อัปเดตนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ช่วยธุรกิจปรับตัวสู่ยุค Digital Transformation
นักการตลาดคงทราบถึงข้อดีของการทำ Digital Transformation อย่างการลดต้นทุน ลดกระบวนการที่ไม่จำเป็น การทำให้ธุรกิจมียอดขายที่พุ่งขึ้น ช่วยให้มีความคล่องตัวสูง แต่จุดประสงค์หลักของการทำ Digital Transformation จริงๆ มันคือความยั่งยืนทั้งในแบบ B2B และ B2C ผ่านการสร้างประสบการณ์และเข้าใจถึงความต้องการเชิงลึกของลูกค้าค่ะ
ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลที่นักการตลาด เจ้าของธุรกิจต้องเร่งปรับตัวโดยด่วน ยิ่งในสถานการณ์ร้ายแรงของโควิด-19 แบบนี้ยิ่งต้องเปิดหูเปิดตา เลิกยึดติดกับอะไรเดิมๆ ก่อนที่จะตามคู่แข่งไม่ทันค่ะ
ไม่นานนี้นุ่นได้มีโอกาสเข้าร่วมงานออนไลน์ Adobe Summit 2021: ขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ที่ Adobe ได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ๆ บน Adobe Experience Cloud เลยอยากนำมาแชร์ให้นักการตลาดและนักธุรกิจอ่านกัน เพื่อช่วยให้ธุรกิจปรับตัวสู่ยุค Digital Transformation ได้ไปพร้อมๆ กัน
องค์ประกอบของ Adobe Experience Cloud
75% ของบริษัทชั้นนำทั่วโลกได้ใช้ Adobe Experience Cloud ขับเคลื่อนการจัดการประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience Management – CXM) ซึ่งเหมาะสำหรับสำหรับบริษัทที่ทำธุรกิจทั้งแบบ B2B และ B2C ค่ะ จากที่นุ่นลองศึกษาแล้ว Adobe Experience Cloud มุ่งเน้นการจัดการ Customer Journey ที่นักการตลาดยุคดาต้าต้องเข้าใจ รวมทั้งบรรดาข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมาย การทำ Personalize Marketing ให้ประสบความสำเร็จดั่งใจ และที่ถูกใจนักการตลาดน่าจะเป็นการปรับเวิร์กโฟลว์ด้านการค้าและการตลาดให้ดียิ่งขึ้นค่ะ
นวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะช่วยให้องค์กรธุรกิจเร่งการปรับตัวสู่ Digital Transformation มีอะไรบ้าง
- New Adobe Journey Optimizer :
ผู้บริโภคในปัจจุบันนั้นมีความต้องการที่จะ Connect กับแบรนด์ในแบบเฉพาะบุคคลมากขึ้น และสอดคล้องกับความต้องการในทุก Journey แต่ติดปัญหาตรงที่แบรนด์ต่างๆ ยังไม่สามารถซัพพอร์ตประสบการณ์ที่ลูกค้าต้องการในแบบเรียลไทม์ได้ เจ้า Adobe Journey Optimizer ที่ถูกสร้างขึ้นบน Adobe Experience Platform จึงเกิดมาเพื่อช่วยให้นักการตลาดสามารถปรับแต่ง Customer Journey ที่ครอบคลุมทุกช่องทางทั้งแบบ Outbound และ Inbound
นำเสนอ Journey ที่ครอบคลุมและตรงความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด โดยมีการผสานรวมแนวทางการตลาดแบบ Outbound Marketing และ One-on-one engagement
- Next Generation Adobe Real-time :
นวัตกรรมนี้มีความเกี่ยวเนื่องกับกระแสมาแรงของ ข้อมูลคุกกี้ในเบราว์เซอร์ที่กำลังจะหายไปค่ะ องค์กรที่เก็บรวบรวมข้อมูลโดยตรง (First-Party Data) จะกลายเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับนักการตลาดในการสร้างความสัมพันธ์ที่ไว้วางใจได้ร่วมกับลูกค้า
Next Generation Adobe Real-time CDP ของอะโดบี เป็นแอปพลิเคชันระดับองค์กรเพียงหนึ่งเดียวที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการ Engagement กับลูกค้าโดยอาศัยข้อมูลที่แบรนด์หรือองค์กรเก็บรวบรวมโดยตรง (First-Party Data) เปิดตัวมาพร้อมกับ Adobe Real-time CDP รุ่น B2B ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงโปรไฟล์บัญชีลูกค้าระดับแบรนด์ และโปรไฟล์บัญชีลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ผ่านระบบการทำงานแบบอัจฉริยะ
และนวัตกรรมนี้พี่แบมได้แชร์ให้นักการตลาดอ่านเพิ่มเติมอย่างละเอียดที่เว็บไซต์การตลาดวันละตอน ด้วยนะคะ
- New Customer Journey Analytics:
Customer Journey Analytics เป็นแอปพลิเคชันระดับองค์กรที่ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ กำหนดมาตรฐาน Data ลูกค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ช่วยให้ทุกคนในแบรนด์ (นอกเหนือจาก Data Scientists) เข้ามาอ่านข้อมูลลูกค้าได้ ในมุมมองที่แต่ละฝ่ายต้องการจะทราบอย่างง่ายดาย เข้าใจ Customer Journey ทั้งหมด โดยที่ AE หรือผู้รับผิดชอบในส่วนนี้ไม่ต้องพรีเซนต์เป็นร้อยรอบให้แต่ละฝ่ายฟัง ส่งผลให้สามารถกำหนดกลยุทธ์การตลาดและทำงานร่วมกันได้มีประสิทธิภาพต่อไป
เหมาะมากๆ ค่ะกับแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ มีฐานข้อมูลล้นหลาม จำเป็นต้องใช้ Data-Driven เพื่อรู้จักและทำความเข้าใจลูกค้ามากขึ้น รวมถึงปรับแต่ง Engagement อย่างต่อเนื่องเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีกว่าที่ลูกค้าเคยได้รับมา
นอกจากนี้แล้ว ยังมีนวัตกรรม Marketing System of Record ที่บูรณาการเข้ากับ Workfront และฟีเจอร์ใหม่ๆ บน Adobe Experience Platform ไว้รองรับ Personalization at Scale แบบเรียลไทม์ได้อย่างครอบคลุม
รวมทั้งเทคโนโลยีใหม่สำหรับคอนเทนต์และการค้าแบบอัจฉริยะ ที่ธุรกิจยุคดิจิทัลควรรู้จักเพื่อมเสริมความคล่องตัวให้ธุรกิจแบบไม่ต้องกลัวคู่แข่ง โดยนักการตลาดสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ลิ้งนี้เลยค่ะ : https://business.adobe.com/summit/adobe-summit.html
ในบทความหน้านุ่นจะหาโอกาสแชร์เรื่อง Digital Transformation อีกนะคะเพราะยังมีความน่าสนใจอีกมากเลยให้ได้พูดคุยกัน ถ้าสนใจอย่าลืมคอมเมนต์ให้กำลังใจและติดตามการตลาดวันละตอนผ่าน Twitter และ Blockdit ด้วยนะคะ ^^
