Hijack Advertising เซ็นเซอร์นักงั้น Hijack บิลบอร์ดใน Google Street View เลย
การตลาดแบบ Hijack Advertising หรือที่เรียกว่า Hijackvertising ที่จะเล่าให้ฟังในวันนี้ เป็นแคมเปญที่ชื่อว่า Billboards Beyond Bordersของ ของ NGO แห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Reporters Without Borders ที่สนับสนุนให้ผู้สื่อข่าวสามารถรายงานข่าวได้อย่างตรงไปตรงมา โดยไม่ถูกขัดขวาหรือเซนเซอร์จากรัฐบาลหรือผู้มีอำนาจแต่อย่างใด ต้องการออกมาป่าวประกาศให้ประชาชนในแต่ละประเทศได้รู้ปัญหาหรือข่าวที่รัฐบาลตัวเองพยายามปิดกั้น ผ่านเครื่องมือที่คนทั่วโลกใช้กันอย่างสากลและเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม นั่นคือ Google Map ครับ
Reporters Without Borders บอกว่าในปีที่ผ่านมามีนักข่าวกว่า 326 ถูกจับ และอีกกว่า 65 คนต้องเสียชีวิตลงเพราะทำหน้าที่ตัวเองได้ดีเกินไป ที่ดันไปขุดคุ้ยความจริงเจอปอเจอตม หรือแม้แต่พยายามตีข่าวที่รัฐบาลของประเทศนั้นไม่อยากให้คนรับรู้ จนตัวเองต้องขอตอเข้าจังๆ
Reporters Without Borders ที่เป็น NGO แห่งนี้เลยหาทางป่าวประกาศให้คนในประเทศนั้นได้รู้ แต่จะทำอย่างไรในเมื่อการเผยแพร่สู่โลกภายนอกนั้นกลับถูกเซนเซอร์อย่างเข้มงวดจากรัฐบาลอย่างเต็มที่ พวกเค้าเลยต้องเอาไปเผยแพร่ในโลกเสมือนจริงที่เป็นโลกดิจิทัลผ่าน Google Map ในโหมด Google Street View แทนครับ
Billboards Beyond Borders แคมเปญนี้เลยเอาข้อความต่างๆที่รัฐบาลแต่ละประเทศพยายามปิดกั้นและเซนเซอร์นั้นเอาไปใส่ไว้ในบิลบอร์ดหน้าที่ทำการรัฐบาลของแต่ละประเทศ ด้วยการอัพโหลดไฟล์ใหม่เข้าไปบน Google Street View แล้วบอกให้คนในแต่ละประเทศทั่วโลกรีบเข้าไปดูกัน
เช่น ไปเปลี่ยนบิลบอร์ดใน Google Street View ที่ย่าน Time Square ว่า “Russia won the White House for you, Donald Trump” แน่นอนว่าในความเป็นจริงรัฐบาลสหรัฐไม่มีทางอนุญาตแน่
หรือไปเปลี่ยนบิลบอร์ดที่หน้าพระราชวังเครมลินว่า “รัสเซียยอมรับเรื่องเกย์แล้ว” และที่น่าสนใจคือแม้แต่ประเทศไทยเองก็ยังมีครับ
ที่ประเทศไทยเองก็ไม่น้อยหน้า Reporters Without Borders เค้ามาแก้ไขบิลบอร์ดที่หน้า MBK ใน Google Street View ว่า “In a military dictatorship masquerading itself as savior of democracy, publicly calling for democracy is a crime” หรือแปลเป็นไทยแบบบ้านๆว่า “เผด็จการก็คือเผด็จการ อย่ามาอ้างว่าเพื่อประชาธิปไตย” (ผมจะโดนเซนเซอร์ด้วยคนมั้ยนี่)
งานนี้เป็นการหยามหน้ารัฐบาลของแต่ละประเทศมาก จนกลายเป็นกระแสไวรัลไปทัวโลก จนสำนักข่าว CNBC ยังต้องหยิบไปพูดถึง ยิ่งเป็นการโหมกระแสการเซนเซอร์ของรัฐบาลให้เป็นที่สนใจยิ่งขึ้นไปอีก
แต่ไม่นานนัก Google เจ้าของ Google Street View ก็ทำการแก้ไขภาพที่ถูกรีทัชนั้นออกให้เป็นเหมือนเก่า ด้วยเหตุผลที่ว่าข้อมูลใน google map ทั้งหมดต้องเป็นความเป็นจริงที่เกิดขึ้นที่ตรงนั้นจริงเท่านั้น ดังนั้นแม้เนื้อหาที่ถูกเซนเซอร์จะเป็นความจริง แต่ในความเป็นจริงบิลบอร์ดนั้นไม่ได้ขึ้นข้อความดังกล่าวในโลกความเป็นจริงก็ต้องถูกถอดออกครับ
แต่รู้มั้ยครับว่าถึงถอดออกก็ไม่เป็นไร กลับยิ่งดีเสียอีก เพราะจะยิ่งกลายเป็นกระแสไวรัลไปทั่วจนสื่อสำนักข่าวขนาดใหญ่ยังต้องเอาไปเล่าต่อแล้ว
งานนี้ถ้าดูแค่ execution ก็จะเห็นแค่การรีทัชรูปใหม่แล้วอัพโหลดเข้าไปบน Google Map เท่านั้น แต่ในความเป็นจริงถ้าวิเคราะห์ไปถึงแก่น Strategy จะเห็นว่า นี่เป็นแค่การจุดกระแสให้คนสนใจ และถ้ายิ่งถูกแบนหรือลบทิ้งไปก็จะยิ่งเป็นที่สนใจยิ่งขึ้นแบบนี้แหละครับ
ก่อนจะตัดสินคู่แข่งหรือแคมเปญการตลาด หรืองานโฆษณาของใคร ต้องเอาให้แน่ใจว่าเค้ามองทะลุเข้าไปอย่างเข้าใจกลยุทธ์เค้าหรือยัง
อ่านข่าวการตลาดที่ใช้กลยุทธ์ Hijack Advertising แบบนี้ต่อ https://www.everydaymarketing.co/?s=hijack
ลองเข้าไปอ่านข่าวที่ CNBC เอาแคมเปญนี้ไปเผยแพร่ต่อแบบเต็มๆได้ที่ https://www.cnbc.com/2018/04/12/google-street-view-removes-freedom-of-speech-posters-in-censorship-row.html