้คุณอย่าเพิ่งคิดว่าผมบอกให้คุณเลิกทำ Content เลิกโพส หรือเลิกลงโฆษณาแต่อย่างไร แต่สิ่งที่นักการตลาดและเจ้าของกิจการยุคใหม่ต้องทำก็คือ หยุดทำตัวน่าเบื่อ หยุดเอาแต่พูดเรื่องของตัวเอง ทำตัวให้มีประโยชน์มากๆ และกลับมาคิดในมุมมองผู้บริโภค คนดู และลูกค้าว่า ในวันที่แบรนด์มีให้เลือกเป็นร้อย ในวันที่มีเพจ หรือ Line@ ให้ตามเป็นล้าน ช่วยบอกทีซิว่า Content ของแบรนด์คุณเองนั้นพิเศษอย่างไร

ถ้าคุณมั่นใจว่าคุณตอบตัวเองได้ ว่าทำไมลูกค้าถึงต้องติดตาม Line@ ของคุณ เพจของคุณ หรือเว็บของคุณ ก็ลุยเลยครับ แต่ถ้าคุณยังไม่แน่ใจ ก็อย่าเพิ่งรับร้อนไป ค่อยๆใช้เวลาคิดซักนิดก่อนจะใช้ทั้งเวลาและเงินในการทำโฆษณาหรือ Content ต่างๆ ออกไป

อย่าปล่อยให้ความน่าเบื่อมาเป็นคู่แข่งบนโซเชียลมีเดียของคุณโดยไม่จำเป็น ทำตัวให้เป็นแบรนด์ที่น่าคบ ทำตัวให้คนรู้สึกดีที่ได้ติดตามคุณ เพียงเท่านี้คุณก็ไม่ต้องกังวลว่าเขาจะไปหาแปรงสีฟันยี่ห้อ B หรือ C หรือ D มั้ย เพราะถ้าคุณเป็นแบรนด์แปรงสีฟันที่น่าสนใจ แต่ให้วันนี้เขายังใช้ยี่ห้ออื่น แต่ถ้าเขาติดตามคุณแล้ว นั่นก็หมายความว่าคุณมีโอกาสที่จะได้เขาเป็นลูกค้าในอนาคตไม่ยากครับ

อ่านบทความเรื่อง Branding 101 ในการตลาดวันละตอนต่อ > https://www.everydaymarketing.co/?s=branding

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ใช้ Social Listening บ้างไม่ ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถาม ว่าปกติใช้ Social Listening บ้างหรือไม่ แล้วถ้าใช้ ใช้ตัวไหนอยู่