My Crayon Project แคมเปญน่ารักแต่ลึกซึ้งจาก Shiseido ที่ต้องการแก้ประเด็นปัญหาเรื่อง stereotype ภาพจำแบบเหมารวมของคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่กว่า 79% ที่คิดไปเองว่า สีผิวของคนญี่ปุ่นนั่นเหมือนกันหมด แต่ความจริงแล้วกลับมีความแตกต่างและหลากหลายอย่างเหลือเชื่อ ถ้า stereotype นี้ไม่หายไป
IKEA (He)Art Scanner แคมเปญการตลาดสุดว้าวด้วยการใช้เทคโนโลยี EEG ตรวจวัดคลื่นสมองเพื่อหาคนที่ใช่ ที่เห็นพรมคอลเลคชั่นพิเศษนี้แล้วใจเต้นแรงจริงๆอยากได้เอาไว้ใช้ ไม่ได้เอาไปขายเก็งกำไรบน eBay และทั้งหมดนี้คือการตอกย้ำไปที่จุดยืนดั้งเดิมของแบรนด์ที่ว่า “to create a better everyday
แค่ CSR ไม่พออีกต่อไปสำหรับการให้คนรักแบรนด์ในวันนี้ เพราะแบรนด์ใหญ่ๆในวันนี้นั้นมีทั้งพลังและอำนาจมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นได้ เหมือนที่น้ำดื่มสิงห์ทำด้วยการมอบพื้นที่ฉลากขวดน้ำสิงห์ ให้กลายเป็นป้ายประกาศตามหาเด็กหาย ที่ร่วมกับมูลนิธิกระจกเงา แคมเปญนี้ไม่ต้องพูดมาก แค่ดูภาพก็เข้าใจได้ถึงความยิ่งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นกับสังคมจากนี้ไป ด้วยพื้นที่เล็กๆข้างขวดน้ำที่ไม่เคยมีใครสนใจอ่านจนกระทั่งวันนี้เอง การตลาดวันละตอนขอชื่นชมทีมงานทุกฝ่ายของแคมเปญนี้ ที่ช่วยกันผลักดันให้เกิดขึ้นจริง เพราะผมรู้ว่าการจะเปลี่ยนแปลงอะไรบนแพคเกจขวดน้ำนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่แค่ฝ่ายการตลาดเท่านั้นที่จะทำได้ แต่ต้องเกิดจากการร่วมมือของทุกฝ่ายจริงๆครับ
Food Tech ที่สร้างเนื้อปลาทูน่าได้จากมะเขือเทศและเทคโนโลยี หลายคนในที่นี้คงชอบกินอาหารญี่ปุ่นกันไม่มากก็น้อยใช่มั้ยครับ และถ้าใครเป็นแฟนปลาดิบก็คงหนีไม่พ้นที่จะต้องสั่งซาซิมิมากิน และหนึ่งในซาซิมิที่ถูกอกถูกใจหลายคนก็คงหนีไม่พ้นซาซิมิทูน่าที่เรียกกันว่า Akami ที่เป็นเนื้อสีแดงแน่นๆ ของปลาทูน่าที่อร่อยเต็มคำทุกครั้งที่ได้กิน แต่คุณรู้มั้ยครับว่า ความชอบในการกินปลาทูน่าหรืออาหารทะเลทั้งหลายนั้นกำลังเป็นสาเหตุของการทำลายสภาพแวดล้อมโลก โดยเฉพาะเป็นการเร่งให้สัตว์ทะเลทั้งหลายต้องสูญพันธ์มากขึ้นกว่ายุคไหนๆ ที่ผ่านมา อ่านถึงตรงนี้คุณอาจจะเริ่มรู้สึกผิดนิดๆ ว่าการที่ชั้นชอบกินซาซิมิทูน่าอย่าง
Data Driven Branding ที่จะเล่าให้ฟังในวันนี้ เป็นเรื่องของสินค้าที่แสนจะธรรมดาอย่างสบู่ Lifebuoy ที่สามารถเอาข้อมูลมาวิเคราะห์จนทำนายล่วงหน้าได้ว่า พื้นที่ไหนบ้างกำลังจะเกิดโรคระบาด แล้วก็โทรไปแจ้งเตือนให้ระวังและป้องกันด้วยการล้างมือให้บ่อยขึ้น จนส่งผลให้ผู้คนรู้สึกดีกับแบรนด์และยอดขายเพิ่มมากขึ้นครับ ในยุค data ที่ว่ากันว่านี่คือทรัพยากรเดียวที่ใช้แล้วไม่มีวันหมด แถมยิ่งใช้ก็ยิ่งพบคุณค่าใหม่ๆเพิ่มขึ้น เหมือนเคสของ
Cannes Lion Case This Coke is a Fanta, So What หรือ “กูเกย์แล้วไง” โพสครั้งแรกที่เพจการตลาดวันละตอนเมื่อ 20 มิถุนายน
เรื่องการรณรงค์ให้เอาถุงผ้ากลับมาใช้ซ้ำเพื่อลดขยะจากถุงพลาสติกไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ทำไมรณรงค์กันมาเท่าไหร่ก็ไม่เคยจะได้ผลจริงจังซักที แต่เคสที่จะเล่าให้ฟังในวันนี้ไม่ใช่แค่ได้ผลดีกว่าเดิมแค่สองหรือสามเท่า แต่ทำให้คนเอาถุงเดิมกลับมาใช้ซ้ำเพิ่มขึ้นถึง 14 เท่า ภายในเวลาแค่ 1 เดือนแรก กับแคมเปญที่ชื่อว่า Unforgettable Bag หรือถุงที่ใครก็ไม่อยากลืม Unforgettable Bag
Collaboration Strategy กลยุทธ์การแชร์ความดังและพลังของแต่ละแบรนด์เพื่อทำให้ทั้งสองแบรนด์ที่จับมือกันมีแต่ได้กับได้ เหมือนที่ Adidas จับมือกับ Transport for London หรือ TfL (ขนส่งมวลชนของเมืองลอนดอน ที่คล้ายๆ ขสมก. บ้านเราแต่เท่ห์กว่าเยอะ)
แคมเปญที่จะเล่าให้ฟังในวันนี้ไม่ใช่แคมเปญการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขายแบบทุกครั้ง แต่เป็นแคมเปญเพื่อสร้างโอกาสใหม่ในตลาดให้คนตาบอด เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นครับ เสียงที่ไม่มีใครนึกถึง ใครที่เป็นนักการตลาดและคนโฆษณาจะรู้ดีว่าเวลาที่เรามีชิ้นงานโฆษณาที่ต้องลงเสียง ไม่ว่าจะ TVC, Online Film, Viral Video หรือแม้แต่สปอตวิทยุ สิ่งแรกที่ต้องทำและสำคัญที่สุดก็คือการเลือกเสียงใช่มั้ยครับ เราจะต้องเลือกว่าจะเอาเสียงผู้หญิงหรือเสียงผู้ชาย เสียงอายุมากหรืออายุน้อย
แคมเปญการตลาดจาก IKEA เพื่อความเท่าเทียมของทุกคน จึงทำอุปกรณ์เสริมสำหรับผู้พิการมาแจกฟรี จนกลายเป็นเพิ่มยอดขาย ขยายกลุ่มตลาดใหม่ที่แบรนด์ส่วนใหญ่มองไม่เห็น ถ้าคุณอยากรู้ว่าชีวิตคนพิการนั้นลำบากกว่าเราอย่างไร ก็ลองเปิดคลิปแคมเปญ This Ables ของ IKEA นี้ดูครับ รู้มั้ยว่า 1
#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถามก่อนอ่านการตลาดวันละตอน แล้วเราจะเอาไปทำเป็น Infographic โชว์หน้าเพจให้รู้ด้วยกัน