Google Pixel Buds หูฟังแปลภาษาอัตโนมัติ

Google Pixel Buds หูฟังแปลภาษาอัตโนมัติ
Google Pixel Bud

Google Pixel Buds อาจจะกำลังเปลี่ยนโลกแห่งการเรียนภาษา

เมื่อวันนี้กูเกิ้ลประดิษฐ์อุปกรณ์วิเศษที่เหมือนวุ้นแปลภาษาของโดราเอมอนขึ้นมาได้ ในชื่อ Google Pixel Buds หูฟังไร้สายอัจฉริยะที่สามารถแปลภาษาได้อัตโนมัติทันที 40 ภาษาทั่วโลก

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Google Pixel Buds

ไม่ใช่แค่ภาษาอังกฤษเท่านั้นที่เราอาจจะไม่จำเป็นต้องเรียน แต่หมายถึงภาษาหลักๆทั่วโลก และเชื่อได้ว่าความสามารถของระบบ ai เบื้องหลังหูฟังชิ้นนี้ก็จะฉลาดมากขึ้นไปเรื่อยๆ จนผมจินตนาการไปแล้วว่าอีกหน่อยมนุษย์โลกอาจจะเหลือแค่เพียงภาษาเดียวที่ต้องเรียนรู้ นั่นก็คือภาษาในการเขียนโปรแกรม

ลองคิดดูซิว่าในตอนเด็กๆเราต่างถูกพ่อแม่ครูอาจารย์เคี่ยวเข็นให้เรียนภาษาอังกฤษมากแค่ไหน ถัดมาอีกยุคในเด็กยุคนี้อังกฤษไม่พอยังต้องไปภาษาจีนด้วย เพราะเมื่อจีนเปิดประเทศก็เป็นโอกาสทางธุรกิจมากมายตามมา แล้วมาวันนี้เทคโนโลนีก็มาถึงจุดที่การรู้ภาษามากกว่าอาจไม่ใช่ข้อได้เปรียบอีกต่อไป ดังนั้นคำถามสำคัญคือเราจะต้องเรียนรู้ภาษาต่างชาติไปทำไม?

แน่นอนว่ายังคงมีอีกหลายเหตุผลไม่ว่าจะในเรื่องของการเข้าใจบริบทของคำและความหมายที่มากขึ้น หรือแม้แต่การเรียนรู้วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ผ่านภาษานั้นๆอีก

แต่สิ่งที่เคยเป็นข้อได้เปรียบในวันวาน อาจกลายเป็นแค่เรื่องสามัญในวันนี้ เพราะตั้งแต่ดิจิทัล หรือการสื่อสารที่ช่วยให้การไหลผ่านของข้อมูลขนาดใหญ่เป็นไปได้ง่ายขึ้นผ่าน fiber optic ที่วิ่งตรงเข้าถึงทุกบ้าน จากอดีตที่มีได้แค่องค์กรใหญ่ๆเท่านั้นที่สามารถทำได้ ไหนจะ 4G ที่ครอบคลุมแทบจะทั่วประเทศไปแล้ว ทำให้ความได้เปรียบในการรู้ภาษาต่างชาตินั้นค่อยๆเลือนหายไปเรื่อยๆ

เหมือนกับในอดีตที่ผู้รู้ภาษาเขียนนั้นมีแค่อาลักษณ์ คนที่ทำหน้าที่คัดลอกหนังสือ คนกลุ่มนี้ในวันนั้นจึงมีค่ามหาศาลในสังคม จนเมื่อ Gutenberg ผลิตเครื่องพิมพ์แบบเรียงตัวอักษรขึ้นมาได้ ทำให้อาชีพอาลักษณ์ที่เคยสำคัญก็กลายเป็นสิ่งธรรมดาสามัญไป ยังไม่ต้องพูดถึงดิจิทัลที่ปฏิวัติการพิมพ์อีกครั้งให้เหลือแค่ content is king ในทุกวันนี้ เพราะสื่อกลางอย่างกระดาษหรือขั้นตอนการพิมพ์ที่เคยมีราคานั้นเหลือเป็นดูผ่านได้ทุกหน้าจอ ดังนั้นภาษาก็คงจะไม่ต่างกันในยุคก่อนจนถึงวันนี้ภาษาเป็นหนึ่งในความได้เปรียบอย่างมากสำหรับผู้ที่รู้ แต่ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันข้างหน้าความรู้ในภาษาจะกลายเป็นเหมือนบัตรเครดิตที่ใครๆก็มีได้ ไม่จำเป็นต้อง exclusive เหมือนวันวานอีกต่อไป

ถ้าถามว่าสำหรับพ่อค้าหมูปิ้ง หรือแม่ค้าส้มตำล่ะ จะได้ผลกระทบอะไรบ้างมั้ยกับกำแพงภาษาที่หายไป คิดง่ายๆ ทุกร้านค้าไม่ว่าจะใหญ่เล็ก ก็สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวได้ทุกภาษา ต่อไปนี้แม่ค้าส้มตำก็สามารถเข้าใจความต้องการของนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะฝรั่ง จีน เพื่อจะได้ตำส้มตำที่ถูกปาก ถูกใจ ให้กับทุกคนที่ต้องการต่างกันได้ง่ายขึ้นอีกเยอะ

Credit Thumbnail & More info : https://youtu.be/qc28VzAFBHw https://store.google.com/sg/product/google_pixel_buds

ติดตามเรื่องราวการตลาดวันละตอน สดใหม่ทุกวันได้ที่ : https://www.everydaymarketing.co/

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ใช้ Social Listening บ้างไม่ ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถาม ว่าปกติใช้ Social Listening บ้างหรือไม่ แล้วถ้าใช้ ใช้ตัวไหนอยู่