18 Social Media KPIs ที่นักการตลาดสายวัดผลต้อง Track EP.2 (จบ)

18 Social Media KPIs ที่นักการตลาดสายวัดผลต้อง Track EP.2 (จบ)

กลับมาแล้วตามสัญญาค่ะ ในบทความนี้เรามาเจาะลึกกันอีก 8 Social Media KPIs ใน 3 หมวดที่เหลือกันค่ะ ซึ่งหากคุณผู้อ่านท่านไหนเพิ่งมาเจอะเจอกันในบทความนี้ ผู้เขียนแนะนำอย่างยิ่งว่าจะเป็นการดีมาก ๆ ถ้าย้อนกลับไปอ่าน EP.1 ผ่านตามาสักนิดค่ะ เพื่อจะได้สามารถปะติดปะต่อประเด็นของเราได้ค่ะ และคุณผู้อ่านท่าไหนถ้าพร้อมแล้ว เราก็มาลุย Social Media KPIs กับอีก 8 ประเภทที่เหลือที่ไว้ใช้ประเมินความสำเร็จของการทำการตลาดบนโซเชียลมีเดียกันเลยค่ะ!

AI image generated by Shutterstock (Prompt : Mecha 3D image of on many phones, on the phone screen, facebook feeds, instagram feeds, and tiktok feeds, with graphs of measurement and a faint-like button floating up from the phone, factory technology mood, not distorted)

บทความที่แนะนำให้อ่านก่อน

Social Media KPIs หมวด Conversion

โซเชียลมีเดีย KPIs ในหมวด Conversion เป็นการรวม KPI ที่ใช้วัดว่าคอนเทนต์ของเราโน้มน้าวให้คนทำตามในสิ่งที่เราต้องการได้ไหม เช่น ซื้อสินค้า กรอกฟอร์มให้ข้อมูลบางอย่าง ซึ่งจะมี KPIs ตัวไหนบ้าง ไปดูกันค่ะ!

11. Click-Through Rate

Click-Through Rate (CTR) คือ อัตราการคลิกของคนที่คลิกลิงก์ในโพสต์โซเชียลมีเดียเทียบกับจำนวนคนที่ดูโพสต์นั้นทั้งหมด โดย CTR คำนวณได้จากสูตรด้านล่างนี้

เริ่มต้นด้วยการหารจำนวนคนคลิกที่โพสต์ (Number of Clicks) กับ จำนวนคนที่ดูโพสต์นั้นทั้งหมด (Number of Impressions) จากนั้นจับผลลัพธ์ที่ได้คูณด้วย 100 เพื่อให้ได้ออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์

ซึ่งหากคุณผู้อ่านกำลังสงสัยว่า Impressions คืออะไร ผู้เขียนแนะนำว่าให้ย้อนกลับไปอ่านบทความก่อนหน้านี้ค่ะที่แปะไว้ด้านต้นของบทความเพื่อความเข้าใจมากขึ้น แต่สรุปให้ได้ว่า Impressions คือ จำนวนครั้งการแสดงผลทั้งหมดที่เกิดกับคอนแทนต์ของเราค่ะ โดยสิ่งสำคัญอยู่ที่ว่า Impressions จะนับการเข้าชมหลายครั้งโดยผู้ใช้คนเดียวกัน หรือหมายความว่า ถ้าคน ๆ นึงดูโพสต์นั้นหลาย ๆ รอบ Impressions ก็จะมากขึ้นตาม ต่างจาก Post Reach ที่จะนับการดูนั้นเป็นแค่รอบเดียวเพราะมาจากคนเดียวค่ะ

โดย Click-Through Rate เป็น KPI ที่ช่วยบอกว่า คอนเทนต์ของเราสามารถดึงดูดคนให้คลิกเข้าไปยังลิงก์ปลายทางได้นะ ซึ่งการมี CTR ที่สูง หมายความว่า ในสายตาของคนดูเขามองว่า คอนเทนต์และ Message ของเรามีความน่าสนใจและดึงดูดใจมากพอ จนสามารถทำให้เขาทำตามสิ่งที่เราเสนอได้ นั้นก็คือการกดลิงก์เข้าไปดูอะไรสักอย่างที่ฝังไว้ค่ะ

12. Conversion Rate

ก่อนที่เราจะรู้จักกับ Conversion Rate ที่เป็น Social Media KPIs เรามารู้จักกับ Conversion เฉย ๆ กันก่อนจะดีกว่าค่ะ

Conversion ถ้าให้แปลตรงตัวจะหมายถึง การเปลี่ยนแปลง แต่ในทางการตลาดจะมีต้องขยายความอีกสักนิดสักหน่อยค่ะ ดังต่อไปนี้ค่ะ Conversion หมายถึง การที่มีคน Interact กับโฆษณาหรือรายการสินค้าของเรา เช่น อาจจะกดเข้าไปดู และจากนั้นก็ Action บางอย่างที่สร้างคุณค่าให้กับธุรกิจ เช่น หลังจากกดเข้าไปดูแล้วก็กดซื้อสินค้า โทรมาหาเรา หรือสมัครเป็นสมาชิก เป็นต้น พูดง่าย ๆ ก็คือ การที่ลูกค้า (ในที่นี้หมายถึงผู้ดูคอนเทนต์ในโซเชียลมีเดีย) มี Interact กับเราและก็เปลี่ยนเป็น Action บางอย่าง หรือเป็นการเปลี่ยนสถานะจากอย่างนึงเป็นอีกอย่างนึง เช่น จากตอนแรกมีสถานะเป็นแค่คนดูเฉย ๆ ก็เปลี่ยนสถานะเป็นคนซื้อนั่นเองค่ะ เมื่อเข้าใจ Conversion แล้ว ต่อไปเราไปรู้จักกับ Conversion Rate กันค่ะ

Conversion Rate คือ อัตราการเปลี่ยนแปลงของผู้ชมที่เกิด Conversion โดยคำนวณด้วยการหารจำนวน Conversion กับจำนวนผู้ชมทั้งหมดที่คลิกโพสต์หรือโฆษณาของเรา จากนั้นจับผลลัพธ์ที่ได้คูณด้วย 100 เพื่อให้ได้ออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ ตามสูตรด้านล่างนี้เลยค่ะ

ในแง่ของการตีความ ถ้า Conversion Rate สูง แสดงว่าคอนเทนต์โซเชียลมีเดียของเรามีประสิทธิภาพในการโน้มน้าวผู้ชมให้เปลี่ยนเป็น Action บางอย่างที่เราต้องการได้ รวมถึงยังช่วยวัดผลกลยุทธ์โซเชียลมีเดียด้วยว่าทำให้เป้าหมายทางธุรกิจสำเร็จไหมด้วยค่ะ

13. Cost Per Click

Cost per click (CPC) คือ ค่าใช้จ่ายที่เราเสียให้กับแพลตฟอร์ม (ที่เราใช้ลงโฆษณา) ทุกครั้งที่มีคนคลิกโฆษณาของเราค่ะ หรือสรุปสั้น ๆ ก็คือ ค่าใช้จ่ายต่อคลิก เพราะฉะนั้นแล้วเราจึงใช้ KPI นี้ได้แค่ตอนที่เราลงโฆษณาโซเชียลแบบจ่ายเงินเท่านั้น

ซึ่งตามเคย CPC คำนวณจากการนำต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายโฆษณาทั้งหมดที่เราเสียให้กับแพลตฟอร์มนั้น ๆ (Total Ad Cost) หารด้วยจำนวนคลิกโฆษณา (Number of Clicks) จากนั้นจับผลลัพธ์ที่ได้คูณด้วย 100 เพื่อให้ได้ออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ ตามสูตรด้านล่างนี้เลยค่ะ

ซึ่งในหลายแพลตฟอร์มก็จะมีการวิเคราะห์และคำนวณ CPC ให้เราเรียบร้อยเลยค่ะ โดย KPI นี้จะช่วยเราคิดต้นทุนของการคลิกแต่ละครั้งในแคมเปญโฆษณาโซเชียลมีเดีย และช่วยประเมินถึงการใช้ต้นทุนของเราว่าใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพไหมค่ะ

14. Sales Revenue

Sales Revenue คือ รายได้ทั้งหมดที่เราได้จากโซเชียลมีเดีย โดยเราจะรู้จำนวนรายได้ได้จากการติดตามยอดขาย ซึ่งสามารถทำได้โดยใช้รหัสติดตามใน URL หรือผ่านเครื่องมือวิเคราะห์ต่าง ๆ ซึ่งการติดตามรายได้ดังกล่าวจะช่วยตัดสินว่าเราใช้ทรัพยากรเวลา เงิน และอื่น ๆ ไปกับโซเชียลมีเดียได้อย่างเหมาะสมและสามารถสร้างกำไรให้กับธุรกิจได้ไหมค่ะ

Social Media KPIs หมวด Customer satisfaction

โซเชียลมีเดีย KPIs ในหมวด Customer satisfaction เป็นการรวม KPI ที่ใช้บ่งชี้ระดับความพึงพอใจของลูกค้า ซึ่งจะมี KPIs ตัวไหนบ้าง ไปดูกันค่ะ!

15. Review Ratings

Review Ratings คือ ความคิดเห็นของลูกค้าเกี่ยวกับสินค้าที่เราโพสต์บนโซเชียลมีเดีย โดยปกติแล้วจะเป็นการ Rate คะแนนตั้งแต่ 1 ถึง 5 ซึ่งเราสามารถคำนวณคะแนนเฉลี่ยเพื่อวัดความพึงพอใจโดยรวมของลูกค้าได้ด้วยการรวมคะแนนที่ได้มาทั้งหมดหารด้วยจำนวน Review ทั้งหมดนั่นเองค่ะ

นอกจากนี้ Review Ratings ยังเป็นสิ่งที่มีค่ามาก ๆ สำหรับธุรกิจ เพราะเราจะได้ข้อเสนอแนะโดยตรงจากลูกค้าเลยแบบที่ไม่ต้องเสียเงินทำวิจัยจะช่วยให้เรารู้ว่าควรปรับปรุงตรงไหนบ้างค่ะ

16. Customer Satisfaction Score

Customer Satisfaction Score (CSAT) คือ คะแนนความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อสินค้า บริการของเรา หรือประสบการณ์ที่ได้รับจากเรา

ถ้าเราอยากรู้คะแนน CSAT ว่าลูกค้ามีความพึงพอใจต่อโซเชียลมีเดียของเรามากแค่ไหน เราสามารถทำโพลให้ผู้ติดตามให้คะแนนความพึงพอใจได้โดยใช้มาตราส่วนตั้งแต่ 1 ถึง 5 โดย 1 คือ “ไม่พอใจมากที่สุด” และ 5 คือ “พอใจมากที่สุด”

โดยคะแนน CSAT คำนวณจากการนำจำนวนลูกค้าที่พึงพอใจ (ผู้ที่ให้คะแนนความพึงพอใจ 4 หรือ 5) (Number of Satisfied Customers) หารด้วยจำนวนคำตอบทั้งหมด (Number of Responses) จากนั้นจับผลลัพธ์ที่ได้คูณด้วย 100 เพื่อให้ได้ออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ ตามสูตรด้านล่างนี้ค่ะ

ซึ่งคะแนน CSAT สะท้อนถึงคุณภาพของสินค้า บริการ ในมุมมองของลูกค้า โดยการติดตามคะแนนนี้ในช่วงเวลาต่าง ๆ ช่วยให้เราสามารถตอบสนองลูกค้าให้พึงพอใจ เพื่อรักษาคุณภาพของเราไว้ให้ดีอยู่เสมอค่ะ

Social Media KPIs หมวด Share of voice

และเราก็มาถึงโซเชียลมีเดีย KPIs หมวดสุดท้าย นั่นก็คือ หมวด Customer satisfaction เป็นการรวม KPI ที่แสดงให้เห็นว่าแบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักและพูดถึงเรามากน้อยเพียงใดบนโซเชียลมีเดียเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ซึ่งจะมี KPIs ตัวไหนบ้าง ไปดูกันค่ะ!

17. Brand Mentions

Brand Mentions คือ การที่ผู้ใช้กล่าวถึงแบรนด์ของเราบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบ Tag การกล่าวถึงในโพสต์ หรือ Comment โดยในตอนนี้มีเครื่องมือต่าง ๆ มากมายที่ช่วยให้เราวัด Brand Mentions ได้ หนึ่งในนั้นก็คือ Social Listening ค่ะ

การติดตาม Brand Mentions ช่วยให้เรารู้ว่าแบรนด์ของเราถูกพูดถึงบนโซเชียลมีเดียมากขนาดไหนและพูดถึงว่าอย่างไรบ้างค่ะ

18. Branded and Campaign Hashtags

Branded and Campaign Hashtags คือ แฮชแท็กของแบรนด์หรือแคมเปญการตลาดต่าง ๆ ซึ่งแฮชแท็กเหล่านี้จะช่วยจัดหมวดหมู่โพสต์ และทำให้ผู้ใช้โซเชียลมีเดียค้นพบโพสต์นั้น ๆ และโพสต์ที่อยู่ภายใต้แฮชแท็กเดียวกันได้ง่ายขึ้นค่ะ

แฮชแท็กของแบรนด์และแคมเปญเป็น KPI ที่ช่วยเพิ่มการมองเห็นบนโซเชียลมีเดียของเราได้ เพราะเมื่อผู้ใช้คลิกหรือค้นหาแฮชแท็ก เขาก็จะเห็นโพสต์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแฮชแท็กนั้นร่วมด้วย ทำให้การมองเห็นเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ ซึ่งส่งผลให้สามารถดึงดูดผู้ติดตามใหม่ ๆ และเพิ่มการมีส่วนร่วมได้ค่ะ

สรุป

ก็จบกันไปแล้วกับ Social Media KPIs ทั้ง 18 KPIs ค่ะ โดยในบทความนี้ได้พูดถึงอีก 3 หมวด และ 8 KPIs ที่เหลือ ได้แก่ หมวด Conversion ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่ใช้วัดว่าคอนเทนต์โซเชียลมีเดียของเราสามารถกระตุ้นให้ผู้ชมทำตามในสิ่งที่เราต้องการได้ไหม ประกอบด้วย 4 KPIs ได้แก่ Click-Through Rate, Conversion Rate, Cost Per Click และ Sales Revenue ต่อมาเป็นหมวด Customer satisfaction ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่ใช้วัดความพึงพอใจของลูกค้า ประกอบด้วย 2 KPIs ได้แก่ Review Ratings และ Customer Satisfaction Score และสุดท้ายหมวด Share of voice ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่ใช้วัดการพูดถึงแบรนด์ ประกอบด้วย 2 KPIs ได้แก่ Brand Mentions และ Branded and Campaign Hashtags ค่ะ

ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทั้ง 2 บทความนี้ จะช่วยให้คุณผู้อ่านสามารถนำไปวัดผลและปรับกลยุทธ์การตลาดได้อย่างตรงจุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสำเร็จของแคมเปญโซเชียลมีเดียกันนะคะ แล้วพบกันใหม่ค่ะ

สำหรับใครที่สนใจอ่านบทความอื่นๆ หรือ ต้องการอัปเดตความรู้การตลาดเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ที่ช่องทาง WebsiteFacebookInstagramTwitterYouTube และ Tiktok ของการตลาดวันละตอนตามนี้ได้เลยค่ะ

Sources
Semrush
Google

News Pichaya

นิวส์ Introverted Learner คนหนึ่งที่สนใจ Marketing หลงรักในศิลปะ งานสร้างสรรค์ เสียงเพลง และความสงบ ทุกบทความเขียนด้วยความตั้งใจที่อยากจะถ่ายทอด Input ที่ได้เรียนรู้ สู่ Output ที่เป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกคนค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *